รีวิว ขึ้นภู ดูน้ำตก @ บึงกาฬ

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว pantip ทุกคนครับ

ในช่วงวันหยุดยาว 5 วันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสออกทริปด่วนกับเพื่อนๆ ที่จังหวัดบึงกาฬครับ ซึ่งทริปนี้เริ่มต้นจากการที่ผมเคยไปเที่ยวบึงกาฬมาหลายครั้ง จนเพื่อนๆ หลายคนเห็นรูปแล้วอยากไปบ้าง เราจึงวางแผนกันไปช่วงวันหยุดยาว แต่เนื่องจากหลายคนติดภารกิจ ทำให้สมาชิกในทริปนี้เหลือเพียงแค่ 4 คน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสุขของเราลดลงครับ สำหรับผม ถ้าได้ออกไปเที่ยว ถึงแม้จะไปคนเดียว ยังไงก็เที่ยวสนุกครับ

  

ทริปนี้เราใช้เวลาท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืนครับ โดยจุดหมายที่เราจะไปคือ น้ำตกถ้ำพระ อำเภอเซกา และ วัดภูทอก อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬครับ เรารวมตัวกันและออกเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ค. 59 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เราก็มาถึงอำเภอเซกา ซึ่งเป็นจุดที่เราจะพักในคืนนี้ เหตุผลที่ผมเลือกพักในอำเภอเซกาเนื่องจากหาที่กินง่ายครับ เรามาถึงประมาณ 5 โมงเย็น รู้สึกเหนื่อยและก็หิวแล้วครับ เราจึงไปหามื้อเย็นกินก่อนเข้าที่พัก โดยเราเลือกไปนั่งกินข้าวชมวิวที่หาดคำสมบูรณ์ อำเภอบึงโขงหลง ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเซกา 15 กม. ครับ


ที่หาดคำสมบูรณ์ จะมีแพไม้ไผ่ริมน้ำไว้ให้นั่ง พร้อมอาหารเครื่องดื่มไว้บริการ ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายร้านครับ แต่ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการตอนกลางวัน ถ้ามาช่วงค่ำบางร้านก็จะปิดและอาหารจะมีให้เลือกไม่มากครับ เรามาถึงที่นี่ค่ำแล้วเลยกินเท่าที่มีครับ แต่ก็มีความสุขดีเพราะนอกจากอาหารที่ดูจะธรรมดาแต่อร่อยแล้ว ยังมีวิวสวยๆ ให้ชมครับ


หลังจากจัดการมื้อค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับเข้าที่พักครับ คืนนี้เรานอนที่เสาวลักษณ์วิลล่าครับ เราเลือกห้องเตียงคู่ ราคา 400 บาท นอนได้ห้องละ 3 คน ภายในห้องนอนก็สะอาด แอร์เย็นสบายดี แต่ห้องที่พักคืนนั้นฝักบัวรั่วนิดนึง น้ำเลยไม่ค่อยไหลแรงเท่าไหร่ แต่โดยรวมราคานี้ก็โอเคครับ


ที่เสาวลักษณ์วิลล่ามีห้องพักหลายแบบ หลายโซน พร้อมสระว่ายน้ำครับ ตอนเช้ามีกาแฟ โกโก้ และขนมไว้บริการด้วย บรรยากาศก็เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ท่านที่ผ่านมาทางนี้แนะนำที่นี่เลยครับ



เนื่องจากทริปนี้เรามีเวลาจำกัด วันนี้เราจึงตื่นแต่เช้า ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกของเราในวันนี้ คือ น้ำตกถ้ำพระ ซึ่งเป็นน้ำตกทีอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว การเดินทางจากอำเภอเซกาไปน้ำตกถ้ำพระสามารถไปได้ 2 ทาง คือ เส้นทางแรก ออกจากเซกา ผ่านไปทางหาดคำสมบูรณ์ ส่วนทางที่สอง ออกจากอำเภอเซกา ผ่านไปทางอำเภอบึงโขงหลงครับ ตามความเห็นผมแนะนำให้ไปทางอำเภอบึงโขงหลงครับ จะได้ไม่ต้องวกไปวนมา ตามเส้นทางที่ไปจะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ ไม่หลงทางแน่นอน และเนื่องจากเส้นทางเป็นทางหลวงชนบท คุณภาพของเส้นทางจึงเป็นอย่างที่เห็นครับ แต่ก็ไม่เป็นปัญหา รถเก๋งวิ่งได้สบายครับ


ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราก็มาถึงทางเข้าน้ำตกถ้ำพระครับ สำหรับการเดินทางเข้าไปยังตัวน้ำตกจะใช้การล่องเรือหางยาวเข้าไปเท่านั้นครับ ซึ่งที่นี่มีท่าเทียบเรืออยู่ 2 แห่ง ค่าบริการไปกลับคนละ 20 บาทและไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปครับ ทริปนี้เราเลือกใช้บริการที่ท่าเรือที่ 1 ซึ่งมีลานจอดรถ ร้านอาหาร ห้องน้ำ ไว้บริการครับ ตอนที่เราไปเป็นช่วงวันหยุดยาวจึงมีคนมาเที่ยวเยอะ แนะนำว่าถ้าใครแพลนมาช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ก็ให้มาแต่เช้าหน่อยละกันครับ คิวจะได้ไม่ยาว ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนก็จะไม่เยอะครับ ส่วนใหญ่จะมาช่วงเที่ยงๆ ไปจนถึงค่ำ ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็มาแต่เช้าครับ


หลังจากซื้อตั๋วแล้วเราก็ลงเรือครับ ล่องเรือผ่านลำห้วยถ้ำพระเข้าไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะผ่านท่าเทียบเรือที่ 2 และชมธรรมชาติที่สวยงามทั้ง 2 ข้างทางครับ


สักพักเราก็มาถึงทางขึ้นน้ำตกครับ เส้นทางจะเป็นทางเดินขึ้นเนินเขา ผ่านป่าไม้เล็กๆ บรรยากาศร่มรื่นดีครับ


เดินมาประมาณ 100 เมตร เราก็มาถึงบริเวณชั้นล่างของน้ำตกถ้ำพระครับ


เดินขึ้นไปอีกนิดก็จะเป็นเพิงหินหรือถ้ำที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อน้ำตกถ้ำพระครับ เราแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนขึ้นไปเล่นน้ำครับ



จากนั้นเดินขึ้นเนินหินมานิดนึง เราก็พบกับลานหินกว้างๆ และน้ำตกขนาดใหญ่ สวยจนต้องร้อง ว้าววว! ครับ



น้ำตกถ้ำพระ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บริเวณน้ำตกจะเป็นลานหิน มีน้ำตื้นๆ และไม่ค่อยมีหลุม เหมาะแก่การเล่นน้ำมากครับ แล้วจะช้าอยู่ทำไม ไปเล่นน้ำกันเลยครับ




น้ำที่นี่ใสและเย็นสบายดีครับ เราเล่นน้ำอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งสมควรแก่เวลา เพราะเรามีสถานที่อีกแห่งหนึ่งต้องไป อีกทั้งก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงออกเดินทางกลับครับ



หลังจากเสร็จสิ้นมื้อกลางวันแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังวัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอก ในเขตอำเภอศรีวิไล ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกถ้ำพระ ประมาณ 20 กิโลเมตร วัดภูทอก เป็นวัดที่ก่อตั้งโดยพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งท่านได้มรณภาพไปแล้ว ภายในวัดจะมีเจดีย์ที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารของท่าน และอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นจุดเด่นของวัดภูทอก คือ ภูทอก ภูเขาที่ตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งมีวิหารที่เงียบสงบอยู่บนยอดเขา และมีทางขึ้นเป็นบันไดไม้กับระเบียงไม้เป็นทางเดินรอบภูเขา มีทั้งหมด 7 ชั้นครับ

วัดภูทอก เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของผู้ทรงศีล การเดินทางไปที่วัดควรเคารพสถานที่ด้วยการแต่งกายสุภาพ ไม่ส่งเสียงดัง และไม่นำอาหารขึ้นไปรับประทานบนภูเขาครับ สำหรับวันนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว คนเยอะมาก ไม่มีที่จอดรถ เลยไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้าวัดมาให้ชมครับ หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินขึ้นบนยอดเขาครับ


เส้นทางเดินขึ้นบนยอดเขาจะเป็นบันไดไม้ ซึ่งชันมาก เดินไปได้นิดหน่อยก็ถึงกับหอบเลยทีเดียว แต่ด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทางก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้เยอะเลยครับ


ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราก็มาถึงชั้น 5 ครับ ที่ชั้นนี้จะมีศาลาใหญ่สำหรับไหว้พระและนั่งพักผ่อนได้ครับ ผมเหนื่อยมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาต้องขอโทษด้วยครับ หลังจากไหว้พระและหายเหนื่อยแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปชมพุทธวิหารและเดินระเบียงไม้รอบภูเขา ระหว่างทางก็มีจุดให้ไหว้พระ ดื่มน้ำ พักผ่อน และชมธรรมชาติครับ



เดินมาได้สักพัก เราก็มาถึงพุทธวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่เจริญภาวนาของพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ครับ สามารถเดินเข้าไปไหว้พระด้านในได้ครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาเนื่องจากมีผู้แสวงบุญกำลังนั่งสมาธิอยู่ครับ



จากพุทธวิหารมองขึ้นไปจะเห็นระเบียงทางเดินไม้รอบภูเขา ซึ่งนั่นคือจุดที่เราจะไปต่อจากนี้ครับ



หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว เราก็ขึ้นมาที่ชั้น 6 เพื่อเดินบนระเบียงไม้รอบภูเขาครับ ทางเดินรอบภูเขาสามารถเดินได้ 2 ชั้น คือ ชั้น 5 กับ ชั้น 6 เราเลือกชั้น 6 เพราะสูงกว่า สามารถมองเห็นวิวได้มากกว่า ส่วนชั้น 7 เป็นยอดภู มีแต่ป่ารก เลยไม่ขึ้นไปครับ



นี่คือทางเดินรอบเขาครับ บางช่วงมีดิน แต่ส่วนใหญ่ชั้น 6 จะไม่มีครับ




เห็นคนที่อยู่ชั้น 5 ด้วยครับ สูงมากๆ


เดินมาไกลพอสมควร แต่ก็ยังไม่ครบรอบ ปรากฎว่าเพื่อนผมไม่ไหวครับ ขาสั่นหมด เราก็เลยลงไปชั้น 5 ครับ ดูทางลงแล้วก็ไม่ธรรมดาครับ


ที่ชั้น 5 ส่วนใหญ่จะเป็นทางดินครับ เดินสบาย ไม่ค่อยเครียด เดินรับลมชมวิวไปเรื่อยๆ ครับ 55



เดินมาอีกนิดนึงก็ถึงทางลงแล้วครับ เราเลือกลงคนละเส้นทางกับที่ขึ้นมา ชันกว่าแต่ถึงข้างล่างเร็วครับ




ใช้เวลาไม่นาน เราก็ลงมาถึงด้านล่าง แวะที่ศาลาริมน้ำเพื่อพักผ่อน และดูปลา จากนั้นเราไปไหว้พระในเจดีย์ แล้วเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับ



ขอบคุณที่ติดตามนะครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ โอกาสหน้าพบกันใหม่ครับ


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1440333