รีวิว ปีนป่ายเขาไปกับสายหมอกกลางป่าสน ++ ภูสอยดาว ++ (ฉบับทัวร์เถื่อน ฉิ่ง ฉับ)

ใครเค้าเที่ยวป่าเที่ยวเขาหน้าฝนกัน !!!  
นั่นสินะ ใครจะไป เฉอะแฉะ เปียก ลื่น มันจะดีหรอออออ??
ดีสิ ... คิดถึงเขา ไปหาเขากัน ^^ 

เค้าเล่าว่าที่นี่ ... เส้นทางโหดมาก 
เค้าเล่าว่าที่นี่ ... มีลานสนสวยมาก
เค้าเล่าว่าที่นี่ ... มีดอกหงอนนาคสีม่วงเต็มลานสน
เค้าเล่าว่าที่นี่ ... มีสายหมอกฟินเวอร์ๆ 
ออกเดินทางกัน ... 

   

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว บางคนที่ไม่ชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขา อาจจะงงๆว่ามันอยู่ที่ไหน
แต่สำหรับคนที่ชอบกางเต็นท์ ... ภูสอยดาว ... คงเป็นที่หนึ่งในจุดหมายที่ต้องไป 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และ ต.บ่อภาค 
อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ....(ปกติหน้าฝนยอดสองพันหนึ่งที่ใครๆเรียกกัน ไม่อนุญาตให้เดินขึ้นนะคะ เดินได้เฉพาะหน้าหนาว) ส่วนลานสนหรือสถานที่ที่เรากางเต๊นท์สูงจากระดับน้ำทะเล 1,633 เมตร 

ภูสอยดาว ... ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่สัญญานโทรศัพท์  ลูกทัวร์โปรดแจ้งบุคคลอันเป็นที่รักให้ทราบก่อนนะคะ
ติดต่อไม่ได้นาจา ...เดี๋ยวจิหาว่าเค้าไม่บอกไม่ได้น๊า ^^



ไปยังไงดีล่ะ...มิตรรักสหายผู้ร่วมชะตา นับจำนวนแล้วได้ 10 คนพอดีครบองค์ เดินทางแบบไม่มีรถส่วนตัว 
พาหนะที่จะพาเราไปก็รถโดยสารสิคะ 
1. ชื้อตั๋วรถทัวร์ไปลงพิษณุโลก ใช้เวลาก็ 5 ชั่วโมงกว่าๆ (แต่เราไปช่วงวันหยุดยาวเวลาในการเดินทางเลยขยับออก แผนที่คิดไว้ก็ปรับกันใหม่) 
ปกติถ้าไม่มีรถส่วนตัวเดินทางนี้จะสะดวกที่สุด ราคาไป - กลับราวๆ 500 บาท 

2. เมื่อเราถึงขนส่งพิษณุโลก ก็ซื้อตั๋วใหม่อีกครั้งที่ขนส่งไปลง อ.ชาติตระการ ค่ารถไปคนละ 80 บาท 
รถเที่ยวแรกออกเวลา 06.00 น. เที่ยวต่อไปคือ 07.50 น.
ถ้าจะขึ้นภูสอยดาวเลย ควรไปให้ทันรถเที่ยวแรก เพราะเราจะใช้เวลาอีก 2.30 – 3 ชม. 
ไปถึง อ.ชาติตระการ เวลากลับรถเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 17.00 น. จาก อ.ชาติตระการ กะเวลาเดินลงและเดินทางมาถึงให้ดีนะคะ

3. จากนั้นก็เหมารถค่ะ ถามที่ขนส่งชาติตระการก็ได้ หรือจะเดินมาสอบถามที่ตลาดที่อยู่ใกล้ก็ได้นะคะ ปกติเค้าจะคิดเหมาเที่ยวละ 1000 บาท หรือถ้าไม่เหมาจะมีรถสองแถวสีส้มวิ่งอยู่ (สอบถามแม่ค้าได้ที่ตลาดค่ะ) แต่ๆๆๆ เค้าวิ่งวันละเที่ยวนะตัวเองงงงงงง 
หรือ ไม่อยากเสียเงินโบกรถมาค่ะ ... 
ใช้เวลาเดินทางอีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงล่ะ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ^^ 
** ขากลับนัดเวลารับกลับให้ดี ให้ทันรถที่จะออกจากชาติตระการนะคะ
** ที่ตลาดเราสารถหาซื้อของสดที่เอาไปทำอาหาร ของแห้ง น้ำดื่ม อาหารระหว่างทางได้ที่นี่นะคะ ที่อุทยานมีแต่ร้านค้าของทางอุทยาน
ราคาอาจจะสูงนิดหน่อย บางอย่างอาจมี บางอย่างอาจไม่มีค่ะ ลำบากแท้เนอะ ... ก็ยังจะไป 555



เตรียมตัวขึ้นภู

ฮั่นแน่ !!! ฟิตแล้วล่ะสิ อยากเดินแล้วใช่ป่ะ อุทยานให้เดินขึ้นได้ตั้งแต่ 08.30 – 14.00 น.
ใครฟิต แบกของเองไหวไป ลุย !!!

ส่วนใครคิดแล้วเอ่อ แค่ตัวเองยังลำบาก กระเป๋าอีก คงจะแย่ ... งั้นเราไปจ้างลูกหาบกันค่ะ
ลูกหาบคิดค่าบริการราคา 30 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม คูณกันเข้าไปค่ะของเท่าไรคูณ 30 บาท เสื้อผ้า รองเท้า เต๊นท์ ถุงนอน ยา 
ของใช้ส่วนตัวเอาไปเท่าที่จำเป็นค่ะ ใครไม่มีเต๊นท์ ไม่มีถุงนอน อุทยานมีบริการใช้เช่านะคะ และมีค่ามัดจำอื่นๆอีกนิดหน่อยค่ะ

ถ้าเราจะใช้บริการลูกหาบ เราต้องมาจองคิว ณ ที่ทำการอุทยาน ซึ่งจะเปิดให้จองเวลา 08.30 น. 
ไปตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ เราต้องไปกรอกเอกสารก่อน จากนั้นก็รอเจ้าที่เรียกตามลำดับหมายเลข 
แล้วก็ชั่ง นน. สัมภาระของเรา จ่ายเงิน จากนั้นก็ไปกันเลยค่ะ 

ลูกทัวร์ค่ะ โปรดทราบ ... ข้างบนภูสอยดาวไม่มีร้านอาหารใดๆทั้งสิ้น น้ำดื่ม อาหาร แก้ว จาน ชาม ช้อน กะทะ เตาแก๊ส เตรียมให้พร้อมนะคะ 
คิดเมนูกันไปจะกินอารายดีน๊า ต้มสุกี้ ข้าวต้ม ไข่เจียว ยำ ผัดมาม่า ผัดผัก ชนมปัง ขนกันไปจ้า ...





ราคาเช่าเต๊นท์ของอุทยานรวมราคาลูกหาบค่ะ ... แอบคิดว่าถ้าเอาไปเองถูกกว่า อิอิ


วิถีเดินเท้า

อุยานแห่งชาติภูสอยดาว ระหว่างทางช่วงแรกก็เดินผ่านน้ำตกภูสอยดาวขึ้นไป เริ่มเดินทุกคนยังฮึกเหิม เรี่ยวแรงเกินร้อย เสียงน้ำตกระหว่างทางสร้างความสดชื่น...หรือป่าว 555 

ทางเดินขึ้นภูสอยดาว จะต้องเดินผ่านเนินต่างๆ ตามชื่อเรียกของลักษณะเส้นทาง มีทั้งหมด 5 เนิน เริ่มที่เนินแรก
เนินส่งญาติ ... จะไปต่อดีไหม หรือจะเดินกลับ เค้าถึงได้ตั้งชื่อนี้ กว่าถึงเนินนี้ไกลมากกกกกก เส้นทางมีหลากหลายมาก ชัน ลาด ข้ามลำธาร 
เนินปราบเซียน ... ปราบเซียนจริงๆล่ะ หมดแรงไปหลายรอบ ขอยาดมหน่อย 
เนินป่าก่อ ... เส้นทางตรงนี้มีทางเรียบพอให้ได้พักขากันบ้าง 
เนินเสือโคร่ง ปีนบ้าง ป่ายบ้าง เดินบ้าง 
และเนินมรณะ เนินสุดท้ายที่มีแต่ความชัน ชัน อิ๋บ อ๊าย !!! เดินขึ้นอย่างเดียว 

เสียงก้องลั่นป่า เรียกความฮึกเหิม เอออออออออออ ฮึบๆๆๆ “เต้นแรง หน้าแดงทุกที” “กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปเมื่อไรจะถึง”  เดินวนไปค่ะ .... เดินไปค่ะ  ไม่อะไรจะรีวิวนอกจากความเหนื่อยกับระยะทางที่ขึ้นมา ใครฟิตๆ จัดไปค่ะ 5 ชม. ส่วนเราหรอ ทัวร์เถื่อนอย่างเรา ทิ่ง นอง นอยด์ เชิบ เชิ๊บ ใจไปอยู่ยอดเขา แต่ขาก้าวไม่ออก เครื่องร้อนอยู่หลายรอบ

***สองข้างทางเป็นป่าหญ้าคา เนินหิน ปีนบันได ปีนหิน ยุ่งเยอะโคตร ตัวขุ่นอีกเพียบ ... ลูกอม ยาดม ยาหม่องไหม๊คร๊า ***
วิวอะไร ระหว่างทางหรอ มีแค่นี้ล่ะ ก็มันไม่มีแรงจะหยิบกล้องมาถ่ายรูป 555555







ถึงแล้วลานสน

ถึงแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ยะฮู้... และแล้วเราก็เดินมาถึงลานสน ระยะทาง 6 กิโลเมตรกว่าๆ กับความสูง 1,633 เมตร 
เริมเดินตั้งแต่ 09.33 ถึงจุดกางเต๊นท์ 15.22 น. หย่อน 6 ชั่วโมงไปนิดเดียว ^^ 
เดินต่อไปอีกนิดค่ะ ถึงจุดกางเต๊นท์ ติดต่อเจ้าหน้าที่ขอรับสัมภาระ และจุดที่พักเต๊นท์ของเราได้เลยค่ะ 
สภาพทุกคนตอนนี้ หมดแรง หิวโหยมาก ข้าวเที่ยงที่แบกกันมาก็เพิ่งจะได้กินกันก็ตอนนี้ 
บนภูก็มีน้ำตกนะคะ แต่ทางลงระวังหน่อยชันมากและก็ลื่นด้วยค่ะ









คณะลูกทัวร์คะ บนนี้มีอุปกรณ์ดำรงชีพให้เช่านะคะ ถังตักน้ำใบละ 10 บาท ขันใบละ 10 บาท เตา+แก๊สกระเป๋อง ชุดละ 80 บาท มีห้องน้ำให้แต่ไม่มีอาบน้ำต้องไปตักน้ำจากลำธารใกล้ๆห้องน้ำมาอาบเอง แต่ก็จะมีถังสำรองน้ำไว้ให้บริการอยู่คะ บางคนไม่สะดวกตักในลำธาร
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ... ไม่มีไฟฟ้านะคะ ควรรีบอาบน้ำก่อนที่ฟ้าจะปิดจะสะดวกกว่านะคะ ^^  
ปล. น้ำเย็นมากกกกกกกกกกกกกกกก !!!! 

อาบน้ำท่าไหน เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆมองๆ พระอาทิตย์จะตกแล้วจ้า ก่อนเดินเข้ามาจุดกางเต๊นท์จะมีที่ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ท้องฟ้ายามเย็นเห็นแสงร่ำไร อาทิตย์จะลับลาไป พระจันทร์จะโผล่ขึ้นมา...เพลงมาจ้า



อาหารเราหรอ เนื่องจากมันผิดแผน ผิดเวลาที่ตั้งใจก็อาหารที่เตรียมไว้ว่าจะทำก็จำเป็นต้องกินหมดไปก่อน เหลือที่เอาขึ้นมานั้นก็กลายเป็นของแห้งซะส่วนมาก จัดเต็มทุกอย่างที่เหลือ สารพัดมาม่าหลากยี่ห้อ หมูหวาน ปลากระป๋อง ทุกอย่างหมดในพริบตา คณะทัวร์เราหิวโหยจริงๆ ^^  หลังจากหนังท้องตึง ก็เม้ามอยส์หอยสังข์ พาร่างกลับเข้าเต๊นท์
เสียงความหลับไหล ค่อยๆเคลือบคลานเข้ามา คลานเข้ามา ...คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก Zzzzz Zzzzz


เช้าแล้วจ้า หยูยยยย หมอกๆๆๆ อะไรจะก็ฟินตื่นเช้ามา ก็เจอน้องหมอก สายหมอกบางเบา ลอยล่องเต็มหน้าเต๊นท์
รับกาแฟ ขนมปัง โจ๊กไหมค๊า เติมพลังเสร็จ จัดการเก็บของ ติดต่อลูกหาบ อ๋อ อย่าลืมขนขยะกลับลงมาทิ้งด้วยนะคะ
ป่ะ...ไปสำรวจรอบภูสอยดาวกัน เจ้าหน้าที่อุทยานบอก น้อง น้อง เดินวนซ้ายตลอดนะ โอเคค่ะพี่...เดินวนไปค่ะ …









เอ้ย ทางนี้ไปได้ป่าว...ไปได้ๆๆ มันมีทางให้เดินนะ
ชัวร์นะ เค้าบอกให้วนซ้าย...ก็เนี่ยมีทางเดินไปทางซ้าย 
…เดินวนไปค่ะ เดินไป หญ้าเริ่มสูงขึ้น....แกรรรร มันใช่หรอว่ะ ทางนี้ ???
เอ้ยยยย เดินกลับมาผิดทางงงงงงงงงง
โน่นๆๆ เค้าเดินไปทางโน่นกัน เห็นเสื้อแดงๆป่าว
ขอบคุณคู่รักเสื้อแดง ที่ทำให้เรารู้ว่าเราไปผิดทาง เกือบได้เดินข้ามเขาอีกลูกแล้วไหมล่ะ !!!

เล็กๆน้อยๆระหว่างทริป ^^ 








เตรียมตัวเดินลง เวลาขาลงใช้เวลาลงประมาณครึ่งนึงของที่เวลาเดินขึ้น ใครปีกกล้าขาแข็งจัดวิ่ง 4 x 100 ลงมาเลยค่ะ
เสียงตะโกนลั่นป่ายังดังอยู่เนื่องๆ รอด้วย กำลังลงไป ^^
ลงไปถึงจัดแจงอาบน้ำอาบท่าที่อุทยาน จัดการสัมภาระ นัดเวลารถมารับกลับ
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ... ขอบคุณสาวเวอร์จิ้นในทริป พวกเราทุกคนแห้งกริ๊บ เดินขึ้นลงสบายๆ
ปิดทริปหน้าฝน กับสายหมอก ที่ไม่มีฝนสัดเม็ด … ^^

เรื่องขำขันระหว่างรอรถกลับกรุงเทพ
ตืดดดด ตืดดดดด เบอร์ใครฟ่ะ ฮัลโหลลลลลค่ะ
พี่คับผมถึงแล้วนะ ฝนตกแล้วอ่ะตกหนักเลย ฝากบอกพี่คนนั้นด้วยนั้นนะ ว่าพอพี่กลับฝนตกเลยอ่ะ !!! 5555 ได้จ้า 
(น้องที่โทรมาเป็นคนขับรถที่พวกเราเหมาไป-กลับอุทยาน ... สนใจติดต่อสอบถามน้องดูได้นะคะ 092-2362023)

ขอบคุณที่แวะมาชมนะคะ ... รอบหน้าไปไหนจะแวะมาอีกนะคะ 
ปล. รูปย่อแล้ว ทำไมยังใหญ่ 55555
ปล. รูปในกระทู้นี้ มีทั้งของเรา และของคณะลูกทัวร์เถื่อนของเรานะคะรวมๆกันค่ะ



ที่มา Pantip
Cr. เรามันชะนีอินดี้