ร้อนนี้ไปไหน ร้อนนี้ไป "กาญนะจ๊ะบุรี" สิคะ ^O^

          เมื่อความร้อนแผดเผา เมื่อหัวใจมันเรียกร้องหาความเย็นสดชื่น เมื่อนั้นเราจึงเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันค่ะ ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชิลๆ เสพอากาศบริสุทธิ์ นอนฟังเสียงน้ำใสไหลเย็นกันที่จังหวัด "กาญจนบุรี" ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นี่เองค่ะ ^^ และเป้าหมายของเราก็คือ The For Rest Resort กาญจนบุรี ...  

        และความยากของทริปนี้ไม่ได้อยู่ที่การเดินทาง งบประมาณ หรือสภาพอากาศใดๆทั้งสิ้น แต่มันยากตรงการจองห้องพักนี่แหละค่ะ 555 ด้วยความที่รีสอร์ทแห่งนี้ทำเลดี บรรยากาศดี จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากกกก (กอไก่แสนตัว) ทำให้ห้องพักเต็มตลอดค่ะ โดยเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดยาวต่างๆ อย่างเราจองล่วงหน้ามาประมาณ 3 เดือน (จองช่วงมกราคม เข้าพัก ต้นเดือน พ.ค.) ดังนั้นใครที่มีแพลนจะไปควรติดต่อสอบถามและจองห้องพักแต่เนิ่นๆนะคะ ^^
          The For Rest Resort เป็นแพที่พักริมแม่น้ำแควน้อย ภายในรีสอร์ทมีห้องพักแพริมน้ำ 86 ห้อง แบ่งเป็นห้องเตียงเดี่ยว/เตียงคู่ สำหรับ 2 ท่าน และห้อง 2 เตียง สำหรับ 3 ท่าน ระเบียงหน้าห้องจะมีเปลไกวผูกไว้ให้นอนเล่นชิลๆ (ฟินสุด) หรือจะกระโดดลงน้ำ เล่นน้ำหน้าห้องพักก็ได้นะคะ สำหรับราคา ช่วงไฮต์ซีซั่น ท่านละ 1200 บาท ช่วงโลว์ซีซั่น วันธรรมดา (จ-ศ) ราคา 1000 บาท เสาร์-อาทิตย์  1200 บาทค่ะ (รวมค่าห้อง ค่าอาหารเช้า อาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ และกิจกรรมล่องแพกระโดดแม่น้ำแควน้อย) อ้อๆ หลังจากจองต้องจ่ายค่ามัดจำ 50% จากจำนวนเงินทั้งหมดนะคะ ทั้งนี้ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อมยิ้ม21อมยิ้ม21อมยิ้ม21


              ทริปนี้เราจะเที่ยวกับแบบมนุษย์เงินเดือนสไตล์นะคะ นั่นก็คือการเที่ยวในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ (2 วัน 1 คืน) เพราะนี่คือสิ่งที่เราจะทำได้ค่ะ 555 และนี่คือ.....

สรุปค่าใช้จ่าย (ต่อคน) ตลอดทริป
1. ค่าห้องพักคนละ 1200 บาท
2. ค่ารถตู้ กทม.-กาญฯ ไปกลับ 240 บาท (120+120) 
3. ค่าวินมอไซต์ บขส.กาญฯ- สถานีรถไฟ 30 บาท
4. ค่ารถไฟ = ฟรีค่ะ ^^ 
4. ค่ารถสองแถวสถานีรถไฟ- น้ำตกไทรโยคน้อย 20 บาท
5. ค่ารถเมล์ขาไปจากน้ำตกไทรโยคน้อย - บ้านแก่งจอ (ทางเข้ารีสอร์ท) 40 บาท
6. ค่ารถเมล์ขากลับจากแยกบ้านแก่งจอ (ทางเข้ารีสอร์ท) ถึง บขส. กาญฯ 60 บาท
7. ค่าเครื่องดื่มเบาๆยามค่ำคืน (ส่วนนี้ไม่มีก็ได้นะคะ 555)
** รวมค่าใช้จ่าย 1590 บาทต่อคนค่ะ ^O^

      

เอาล่ะ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกัน ^O^
อ้อ ลืมบอกไปทริปนี้เกือบล่มแหนะ เพราะเพื่อนคนนึงติดธุระด่วนไปไม่ได้ และหาคนไปแทนไม่ทัน เรากับเพื่อนอีกคนก็เลยคุยกันว่าเอาไงดี สรุปว่าไปค่ะ อยากไปต้องไป 555 และด้วยความที่อยากเผื่อเวลาไว้แวะเที่ยวระหว่างทาง เราก็เลยออกจาก กทม. กันตั้งแต่ 8 โมงเช้า โดยไปขึ้นรถตู้วินแฮปปี้ข้างห้างเซนจูรี่ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นท่ารถตู้ขนาดใหญ่ ค่ารถคนละ 120 บาท บรรยากาศยามเช้า
          การเดินทางไปยัง The for rest resort (ไปเส้นเดียวกันกับถนนที่จะไปสังขละบุรี) จากที่ถามๆมาไม่มีรถจากกรุงเทพฯ ไปถึงโดยตรงนะคะ เราจะต้องนั่งรถไปลงที่ บขส.กาญฯ แล้วต่อรถตู้ รถเมล์ หรือรถทัวร์ไปค่ะ ///เพิ่มเติมข้อมูลจาก คห.2 นะคะ จะมีรถ บขส. กรุงเทพ - ด่านเจดีย์สามองค์(สังขละฯ) ซึ่งเราน่าจะขอลงตรงบ้านแก่งจอได้เหมือนกัน ^^ (สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บขส. นะคะ)/// ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง บขส.กาญฯ
         ณ ตอนนี้เวลา 10.00 น. แบบว่ายังเหลือเวลาอีกเยอะ เพราะเช็คอินได้ตอนบ่าย 2 เราก็เลยตกลงกันว่าจะนั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อยก่อนที่จะเข้ารีสอร์ท (เป็นทางผ่านอยู่แล้ว) ต่อไปก็หาวิธีไปสถานีรถไฟค่ะ สรุปไปกับพี่วินมอไซต์ ค่าโดยสารคนละ 30 บาท ไปค่ะพี่สุชาติ ...
          ถึงแล้วๆๆๆ สถานีรถไฟกาญจนบุรี
         ไปถึงก็ติดต่อรับตั๋วที่เคาต์เตอร์ค่ะ คนไทยสามารถรับตั๋วรถไฟฟรีได้ โดยแสดงบัตรประชาชน 1 ใบ ต่อตั๋ว 1 ที่นั่งค่ะ เราได้ตั๋วรอบ 10.45 น. แต่เอาเข้าจริงออกเดินทางตอน 11.00 น. นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม แต่อภัยได้เพราะเราไปฟรี อิอิ
           ได้ตั๋วเรียบร้อยก็เดินเล่นถ่ายรูปรอรถไฟ
           รถไฟมาแล้ววว
  
            ออกเดินทางกัน ปู๊นๆ
  
            เพื่อนร่วมทางตัวน้อยของเราค่ะ ตัวเล็กน่ารัก พูดเก่งมาก
          ระหว่างทางวิวสวยมากค่ะ ธรรมชาติอยู่รอบๆตัวเรา ภูเขา ทุ่งหญ้า ไร่สวน สายลม แสงแดด (ถึงแม้ว่าจะร้อนมากแต่ก็ฟิน)
          รถไฟพาเราวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว (สวยสุดๆ)
          ผ่านทางรถไฟสายมรณะ มันอะเมซิ่งมากค่ะ ตื่นเต้นๆ รถไฟชะลอความเร็ว และวิ่งข้ามสะพานไม้เก่าๆไปอย่างช้าๆ
          สถานีก่อนสุดท้าย สถานทีเกาะมหามงคล มีผู้โดยสารลงที่สถานีนี้เยอะมาก รวมไปถึงเพื่อนร่วมทางตัวน้อยของเรา สอบถามได้ความว่าน้องและคุณแม่มาปฏิบัติธรรมกันที่นี่ค่ะ สาธุ
          ออกเดินทางต่อ
         ถึงละค่ะสถานีปลายทาง สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย ใช้เวลาจากสถานีกาญฯ มาถึงนี่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ๆๆๆ ยังไม่ถึงตัวน้ำตกนะคะ เพราะเราจะต้องต่อรถสองแถวออกไปน้ำตกอีกทีค่ะ ลงจากรถไฟมาก็จะเจอรถสองแถวจอดรออยู่ ค่าโดยสารคนละ 20 บาท (เท่านั้นนะคะ แพงกว่านี้อย่าไป) 55555
         ไปถึงก็หิวโหยเลยแวะโซ้ยส้มต้ำแซ่บๆกับที่ร้านอะไรสักร้าน (ร้านใหญ่ๆอยู่ตรงข้ามป้ายน้ำตกเลยค่ะ)  
          อิ่มแล้วก็เดินลั้ลลาไปน้ำตกประหนึ่งว่าวิ่งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ท่ามกลางอุณหภูมิ 40 องศา++ บ้าไปแล้ว
          นี่เป็นขบวนรถไฟสายท่องเที่ยวของการรถไฟค่ะ
          หัวรถจักรไอน้ำ สวย เก่า โบราณ คลาสิคสุดๆค่ะ
         เดินเข้าไปนิดหน่อยจะเจอกับจุดเช็คอินค่ะ เย้ยยย ไม่ใช่ๆ จริงๆไม่ควรนะคะ ไม่ควรทำายธรรมชาติอันสวยงาม ด้วยการสลักชื่อฝากรักลงไปแบบนี้
         และนี่คือสิ่งที่เราตั้งใจมาหาค่ะ มองผ่านๆแว่บแรก แกๆน้ำตกอยู่ไหนวะ ไม่เห็นมีเลย สงสัยต้องเดินไปอีก ลองมองดีๆอีกที เห้ยยยยย นี่มันเหมือนในรูปเลย แต่...น้ำอยู่ไหน เอิ่ม น้ำหายไปไหนหมด ไหนล่ะน้ำตกของฉัน - - และที่พีคกว่านั้นก็คือ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินตามมา และหันมาถามเราว่า “น้ำตกอยู่ตรงไหน” เราชี้มือไปและบอกว่า “นี่ไงน้ำตก” คนจีนสตั้นไป 3 วิ แล้วหัวเราะออกมา 55555 งานนี้เราจะเงิบไปด้วยกัน (ดูสิคะเหือดแห้งเชียว เหอๆ)
          ซาโยนาระน้ำตกที่ไม่มีน้ำ เดินข้ามถนนกลับมารอรถเมล์ไปรีสอร์ทค่ะ (ให้ขึ้นรถเมล์คันที่มีป้ายบอกว่าไป “ทองผาภูมิ” หรือ “สังขละบุรี” เพราะมันจะวิ่งผ่านทางเข้ารีสอร์ท)  ซึ่ง 1 ชั่วโมง รถจะมา 1 คัน นั่นหมายความว่า ถ้าพลาดคันล่าสุด ก็จะต้องรออีก 1 ชั่วโมง คันต่อไปถึงจะมาค่ะ  และตอนนี้เวลาเกือบๆ 4 โมงแล้ว ด้วยความที่กลัวพลาดกิจกรรมล่องแพกับรีสอร์ท เราก็เลยโทรไปเช็คค่ะว่าแพรอบสุดท้ายออกกี่โมง สรุปว่ารอบสุดท้ายออกเวลา 5 โมงครึ่ง โอเคๆ ยังทัน เรารอรถกันประมาณ 30 นาทีรถก็มา ..
          ขึ้นรถแล้วให้บอกกระเป๋าว่าลงที่ “บ้านแก่งจอ” นะคะ ค่าโดยสารคนละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วแต่คนขับ
          เหยียบมิดไมล์ไปเลยพี่ หนูรีบ.....
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงทางแยกบ้านแก่งจอค่ะ
รีสอร์ทของเราต้องเข้าไปทางนี้
          ใครจะเดินเข้าไปก็ได้นะคะ รีสอร์ทอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 3-5 นาทีก็ถึง หรือจะโทรให้ทางรีสอร์ทออกมารับก็ได้  อิอิ รถมาแล้ว เป็นรถสามล้อเล็กๆน่ารักค่ะ
          ถึงละค่ะทางเข้ารีสอร์ท ด้านบนจะเป็นลานจอดรถ เดินไปอีกหน่อยจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ มีบริการชุดว่ายน้ำให้เช่าด้วย
          คือแบบว่าบรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ ที่พักของเราอยู่ข้างล่างติดแม่น้ำแควน้อยค่ะ ป่ะๆ ไปข้างล่างกัน
          บริเวณจุดเช็คอินค่ะ เป็นร้านค้าเล็กๆ ไปถึงก็เช็คอินชำระเงินส่วนที่เหลือ ได้กุญแจห้องมา พนักงานก็จะบอกเราแค่ว่า ห้องพักอยู่ฝั่งซ้ายมือนะคะ (ที่นี่ห้องพักจะมี 2 ฝั่งค่ะ ซึ่งเราไม่สามารถระบุได้ คือต้องมาลุ้นเอาตอนเช็คอินเลยว่าจะได้ฝั่งไหน ห้องไหน)
          เอาล่ะต่อไปเดินหาห้องพักค่ะ เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้องของเรา ในแต่ละห้องมีพื้นที่ไม่กว้างค่ะ ในห้องจะมีเตียงนอน มีพัดลมเพดาน และแอร์ค่ะ มีเท่านั้นเลย แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา เพราะแค่มีเตียงกับแอร์ก็พอละค่ะ ^^  (ของเราจองไป  3 คน ก็เลยได้ห้องที่มี 2 เตียงค่ะ เตียงคู่กับเตียงเดี่ยว) ข้อควรทราบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
          เก็บของเสร็จ ก็ออกมาเดินชมบรรยากาศรอเวลาขึ้นแพค่ะ ภายในรีสอร์ทร่มรื่นมาก บรรยากาศดี อากาศดี มันดีต่อใจมากจริงๆ หน้าห้องพักจะมีเปลผูกอยู่ทุกห้องค่ะ
          ที่ห้องพักฝั่งขวามือ มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วยนะคะ สูงในระดับนึงเลย แต่เราไม่กล้าเล่น เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น กลัวลอยไปไกลค่ะ 555 (รูปจากเพจรีสอร์ทนะคะ)
          โซนห้องอาหารค่ะ
          ท่าน้ำ (จุดรอขึ้นแพ)
          แพที่นี่เป็นแพใหญ่มีหลังคานะคะ ใครที่ไม่ลงน้ำก็นั่งชิลๆบนแพได้
          ได้เวลาขึ้นแพก็เดินไปหยิบเสื้อชูชีพกันค่ะ มีหลายไซต์ให้เลือกเองตามสบาย สักพักจะมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทเดินมาตรวจเช็คการสวมใส่ชูชีพให้กับคนที่จะลงน้ำค่ะ เราใส่เองแบบหลวมๆ แต่พี่เจ้าหน้าที่สุดหล่อบอกว่าหลวมไป ขอโทษนะครับ แล้วเขาก็ดึงค่ะ แบบว่าดึงจนสุด ชุดรัดตัวจนหายใจแทบไม่ออก แต่พี่เค้าบอกว่าเพื่อความปลอดภัยต้องรัดแน่นๆเพราะกลัวมันลอยค่ะ 555
          เสร็จเรียบร้อยเรือก็จะลากแพทวนน้ำขึ้นไปประมาณ 1 กิโลเมตร  
           ขณะนี้เวลาประมาณ 5 โมงครึ่ง แสงอาทิตย์กำลังสวยเลยค่ะ
          เอาล่ะสิช่วงเวลาน่าตื่นเต้นมาถึงแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ประกาศว่าใครที่จะลงน้ำกระโดดลงไปได้เลย  (อินี่กับเพื่อนอีกคนว่ายน้ำไม่เป็นจ้า แต่อยากไง) เอาไงดี คนอื่นกระโดดกันตู้มๆๆ นี่ 2 คน ขอลงแบบสโลโมชั่นค่ะ กรี๊ด ตู้มม จมไป 2 วิแล้วโพล่ขึ้นมา 5555 แพมันสูงอ่ะ ลงเบาๆยังตู้มอยู่ดี ((ขออภัยไม่มีรูปนะคะ เพราะหลังจากนี้ จขกท.และเพื่อนกระโดดตู้มลงน้ำไปแล้ว เอากล้องฝากไว้กับคนบนแพค่ะ ไว้คราวหน้ามีโอกาสจะถ่ายรูปในน้ำมาฝากนะคะ ^^)) "ขออนุญาตินำรูปจากเพจ The For Rest Resort มาลงให้เห็นภาพบรรยากาศ ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยนะคะ ^^"
           จากจุดปล่อยตัวเค้าจะให้เราลอยคอกลับไปที่รีสอร์ทค่ะ ระยะทางก็ประมาณ 1 กิโล โดยมีสต๊าฟประมาณ 5-6 คน คอยดูแลตลอดทาง (บริการดีสุดๆ) ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะมีคนคอยดูแล ช่วงนั้นคือผ่อนคลายมาก ลอยคอในน้ำเย็นๆ ว่ายบ้าง นอนบ้าง ลอยตัวบ้าง ชิลสุดๆค่ะ แต่เราไปกันช่วงหน้าร้อน บางจุดน้ำจะตื้นจนแตะพื้นหินได้ค่ะ ต้องระวังกันดีๆ ไม่งั้นอาจจะกระแทกหินหรือโดนหินบาดได้ ((รูปจากเพจของรีสอร์ทนะคะ))
           ลอยมาใกล้ถึงรีสอร์ทพี่เค้าก็บอกให้พยายามชิดซ้ายเพื่อที่จะขึ้นได้ค่ะ เค้ามีบันไดดักอยู่  3 จุด  ใครพลาดจุดแรกก็ลอยไปจุดที่สองจุดที่สาม ถ้าใครขึ้นไม่ทันอีกก็ลอยไปถึงเจ้าพระยาเลยค่ะ 555 ล้อเล่นๆ ลอยไปอีกนิดจะเจอท่าน้ำ สามารถขึ้นจุดนั้นได้ค่ะ ให้ทายว่าเราขึ้นจุดไหน ติ๊กต๊อกๆๆๆ ถึกๆแบบเราขึ้นทันบันได้ที่ 2 ค่ะ แต่ก็เกือบหลุดนะ น้ำแอบแรง 555 กลับมาถึงรีสอร์ทประมาณ 6 โมงครึ่ง (ใช้เวลารอบละ 1 ชั่วโมง) อาหารเย็นเป็นบุฟเฟต์ มีกับข้าว 5-6 อย่าง ตักกินได้สบายๆ รสชาติอาหารอร่อยดีค่ะ
          บรรยากาศคึกครื้นมาก เพราะทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่นั่งทานข้าว ฟังเพลง ฟังเสียงน้ำไหล ที่นี่มีแอลจำหน่ายนะคะ ใครขี้เกียจแบกไปก็ซื้อที่นี่ได้
          ทานข้าวเสร็จก็ซื้อแอลเบาๆเดินกลับห้อง ระหว่างทางก็จะเจอผู้คนมากมายนั่งรวมตัวกันที่ชานระเบียงหน้าห้อง กินขนม ดีดกีตาร์ ร้องเพลงกัน คือแบบสนุกสนานผ่อนคลายมากค่ะ เรากับเพื่อนไปกัน 2 คนก็อาศัยห้องอื่นๆในบริเวณนั้นเอาค่ะ 5555 นั่งชิลๆกันจนถึง 4 ทุ่มกว่าๆเริ่มกึ่มๆก็เลยเข้าห้องนอน ฝันดีราตรีสวัสดิ์ ^^
พระจันทร์พระจันทร์พระจันทร์
          ตื่นมาเช้านี้อากาศดีสุดๆ
            อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทานอาหารเช้า (แอบตื่นสายนิดหน่อย) ไปถึงคนหายหมดละจ้า นั่งกินกันอยู่ 2 คน 5555 เวลาอาหารเช้าที่นี่เริ่ม 06.00 ถึง 09.00 แต่เราไปกินกันตอน 09.30 ค่ะ แหะๆ แต่พนักงานใจดียังไม่เก็บ และรอจนเราทานเสร็จค่ะ  
          บรรยากาศยามเช้าเย็นๆนิดหน่อยค่ะ มีหมอกจางๆ
          ได้เวลาเก็บของเตรียมโบกมือลาค่ะ จริงๆอยากอยู่ต่ออีก แต่ทำไม่ได้ T^T ระหว่างนี้ก็เดินไปถ่ายรูปไป เช็คเอาท์คืนกุญแจ (เพื่อนร่วมทริปของเราค่ะ ^^)
           เดินออกไปรอรถเมล์กลับเข้าตัวเมืองกาญฯค่ะ เดินออกมาได้นิดหน่อยเจอรถรีสอร์ทกำลังจะออกไปรับแขก เราก็เลยติดรถออกไปลงที่ปากทางค่ะ ข้ามไปรอรถเมล์ที่ศาลาฝั่งตรงข้าม  
           รอเกือบๆชั่วโมงรถเมล์ถึงจะมา คราวนี้ค่าโดยสารคนละ 60 บาท นั่งกันยาวๆ จนถึง บขส. ซื้อตั๋วรถตู้กลับ กทม. ค่ะ เป็นอันปิดทริปกาญนะจ๊ะบุรี ทริปนี้เป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก ชอบมาก และจะแวะไปอีกแน่นอน พร้อมขนเพื่อนๆไปกันเยอะๆจะได้สนุกสนานแบบห้องอื่นๆบ้าง อิอิ  ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ไว้มีทริปหน้าเราจะมาบอกเล่าประการณ์อีกน้า ^^
กระทู้ที่ผ่านมาค่ะ ^^
โอ้โห!! นี่หรือเวียดนามใต้ เที่ยวแหลกลุยโฮจีมินห์ ดาลัด มุยเน่ // 9-13 มี.ค. 59 http://pantip.com/topic/34952242
Not Alone In Lonely Beach @สยามบีช รีสอร์ท "เกาะช้าง" http://pantip.com/topic/35094130
หนามยอกเอาหนามบ่ง: ร้อน ร้อน ร้อน เก็บเสื้อผ้าหนีร้อนไปแช่ออนเซ็น http://pantip.com/topic/35149157
ที่มา Pantip