ก่อนจะเล่าเรื่องและภาพประกอบขออนุญาต สรุปค่าใช้จ่ายให้ฟังก่อนนะครับ
การไปเที่ยวครั้งนี้คือ 3 วัน 2 คืน
คืนแรกพักที่โรงแรมพิมพิมาน ค่าห้อง 1300 บาท พัก 2 คน หารกันตกคนละ 650 บาท
คืนที่สองพักที่ชื่นวารินรีสอร์ท ค่าห้อง 1500 บาท พัก 2 คน หารกันตกคนละ 750 บาท
ค่ารถตู้จากเอกมัย กรุงเทพ ไปถึงขนส่งตัวเมืองระยอง 130 บาทต่อคน ไปกลับรวม 260 บาท
ค่ารถสองแถวสีน้ำเงินจากขนส่งไปแหลมแม่พิมพ์ คนละ 30 บาท ไปกลับก็ 60 บาท ต่อคน
รวมแล้วค่าใช้จ่ายในการเดินทางกับที่พัก ไม่รวมค่ากิน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,780 บาท ครับ
ปล.มีที่พักราคาหลากหลายในแต่ละจุด หากหาที่ถูกกว่านี้ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีกครับผม
+++++++++++++++++++++++++
การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางของผมกับรุ่นน้อง ที่รักการถ่ายภาพเหมือนๆกัน และตั้งใจจะไปเก็บภาพทะเล
โดยไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ จึงลงมติเอกฉันท์ ว่าเราทั้งคู่จะไปถ่ายภาพกับที่แหลมแม่พิมพ์ กับอ่าวเจริญกัน
เมื่อวางแผนเสร็จแล้ว ก็เริ่มลุยของจริงครับ
มาถึงเอกมัย นั่งรถตู้ไปที่ขนส่งตัวเมืองระยอง ใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง ค่ารถคนละ 130 บาท
หลังจากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีน้ำเงินที่ขนส่ง ที่เขียนว่า แหลมแม่พิมพ์ ไปลงที่แหลมแม่พิมพ์ ค่ารถคนละ 30 บาท
แล้วผมไปพักกันที่ โรงแรมพิมพิมาน ค่าห้อง 1,300 บาท ต่อคืน ถ้ามากันมากกว่า 2 คน หารกันสบายๆ กว่านี้เลยครับ แต่ทริปนี้ไปกันน้อย ก็เลยกลายเป็นทริปเจ้าสัวกันไปโดยปริยาย
ทำไมคืนแรก ผมอยากจะมาเก็บภาพที่แหลมแม่พิมพ์ เพราะที่นี่ ชายหาดกับน้ำทะเล ยังใส น่าเล่นอยู่ครับ และผู้คนที่นี่ก็ไม่พลุกพล่าน ยังได้ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ คนไม่เยอะมากได้ แถมได้เก็บภาพบรรยากาศทะเล ตามที่ตั้งใจเอาไว้
มื้อแรก อาหารกลางวัน ทริปเจ้าสัวจำเป็น ขอสั่งอาหารทะเลมาเต็มคราบกันสักหน่อย
ปูนิ่มผัดพริกไทย
ต้มยำกุ้งน้ำข้น
และอื่นๆ อีก 3 อย่าง อารมณ์ประมาณ ต้ม ยำ นึ่ง ทอด ผัด จัดมาครบเซ็ทนะครับผม
งานนี้ ค่าอาหารหมดไป 1,400 กว่าบาท มื้อเดียว กินกันไป 2 คน ได้ไง จุกถึงเย็นสิครับ งานนี้จะเหลืออะไร ฮา
ที่แหลมแม่พิมพ์ มีอะไรให้ถ่ายเยอะครับ หลังจากกินอาหารทะเลเสร็จ ก็เดินแวะถ่าย นู้น นี่ นั่น เยอะแยะไปหมดครับ
ที่ขาดไม่ได้ ก็คงจะเป็นภาพคนกับทะเล มั้งเนาะ
ผมชอบภาพนี้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าแต่มันก็สื่ออารมณ์ความกลัวของลูกน้อยที่เกาะแขนพ่อแน่นได้
อีกภาพคือภาพแม่อุ้มลูกน้อยเล่นน้ำทะเล ใจผมนะอยากได้จังหวะที่มีคลื่นอยู่ด้านหน้าของแม่ลูกคู่นี้ แต่ จังหวะตัวแบบไม่ได้ เพราะแม่พาลูกเล่นน้ำแป๊บเดียวก็ขึ้นแล้ว ผมรอคลื่นทะเลมาไม่ไหว เก็บภาพอะไรในหัวได้เท่าไรก็เอาเท่านั้นไปก่อนครับ มันสนุกก็ตรงนี้แหละครับ กับการถ่ายภาพแนวนี้ คือ มันไม่ได้เซ็ทฉาก มันต้องอาศัยความเร็วในการเก็บภาพและให้ได้อารมณ์ภาพตามที่เราอยากจะสื่อสารออกไป
มาทะเล ก็ต้องมีภาพคลื่นน้ำทะเลสิเนาะ
ภาพโบเก้น้ำทะเลสักภาพนะ ใช้ manual focus ของกล้อง ก็ได้ภาพเบลอๆ แบบนี้ไม่ยากจ้า
หาดทรายกับสีของน้ำทะเล ตัดกันสวยดี
แสงพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินล่ะ
จัดภาพเซลูเอทสัก 2 ภาพ
จบด้วยภาพเรือและพระอาทิตย์ก่อนตกดินครับผม
หลังจากหมดมื้อกลางวันแบบจัดอาหารทะเลเต็มคราบแล้ว
หลังจากนั้น ตอนเย็น ก็กลับสู่ภาวะปกติ กลับมาฐานะยาจก กันเหมือนเดิมครับ
กินอาหารตามสั่งกัน งบจัดหนักเรื่องอาหารหมดแล้ว ฮา
ก่อนนอน ก็ภาวนากันว่า เช้าของวันพรุ่งนี้
ขอแสงพระอาทิตย์สวยๆ เล่นกับน้ำทะเลหน่อยนะ
ปรากฎว่า ใครขโมยพระอาทิตย์ไปไหนเนี่ย
โผล่พ้นก้อนเมฆอีกที ก็นู้นเลย 8 โมงกว่าๆแล้ว
แม้ไม่ได้ภาพอย่างที่หวังก็ไม่เป็นไรครับ กินข้าว เก็บข้าวของ เดินทางนั่งรถโดยสารสีน้ำเงิน
ย้อนกลับมาพักที่ ชื่นวารินรีสอร์ท กันต่อ
เพราะที่นี่ อยู่ที่อ่าวเจริญ ที่มีชุมชนเล็กๆ ของชาวประมงด้วย
เป็นสถานที่ผมคิดว่า ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากๆ ที่หนึ่งเลย
และสถานที่แห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจาก สวนพฤษศาสตร์ระยอง แหล่งที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ผมชอบที่นี่มาก ไปที่นี่กี่ครั้ง ก็ไม่เคยได้ภาพเหมือนเดิมสักครั้งเดียว
ไปหน้าฝน จะเจอความเขียวๆ ของที่นี่ครับ ผมใช้จักรยานในการปั่นเที่ยวที่นี่ มีปั่นลุยน้ำบางจุด เพราะน้ำท่วมขัง
แนะนำว่า ถ้ามาเที่ยวที่นี่ ถ้าติดต่อเจ้าหน้าที่ของสวนเอาไว้ก่อน จะสะดวกมากๆ
เจ้าหน้าที่ เขาจะได้เตรียมจักรยานเอาไว้ให้
ที่นี่มีอะไรให้ถ่ายเยอะครับ ถ้าคนที่ชื่นชอบถ่ายภาพแนวธรรมชาติ คงเก็บภาพกันเพลิน
ตั้งแต่ภาพมาโครแมลง จนถึง พวกนก
ที่นี่นกเยอะครับ และไม่ค่อยกลัวคนเท่าไร
นกนางแอ่นบ้าน
หลังจากถ่ายที่สวนพฤษศาสตร์ระยองถึงราวๆ 16.00 น.
ผมและเพื่อนก็รีบกลับมายังที่พักที่ชื่นวารินรีสอร์ท ครับ
อยากดูว่าพระอาทิตย์ตก ตรงไหน
ปรากฎว่า ตกคนละมุม ไม่ได้ตกทางทะเล จบข่าว
เช้าที่ทางผมคาดหวังเอาไว้ครับ แต่ก็ไม่เป็นดั่งหวังอีกแล้ว
พระอาทิตย์ ถูกขโมยไปอีกหน ฮา
ไอ้จุดแดงๆ ในภาพ นั่น พระอาทิตย์นะครับ (ไม่ใช่เซนเซอร์กล้องเกิด hot spot) ขึ้นแป๊บเดียว เจอเมฆบังมิดเลย ฮา
หมู่บ้านประมง เล็กๆ
สรุปคือ ที่อ่าวเจริญ จะเป็นทะเล ที่ค่อนข้างส่วนตัว ไม่มีคนพลุกพล่าน
สถานที่พัก นี่ติดทะเลเลย เหมาะแก่การมาพักผ่อน ที่หลีกหนีผู้คนมากๆ
และมีเปลือกหอยสวยๆ เยอะ กว่าแหลมแม่พิมพ์ครับ
แถมมีปูผีหรือปูลม หน้าตาคนละแบบกับที่แหลมแม่พิมพ์เลย
สุดท้ายอยากจะบอกทุกคนว่า
หากคุณชอบทะเล
หากคุณเบื่อความวุ่นวายของผู้คน อยากอยู่เงียบๆ
หากคุณอยากกินอาหารทะเลสดๆ
หากคนชอบถ่ายภาพทะเล
หากคุณชอบถ่ายภาพมาโคร แมลง นก และพืชพันธุ์ไม้ ดอกไม้แปลกๆ
อย่าลืมแวะเที่ยวที่แหลมแม่พิมพ์ – อ่าวเจริญ สุดท้าย สวนพฤษศาสตร์ระยองนะครับ ขอแนะนำเลย
มันจะเป็นประสบการณ์การพักผ่อนสุดสัปดาห์ ที่ดีที่สุดของคุณเลยก็ได้
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ล่ะกันครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรับชมตั้งแต่ต้นจนจบจ้า
ปล.หาซื้ออาหารของฝากจากทะเลได้ที่ บ้านเพ หรือไม่ก็ที่ตลาดหลังขนส่งตัวเมืองระยองได้นะครับผม
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.sharingstory
การไปเที่ยวครั้งนี้คือ 3 วัน 2 คืน
คืนแรกพักที่โรงแรมพิมพิมาน ค่าห้อง 1300 บาท พัก 2 คน หารกันตกคนละ 650 บาท
คืนที่สองพักที่ชื่นวารินรีสอร์ท ค่าห้อง 1500 บาท พัก 2 คน หารกันตกคนละ 750 บาท
ค่ารถตู้จากเอกมัย กรุงเทพ ไปถึงขนส่งตัวเมืองระยอง 130 บาทต่อคน ไปกลับรวม 260 บาท
ค่ารถสองแถวสีน้ำเงินจากขนส่งไปแหลมแม่พิมพ์ คนละ 30 บาท ไปกลับก็ 60 บาท ต่อคน
รวมแล้วค่าใช้จ่ายในการเดินทางกับที่พัก ไม่รวมค่ากิน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,780 บาท ครับ
ปล.มีที่พักราคาหลากหลายในแต่ละจุด หากหาที่ถูกกว่านี้ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีกครับผม
+++++++++++++++++++++++++
การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางของผมกับรุ่นน้อง ที่รักการถ่ายภาพเหมือนๆกัน และตั้งใจจะไปเก็บภาพทะเล
โดยไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ จึงลงมติเอกฉันท์ ว่าเราทั้งคู่จะไปถ่ายภาพกับที่แหลมแม่พิมพ์ กับอ่าวเจริญกัน
เมื่อวางแผนเสร็จแล้ว ก็เริ่มลุยของจริงครับ
มาถึงเอกมัย นั่งรถตู้ไปที่ขนส่งตัวเมืองระยอง ใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง ค่ารถคนละ 130 บาท
หลังจากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีน้ำเงินที่ขนส่ง ที่เขียนว่า แหลมแม่พิมพ์ ไปลงที่แหลมแม่พิมพ์ ค่ารถคนละ 30 บาท
แล้วผมไปพักกันที่ โรงแรมพิมพิมาน ค่าห้อง 1,300 บาท ต่อคืน ถ้ามากันมากกว่า 2 คน หารกันสบายๆ กว่านี้เลยครับ แต่ทริปนี้ไปกันน้อย ก็เลยกลายเป็นทริปเจ้าสัวกันไปโดยปริยาย
ทำไมคืนแรก ผมอยากจะมาเก็บภาพที่แหลมแม่พิมพ์ เพราะที่นี่ ชายหาดกับน้ำทะเล ยังใส น่าเล่นอยู่ครับ และผู้คนที่นี่ก็ไม่พลุกพล่าน ยังได้ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ คนไม่เยอะมากได้ แถมได้เก็บภาพบรรยากาศทะเล ตามที่ตั้งใจเอาไว้
มื้อแรก อาหารกลางวัน ทริปเจ้าสัวจำเป็น ขอสั่งอาหารทะเลมาเต็มคราบกันสักหน่อย
ปูนิ่มผัดพริกไทย
ต้มยำกุ้งน้ำข้น
และอื่นๆ อีก 3 อย่าง อารมณ์ประมาณ ต้ม ยำ นึ่ง ทอด ผัด จัดมาครบเซ็ทนะครับผม
งานนี้ ค่าอาหารหมดไป 1,400 กว่าบาท มื้อเดียว กินกันไป 2 คน ได้ไง จุกถึงเย็นสิครับ งานนี้จะเหลืออะไร ฮา
ที่แหลมแม่พิมพ์ มีอะไรให้ถ่ายเยอะครับ หลังจากกินอาหารทะเลเสร็จ ก็เดินแวะถ่าย นู้น นี่ นั่น เยอะแยะไปหมดครับ
ที่ขาดไม่ได้ ก็คงจะเป็นภาพคนกับทะเล มั้งเนาะ
ผมชอบภาพนี้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าแต่มันก็สื่ออารมณ์ความกลัวของลูกน้อยที่เกาะแขนพ่อแน่นได้
อีกภาพคือภาพแม่อุ้มลูกน้อยเล่นน้ำทะเล ใจผมนะอยากได้จังหวะที่มีคลื่นอยู่ด้านหน้าของแม่ลูกคู่นี้ แต่ จังหวะตัวแบบไม่ได้ เพราะแม่พาลูกเล่นน้ำแป๊บเดียวก็ขึ้นแล้ว ผมรอคลื่นทะเลมาไม่ไหว เก็บภาพอะไรในหัวได้เท่าไรก็เอาเท่านั้นไปก่อนครับ มันสนุกก็ตรงนี้แหละครับ กับการถ่ายภาพแนวนี้ คือ มันไม่ได้เซ็ทฉาก มันต้องอาศัยความเร็วในการเก็บภาพและให้ได้อารมณ์ภาพตามที่เราอยากจะสื่อสารออกไป
มาทะเล ก็ต้องมีภาพคลื่นน้ำทะเลสิเนาะ
ภาพโบเก้น้ำทะเลสักภาพนะ ใช้ manual focus ของกล้อง ก็ได้ภาพเบลอๆ แบบนี้ไม่ยากจ้า
หาดทรายกับสีของน้ำทะเล ตัดกันสวยดี
แสงพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินล่ะ
จัดภาพเซลูเอทสัก 2 ภาพ
จบด้วยภาพเรือและพระอาทิตย์ก่อนตกดินครับผม
หลังจากหมดมื้อกลางวันแบบจัดอาหารทะเลเต็มคราบแล้ว
หลังจากนั้น ตอนเย็น ก็กลับสู่ภาวะปกติ กลับมาฐานะยาจก กันเหมือนเดิมครับ
กินอาหารตามสั่งกัน งบจัดหนักเรื่องอาหารหมดแล้ว ฮา
ก่อนนอน ก็ภาวนากันว่า เช้าของวันพรุ่งนี้
ขอแสงพระอาทิตย์สวยๆ เล่นกับน้ำทะเลหน่อยนะ
ปรากฎว่า ใครขโมยพระอาทิตย์ไปไหนเนี่ย
โผล่พ้นก้อนเมฆอีกที ก็นู้นเลย 8 โมงกว่าๆแล้ว
แม้ไม่ได้ภาพอย่างที่หวังก็ไม่เป็นไรครับ กินข้าว เก็บข้าวของ เดินทางนั่งรถโดยสารสีน้ำเงิน
ย้อนกลับมาพักที่ ชื่นวารินรีสอร์ท กันต่อ
เพราะที่นี่ อยู่ที่อ่าวเจริญ ที่มีชุมชนเล็กๆ ของชาวประมงด้วย
เป็นสถานที่ผมคิดว่า ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากๆ ที่หนึ่งเลย
และสถานที่แห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจาก สวนพฤษศาสตร์ระยอง แหล่งที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ผมชอบที่นี่มาก ไปที่นี่กี่ครั้ง ก็ไม่เคยได้ภาพเหมือนเดิมสักครั้งเดียว
ไปหน้าฝน จะเจอความเขียวๆ ของที่นี่ครับ ผมใช้จักรยานในการปั่นเที่ยวที่นี่ มีปั่นลุยน้ำบางจุด เพราะน้ำท่วมขัง
แนะนำว่า ถ้ามาเที่ยวที่นี่ ถ้าติดต่อเจ้าหน้าที่ของสวนเอาไว้ก่อน จะสะดวกมากๆ
เจ้าหน้าที่ เขาจะได้เตรียมจักรยานเอาไว้ให้
ที่นี่มีอะไรให้ถ่ายเยอะครับ ถ้าคนที่ชื่นชอบถ่ายภาพแนวธรรมชาติ คงเก็บภาพกันเพลิน
ตั้งแต่ภาพมาโครแมลง จนถึง พวกนก
ที่นี่นกเยอะครับ และไม่ค่อยกลัวคนเท่าไร
นกนางแอ่นบ้าน
หลังจากถ่ายที่สวนพฤษศาสตร์ระยองถึงราวๆ 16.00 น.
ผมและเพื่อนก็รีบกลับมายังที่พักที่ชื่นวารินรีสอร์ท ครับ
อยากดูว่าพระอาทิตย์ตก ตรงไหน
ปรากฎว่า ตกคนละมุม ไม่ได้ตกทางทะเล จบข่าว
เช้าที่ทางผมคาดหวังเอาไว้ครับ แต่ก็ไม่เป็นดั่งหวังอีกแล้ว
พระอาทิตย์ ถูกขโมยไปอีกหน ฮา
ไอ้จุดแดงๆ ในภาพ นั่น พระอาทิตย์นะครับ (ไม่ใช่เซนเซอร์กล้องเกิด hot spot) ขึ้นแป๊บเดียว เจอเมฆบังมิดเลย ฮา
หมู่บ้านประมง เล็กๆ
สรุปคือ ที่อ่าวเจริญ จะเป็นทะเล ที่ค่อนข้างส่วนตัว ไม่มีคนพลุกพล่าน
สถานที่พัก นี่ติดทะเลเลย เหมาะแก่การมาพักผ่อน ที่หลีกหนีผู้คนมากๆ
และมีเปลือกหอยสวยๆ เยอะ กว่าแหลมแม่พิมพ์ครับ
แถมมีปูผีหรือปูลม หน้าตาคนละแบบกับที่แหลมแม่พิมพ์เลย
สุดท้ายอยากจะบอกทุกคนว่า
หากคุณชอบทะเล
หากคุณเบื่อความวุ่นวายของผู้คน อยากอยู่เงียบๆ
หากคุณอยากกินอาหารทะเลสดๆ
หากคนชอบถ่ายภาพทะเล
หากคุณชอบถ่ายภาพมาโคร แมลง นก และพืชพันธุ์ไม้ ดอกไม้แปลกๆ
อย่าลืมแวะเที่ยวที่แหลมแม่พิมพ์ – อ่าวเจริญ สุดท้าย สวนพฤษศาสตร์ระยองนะครับ ขอแนะนำเลย
มันจะเป็นประสบการณ์การพักผ่อนสุดสัปดาห์ ที่ดีที่สุดของคุณเลยก็ได้
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ล่ะกันครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรับชมตั้งแต่ต้นจนจบจ้า
ปล.หาซื้ออาหารของฝากจากทะเลได้ที่ บ้านเพ หรือไม่ก็ที่ตลาดหลังขนส่งตัวเมืองระยองได้นะครับผม
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.sharingstory