รีวิว เที่ยวชิคๆสไตล์กรุงเก่ากับ one day trip ที่อยุธยา

สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกแล้วกับกระทู้รีวิวการท่องเที่ยว  แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ต่างประเทศแล้วนะ  เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยนี่แหละ ใกล้กรุงเทพฯมาก  ซึ่งก็คือ  "อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อนนั่นเอง" 

        ด้วยความที่เราทำงานวันเว้นวัน (นสพ.) เราเลยไม่ค่อยได้มีเวลาไปเที่ยวแบบค้างคืนเท่าไหร่ ถ้าจะเที่ยวไกลๆก็ต้องลางานเอา  ทีนี้พอดีมีพี่และน้าซึ่งเป็นสาวมั่น+โสด 5555 มาชวนเราไปอยุธยา  ซึ่งตอนแรกเราปฏิเสธไปนะเพราะคิดว่าร้อนแน่  จะมีอะไรให้เที่ยววะ  แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจค่า เลยตกลงไปในที่สุด โดยทริปนี้ไปกันสี่สาวโฉด

        ออกเดินทางกันตั้งแต่ 9.00น. ขับรถไปกันเองแต่ถามว่าไปถูกมั้ย?? เราตอบเลยว่าไม่!! แต่เรามีตัวช่วย "กูเกิ้ล แม็พ" นั่นเองจ้า  ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย  และด้วยความหิวและโหย พี่สาวเราเลยพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อดังก่อนเลย ชื่อร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก" 


รสชาติจัดว่าแซ่บ แต่เผ็ดไปหน่อยสำหรับเรานะ มีขนมหวาน กากหมู แค็บหมู จัดเต็มสิรออะไร

         เสร็จจากกินก๋วยเตี๋ยวเราก็ตรงไปยัง "วังช้างอยุธยาแลเพนียด" 
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนป่าโทน ข้างคุ้มขุนแผน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยมีกิจกรนมให้นักท่องเที่ยวขี่ช้างชมเมืองอยุธยา โดยราคา 100บาทต่อ1คน ระยะทางประมาณ500เมตร พี่ควาญช้างใจดีมาก และช้างก็แสนรู้มากด้วย


นี่แหละ วังช้างอยุธยาแลเพนียด


ส่วนนี่คือเราเองนั่งขี่ช้าง ตัวนึงนั่งได้ 2 คน

      เสร็จจากขี่ช้างเราก็ไปที่ "วัดไชยวัฒนาราม" 
ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา และวัดนี้ยังเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้ากุ้งอีกด้วย (คนที่แต่งกาพย์เห่เรื่ออ่ะ)


นี่คือสภาพวัดปัจจุบันซึ่งเราถือว่ายังสมบูรณ์อยู่มาก


ร้อนจริงๆขาดร่มไม่ได้เลย


เห็นภาพนี้แล้วโคตรแค้น นี่เอ็งเผาเมืองข้าขนาดนี้เลยเรอะ!!! ส่วนนึงเพราะกาลเวลาแต่ส่วนนึงก็เพราะข้าศึกมาโจมตีด้วย



ลงรูปวัดแรกได้ไม่เยอะนะพอดีไฟล์มันใหญ่เกิน มาต่อๆ
     
      วัดแรกผ่านไปเราก็ตรงมาวัดที่สอง "วัดใหญ่ชัยมงคล"
      ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ของวัดนี้ให้ใหญ่และสูงสง่างาม


วัดใหญ่อลังการมาก สภาพพระพุทธรูปก็ยังสมบูรณ์อยู่


สวยงามตามท้องเรื่อง


ขอปิดหน้านางแบบไว้ก่อนกลัวโดนด่า5555


มาวัดนี้ดีหน่อยไม่ค่อยร้อน


จากนั้นพวกเราก็เดินทางไปต่อที่ "พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น" ก็จะมีตั้งแต่ของเล่นสังกะสีรุ่นเก่า ยันของเล่นพลาสติกรุ่นใหม่ มีวอลเปเปอร์สวยๆให้ถ่ายรูปด้วย อิอิ


จุดนี้เป็นจุดที่คนไปถ่ายรูปเยอะมากๆ


คาบูทักก็มา555


ของเล่นจะอยู่ในตู้ทั้งหมด ห้ามจับเพราะอาจเสียหายได้


มุมนี้คนก็ถ่ายกันเยอะ



โดยค่าเข้าชมคนละ 40 บาท มี2ชั้น แต่ส่วนมากคนจะถ่ายรูปกับพวกตัวการ์ตูนที่อยู่นอกตู้กันมากกว่า


  มีภาพเก็บตกอีกเล็กๆน้อยๆ






เราเองก็ขอจบการรีวิวทริปอยุธยาเพียงเท่านี้ หวังว่าการรีวิวนี้จะทำให้เพื่อนๆได้แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯเพิ่มเข้ามาอีกที่นึงนะคะ


ที่มา Pantip
Cr. POonKonDee