รีวิว น่านนนน!!นะสิ ตามรอยมนต์รักปู่ม่านย่าม่าน ไปด้วยกันไปได้ไกลใช่ม่าา!!

ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาที่ผ่านมาตัวจขกท.เอง ได้มีโอกาสไปเที่ยวน่านเป็นครั้งแรก
รีวิวนี่จะไม่มีการรีวิวที่พักนะค่ะ เพราะว่าการไปเที่ยวในครั้งนี้ไกด์พาทัวร์เป็นแฟนของจขกท.เอง
ทำให้ต้องไปพักที่บ้านของแฟน แยกกันนอนคนละห้องนะค่ะ

เมืองน่านเป้นอีกที่นึงที่เราอยากจะไป เพราะส่วนตัวชอบเที่ยวมาก เที่ยวไหนก็ได้ ขอให้ได้เที่ยว
พอรู้ว่าจะได้ไปตัวเราเองก็หาข้อมูลเลยค่ะ ว่าอยากไปไหน เที่ยวไหน กินอะไรบ้าง
มีคนพาทัวร์ซะอย่าง
ช่วงเวลาที่ไปคือ16ถึง19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ในหัวของใครหลายๆคนคงต้องนึกถึงดอยเสมอดาวเป้นที่แรกใช่ไหมค่ะ
แน่นอนเป็นอีกที่ที่มีอยุ่ในใจ จะได้ไปหรือไม่ได้ไปนั้น เรามาลุ้นกันค่ะ


เริ่มแรกเลยคือเราออกเดินทาง จุดเริ่มต้นที่สมุทรปราการตอนเที่ยงพอดีค่ะ เอารถส่วนตัวไปนะค่ะทริปนี้
ขึ้นทางภาคเหนือ ผ่านสายเอเซีย อ่างทอง อยุธยา พิษณุโลก แพร่ ไปค่ะ จะบอกว่ารถติดมากวันที่ไปตรงกับช่วงวันหยุดยาว
ทำให้รถเยอะสุดๆ ออกเที่ยงวันนี่ถึงเที่ยงคืนเลยที่เดียว
จขกท พักที่ตัวเมืองน่านพอดี เป็นบ้านของผู้นำทริปเราในครั้งนี้ พอถึงก็พักผ่อน ทริปของเราคือวันรุ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่จะนั่งรถทัวร์ไปก็ได้นะค่ะ หรือจะเป็นนั่งเครื่อง ก็จะลงที่สนามบินน่านเลยซึ่งอยู่ตัวเมือง
อย่างที่บอกรีวิวนี่ไม่ได้รีวิวที่พัก แต่ที่พักที่น่าน หาได้สบายเลยค่ะ ราคาไม่แพง 

วันที่1 วันแรกของเราจากที่ตื่นนอนอาบน้ำจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ก็วางแผนเเดินทางค่ะ ปกติเวลาจะไปไหนจะลองหาข้อมูลร้านดีร้านเด็ดอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้แม้จะถูกตามใจ แต่ก็จะได้รับการแนะนำจากเจ้าถิ่นค่ะ
จขกท เป็นคนของทานกาแฟ ที่แรกเลยอยากขอไปนั่งจิงกาแฟชิวๆ เป็นจุดเริ่มต้นซะหน่อย
เมืองน่านเป็นเมืองเล็กๆนะค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลง หรือถ้าไปแล้วจะเช่าจักรยาน หรือเดินชมก็แทบจะได้เลยค่ะ
วัดส่วนมากก็จะอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่

ร้านกาแฟที่ไปแนะนำโดยเจ้าถิ่น ชื่อร้านสุดกองดี 
ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะค่ะ ว่าหมายถึงอะไร เป็นร้านไม่ใหญ่มาก บรรยากาศคือติดกับริมแม่น้ำน่าน
แต่ช่วงที่ไปนี่เป้นช่วงที่ฝนเพิ่งตกไป ทำให้แม่น้ำน่านช่วงนี้เป็นสีแดงจากดิน มาดูบรรยากาศร้านกันเร็วววววว!!





ที่ร้านจะมีกาแฟของทางร้านอยู่ซึ่งเป็นกาแฟขมใส่นม ชื่อเดียวกะร้านเลย
รสชาติดีค่ะบรรยากาศดี นั่งเล่นมือถือถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย หาที่ไปต่อ จากนั้นเราก็เลือกจะไล่แวะวัดไหว้พระตามที่ต่างในตัวเมืองน่าน

เริ่มจาพระธาตุแช่แห้ง
เป็นพระธาตุที่อยู่คู่เมืองน่าน อยู่กิ่งอำเภอภูเพียงห่างจากตัวเมืองน่านพระมาณ2กม. ภายในจะมีวิหารหลวง วิหารหลวงพ่อทันใจ เจดีย์วัดพระธาตุแช่แห้ง วิหารพุทธไสยาศ์น บันไดนาค องค์พระธาตุแช่แห่งจะบุด้วยทองเหลืองหมดทั้งองค์
สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน ซึ่งจะเปิดให้เข้านมัสการตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.









ถัดมาก คือวัดภูมินทร์
ตั้งอยู่ที่บ้านภูมินทร์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ใกล้กับพิพิธภัณฑสถาน-แห่งชาติน่าน เป็นวัดแห่งนึงที่สวยงามมากในความรู้สึก พอเข้าไปในตัวอุโบสถจะเจอพระพุทธรูป และจิตรกรรมฝาผนัง แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวการใช้ชีวิตสมัยล้านนา ความแตกต่างแต่สวยงามของที่นี่คือเป็นพระอุโบสถทรงจตุรมุข แต่ภาพที่เด่นชัดและเป็นชุดเด่นของเมืองน่านเลยก็คือภาพ"ปู่ม่าน ย่าม่าน"กระซิบรัก เป็นภาพผู้หญิงชายไทลื้อกระซิบสนทนากับผู้ชายสักหมึก เป็นรูปฝีมือของหนานบัวผัน
ภาพกระซิบ รักปู่ม่าน-ย่าม่าน ยังมีบทบรรยายอันสละสลวยเป็นภาษาล้านนา ซึ่งต่อมาได้รับการแปลถ่ายทอดโดย อาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอักษรล้านนา ถอดคำบรรยายภาพนี้ออกมา ว่า
“คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…” เป็นไงล้า สัมผัสได้ถึงกลิ่นอบอวลของความรักจากเมืองน่านของเรารึยัง








                                                                ภาพสำคัญของเราค่ะ ปู่ม่าน ย่าม่านตำนานกระซิบรักบรรลือโลก โอ้โหวว!!

จากนั้นเราก็ไปต่อยังสถานที่ที่ไม่ไกลกันมากค่ะ  วัดมิ่งเมือง
วัดมิ่งเมืองเป็นที่ประดิษฐานของเสาหลักเมือง โอ๊ยยย งงไหมละค่ะก็เราไปเที่ยววิถีชีวิตคนเมืองล้านนากั๋นนี่เนอะ
เราจะเรียกเสานี่ว่า เสามิ่งเมืองซึ่งตั้งอยู่ในศาลาจตุรมุข 







ไม่ต้องแปลกใจกันนะค่ะ เพราะวันที่ไปฝนเจ้ากรรมที่ก็ทำท่าจะตกอยู่ตลดเลย ฟ้าครึ่ม แต่แดดแรง เอ๊ะ! งงกับสภาพอากาศช่วงนี้มากค่าา
ที่ต่อไปนะค่ะ ก็เป็นวัดอีกที่หนึ่ง อย่าเพิ่งบ่นกันละ ว่าทำไมมีแต่วัด แต่วัด ก็ที่นี่เค้าวัดเยอะจริงๆ แต่ว่าแต่ละที่ที่ไปจะแสดงศิลปะและรูปแบบที่ต่างกัน มีเอกลักษณ์ในตัวเป็นของตัวเองที่ต่างกัน เรียกได้ว่าสวยกันไปคนละแบบนะเออ เอาน่าาา!! วัดนี่ชื่อว่า วัดพระธาตูเขาน้อย
จากที่รู้มาตอนแรกคือตรงนี้ จะเป็นจุดที่สามารถชมวิวได้ มีองค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนาตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น





      นี่คือบันไดนาคทั้ง303 ขั้นเราจะสามารถจอดรถแล้วเดินขึ้นไปก็ได่ หรือขับรถขึ้นไปข้างบนก็ได้ค่ะ ตอนแรกด้วยความห้าว เราก็เอ็ยยพี่จอดเลยหนูเดินขึ้นไปได้ ไปรอข้างบนเลย พอได้ลงไปดูเท่านั้นแหละ ส่ายหน้าเลยค่ะ5555แฟนเราก็ขำใหญ่โต



จากตรงนี้เราจะเห็นวิวเมืองน่านได้กว้างมากกกก สวยมากเลยน้าาาา จะบอกให้น้าาาาาาาา

วันนี้ก็สิ้นสุดที่วัดพระธาตุเขาน้อยค่ะ เพราะเป็นเวลาสี่โมงกว่าแล้ว รุ้สึกร้อนร่างกายต้องการปะทะน้ำมากกกกก เหนียวตัว เลยเลือกที่จะพอเท่านี้
พอกลับมาอาบน้ำก็หิวสิค่ะคู๊นนนนนนน หาเลยค่ะ เรื่องกินเรื่องใหญ่ อยากกินอาหารพื้นเมือง เลยตัดสินใจไปร้าน เฮือนฮอม
อยุ่ในเมืองน่านนั้นแหละค่ะ คุณไม่ต้องไปไหนไกลเลย จะวนๆอยู่เท่านั้น นอกจากจะไปต่างอำเภอเลย ไม่ได้ถ่ายรูปที่ร้านมาเลย เข้าใจนะค่ะ ของกินสำคัญว่าสิ่งอื่นใดบนโลก!!!!
ร้านจะอยู่ตรงข้ามกัน7-11 ที่น่าตาแปลกๆแบบนี้ แปลกใช่มั้ยละค่ะ ไม่เคยเห็นเหมือนกัน




อันนี้เค้าจะเรียกว่าออเดิร์ฟเฮือนฮอมนะค่ะ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นน้ำพริกหนุ่มหรือน้ำพริกอ๋อง อาหารอย่างอื่นที่สั่งมาก็จะมีคะน้าน้ำมันหอย ไก่ทอด กะพงนึ่งมะนาว กินกันสองคน ราคาอาหารก็ถือว่าไม่แพงจนไม่ไหวนะค่ะ รสชาติก็โอเคอยุ่
ท้องอิ่มแล้วก็ลุยต่อ!!!
ที่น่านเค้าจะมีถนนคนเดินนะค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีวันศุกร์เสาร์อาทิตย์รึป่าว ก็จะขายของเหมือนตลาดแหละค่ะ ของกิน เสื้อผ้าของฝาก ของกินก็จะมีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารธรรมดา ขนม เสื้อผ้าของทางภาคเหนือค่ะ มีให้เลือกเยอะแยะมาก ยังเสียดายของกิน น่ากินสุดๆ แต่ท้องดันอิ่มสู้บ่ไหวจริงๆ
มีพื้นที่ให้ซื้ออาหารมานั่งกินนะค่ะ น่ารัก จขกท เข้าใจว่าน่าจะคล้ายๆขันโตก



พอเดินเสร็จคุณแฟนเค้าก็มีนัดพบปะสังสรรค์ตามประสาหมู่เพื่อนเค้า
ฮั่นแน่!! ใครที่ไปน่านอย่าคิดว่าน่าจะกันดารนะค่ะ ถึงจะอยู่เชียงใหม่ไม่ได้ก็เถอะ ที่นี่ก็มีร้านเหล้า ฟังเพลงชิวๆค่ะ
ที่แรกที่ไปอยู่กาดน่าน กาดนี่แปลว่าตลาดใช่มั้ยค่ะ แต่เค้าไม่ได้ทำเป็นตลาดแล้วนะ เปิดเป็นร้านเหล้าค่ะ ก็จะมีร้านติดๆหันอยู่หลายร้านเลยค่ะรวมอยู่ที่นั้น จำได้ว่ามากกว่า5ร้านอีก ก็เลือกได้ตามมสบาย ที่แรกที่นั่งคือ we loft ร้านนี่ตอนไปไม่มีดยตรีสด เอ้อบางร้านเค้าก็จะมีดนตรีสดเล่นของเค้ากันอยู่นะค่ะ อยู่ได้เกือบชั่วโมงก็เซย์บลายยค่ะเพราะนางเรียนมช.มาจบแล้ว แล้วเค้าไปหารุ่นพี่ที่เคยอยู่ชมรมเดียวกัน พอเสร็จไปหาเพื่อนเก่าอีกร้านนึง 



ร้านนี่แนะนำค่ะ จะบอกว่าที่ๆเราไปเนี่ยบางทีอาจไม่ใช่ที่ที่นักท่องเที่ยงเค้ารีวิวและไปกันว่าเด็ดว่าดีนะค่ะ คือต้องทำความเข้าใจว่า เราไปเนี่ยเราตื่นเต้นของเรา แต่คนที่เค้าอยู่ที่นั้นอยู่แล้วเนี่ยก็จะมองว่าเฉยๆ คงเป็นกันทุกที่ ที่นี่จะออกมาจากกาดน่า เรียกว่าร้าน ปั๊มคาเฟ่
ดีค่ะ คนเยอะดี เราไปมาสองคืนติดคนเยอะทุกวัน แฟนเราบอกว่าคงเพราะเพิ่งเปิดใหม่ ถ้าเทียบกับกาดน่านที่นี่มีร้านเดียวแต่ครึกครื้นกว่านะค่ะ 
มีดนตรีสด ร้องเพลงเพราะมากค่ะ ส่วนตัวชอบเลยอีกอย่างมีหนุ่มๆเหนือขาวๆให้มอง อู๊ยยยยย!! แอบเหล่คนข้างๆ55555
เพราะจขกท เรียนม.บูรพา ก็เจอแต่ทะเลสิค่ะ อิอิ
น่านมีที่ต่อนะค่ะ จะมีผับค่ะ เป็นผับที่เดียวในน่านเลยคือถ้าจะเที่ยวผับทั่วทั้งน่านต้องมาที่นี่ค่ะ ชื่อ channel บอกเลยว่าไปดูโคได้ค่ะ
เป็นอันจบวันแรกนะค่ะ


วันที่สองก็พักผ่อนค่ะ เพราะสถานที่สำคัญๆ เราก็ไปมาหมดแล้ว ก็ออกไปทานข้าวที่ขัดใจมากคือเราอยากไปทานข้าวซอยต้นน้ำ แต่เค้าดันลากเราไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ โถววววพ่อคุณของหม่อม!! แต่ว่าอร่อยค่ะ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออนุเสาวรีย์ งงละสิทำไมมาโผล่น่าน ชาม25บาท อร่อยเลยยอมมม ทีเด็ดคือแคปหมูต่างจากที่อื่น โอ๊ยย พิมพ์ไปหิวไป ต๊อกๆต๊อกไปเรื่อย จบลงที่ร้านเดินแล้วเข้านอน แต่โปรแกรมวันที่สามเรามีค่ะ
ถูกแผลนโดยคุณแม่ ว่าจะต้องไปเที่ยวด้วยกัน คือบ่อเกลือค่ะ 
    บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อ. บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตรท่ามาจากตัวเมืองน่านจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าเกือบถึงสองชั่วโมง เรียกได้ว่าทางโหดมาก แต่ข้างทางก็สวยมากเช่นกัน

    
   จะมีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่บอกว่าไม่มีที่ไหนในไทยอีกแล้วนะคุณ บ้านบ่อหลวงมีบ่อเกลือสาธารณะอยู่ 2 บ่อ ชาวบ้านจะเรียกว่า บ่อเหนือและบ่อใต้ บ่อเหนืออยู่ริมแม่น้ำบางส่วน บ่อใต้ห่างออก ไปราว 500 เมตรติดเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน ทั้งสองบ่อกรุขอบด้วยคอกไม้กันดินปากหลุมถล่ม จะมีเกลือขายอยู่ที่นั้น ต้มโดยวิถีของชาวบ้าน ข้างบนจะมีร้านกาแฟเล็กคอยให้บริการอยู่ด้วย







พอกลับมาจากบ่อเกลือ ตอนเย็นเราก็ได้ไปทานข้าวเย็นกันที่ ร้านปู่สมเจ้าเก่า
ตัวร้านจะตกแต่งสไตล์คันทรี คาวคอยแบบนั้น อาหารรสชาติโอเค ราคาไม่แพงเลย ของขึ้นชื่อน่าจะเป็นลาบหมูคั่ว เป็นลาบหมูแห้งๆโรยด้วยไส้ทอดนิดหน่อย อร่อยค่ะ เจ้าใจดี เปิดมานานกว่า40ปี มีส้มตำด้วยนะ





พอทานเรียบร้อยตอนแรกที่ตั้งใจไว้คือคืนนี้จะขึ้นไปนอนที่ดอยเสมอดาว และกลับในตอนเช้า แต่เนืองจากกว่าจะกลับจากบ่อเกลือก็เป็นเวลาเย็นแล้ว จึงตัดสินใจที่จะออกจากบ้านแต่เช้ามืดแทน

วันนี้เราออกจากบ้านตี5 พอดีค่ะ ได้พักผ่อนไปเล็กน้อย
    "ดอยเสมอดาว" อยู่ในอาณาบริเวณของ "อุทยานแห่งชาติศรีน่าน" เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาของแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวง ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้า และป่าห้วยสาลี ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ คือ ตำบลส้าน และตำบลน้ำมาบ อำเภอเวียงสา ตำบลศรีษะเกษ ตำบลเชียงของ และตำบลสถาน อำเภอนาน้อย ตำบลบ่อแก้ว และตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน การเดินทางก็เปิดGPS งมกันสองคนค่ะ ง่วงก็ง่วง หิวก็หิวแล้ว แต่มาน่านแล้วไม่แวะไม่ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมงถึง อากาศดีมากตลอดเส้นทาง แต่ช่วงที่ไปฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว วันนี้เมฆเยอะค่ะฟ้าไม่เปิดสักเท่าไหร่ แต่เท่านี้ก็พอใจแล้ว อากาศเย็นตลอดทั้งปีนะค่ะเห็นเข้าว่ามา แล้วอีกอย่างที่ไม่ขึ้นมานอนเพราะช่วงนี้เค้าไม่เปิดให้กางเต๊นท์นะค่ะ ต้องไปกางที่ผาชู้ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันแทน ไม่แน่ใจว่าจะเปิดให้นอนอีกทีช่วงไหน 






   ขึ้นมาบนนี้จะมีที่จอดรถอยุ่นะค่ะ



   




  จะบอกว่ามีโอกาสก็มาเถอะค่ะ มันสวยเย็นสบายจริงๆ มาเติมพลังชีวิตคุณ รู้ไหมค่ะ พวกภูเขาทะเลเนี่ย มันมีพลังงานนะค่ะ ไปทีไรได้แรงกลับมาใช้ชีวิตต่อตลอดเลย
จบล๊าววววววววววววววววว!!สำหรับทริปนี้ ยังมีอีกหลายทริปเลยที่ไปมาแต่ยังไม่มีโอกาสได้เขียน ไว้วันหลังว่างๆ มาเที่ยวด้วยกันผ่านตัวหลังสืออีกเนอะ ไปด้วยกันไปได้ไกล


ใครสนใจร่วมพูดคุยติดต่อป๊อปได้ที่ facebook : Pop'p Jrn
หรือติดตามได้ที่ไอจี Popjin นะค่ะ


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2265272