รีวิว พารัก มาพักร้อน "แสมสาร-บางเสร่" บางเสร่ เสน่ห์ที่ไม่มีวันลืม + บทเรียนจาก GPS :)

อมยิ้ม01สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เริ่มกันเล้ยยยย!! คือว่าช่วงเดือนกรกฎาเราว่างตรงกับคนรู้ใจเราพอดี แล้วอยากจะจัดทริปซัก 2 วัน 1 คืน และแล้วเราก็ตัดสินใจกันได้ว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นคือ…ทะเล… โดยส่วนตัวแล้วเราชอบทะเลมาก ส่วนแฟนเราก็อยากดำน้ำด้วย เราเลยพากันไปที่เกาะแสมสาร เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก อีกอย่างแลดูคนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไร (แฟนเราไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ) แล้วเราก็จะไปพักกันที่บางเสร่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแสมสารเลย ไปดูกันเลยดีกว่า Let’s go!!



เราเดินทางออกจากกรุงเทพแล้วตรงไปที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เพื่อไปซื้อตั๋วขึ้นเรือไปเกาะเเสมสารค่ะ เราไปถึงที่พิพิธภัณฑ์ตอนเที่ยงค่ะ เลยได้ขึ้นเรือไปเกาะรอบสุดท้ายคือ 13.00 น.ค่ะ ราคาตั๋วคนละ 300 บาทนะเจ้าคะ พอซื้อตั๋วเสร็จเรากับแฟนก็ไปหาไรกินกันค่ะ เพราะพอไปบนเกาะจะไม่มีร้านอาหารขายนะคะ ที่พิพิธ๓ัณฑ์จะมีร้านอาหารอยู่ค่ะ และก็มีมินิมาร์ท ร้านกาแฟ ให้เาได้หาอะไรทานรองท้องก่อนไปเกาะได้ค่ะ รู้อย่างนี้แล้วรอไรล่ะค่ะ ไปกินกันดีฟ่าาา....
กินเสร็จเราก็เดินมารอขึ้นเรือค่ะ ยังมีเวลา เลยแอบมาถ่ายรูปให้ได้ดูกันนะคะ
ทางเดินจะไปขึ้นเรือ ไปเกาะแสมสารเจ้าค่ะ

ด้านหลังเป็นที่จอดรถ ร้านมินิมาร์ท และร้านกาแฟ เลือกทานกันได้เลยนะคะ

เราไปวันพฤหัสค่ะ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร ดีค่ะ ช๊อบ ชอบ

เรือกำลังมาแล้ว เอ้าจ้ำๆๆเดินเร็วๆเลย 5555

ใช้เวลานั่งเรือทั้งหมดประมาณ 15 นาที ถึงเกาะแสมสารกันแล้ว ซึ่งเรือจะไปเทียบท่าที่หาดเทียนค่ะ พอลงเรือมาจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกว่า คนไทยไปฟังบรรยายทางไหน ชาวต่างชาติทางไหน การฟังบรรยายอธิบายการท่องเที่ยวบนเกาะไม่นานค่ะ ประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้นค่ะ ที่เกาะนี้จะมีทหารคอยดูแลและให้คำแนะนำ ใจดีมากค่ะ หล่อด้วย อิอิ ><" กีฬาทางน้ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่หาดลูกลมค่ะ อยู่ไม่ไกลจากหาดเทียน จะมีรถมารับเป็นรอบๆค่ะ อ่ะๆๆๆ ฟรีนะคะ ที่หาดลูกลมนี้ เราสามารถเล่นน้ำทะเล ดำน้ำดูปะการัง นั่งเรือท้องกระจก และนั่งรับลมชมวิวได้นะคะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆมีดังนี้ค่ะ
ค่าสน็อกเกอร์ (อุปกรณ์ดำน้ำ) 50 บาท
ค่าเรือท้องกระจก 20 บาท
ค่าเปลที่นั่ง 20 บาท ไม่แพงนะคะ งั้นเราจะรอไรละคะ ป่ะดำน้ำกันดีกว่า โชคดีจังเลยยย แดดไม่แรง ดูท่าทางไม่น่ามีฝนด้วย สบายแหล๊ะ เอ้าลุยยยยย
หว่า!! น่าเสียดายค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปกันเท่าไร เอาแต่ตื่นเต้นอยากดำน้ำค่ะ เลยเอารูปมาฝากดังนี้นะคะ
ที่หาดลูกลม สงบ สะอาดดีค่ะ มีทั้งไทยและต่างชาติ


เหนื่อยอ่ะ มานั่งพักที่ชิงช้ากันหน่อยเน้อ

เราสองคนได้แต่ดำน้ำและเล่นน้ำเฉยๆค่ะ เพราะต่างคนต่างเหนื่อย 555 อีกอย่างก็จะรอขึ้นรถกลับไปที่หาดเทียนเพื่อรอขึ้นเรือกลับฝั่งรอบสุดท้าย 16.00น.ค่ะ เพราะถ้ากลับไม่ทัน ไม่รู้เลยว่าจะนอนจะกินกันบนเกาะนี้ไม่ไหวเเน่ๆ 555
                                      ...................................................................................................................
                ช่วงเวลาของชีวิต ที่เปลี่ยนความคิดตลอดกาล
กลับมาขึ้นฝั่งเรียบร้อย ต่อไปคือไปที่พักที่บางเสร่ค่ะ ซึ่งที่พักของเรามีชื่อว่า...The BoatHouse ค่ะ.... ออกเดินทางกันเลย เดี๋ยวจะมืดค่ำกันเสียก่อน
แน่นอนค่ะ เราไม่ใช่คนแถวนี้ เลยมีตัวช่วยค่ะ เจ้าเจ๊GPSช่วยเราได้ เอาล่ะ ตามไปเลย
เราขับออกมาจากพิพิธภัณฑ์ เจ๊ GPS นางก็อกให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าค่ายทหารอะไรสักอย่าง เราก็เข้าไปแต่ก็ยังแอบงง สงสารเจ๊คงพาเราไปทางลัดมั้ง เอ้าตามต่อไปค่ะ ขณะนี้เวลา 16.30 น. ท่าจะได้ เจ๊นางพาเราเข้าไปทางหลังค่าย ซึ่งมีแต่ป่าเเละเขา มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ ด้วยความที่บ้าๆบอๆกันทั้งคู่ อีกอย่างก็ไม่อยากเสียเวลาเก้อจึงตัดสินในขับตามเจ๊นางต่อไป แต่ยิ่งขับก็ยิ่งเข้าไปในป้าลึกขึ้นทุกที ตอนนั้นก็แอบชมเจ๊ GPS อยู่นะตะว่า "เจ๊เก่งมากค่ะ ทางในป่าแบบนี้ นางยังมีแผนที่ทางเดินรถให้อีก สุดยอดไปเลย" เราขับรถตามเจ๊มาประมาณ 30-40 นาที ขอบอกว่า ตลอดทางที่ขับมา ไม่เจอสิง่มีชีวิตใดเลย นอกจากต้นไม้ ยุง และแมงมุมค่ะ ยอมรับเลยว่าเริ่มกลัวแล้ว แต่ยังไม่อยากแสดงอาการ เดี๋ยวแฟนเราจะเตลิดไปอีกคน ขับมานานพอสมควรเราก็ได้เห็นถนนใหญ่ที่มีรถวื่งไปมาอยู่ โอ้ย!! ขอบคุณพระเจ้า เราไม่ได้หลงจริวใช่ไหม 555 แต่ทว่า สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นั้นคือ ....
ที่ทางออกมาพุ่มไม้ขึ้นเยอะไปหมด นั้นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องลงรถไปจัดการกับพุ่มไม้นั้นพรางๆ เหมือนกับที่ต้องค่อยยกกิ่งไม้ใหญ่ๆที่ขวางรถอยู่ตลอดทาง แต่มันไม่ใช่เเค่นั้นนะสิ มันมีลวดหนามกั้นทางออกเต็มไปหมด ฮือออออ TT อยากสิไห้ เรากับแฟนเลยตัดสินใจดินข้ามหนามนั้นเพื่อไปโบกรถขอความช่วยเหลือ
ช่วยด้วยค่ะ พวกหนูติดอยู่ในนี้ อิอิ โฟกัสที่คนหัวฟูข้างหน้านะคะ

โบกไปปะมาณเกือบ 10 นาที ไม่รู้ว่าที่คนไม่จอด อาจจะเพราะว่าเราน่ากลัวรึเปล่า 555 
     บนความโชคร้าย พระเจ้ายังเห็นว่าคนสวยๆอย่างเรายังควรได้ับสิ่งดีๆบ้าง
มีพี่ทหารคนหนึ่ง ขี่รถมอไซค์ผ่านมาแล้วมาจอดที่เรา เย้ๆๆ มาแล้วๆๆ เมื่อสอบถามกันไปมา พี่เขาก็โทรตามเพื่อนให้มานำทางออกมาทางถนนใหญ่ ทั้งหล่อทั้งใจบุญอย่างนี้ เจริญๆนะคะพี่ 555 รอประมาณ 10 นาที พี่ทหารที่จะพาเราออกไปจากป่าแห่งนี้ก็มาถึง พี่เขาชื่อว่า พี่แซมมี่
ป่ะค่ะพี่ รีบออกกันไปเถอะค่ะ มันจะหกโมงเเล้ว ฟ้าเริ่มมืดเเล้ว ระหว่างทางแฟนเรากับแฟนก็ชวนพี่เขาคุย พี่แซมมี่ใจดีมากค่ะ คุยสนุก ตลกดี กลบบรรยากาศความน่ากลัวเป็นปลิดทิ้งเลย มาดูบทสนทนาคร่าวๆกันนะคะ
พี่แซมมี่ : เป็นไงมาไงถึงมาในนี้ได้เนี่ย
แฟน : อ้อ ตาม GPS มาฮ่ะ
พี่แซมมี่ : 555 เอ้า มันพามาในนี้ได้ไงเนี้ย เก่งน่ะเนี้ย มาได้ไกลขนาดนี้ 5555
แฟน : ก็ตามมันมาอ่ะฮ่ะ คิดว่าน่าจะเป็นทางลัด
พี่แซมมี่ : อ้าวแล้วไม่เอ๊ะใจเลยหรอ มันมีแต่ป่าเนี้ย
แฟน : ตอนแรกก็กะจะถอยกลับล่ะฮ่ะ แต่อีกใจก็คือว่าถ้ามาต่ออาจจะถึงทางออกอีกไม่ไกล
พี่แซมมี่ : (ขำหนักมาก) โฮ้ๆ พวกน้องสองคนนี้ใจถึงมาเลยนะเนี้ย กล้าเข้ามาขนาดนี้ 555 : แล้วพี่เขาก็หันหลังมามองเราที่นั่งอยู่เบาะหลัง อ้าว พี่จำพวกน้องได้ พี่เป็นคนเก็บตั๋วขึ้นเรือ รอบบ่ายโมงใช่ไหม
เรา : อ้อ ใช่ค่ะ ฮู้วว พี่โลกกลมจริง ดีใจนะคะ ที่เจอพี่ ไม่งั้นไมู่้จะทำไงเลย
เรา : แล้วเคยมีใครหลงมาในนี้ไหมคะ
พี่แซมมี่ : ไม่มีหร๊อกกกก ก็มีน้องสองคนเนี้ยแหละที่มา 555 แหม๊ะ ใจกล้ากันดีจริงๆ555
อ่ะอ้าว คุยกันแปปเดียวเจอทางออกแล้ว เร็วกว่าขาเข้ามาอีก พี่แซมมี่แอบให้ความรู้มาว่า ถ้าเราเจอเเบบนี้ให้ดูที่ภูเขา ให้เราเลาะๆไปตามทางของภูเขา แล้วเราจะเจอทางออกเอง ส๊วดย๊อด(เสียงสู๊งงงง) เท่มากเลยอ่ะค่ะ มีแฟนเป็นทหารคงจะดี ช่ะอุ้ย!! เดี๋ยวนะ ไม่ๆๆคนนี้แหละดีแล้ว อิอิ
โฉมหน้าพี่เเซมมี่ พ่อฮีโร่ของเรา ยิ้ม

เสียดายไม่ได้ขอพี่เขาถามด้านหน้ามา ไม่รู้จะขอบคุณพี่เขายังไงดี บุญคุณครั้งนี้ไม่มีวันลืมจริงๆ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ พี่แซมมี่ หัวใจหัวใจ
พอออกมาถึงถนนใหญ่ พี่เเซมมี่ถามว่าจะไปไหนต่อ เราก็บอกว่าไปบางเสร่ค่ะ พักอยู่ที่นั้น และและความบังเอิญก็บังเกิดอีก เพราะพี่เเซมมี่ก็จะไปทางบางเสร่เหมือนกัน เลยขับตามๆกันไปติดๆ พอพี่เขาแยกทางไป ไอ่แฟนเราก็ยังไม่เข็ดให้เราเปิดใช้บริการเจ๊ GPS ต่อ เพื่อไปที่พัก เอาว่ะ! อิเจ๊ ฉันจะให้โอกาสเธออีกรอบนะ ไปให้ถูกนะ และในที่สุดเราก็ถึงที่พัก The BoatHouse 
       ที่นี้บรรยากาศดีมากค่ะ ห้องยื่นไปในทะเล มีเรือของชาวประมง มองไปไกลๆฝั่งตรงข้ามจะเป็นพัทยา พี่เบนนี่เจ้าของที่นี้ก็น่ารักมากค่ะ ต้อนรับเราอย่างดี เราไปถึงก็เวลาเกือบทุ่มแล้ว ก็เลยอาบน้ำแล้วจะออกไปหาไรกินอร่อยๆให้คุ้มกับที่เหนื่อยกันมา เรามาดูที่พักกันดีกว่าเน๊าะ

บรยากาศหน้าบ้านค่ะ น่าอยู่จริงๆ

ทางเดินเข้าบ้านค่ะ อ๊ะๆๆ ระวังตกน้ำนะจ่ะ


หน้าบ้านอีกมุมนะคะ

เคาว์เตอร์หน้าบ้านค่ะ

มานอนปลรับลมสบายๆได้นะคะ

น่านอนดูดาว ตอนกลางคืนจริงๆ

คืนนี้นอนนี้นะ อิอิ

อาบน้ำเสร็จ ก็ไปกินข้าวกันเถอะ ร้านอาหารที่นี้มีเยอะเลยค่ะ อยู่ใกล้ๆที่พัก ที่นี้มีบริการจักรยานฟรี เราเลยเอามาคันหนึ่ง แน่นอนค่ะ ผู้หญิงอย่างเราก็ต้องเป็นคนปั่นนะคะ ส่วนแฟนตัวกลมๆก็ซ้อนมาเลยค่ะ 555 เราเลือกไปร้านปรีชาซีฟู้ดค่ะ ได้ยินมาว่าอาหารที่นี้อร่อย เราสั่ง หมึกผัดไข่เค็ม ยำทะเล หมึกไข่ย่าง ข้าวสวย 1 จาน น้ำเปล่า 1 ขวด หมดค่าเสียหายไปประมาณ  730 บาทค่ะถือว่าคุ้มนะคะ อาหารเขาอร่อยจริงๆ [ไม่ได้ถ่ายรูปมา มัวแต่หิวกันค่ะ อิอิ] หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนเป้นทำเนียบค่ะ กลับที่พัก นอนเล่นดูดาวกันสักพักก็เข้านอน คร่อกกกก ฟี้ๆๆๆๆๆ
................เอ๊ก อิ๊ เอ๊ก เอกกกกก......... เช้าเเล้ว รีบตื่นคว้าจักรยานคนละคันเลยค่ะ ปั่นไปดูที่ท่าเรือที่ชาวประมงมาลงกัน มาดูวิถีชีวิตชาวเลให้ซึมซาบกันซะหน่อย
อากาศยามเช้าที่นี้ดีมากค่ะ


พอแดดเริ่มมา เราก็กลับที่พักเก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ออกค่ะ ที่นี้เขาให้เราเช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงนะคะ แต่เอ๊!! ก่อนกลับหาไรกินกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้องสิค่ะ เราไปกินอาหารตามสั่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่พักเลยค่ะ ป้าเจ้าของร้านใจดีมากค่ะ ทำอาหารอร่อย ราคาไม่แพง ใครไปพักแถวบางเส่ แวะไปทานได้นะคะ 
..... ถึงเวลาที่เราต้องกลับแล้วสินะ..... 
บ่ะบาย บางเสร่ เสน่ห์ที่ไม่มีวันลืม

จบทริปเเล้วค่ะ มีทั้งความสนุก มันส์ เสียว กลัว ปนเปอยู่ในทริปเดียวค่ะ คุ้ม ฟินไปตามๆกัน อิอิ
ขอบคุณผู้ที่เข้ามาแวะอ่านนะคะ จุ๊บๆ


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 3333945