รีวิว [เขาค้อ] ถ้าคิดถึงเขา : เราต้องไปหา คนเดียวก็เที่ยวได้

สวัสดี.... ชาวบลูพลาเน็ท เป็นครั้งแรกที่ผมจะรีวิวท่องเที่ยวนะครับ ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ-ภูเขา-อุทยานแห่งชาติอยู่แล้ว ปีนี้ผมตั้งเป้า ยืนบนภูเขาด้วย 2 เท้าของให้ครบ 12 ลูก รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกแต่เป็นเขาลูกที่ 10 แล้วล่ะครับ


ไม่มีรถ ก็เที่ยวได้
ไม่มีเพื่อน ก็เที่ยวได้
ไม่มีเวลา ก็เที่ยวได้
ไม่กล้าโบกรถเหรอครับ?
ผมก็ไม่กล้าเหมือนกัน 555


เที่ยวแบบผม งบไม่บานปลาย กลมๆ 3,000บาท ไม่เกินนี้แน่นอน (ถ้ากินไม่เยอะนะครับ อมยิ้ม20)



         และผมต้องขอแสดงความเสียใจกับบางท่านที่เข้ามาอ่าน หากคาดหวังว่าผมจะพาไปกินของอร่อยย่านเขาค้อ “ไม่มีนะครับ” ผมจะให้เวลาส่วนใหญ่กับธรรมชาติและการถ่ายรูป จนบางที ลืมกินข้าวก็มี -*-


ทำไมต้องเขาค้อ?
ผมอ่านรีวิวเขาค้อมาเยอะมาก แต่ไม่มีรีวิวไหนเลยที่กำหนดพิกัดชัดเจนว่า ขึ้นรถตรงไหน ลงรถตรงไหน มีสองแถวมั๊ย ขากลับขึ้นตรงไหน เขาค้อมีที่เที่ยวตรงไหนมั่ง? เราต้องไปตายเอาดาบหน้ามั๊ย อะไรยังไง? บางรีวิวไปกับเพื่อนหลายคนเน้นเหมารถ เอาเป็นว่าใครที่ชอบเดินทางแบบผมลองอ่านกระทู้นี้ดู อาจได้ข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์สำหรับการเดินทางไม่มากก็น้อย


มีบางประโยค “นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี” และ "ผมคิดถึงบางคน" ทำให้ผมเลือกที่จะมาที่นี่



แผนการเดินทาง
ทริปนี้ ผมจะไปรอบๆเขาค้อและมีของแถมให้อีก1แห่งในข้อสุดท้าย ผมใช้เวลา 2วัน1คืน
วันที่29ก.ค.59
1.จุดชมวิวทะเลหมอกเขาค้อ
2.ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ
3.พระตำหนักเขาค้อ
4.ฐานปฏิบัติการเขาย่า
5.พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ
6.อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ
7.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
วันที่30ก.ค.59
8.น้ำตกศรีดิษฐ์
9.พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
10.หอสมุดนานาชาติเขาค้อ
11.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว(ผมแถมให้ เพราะอยู่ไกลจากเขาค้อออกไปพอสมควร)
จริงๆแล้ว ที่ตั้งแต่ข้อ1-10 เที่ยววันเดียวก็หมดครับ(แต่ผมมาหน้าฝน ต้องเผื่อไว้ 1 วัน กันเหนียว ที่นี่ฝนตกทุกวัน แต่ไม่ทั้งวัน)


ส่วนที่พัก ผมหาข้อมูลมาเป็นอาทิตย์ แล้วก็เจอที่ที่นึงในเฟสบุค ถูกสเปคผมมาก 1.ราคาถูก 2.มีจยย.เช่า บ้านไร่เขาค้อ(โฮมสเตย์) ที่นี่มีแค่ 1ห้องเท่านั้น ใครจะมาที่นี่ควรติดต่อลุงนันท์เจ้าของโฮมสเตย์ก่อน คืนละ 500บ. หากเป็นช่วงเทศกาล ต้องจองล่วงหน้านะครับ ที่พักที่นี่จะอยู่ใกล้จุดชมวิวเขาค้อ ห่างจากท่ารถที่เรามาถึง(ตลาดทุ่งสมอ)ประมาณ 20กิโล 

ส่วนใครสนใจพักรีสอร์ท ที่นี่มีเยอะมากกกกกกก ตลอดเส้นทาง แต่ช่วงเทศกาล-วันหยุดยาว-ช่วงไฮท์ คงต้องจองล่วงหน้าเป็นอา.นะครับ

ตอนติดต่อกันครั้งแรก คือยังไม่ได้วางแผนไรเลย โทรถามเฉยๆว่า
ผม : ลุงนันท์ ผมยังลังเลว่าจะพักคืนนึงหรือสองคืนดี
ลุงนันท์ : เอางี้ คุณจะบุคคืนนึงก่อนก็ได้ ส่วนอีกคืนลุงจะล๊อกไว้ให้คุณอยู่แล้ว เผื่อคุณอยากอยู่เพิ่มอีกคืน
ผม : เป็นข้อเสนอที่ดีมากครับ (ยิ้มสิครับ มีที่นอนชัวร์ถ้ามีอะไรผิดพลาด)


พอตัดสินใจได้ ก็โทรติดต่อกลับไปใหม่ คุยกับลุงว่า …
ผม : ลุงนันท์ผมจะขอเช่ามอไซค์ลุง2วันที่พัก1คืน วันที่2ผมจะขอให้ลุงมาส่งที่ท่ารถตอน18.00น.
ลุงนันท์ : แล้วอีกคืนจะไปนอนไหน?
ผม : ผมจะกลับ กทม เที่ยว 21.00


โฮมสเตย์ของลุงมี จยย.ให้เช่าด้วย วันละ 300 (ให้เช่าแค่คนที่มาพักโฮมเตย์ของลุงเท่านั้นและไม่ต้องมัดจำ ที่อื่นมัดจำ3000-5000เลยนะ)ตอนเอามาคืนเติมเต็มถังมาคืนด้วย ปั๊มน้ำมันอยู่หน้าหมู่บ้านที่เราพักเลย
ลุงคิดค่ารับส่งทุ่งสมอ-ที่พัก ไม่แพงครับ ขาละ 100 บาท (เท่าที่ผมสอบถามคนพื้นที่มา คือไม่มีสองแถวผ่านจากทุ่งสมอขึ้นมาจุดชมวิวนะ อาจมีแค่รถเหมาเท่านั้น)  ในห้องยังมีปลั๊กให้เสียบตั้ง 9 รู เยอะจนแทบไม่ต้องพกปลั๊กพ่วงส่วนตัวมาเลย

หากใครสนใจพักโฮมสเตย์ vvv 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สิ่งของจำเป็นที่ต้องเตรียมไปด้วย

1.เสื้อกันแดด กันฝน กันลม กันหนาว แค่ก้าวขึ้นรถก็ได้ใช้แล้วครับ
2.แว่นกันแดด กันลม กันฝุ่น  กันทราย กันแมลง (จำเป็นมากครับ เวลารถกระบะวิ่งแซง ทรายสาดเข้าหน้าเต็มๆ)
3.ยากันยุง
4.ยาสามัญประจำบ้าน พาราซักแผง หนาวมาร้อน ร้อนมาเปียก เปียกมาหนาว อาจเป็นหวัดได้ครับ 
5.เสื้อกันฝน7-11 บางดุจขนนก ต้องใช้ยามจำเป็นจริงๆเท่านั้น ผมเตรียมไป 1 ตัว แต่ไม่เคยได้ใช้ โชคดีตลอดไม่เคยเจอฝนกลางทาง
6.หมา เยอะมากตามถนนหนทาง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าตัวไหน จะเป็นมิตรกับเรา
7.หัวใจ ใจต้องถึง ใจต้องกล้า ถ้าเลือกจะมาคนเดียว


ของพร้อม ใจพร้อม ออกเดินทางกัน


ที่นี่หมอชิต


ส่วนที่ขายตั๋วอยู่ชั้น 1 บ.พิษณุโลกยานยนต์ อยู่ขวามือสุดริมสุดตามรูปครับ
เวลาเดินรถจากหมอชิตไปเขาค้อมี 5 เที่ยวครับ 10.30  13.00  19.00  20.30  22.00



ผมออกเดินทางเที่ยว 22.00 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชม.โดยประมาณ ถึงโน่นก็ราวๆ ตี4นิดๆ บอกพนง.รถว่า ลงสุดสายหน้า 7-11 ทุ่งสมอ


ฝนตกตลอดทางครับ แอร์รถก็เย็นเกิ้น ยังกะเปิดแช่อาหารสด ผ้าห่มที่ให้ ไม่สามารถบรรเทาความหนาวได้เลย


พอตี 4 นิดๆ ก็ถึงที่หมาย 7-11 ทุ่งสมอ ผมลงรถสุดสายคนเดียวเลยครับ (รูปนี้ผมถ่ายคนละวันนะครับ พอดีตอนถึง ผมเพิ่งตื่น งัวเงีย ลุงก็มารอรับแล้ว เลยรีบขนของขึ้นรถเดินทางต่อเลย)


พอมอถึงที่พัก ก็นอนพักเอาแรง งีบไปแปปเดียว แปปเดียวจริงๆ ตื่นมาอีกที เกือบ 7 โมง ชิหา.. สายๆๆๆ!!!!

แผนที่ครับ ถ่ายรูปไว้อุ่นใจกว่า แต่ผมไม่เคยได้ใช้ อาศัยถามคนพื้นที่เอา คนเพชรบูรณ์น่ารักทุกคนเลยครับ 


อาบน้ำแต่งตัวควบมอไซค์ไปกันเลย ที่แรก
จุดชมวิวเขาค้อ


ใครอยากเห็นทะเลหมอก ควรมาช่วง ก.ย. จ้า มาช่วงนี้ อด มีแต่เมฆ






ที่ต่อไป
ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ








ที่ไปรษณีย์มีร้านอาหารตามสั่งด้วยล่ะ มื้อแรกของผม 
"กะเพราเนื้อ แมว ไข่ดาว"


เจ้าถุงเมล์ (ผมไม่ชอบแมว ขอแกล้งหน่อยนะ)


พออิ่มก็เดินทางกันต่อ จะไป พระตำหนักเขาค้อ ไปพิชิต ยอดเขาย่า กัน 
(ผมเจอในรีวิว ถ้าเหมารถขึ้นมาที่นี่ น่าจะหลายร้อยอยู่นะ 500-600บาท)


พระตำหนักเขาค้อ ปิดให้เข้าชม 16.00 น. เข้าชมฟรีครับ
ร้านสวัสดิการที่พระตำหนักเขาค้อ เราจะไปพิชิตยอดเขากันก่อน เดี๋ยวค่อยลงมาแวะ


ทางขึ้นฐานปฏิบัติการเขาย่า เบาๆ 770ม.


ทางเดินขึ้นไปค่อนข้างลุยๆหน่อย ประมาณไม่มีคนผ่านมาซักระยะนึงแล้ว สรุป วันนี้ผมต้องขึ้นไปคนเดียว อมยิ้ม08


ทางเดิน ชัน ลื่น เปียก เปลี่ยว 


ขึ้นมาได้นิดนึงก็จะมีที่พัก แต่ผมไม่พัก










ใช้เวลาเดินๆหยุดๆ ประมาณ ครึ่งช.ม. ก็ถึงยอด แต่น่าเสียดาย หมอกคลุมมิด มองไม่เห็นข้างล่างเลย
หมดสภาพมาก
เขาลูกที่10


ผมอยู่บนนี้พักใหญ่ๆ กะรอให้หมอกจาง แต่ก็ต้องผิดหวัง ซ้ำ ฝนทำท่าจะตก ลงสิครับ รอไร 


แต่ก็ยังโอ้เอ้ถ่ายผีเสื้อ อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน!!




ซักพักดูท่าจะไม่ดี มันมืดแปลกๆ มีความรู้สึกว่า ฝนจะตกหนัก ตอนนี้เร่งเท้าครับ ลื่นก้นจ้ำเบ้าไปรอบนึง
ก็ลงมาถึงข้างล่างพอดี ฝนเริ่มลงเม็ด


อึดใจเดียวครับ ฝนตกหนักมาก หนักชนิดที่ว่า ผมติดอยู่ที่นี่ 2 ช.ม.ไปไหนไมได้




2ช.ม.ผ่านไป ฝนก็เริ่มซา ก็ต้องออกหาไรกินครับ เพราะเลยเที่ยงมาเยอะแล้ว
ข้างๆร้านสวัสดิการจะมีร้านกาแฟสด หนมจีบ ซาลาเปา มาม่าขายอยู่ครับ
(แต่ก่อนคนที่พิชิตยอดเขาย่า สามารถมารับใบประกาศฯผู้พิชิตได้ที่นี่(ค่าธรรมเนียม20บ.) แต่ตอนนี้ เค้าไม่ได้ออกให้แล้วนะครับ เสียดายๆ)


กินเสร็จ ฝนหยุด ออกสำรวจบริเวณรอบๆพระตำหนักกันต่อ




จุดชมวิวใกล้ๆพระตำหนัก




หมอกจะมาเป็นระยะๆ ผมอยู่ตรงนี้เป็น ช.ม.แหละครับ เดินวนไปวนมา


หนาว หรือ เหงา?


คิดถึงใคร ให้มองขึ้นฟ้า


ทางเดินไปพระตำหนัก


พระตำหนักเขาค้อ  ผมรู้สึกว่าหมอกเป็นอุปสรรคในการถ่ายรูปมาก หมอกแน่นๆ


รอให้หมอกจางแล้ว กดเน้นๆ


ออกจากพระตำหนัก ไปต่อที่ พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ ไม่ไกลกันครับ 
เข้าชมฟรี ปิดประมาณ 18.00น.

นักท่องเที่ยวที่มาเป็นคณะส่วนใหญ่จะเหมารถนำเที่ยวขึ้นมากันครับ แต่ผมมาคนเดียวเนอะ เป็นคนขี้เกรงใจ เวลาถ่ายรูปคือ ทุ่มเทเดินถ่ายรูปเวียนวนจนกว่าจะหนำใจ จะให้เขารอก็คงไม่ดีเลยเลือกวิธีเช่ามอไซค์ น่าจะเวิร์คกว่าจะไปไหน ตอนไหน ก็ได้ ตามที่เราสบายใจเลย

การขี่มอไซค์ขึ้นมาที่นี่ต้องมีทักษะในการเปลี่ยนเกียร์นิดหน่อย เพราะต้องขี่ขึ้นเขาชันมาก ถึงขั้นต้องใช้เกียร์ 1 เลยทีเดียว 


สามารถนำเต็นท์มากางได้ด้วย


ด้านใน พิพิธภัณฑ์อาวุธ








จุดชมวิวที่อยู่ใน พิพิธภัณฑ์อาวุธ




แล้วไปต่อกันที่ ยอดเขาค้อ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ


หมอกแน่นเหมือนเคย


รอหมอกจางแล้ว กดเน้นๆ เหมือนเดิม


จุดชมวิวที่อยู่บนยอดเขาค้อ




หงษ์เหิร ปลูกอยู่บนนี้เยอะมากครับ


อยู่จนหนำใจแล้ว ลงเขากัน พอถึงตีนเขา เจอสามแยก ซ้ายมือจะเป็นอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ที่นี่ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว จะมีแค่ที่พัก ผมขอจนท.อุทยานเข้าไปสแตมป์พาสปอร์ตอุทยานแห่งชาติ


ตอนนี้เวลาเย็นแล้วครับ กลับที่พักไปชาร์จแบต พักร่างกาย ก่อนเข้าที่พัก แวะเติมน้ำมันไป 64 บาท
พอมาถึงที่พัก ป้า(แฟนลุงนันท์)ก็ถามใหญ่เลย "เป็นไง สนุกมั๊ย ไปไหนมาบ้าง ฝนตกหนักไปอยู่ที่ไหน พรุ่งนี้อย่าลืมไปทุ่งกังหันลมกับวัดพระธาตุนะ เช้าๆ สวยมากเลย" อบอุ่นดีครับ
ผมกะจะไม่ไปอยู่แล้วเชียว เพราะวัดอยู่ไกลออกไปพอสมควร ห่างจากเขาค้อประมาณเกือบ 30กิโล 
ไหนๆคนพื้นที่บอกว่าโอเค ก็คงต้องไปชมหน่อย

เช้าวันที่ 2
วันนี้ตื่นไวครับ 06.00น. เพราะเช้านี้ ผมจะไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อน
เปิดประตูที่พักปุ๊บ ป้าก็ทักทายแต่เช้าเลย "อย่าลืมไปวัดพระธาตุนะ ขากลับมาแวะทุ่งกังหันลมด้วยล่ะ เดินทางปลอดภัยนะ"

เช้าๆที่นี่ หนาวมากครับ ยิ่งบิดมอไซค์เร็ว ยิ่งหนาว ยิ่งแข็ง ต้องไปเรื่อยๆ หมอกลงเป็นบางจุด ฝนก็ทำท่าจะตก และแล้วก็ถึงที่หมาย รถมอไซค์ไม่จำเป็นต้องฝากตรงปากทางเข้าวัดนะครับ ขี่เลยไปด้านหลังวัด จุดที่เป็นร้านอาหาร จอดฟรีครับ 
หาไรกินกันก่อนเลย หมูปิ้ง 3ไม้


เช้านี้ หมอกลงพอสมควร เลยเก็บภาพมาได้นิดหน่อย
















วัดพระธาตุจากมุมสูง


ออกจากวัดพระธาตุ ผมจะพาไปทุ่งกังหันลม ต้องย้อนกลับมาตลาดทุ่งสมอ แวะหาของกินแปป เห็นมีขายตลอดทาง เลยอยากรู้ ว่าอร่อยรึเปล่า จัดมา 1มัด 50บาท


ออกเดินทางกันต่อ ไป ทุ่งกังหันลมกัน สังเกตุทางเข้านะครับ ป้าย บ.เพชรดำ จะมีทั้ง 2 ฝั่งครับ ทางเข้าจะอยู่ทางไปเขาค้อ อยู่ห่างจากตลาดทุ่งสมอนิดเดียว ไม่ไกลมาก


พอเลี้ยวเข้ามาแล้ว ขี่ตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นเขา ลงเขา ขึ้นเขา ลงเขา ขึ้นลงอยู่หลายรอบ สนุกดี
ขี่มาเรื่อยๆจะเจอทางแยก ให้เลี้ยวขวา แล้ว ตรงไปจนสุดทาง 
ถึงแล้ว!!! ทุ่งกังหันลม จอดรถฟรีครับ นักท่องเที่ยวสามารถเดินอยู่นอกรั้วสีแดงได้เท่านั้นครับ


ที่นี่มีสินค้าท้องถิ่นขายด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นของชาวเขา








รูปนี้อยากจับกังหัน เขินจุง คนมองเต็มเลย.. "ทำไรของมันวะ?"


เสร็จจากที่นี่ ก็ไปน้ำตกกันต่อครับ น้ำตกศรีดิษฐ์
ระหว่างทาง อยู่ๆก็ มืดฟ้ามัวดินอีกแล้ว ฝนเริ่มลงเม็ด จะรอดมั๊ย แต่ในใจคิด...ต้องรอด ขี่ฝ่าไปเลยครับ หนาวมาก แต่ไม่เปียกเลยซักนิด จนถึง น้ำตก


ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม จอดรถฟรี ข้างในก็มีร้านค้าแต่ส่วนใหญ่จะไม่เปิดครับ มีร้านอาหารตามสั่งอยู่ 3-4 ร้าน


และแล้ว ฝนก็เทลงมา ดีใจมากครับ เพราะถึงน้ำตกพอดี หาร้านหลบฝน พร้อมเติมพลัง
ยอดมะระผัดหมูไข่ดาว


พอฝนหยุด เดินต่อครับ ไปน้ำตกกัน


ที่นี่เคยเป็นสมรภูมิ


น้ำเยอะมาก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว








หมดไปแล้วครึ่งวันเช้า ครึ่งวันบ่ายผมจะพาไปที่เที่ยวที่เหลือกัน บางที่อาจจะไม่ได้แวะเข้าไปชมข้างใน ต้องบริหารเวลากลับไปเคลียร์ของ
ขากลับที่พักเราจะผ่าน หอสมุดนานาชาติเขาค้อ




ไม่กล้าเข้าไปเพราะเจ้าถิ่นดักรอ เห่ามาแต่ไกล พอถ่ายรูปเสร็จ เลี้ยวรถ มันวิ่งไล่เลยครับ งับเกือบโดนข้อเท้า แต่พอดี ผมหลบทัน 


เขาค้อ หมาเยอะมาก ตามริมถนน บางตัวก็ไล่ บางตัวก็นอนอาบแดดเฉย ดังนั้น ใครมาต้องระวังเรื่องการเดินทางหน่อยนะครับ

ที่ต่อไป พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก (ไม่ได้เข้าไปครับ ถ่ายรูปจากข้างนอก)




กลับมาถึงที่พักประมาณ 16.30 ก็เคลียร์ของเตรียมตัวกลับ กทม. กลับมาถึงก่อนเข้าที่พัก แวะเติมน้ำมันไป 100 บาท
พอถึงที่พัก
ป้า : เป็นไงบ้าง? เจอฝนมั๊ย? ที่นี่ตกหนักมากเลย ป้ายังคุยกับลุงอยู่เลยว่าวันนี้เราจะเป็นยังไงบ้าง
ผม : ไปมาทุกที่ครับ แต่ไม่เจอฝนหนัก พอดีถึงน้ำตกก่อนเลยได้หลบฝนกินข้าว ป้า ผมกลับเที่ยว 3ทุ่มนะ แต่อยากให้ลุงไปส่งตอน 6โมงเย็น
ป้า : ทำไมรีบไปตั้ง 6โมงเย็น รถมาตั้ง 3ทุ่ม อยู่นี่แหละ นั่งๆนอนๆ เดี๋ยว 2ทุ่ม ให้ลุงไปส่ง
ผม : เอ่อ ผมตกลงกับลุงไว้แล้วว่าจะอยู่แค่ 6โมง คือผมเกรงใจ งั้นผมขออยู่แค่ทุ่มนึงละกันครับ

พอทุ่มตรง ลุงก็ไปส่งทีท่ารถ ตลาดทุ่งสมอ
ฝนก็เริ่มตก ทั้งลมทั้งฝนหนักมาก พอถึงท่ารถ ลุงก็บอกว่า ซื้อตั๋วตรงนั้นนะ ร้านนี้เป็นตัวแทน ตั๋วน่าจะมีเหลืออยู่แหละ 
ผมก็ลาลุง บอกลุงว่า "ไม่ต้องรอก็ได้ครับ ลุงกลับได้เลย ผมอยู่ได้"

คือผมขี่มอไซค์ผ่านหลายรอบนะ แต่ไม่ยักจะเห็นว่าตรงนี้มีท่ารถด้วย จนตอนลุงมาส่งเนี่ยแหละครับ
ท่ารถเป็นร้านอาหารอยู่ใกล้ร้านยา ถ้ามาจากเขาค้อ ร้านจะอยู่ซ้ายมือก่อนถึง 3 แยกที่มี 7-11


หน้าร้านอาหารนี้จะมีป้ายเวลาเดินรถบอกอยู่


ใกล้เข้าไปอีกนิด



ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะกลับ กทม. ช่วง ศ.ส.อา. ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าซักหน่อยนะครับ เพราะตอนผมไปถึง(คืนวันเสาร์)กะว่า คงมีคนเดินทางกลับเขาค้อ>กทม.น้อย ก็เลยไปซื้อก่อนขึ้นรถ ปรากฎว่า เหลือตั๋วใบสุดท้ายพอดิบพอดี แต่ถ้าไม่มีตั๋วจริงๆ ก็ไม่แคร์กลับไปพักที่เดิม ชิวๆ ยังไงก็มีที่นอน  หลายคนมาซื้อตั๋วหลังผม จะไปกทม. ก็ต้องซื้อตั๋วไปลงพิษณุโลก แล้วไปไปต่อรถที่พิษณุโลกเข้ากทม.อีกต่อ


พอได้ตั๋วก็นั่งรอชิวๆ 2 ช.ม. ตอนนั้นในร้านก็มีผมกับ คนขายตั๋วอยู่2คน ก็เห็นผู้ชายคนนึงสวมหมวกแก๊ปเดินมา มองมาที่ผม ตะโกนถามประมาณว่า "เป็นไง ได้ตั๋วมั๊ย?" แต่ผมไม่ได้สนใจ พอเค้าเดินมาใกล้ เลยจำได้ว่า อ้าว!!! ลุงนันท์ นึกว่ากลับไปแล้ว ยังอุตส่าห์เป็นห่วงเราเดินมาถามอีก ขอบคุณลุงไว้ ณ ที่นี้มากครับ
พอ 3 ทุ่มตรง รถก็มา ตรงเวลามาก และ แอร์เย็นมาก ทั้งขาไปและขากลับ


มีเรื่องเล่า
ตอนขึ้นรถผมนั่ง 11A ติดหน้าต่าง แปปนึง ก็มีแม่ลูกคู่นึงขึ้นมานั่ง 11B เบาะ 2 นั่ง 3 ชิดในๆ!! ที่จริงมันไม่อึดอัดหรอกครับ มันอุ่นมาก เพราะแอร์รถ เย็นมาก หนาวยังกะแช่ศพ 
ตัวผมด้วยความที่เป็นคนชอบเด็กอยู่แล้ว (เหรอ?) ก็ชวนเด็กคุยกันตลอดทาง กลัวเด็กจะเกร็ง "อายุเท่าไหร่ เรียนชั้นไร เดินทางบ่อยมั๊ย แล้วไปลงที่ไหน" แต่ดูน้องจะไม่ค่อยตอบเรา อาจเป็นเพราะผมยังไม่ได้โกนหนวด เด็กเลยกลัวมั้ง  ส่วนใหญ่ถามไรไป แม่ของน้องจะเป็นคนตอบมาแทน
แม่ของน้องก็ถามผมตลอดว่า "ผมนั่งได้มั๊ย? อึดอัดมั๊ย?" สบายมากครับ 
"น้องๆ ถึงแขนพี่ไม่ใหญ่ แต่อุ่นนะ กอดได้ น้ำลายไม่ต้องนะ" พอรถออกจากพิษณุโลก ก็นอนพิงกันตลอดทาง  ก็ต่างคนต่างหลับแหละครับ
แล้วเพลงนี้ก็ดังขึ้นในหัว "....มีไหล่เอาไว้ให้ซบ มีมุมให้เธอได้พัก..."


6 ช.ม.ผ่านไป....รถจะวิ่งมาถึง หมอชิต ประมาณตี 4 นิดๆ
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ...


สรุปค่าใช้จ่าย

ค่ารถจากหมอชิต->สุดสายเขาค้อ ไปกลับ (335บ./ขา)..................670บาท
ค่าที่พัก1คืน    ..........................................................................500บาท
จยย.เช่า 2วัน (300บ./วัน)...........................................................600บาท
ค่ารถรับส่งที่พัก->ท่ารถ ไปกลับ(100บ./ขา).................................200บาท
ค่าน้ำมัน...................................................................................164บาท
ค่าอาหาร..................................................................................445บาท
(อันนี้แล้วแต่คนเนอะ เพราะผมเจอริมทางไหนกินได้ ก็แวะเลย ข้าวกล่อง7-11ก็ไม่แคร์ครับ ทานได้ ง่ายๆ)
รวม........................................................................................2,579บาท


             เป็นรีวิวแรกของผมที่ยาวมาก คิดๆไป การทำรีวิวให้คนตามไปได้ มันยากยิ่งกว่าไปเที่ยวคนเดียวซะอีก สำหรับสถานที่เที่ยวทั้งหมดนี้(ที่จริงก็ยังไม่หมด แต่เวลาที่ผมวางไว้หมดซะก่อน) ใครมีเวลาสามารถมาเที่ยวในวันเดียวได้ครับ ถ้ามาช่วงหน้าหนาว-หน้าร้อนก็เที่ยววันเดียวสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลาหลบฝน ถ้าขับรถยนต์มาก็ทำความเร็วได้มากกว่าผมอีก ผมน่ะขี่มอไซค์เป็นแค่พอสอบใบขับขี่ผ่านเองนะ บิดไวสุดแค่ 60 เร็วกว่านี้ ไม่ไหวจ้า ผมกลัว  แต่ถ้าอยากเที่ยวใช้ชีวิตแบบหอยทากต้องมาค้างซัก 2 คืน อายุยืน 2 ปีกันเลยทีเดียวเชียวครับ


เขาค้อ เป็นเมืองที่น่าอยู่ครับ บรรยากาศดี ขึ้นชื่อว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย คนพื้นที่ก็ใจดีทุกคน ใจจริงผมอยากมาเห็นทะเลหมอก แต่ผมบอกลุงนันท์เอาไว้แล้ว ถ้าทะเลหมอกมี บอกผม ผมจะกลับมาอีกแน่นอน..


ถ้าใครคนหนึ่ง...ผ่านเข้ามาจนกลายเป็นส่วนหนึ่ง...ของชีวิต
แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม...หากเขาต้องจากไป
อย่าเสียใจ...แต่...จงดีใจที่เราได้พบกัน...และ...จงอยู่กับความทรงจำที่ดี
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตามหัวใจ



ถ้าคิดถึงเขา....เราต้องไปหา...

เจอกันใหม่ ทริปหน้าครับผม

ที่มา Pantip