สวัสดีค่ะทุกๆๆคน...ขอเกริ่นก่อนนะคะว่านี้เป็นการเขียนรีวิวแรกขอเราเลย 

            จะบอกว่าไม่เก่ง เรื่องการเขียนแนวๆนี้ อ่านแล้วมึนๆงงๆสงสัย...  อาจจะไม่มีสาระสักเท่าไร ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

            ขอบอกก่อนนะคะว่า รูปภาพในกระทู้นี้...ถ่ายจากมือถือ รูปภาพอาจจะไม่สวย  เบลอๆ บ้างๆต้องขออภัยด้วยนะคะ 

            เพราะตอนแรกไม่ได้คิดจะเขียนรีวิว พอกลับจากเที่ยวเกาะครั้งนี้ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตอนก่อนไป 

            หารีวิวบนเกาะพีพี แบบเดินป่าไปดูจุดชมวิว ไม่ค่อยจะมีเลย มีแต่เที่ยวเกาะพีพี ดำน้ำดูปะการัง โดดน้ำทะเล สวยๆไรปะมาณนี้อ่ะ

           เห้ยไอ้ก็ก็อยากได้ข้อมลูบนเกาะบ้าง เลยเก็บความสงสัย แล้วไปลุยเองก็ได้ 

           ก็เลยได้รีวิวนี้มา ไว้เผื่อมีคนสนใจจะไปเที่ยวแบบเราบ้าง...



เริ่มเรื่องดีกว่าเน้อ...ก่อนที่จะออกทะเลไปมากกว่านี้ ...ว่าทำไม่เราถึงไปตะลุยเกาะพีพีได้
          
            เรื่องมีอยู่ว่า พวกเรา 3 สาว ได้วอชเชอร์ที่พักฟรี...บนเกาะพีพี (จะบอกว่าเป็นสวัสดิการของบริษัทเลยได้ไปฟรี) 

           แต่ได้ไปช่วง Low Season นะจ๊ะ ปลายเดือนกันยาเลย เห้ยๆมันเหมือนให้ไปติดเกาะอย่างไงไม่รู้ ไปหน้ามรสุม...นะแกร่ๆๆ 

           แต่พวกเราก็ไม่หวั่น  พวกเราชอบของฟรี อย่างนั้นจะรอช้าอยู่ทำไมปะเราบินไปกันเลย...





           วันแรก ออกเดินทาง ท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลย พอถึงสนามบินภูเก็ตปุบ แม่เจ้า...พายุเข้าเลย ฝนฟ้าคะนอง
     
                         ( เหมือนพวกเราเป็นตัวเรียกฝนเลยอ่ะ...เห้ยไม่ใช่นะ เราไม่ใช่นางแมวนะ ^^ ) 





                      จะบอกว่าเราไปถึงภูเก็ต 8 โมงเช้า แต่เราได้ขึ้นเรือรอบบ่ายโมงครึ่งโน้นๆๆๆๆ 

           มีเวลาเหลือหลายชั่วโมง จะทำไรดี ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน หิวๆก็หิว งั้นหาของกินกันก่อนนะ....เน้อ

          พวกเราตะลุยหาของกินในตัวเมืองภูเก็ตกัน คิดไม่ออกจะไปกินตรงไหนดี นั้นเราไปแถวแหล่งช็อปปิ้งในตัวเมืองกัน...

         นั้นคือตลาดเกษตร ข้างโรบินสัน

         มาถึงถิ่น...ก็ต้องมากินอาหารเช้าแบบภูเก็ตกัน...นั้นคือ ติ่มซำ มาเสริฟเป็นถาด...ให้เราเลือกตามชอบ





เราก็เลือก...กันคนละจานสองจาน สรุปเต็มโต๊ะ....

กระเพาะปลาก็อร่อยนะ แล้วก็หมดภายในพริบตา อิ อิ 



หลังจากกินติ่มซำเสร็จ เดินออกจากตลาด ฝนดันตกกระหน่ำอีก ไม่รู้จะไปไหนแล้ว ก็เลยเดินเล่นโรบินสันซะเลย...
             
           รอเวลาเรือไกล้ออก...เราก็ไปขึ้นเรือเฟอรี่ของ อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ ที่ท่าเรือท่าเรือรัษฎา 






           สัมภาระของเรา 3 คน ...เหมือนจะไปอยู่เกาะเป็นเดือนๆ (แกร่ คือ เราไปกันแค่ 2 คืนเองนะ) 

          จะว่าไปในกระเป๋ามีแต่ของกินนะนั้น ...พวกเรากลัวอด เลยตุนของกินมาจาก กทม.เลย 





          เรือออกแล้ว...ฝนก็ยังตกไม่หยุดเลย 

         บรรยากาศหน้านอนมากๆๆ  จะบอกถ้าเราไม่รีบนอน งานนี้มีอ้วกนะแน่ๆ เพราะคลื่นแรกมาก 5555 






หลับๆ ตื่นๆ มึนๆ งงๆ ไป 2 ชั่วโมงครึ่ง
            
            ในที่สุดก็มาถึงเกาะพีพีแล้ว...ไวเหมือนโกหก ใช่ไหม










เรือเฟอรี่จะมาแวะส่งผู้โดยสารที่อ่าวต้นไทรก่อน แล้วค่อยไปส่งพวกเราที่ แหลมตง 
         
             แหลงตง อยู่ตรงไหนหรือ ?  เป็นแหลมที่อยู่เหนือเกาะพีพี นี้แหละ  เรายืมรูปมาจากอากู่ แปะไว้ให้ดู



           
              จากอ่าวต้นไทร ไปแหลมตง นั่งเรือเฟอรี่ประมาณ 20 นาทีค่ะ 

           แหลมตงไม่มีท่าเทียบเรือค่ะ เรือเฟอรี่จะจอดอยู่ในทะเล เราต้องนั่งเรือหางยาว เพื่อไปขึ้นฝั่ง หน้าโรงแรม 





          ถึงแล้วที่พักของเรา ... Zeavola 




วันแรกหมดเวลาไปกับการเดินทางพอถึงโรงแรม หมดแรง นอนพักแปบๆๆๆ...เตรียมตัวออกมาดินเนอร์

           จะบอกว่า เราไปช่วงที่ โรงแรมมีงาน Staff Party พอดี Wowๆๆๆๆๆ เป็นโชคดีของพวกเรามาก 

           ทางโรงแรมให้การตอนรับเป็นอย่างดี เชิญแขกทุกคนที่เข้าพักไปร่วมงานด้วย งานนี้เราจะพลาดได้ไง

        *** งานนี้ต้องขอบคุณพนักงาน Zeavolo ทุกคนมากๆนะคะ ทุกคนน่ารัก สนุกสนาน มากๆๆ ประทับใจที่สุด***





            พวกเราชอบดื่มน้ำผลไม้ค่ะ อิ อิ

            ดื่มซะๆๆๆๆๆๆๆแล้วก็ไปนอน....ราตรีสวัสดิ์ จ้า





วันนี้ตื่นเช้า เตรียมตัว...ออกสำรวจเกาะพีพีกัน 
          
           ครั้งนี้ก่อนจะไปเกาะพีพี เราก็หาข้อมลูคราวๆ ว่าจุดชมวิวบนเกาะพีพีว่ามีตรงไหนบ้าง 

          คือมีข้อมูลน้อยมาก เก็บความสงสัยไว้ในใจ พอถึงโรงแรมก็ถามพนักงานว่าถ้าเราจะเดินไปจุดชมวิว อ่าวต้นไทรได้ไหม 

          พนักงานบอกว่าได้ ระยะทางประมาณ 5 กิโลกว่าๆ เดินประมาณ ชั่วโมงกว่าๆเองครับ 

          แต่ดูหุ่นพวกเราแล้ว พนักงานบอกให้เวลาพวกเราเลย 2 ชม. แต่จะบอกว่าพวกเราทำลายสถิตมากๆ

          ระยะทาง 5 กิโลกว่าๆ เราเดินกัน 3 ชม.จึงจะถึงจุด View point  





         กินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ...เตรียมตัวออกเดิน ประมาณ 10 โมงกว่า 

        เดินเลาะชายหาดมาเรื่อยๆสุดหาดจะเจอทางเดิน คอนกรีต






        ทางเดินบนเกาะ...เดินสบายเลยค่ะ        




       พวกเราเดินกัน สโลว์ไลฟ์ มากๆ ไม่รีบกันเลย แวะชมนก ชมไม้ ตลอดสองข้างทาง




เดินมาเจอแผนที่ ที่ชาวบ้าน ทำเป็นป้ายติดไว้     เป็นภาพวาดด้วย สวยดีอ่ะ






        เดินมาได้สักพัก จะเจอจุดชมวิวแรก จะมีศาลาให้พัก จุดนี้จะมองเห็นอ่าวโลบาเกา

        ช่วงเช้าน้ำยังขึ้นสูงอยู่ค่ะ (ขนาด 10 โมงกว่าแล้ว ไม่มีแดดเลย …มีแต่เมฆ) 




        นั่งชมวิว รับลมตรงศาลาสักพัก แล้วก็เดินต่อไปสะพาน โลบาเกา 
  
        พอข้ามสะพานโลบาเกาไปจะมีหมู่บ้านชาวประมง มีร้านอาหาร รีสอร์ท 

        แต่เราไม่ได้เดินเข้าไป เราเดินชมวิวบนสะพานเท่านั้นค่ะ 












นั่งเล่นบนสะพาน ได้สักพักเราก็เดินกันไปต่อค่ะ...ข้างทางมีดอกไม้สวยๆขึ้นเต็มเลยค่ะ  

       ดอกไม้สวยๆ แปลกตา พวกเราเห็นกันไม่ได้ ต้องหยุดดูตลอดทาง บอกแล้วไง พวกเราเดินอยากกับหอยทาก555

      ไม่รีบกันเลย...จริงๆๆ





       เดินมาสักพักเจอป้ายบอกทาง...ไป View Point อ่าวต้นไทร อีก 1.94 กิโล แต่ลูกศรชี้ไปทางขึ้นเขา 

       เป็นทางเล็กๆ เล็กจนมองไม่เห็นว่าเป็นทางเดิน คือมีน้ำขัง พวกเรามองหน้ากัน เฮ้ย มันจะใช่ทางนี้หรือ

      เห็นแต่ป่ารกทึบ เหมือนไม่ค่อยมีคนเดิน เอาไงดีหว่าก็ป้ายบอกให้ไปนี้...

     นั้นเราก็ลุยตามทางที่ป้ายบอก เดินลุยเข้าป่ากัน พอดีก่อนทางขึ้นเขามีบ้านชาวบ้านอยู่ 1 หลัง 

     น้องๆเลยตะโกนถาม คุณลุงที่อยู่ในบ้าน ว่าทางนี้ไปจุด ชมวิวอ่าวต้นไทรใช่ไหมลุง ลงบอกว่าใช่แล้วอิหนูไปได้ 

     แต่ทำไมทางมันรกจัง มันหน้าฝน ไม่ค่อยมีคนเดิน แต่ลุงบอกก็ยังเห็นมีฝรั่งเดินขึ้นเรื่อยๆนะ วันละคน สองคน

     ชักไม่แน่ใจ มองหน้ากัน จะไปต่อดีไหม ไหนๆก็มาแล้ว นั้นลุยก็ลุย







      หมดแรงขอพักก่อนนะพี่...นู๋ไม่ไหวแล้ว 

      แต่หนูยังสู้นะ 55555   (สงสารน้อง โดนลากมาเดินป่า )


ในที่สุดแล้วเราก็จะมาเจอจุดชมวิว...นี้

           ไม่รู้เรียกว่าอ่าวอะไร ไม่มีป้ายบอกไว้ มีแต่ข้อความบนหินบอก View point 4








    ณ.จุดนี้ กางร่มชมวิว กันเลยที่เดียว  ขอบอกวิวจริงๆที่มองด้วยตาตัวเอง สวยมาก ฟินจริงๆค่ะ




หลังจากนั้นเราก็เดินลุยไปกันต่อ ยังจุด TOP View point ของเกาะพีพี

      ฝนก็ยังคงตกไม่หยุด...เราก็ลุยกันต่อ จนถึงจุดชมวิว ที่นี้เหมือนบ้านร้างไม่มีคนเลย มีแค่เรา 3 คนเท่านั้น

      ถึงฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ พวกเราตากฝนยืนมองวิวกันแบบมีความสุขจริงๆๆ คุ้มค่าที่เราบุกป่า  ผ่าดง กันขึ้นมาถึงจุดนี้...













      ได้เวลากลับ บายๆๆ รำลา 



พวกเราถ่ายรูปนั่งพักกันสักแปบ ที่ TOP View ตอนนี้น่าจะประมาณ บ่ายโมงกว่าๆได้ 

         ได้เวลาไปต่อ เราเดินลงกะว่าจะไปอ่าวต้นไทรต่อ คือเราไม่รู้ว่าจากจุดนี้ จะเดินไปไกลไหมกว่าจะถึงอ่าวต้นไทร

         เราก็เลยคำนวนเวลา และลงความเห็นว่าเราควรเดินกลับโรงแรม ก่อนที่ฟ้าจะมืดดีกว่า เพราะเราไม่ชินทางเดินในป่า

         ขนาดขามายัง เดินกันมาแบบมึนๆงงๆ กลัวหลง ด้วยแหละ เจองูอีก สยองไปตามๆๆกัน

         พอเราเดินกลับจากจุด TOP View มาถึง จุด View point 4 พอดีมีบ้านชาวบ้านอยู่ 2 หลัง โชคดีมีคนอยู่ด้วย 

        พวกเราเลยถามทางว่าพวกเราเดินมาจากแหลมตง มีทางไหนที่จะกลับแหลมตงได้บ้าง 

       พี่แกก็บอกว่า มีอีกทาง เดินเลาะชายหาด ผ่านอ่าวโลบาเกา ไปได้ 

       คือตอนแรกพวกเราไม่แน่ใจเพราะขามาน้ำทะเลขึ้นไง มันจะเดินได้หรือ ในเมื่อพี่เค้าบอกว่าไปได้เราก็ลุยไปกันต่อ

       โดยที่ไม่ได้กลับทางเก่า ไม่ได้ผ่านสะพานโลเบาเกา


      แต่ผ่าน รีสอร์ทอะไรก็ไม่รู้จำชื่อไม่ได้ค่ะ ขออนุญาต เดินผ่ากลางรีสอร์ทเค้าเลย เพื่อที่จะลงไปชายหาดได้









รีสอร์ทนี้ วิวสวยมาก มองเห็นอ่าวโลบาเกาได้ทั้งอ่าวเลย




เดินลัดหาดเลย...ย่นเวลาได้เยอะเลย









สรุปกลับมาถึงโรงแรมประมาณ 4 โมงเย็น หมดสภาพตัวเปียกปอน

         เห็นวิวสระน้ำแล้วอยากโดด ว่ายน้ำเล่นจัง แต่หมดแรง เหนื่อยมาก 





        ของอาบน้ำนอนพักแปบละกัน









นอนเล่น...หายเหนื่อยแล้ว หิว ต้องหาอะไรกินกันซะหน่อย

          อยากกินน้ำหวานๆเย็นชื่นใจ เรย์จังเลยจัดให้ 

          จะบอกว่าทั้งหมดนี้ น้องขนมาจาก กทม.ทั้งหมดเลย สุดยอดจริงๆ นานาเยี่ยม





         เอาทั้งหมดมาผสมรวมกันแล้วก็กิน...มันเรียกว่าอะไรไม่รู้ลืม กินอย่างเดียว



วันรุ่งขึ้นถึงเวลาต้องกลับ แล้ว ....ไม่อยากกลับเลย

         เราเลยไปเดินเล่นส่งท้าย ที่แหลมตง ทิ้งทวนกันก่อนไปขึ้นเรือกลับกัน









ได้เวลากลับแล้ว...บายๆๆๆ เกาะพี พี แล้วเราจะมาพบกันใหม่นะ

        ทริปนี้ต้องขอบคุณมิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

        ขอบคุณพนักงาน Zeavola ทุกท่านที่ให้การตอนรับดูแลพวกเรา 3 สาวอย่างดี

        และที่ขาดไม่ได้คือต้องขอบคุณ เพื่อนร่วมทริป รันจัง และเรย์จัง ที่พร้อมจะลำบากลุยไปด้วยกันทุกสถานการณ์

        (โดยเฉพาะเรย์จัง ผู้ที่เป็นคนไม่กลัวอะไรเลย แต่ทริปนี้ เธอกริ๊ดสุดใจ เพราะเธอต้องมาเจอคู่ปรับกองทัพกิ้งกือ 

       ที่เธอกลัวฝังใจ ไปทางไหนก็เจอ ก็มันน่าฝนอะเน้อ กิ้งกือเยอะเป็นธรรมดา อิ อิ คราวหน้าอย่าไปหน้าฝนนะ เตือนไว้

       ก่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบกิ้งกือ...) 

                      ****จบทริป...แล้วพบกันใหม่ในรีวิวต่อๆไปนะคะ สวัสดีค่ะ ****




ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.wanna_pum