รีวิว ~กระบี่หน้าฝน~ เล่นน้ำเกาะห้อง+พายเรือคายัคท่าเลน ด้วยตั๋วโปร ห้องก็โปร

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกนะคะ ผิดพลาดอะไร ออกตัวขออภัยไว้ก่อน เราเขียนกระทู้ในมือถือ อาจจะมีตกหล่น หรือช้าไปบ้าง ขออภัยก่อนเน้อ

*รูปในกระทู้นี้ ถ่ายจากมือถือ และกล้องsjนะคะ บางรูปแคปมาจากคลิปและผ่านการปรับสี เนื่องจากรูปจากsjค่อนข้างมืดนะจ๊ะ

ทริปนี้เริ่มจากเจอตั๋วโปรของบางกอกแอร์จากเพจพี่ช้าง และไม่เคยไปกระบี่ อยากไปมานานแล้ว เลยตัดสินใจจองตั๋วไปกระบี่ทั้งไปและกลับ ได้ตั๋วมาในราคา580บ.ต่อเที่ยวต่อคน รวมอาหาร เลือกที่นั่งและโหลดกระเป๋าจองตอนเดือนเมษา เดินทางมิถุนา จองจนเกือบลืม ทริปนี้เดินทาง14-16มิถุนายน2559นะคะ พอใกล้ถึงเวลา ก็หาข้อมูล หาทัวร์ หาโรงแรมไปเรื่อยๆ ตัดสินใจไม่ได้สักที กะไปหาเอาข้างหน้าเหมือนกัน เห็นเค้าบอกว่า ทัวร์ไปเลือกซื้อที่อ่าวนางเลย ถูกกว่า แต่ก็หาบริษัททัวร์เผื่อไว้แล้วเหมือนกันนะ เอาล่ะ เรามาไปเที่ยวกระบี่พร้อมกันเลยดีกว่า

ตั๋วเครื่องบินของเรา เดินทางเวลา14.15 เรานั่งแอร์พอตลิ้งค์ไปสุวรรณภูมิ แป๊บเดียวถึง พอถึงสนามบินตอนเที่ยงนิดๆเราก็ไปเชคอิน และนั่งรอที่เลานจ์ แน่นอนว่า ไม่พลาดข้าวต้มมัดแน่ๆ อิอิ ข้าวต้มมัดในตำนาน



นั่งรอนาน กินไปเยอะเหมือนกัน พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง นั่งไปสักพัก มีอาหารมาบริการอีกแล้ว ยังไม่ทันหายอิ่มเลยยยย



เวลาผ่านไปชั่วโมงนิดๆก็ถึงสนามบินกระบี่แล้วค่ะ เดินออกมาเอากระเป๋า เดินออกมาที่ประตูก่อนออกไปข้างนอกตรงประตูจะมีห้องขายตั๋วชัตเทิลบัสไปอ่าวนาง150 ในเมือง90บ. เราไปในเมืองค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ ถ่ายไม่ทันเพราะรถจะออกพอดี วิ่งสิวิ่ง ขึ้นรถปุ๊บเดินชิดในไปนั่งข้างในเลยค่ะ บรรยากาศภายในรถบัส


นั่งไปสักพัก เปิดจีพีเอสดูโรงแรมไปด้วย พอใกล้จะถึงเดินไปหาคนขับ คนขับบอกว่าตรงนี้จอดไม่ได้ ต้องไปจอดที่ท่ารถ อีกไม่ไกล เราก็ต้องนั่งต่อไปอีกนิดค่ะ
พอถึงท่ารถ จะมีรถสองแถวไปส่งเราถึงโรงแรมเลยนะคะ แต่เสียตังอีก คนละ20บ.ค่ะ แอบเซง รถผ่านหน้าโรงแรมแท้ๆ 
โรงแรมที่เราพัก คือโรงแรมกระบี่ริเวอร์วิวค่ะ จองได้ในราคาถูกอีกแล้ว ได้โค้ดลด50%มาจากเพจพี่ช้างเจ้าเดิม เหลือค่าห้องแค่600กว่าบาทต่อคืน แอบโชคดี เพราะจะจองก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว วันนึงเปิดเพจพี่ช้างตอนดึกเจอโปรพอดี เสร็จซะ โชคดีไป ห้องที่เราพักคือห้องซูพีเรียค่ะ ก่อนถึงวันเข้าพักก็โทรไปเชคและรีเควสห้องฝั่งแม่น้ำ ดีใจที่ทางโรงแรมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะขอซะอีก ไปดูห้องกันค่ะ









คุณผู้หญิงในห้องมีไดร์ให้นะคะ


โรงแรมอยู่ซอยมหาราช10ค่ะ โรงแรมใกล้เคียงมี อาโป จัสไฟน์ ศรีสวรา นะคะที่จำได้ แถวนี้ใกล้โวคนะคะ เซเว่น ถนนคนเดิน ตลาดผลไม้ ร้านปูดำ โกส้วงติ่มซำ ตลาดท่าเจ้าฟ้าเดินได้ไม่ไกล ท่าเรือไปเกาะกลาง เดินไปนิดเดียว วันแรกไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว เลยพักผ่อนแปบนึง ก็ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปปูดำ กับนกอินทรี เขาขนาบน้ำกัน แล้วก็ไม่ลืมที่จะเดินไปกินร้านปูดำค่ะ มื้อแรก ก็จัดอาหารทะเลเลย



ปลากระพงขาวนึ่งมะนาว


กุ้งลายเสือ4ตัว


ตัวใหญ่นะคะ นี่ก็7-8ขีด เนื้อเด้งสด หวานม้วกๆซูมชัดๆ


ปูเนื้อค่ะ2ตัว ที่ร้านไม่มีปูไข่


หมึกผัดไข่เค็ม


ข้าว2จาน น้ำเปล่า และน้ำแข็ง1ถัง ค่าเสียหาย ประมาณ1100+ค่ะ จำได้ไม่ละเอียดแล้ว อาหารรสชาติสมคำล่ำลือ สด ใหม่ บริการดี คนเยอะ ตอนที่ไปประมาณ5โมงกว่าๆคนเกือบเต็มร้าน 

แนะนำอย่ามาช้ากว่านี้นะคะ เพราะนั่งแปบเดียว โต๊ะเต็ม คนมาช้าต้องคอย ส่วนราคาไม่ถือว่าแพงค่ะ กินเสร็จ เดินไปเซเว่น ขึ้นห้องนอนตีพุง 

อ่อ ลืมค่ะ ตอนมาถึงโรงแรมเรากะว่าจะหามอเตอไซค์เช่าไปอ่าวนางหาทัวร์แต่ขี้เกียจค่ะ ด้วยความที่ร้านทุกอย่างอยู่ใกล้ๆ จึงตัดสินใจโทรหาทัวร์จากบริษัทที่เราหาข้อมูลมาก่อนแล้ว ที่โทรถาม เราได้ราคา ทัวร์เกาะพีพี850 บ. เกาะห้อง700บ.เรือหางยาว+บาร์บีคิวบุฟเฟต์ สปีทโบ้ต 800บ.+ข้าวกล่อง เราจึงตัดสินใจไปเกาะห้องด้วยสปีทโบ้ตค่ะ เราไม่ได้ต่อราคา เพราะก่อนหน้านี้ หาราคามาแพงกว่านี้ อันนี้ถือว่ารับได้ มีคนได้ราคามา550บ.ด้วยนะคะ แอบเสียจุย เอาล่ะ นอนพักเอาแรงกันค่ะ พรุ่งนี้พี่ต้องตื่นเช้าาาาาาาา

เช้าวันที่2 เรานัดพี่เค้าให้มารับ8โมงครึ่งค่ะที่โรงแรม ลงมาเกือบ8โมงมากินข้าวเช้า ที่นี่มีข้าวอาหารเช้าให้นะคะ มีให้เลือกระหว่าง ข้าวต้ม หรือ อเมริกันเบรคฟาส ส่วยรูปไม่ได้ถ่ายมา เนื่องจากถ่ายไม่ทันจะถ่ายจานเปล่ามาก็เกรงใจ แหะๆ ที่โรงแรมมีผ้าขนหนูให้ไปด้วยนะคะ แจ้งที่ล็อบบี้ได้เลย เค้าจะจัดให้ แต่ผ้าในห้องเอาไปไม่ได้นะคะ ผ้าที่เอาไปได้จะเป็นผ้าสีน้ำตาล
8โมงครึ่งพี่เค้าก็มารับ เอารถแจ๊สมาพี่เค้าบอกว่า เพราะมีแค่น้องสองคนที่พักในเมือง คนอื่นเค้าพักอ่าวนางกันหมด เลยำม่ได้เอารถใหญ่มารับ สบายไป 
ไปถึงก็รสมกลุ่ม จ่ายเงิน ในกลุ่มมีแค่เรา2คนที่เป็นคนไทย กลุ่มนี้มีประมาณเกือบ40คนได้ มีทั้งจีนและไม่จีน
พอคนครบ ไกด์พาเดินไปขึ้นเรือ ก่อนขึ้นเรือก็ถอดรองเท้าใส่ถุงรวมกันไว้ค่ะ โชคดีจัง วันนี้ฟ้าค่อนข้างโปร่ง แอบภาวนาให้ฝนไม่ตก เพราะครึ้มๆตั้งแต่วันแรก ตกปรอยๆตั้งแต่วันแรก ดีใจจัง
นั่งเรือไม่นานก็มาถึงเกาะแรกแล้วค่ะคือลากูน ของลงรูปรัวเลยนะคะ เพราะจำไม่ได้ว่ารูปไหนเป็นเกาะไหน แล้วก็ถ่ายมาไม่เยอะ เพราะหน้าฝนฟ้าไม่สวย น้ำก็ไม่ค่อยใส









ถ่ายย้อนขึ้นไปบนเกาะกันบ้าง คนเยอะจัง ขนาดวันธรรมดานะเนี่ย


รูปวิวอาจจะไม่สวยเหมือนของจริงนะคะ กล้องsj มันจืด ถ่ายแล้วมืด แล้วเมฆเยอะด้วย ฟ้าเลยไม่ค่อยสวย


ถึงเวลากินข้าว ที่นั่งกินข้าวของเรา


อาหารธรรมดา วิวไม่ธรรมดาเลย


หน้าตาอาหาร


อาหารรสชาติชาวต่างชาตินะคะ แต่พอกินได้
ได้เวลาขึ้นเรือ บรรยากาศบนเรือขาวมั้ย เอ้ย...สวยมั้ย


เกาะนี้เกาะสุดท้ายค่ะ เกาะห้อง ต้องเสียค่าธรรมเนียม คนไทย30บ. ชาวต่างชาติน่าจะ300 จำไม่ค่อยได้








ที่เกาะนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ มีนก ไม่ทราบว่านกอะไร บินร่อนไปร่อนมา คอยทักทายนักท่องเที่ยวตลอด ไม่กลัวคนเลย



ตัวใหญ่มากๆ เทียบกะคนฝรั่ง



มาทะเลก็ไม่พลาดที่จะต้องถ่ายรูปใต้น้ำ
เอ้า 1 2 3 แชะ


จบทริปนี้ เรากลับถึงฝั่งเวลาประมาณบ่าย3 แล้วก็โทรหาพี่คนเมื่อเช้าให้มารับไปส่งโรงแรม กลับกัน2คนเหมือนเดิม

สรุปทริปเกาะห้องวันนี้นะคะ พี่เจ้าหน้าที่บริการดี มารับมาส่ง ทัวร์นี้ ไม่มีแวะดำน้ำนะคะ ไม่รู้ของที่อื่นมีรึเปล่า แฟนเราอยากดำน้ำมากๆ สน็อคเกิล ให้แค่ที่เกาะพาราไดซ์ ไม่รู้จะดำดูอะไร มีแต่หิน กะปลาสลิดหิน พอไปเกาะอื่น ขอสน็อคเกิลไม่ได้ อดอีก ไกด์ดูแลโอเค มีน้ำเย็นให้ จบทริปมีเป๊บซี่เย็นๆให้คนละขวด อาหารพอกินได้ 

คนที่ลังเลระหว่างพีพีกับเกาะห้อง แนะนำว่าเกาะห้องจะสวยแบบสงบๆ คนที่ชอบธรรมชาติ เงียบๆน่าจะชอบ ส่วนพีพีจะมีกิจกรรม มีอะไรให้ทำเยอะกว่า เรื่องความสวย เค้าบอกว่าพอๆกัน ส่วนเราคราวหน้าจะมาซ่อมพีพี

เนื่องจากวันนี้ไม่ได้ดำน้ำดูยังไม่ค่อยสุด เลยคุยกันว่า พรุ่งนี้ไปพีพีดีมั้ย แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ กลัวไม่สะดวก เลยสรุปที่พายเรือคายัค


หลังกลับมาจากทริปดำน้ำ ทำอะไรเรียบร้อยแล้ว มื้อเย็นเราก็เดินไปหาอะไรกินกันที่ตลาดท่าเจ้าฟ้าค่ะ ร้านจะเริ่มตั้งประมาณ6โมง ร้านที่ขึ้นชื่อตรงนี้ จะมีโตเกียว โรตี ไอศกรีมเจ๊ไหมค่ะ วันนี้เรากะว่าจะหาอะไรกินราคาเบาๆ เลยเข้าร้านอาหารตามสั่งร้านท้ายๆ สั่งเป็นกับมา

มีไข่เจียวปู(ที่ไม่มีเนื้อปู)
ต้มยำรวม(ที่เน้นแต่ฮื่อก้วยกับเห็ด)2อย่างนี้รสชาติธรรมดาไม่ถูกปากเรา
กับผัดสะตอกุ้ง จานนี้ดีค่ะกุ้งเยอะสะตอเยอะ
น้ำปั่น2แก้ว ข้าวเปล่า2จาน ค่าเสียหาย เกือบ500บ. สำหรับเรา เราว่าราคาแพงค่ะ แนะนำให้ไปกินที่ร้านปูดำดีกว่า ถ้าจะไม่เน้นซีฟู้ด ราคาพอๆกัน หรือถ้าจะมากินแบบนี้ สั่งราดข้าวดีกว่าค่ะ


อ้อ ลืมไป สำหรับคนที่จะไปทริปดำน้ำ แล้วเป็นคนแพ้ง่าย แพ้แมลงสัตว์กัดต่อย น้ำเหลืองไม่ดี แนะนำให้ใส่ชุดที่เป็นแขนยาว ขายาวนะคะถ้าไม่ลำบาก เพราะตอนลงไปเล่นน้ำตามเกาะ จะรู้สึกแสบ คันยิบๆเพราะโดนแตนทะเล กลับมาจะมีตุ่มแดงๆขึ้นตามตัวเต็มไปหมด ทั้งคัน หายก็ช้า

ลักษณะแบบนี้ คันมากๆ


หลังจากที่ไม่ฟินกับอาหาร เราก็เดินกลับมาที่โรงแรมค่ะ เราก็เดินกลับมาโรงแรม ข้างๆโรงแรมจะมีตลาดสด ขายผลไม้ ข้าวกับ เราก็เดินไปซื้อผลไม้มากิน เดินเข้าโรงแรมพนักงานหน้าล๊อบบี้บอกว่าวันนี้มีถนนคนเดินนะคะ(วันนี้วันพุธ)เราดีใจรีบเดินออกไป แต่เดินไปนิดเดียว ฝนก็ตกค่ะ แอบเซง กลับไปนอนรอที่โรงแรม พอฝนหยุดเราก็ลงมาต่อค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปร้านที่ถนนคนเดินมาเยอะนะคะ บรรยากาศประมาณนี้


ได้หอยแครงลวกมากิน ชุดละร้อย ลวกกำลังดี น้ำจิ้มอร่อย


เดินออกจากถนนคนเดินไปทางห้างโวค อย่าลืมไปร้านโรตีเจ้าดังนะคะ คนเยอะมากๆ






จบทริปวันนี้ อิ่มแปล้ นอนตีพุง พรุ่งนี้ตื่นเช้าอีกแล้ว


เช้าวันสุดท้าย
ทริปนี้เป็นทริปพายเรือคายัคครึ่งวันที่อ่าวท่าเลน ราคา450บ.เราโทรจองเย็นเมื่อวาน นัดพี่เค้ามารับที่โรงแรมตอน8โมง

ตื่นมาตอนเช้า7โมงฝนตกตลอดทั้งคืน และด้วยความเหนื่อยจากเมื่อวาน เลยนึกว่าจะไม่ได้ไปซะแล้ว แอบนอนต่อ สักพักก็โทรไปถามพี่เค้า ว่าฝนตกแบบนี้ยังไปได้มั้ย พี่เค้าบอกว่า ยังไปได้ สบายมาก ถ้ากลัวเปียก มีถุงกันน้ำให้ เสร็จเราก็ตื่นลุกขึ้นมาอาบน้ำ เก็บของเตรียมเชคเอ้าท์ ลงมาที่ล็อบบี้ก็เกือบ8โมงแล้ว เชคเอ้าท์ที่ล็อบบี้ ฝากกระเป๋า กินข้าวเช้าไม่ทัน เดินเข้าไปหาแม่ครัวว่าข้าวต้มนี่ได้เร็วมั้ย ป้าบอกว่าไม่มี ทำจานต่อจานแต่ ป้าแม่ครัวใจดีมาก จัดน้ำผลไม้กับกล้วยใส่กล่องมาให้เราไว้เผื่อเราหิวระหว่างทาง พอดีกับพี่ทางทัวร์มารับ ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด รถที่มารับเป็นรถกระบะติดหลังคา พี่เค้าบอกว่ากรุ๊ปเรามีเพื่อนอีก 5คน เป็นครอบครัวคนจีน3คน ฝรั่ง2คน พักอยู่อ่าวนาง

วิวสองข้างทางระหว่างไปอากาศดีมาก มีภูเขาและเมฆลอยต่ำๆอยู่ยอดเขาระหว่าง2ข้างทางตลอด แต่ในใจก็แอบกังวลว่าจะไม่สนุก เพราะฝนตก และคนร่วมทริปน้อย


เดินทางสัก40นาทีก็มาถึงท่าเรือ ฝนก็ยังตกอยู่ ที่ท่าเรือมีโอวัลตินกับกาแฟให้ มีร้านขายค้าเสื้อกันฝนตัวละ30บ. แล้วไกด์ก็เดินเอาถุงกันน้ำมาให้ใส่ของ เอาของเฉพาะที่จำเป็นไป ของที่ไม่จำเป็นฝากไว้เค้ามีห้องเก็บของให้ แจกน้ำให้พกไปคนละขวด นั่งรอสักพักก็มีคนมาเรื่อยๆหลายสิบคน เราจึงพึ่งเข้าใจว่า แต่ละกรุ๊ปไกด์แต่ละคนก็จะมาที่ท่าเรือนี้กันหมด กรุ๊ปเรายังมี7คนเหมือนเดิม รวมไกด์อีก2เป็น9คน แอบเบาใจ มีเพื่อนร่วมทางอีกเยอะ น่าจะสนุก เราเห็นคนอื่นบางคนซื้อเสื้อกันฝนใส่ แต่เราไม่ใส่เพราะเป็นคนขี้ร้อน ดีใจที่ไม่ใส่เสื้อกันฝน เพราะมันสะใจ และสนุกมาก เปียกก็เปียกช่างมัน กลัวทำไมกะแค่เสื้อผ้าเปียก ส่วนคุณผู้หญิงที่มีประจำเดือนแบบเรา เพิ่งมาตอนเช้า เซง ใส่โอบีโล้ดค่ะ สบายใจ


สักพักไกด์ก็เรียก เพราะกลัวว่าคนจะเยอะ และเดี๋ยวน้ำจะลงจะพายได้ไม่ครบรอบ ก่อนจะลงเรือ ไกด์จะอธิบายถึงเส้นทาง วิธีพายเรือเป็นภาษาอังกฤษ ครอบครัวคนจีนเป็นพ่อแม่ลูกนะคะ น้องดูกลัวและตื่นเต้นมากๆ ทำหน้าเหยเกตลอต แต่พอลงเรือสักพัก น้องก็หายกลัว และดูสนุกกว่ามะกี้อีก


พายมานิดหน่อยไกด์ก็ลงไปที่สันทราย ถ่ายรูปให้ ตรงที่ไกด์ลงไปยืนในน้ำนั้นเป็นสันทราย กลางแม่น้ำ เราต้องพายข้ามแม่น้ำเพื่ออ้อมไปเข้าทางปากแม่น้ำอีกทางเป็นป่าโกงกาง อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ว่าตรงนี้จะเป็นแม่น้ำหรือทะเลดี แหะๆ ถ่ายรูปกันแปบนึงก็ขึ้นเรือพายต่อ อ้อมมานิดเดียวจะถึงหาดเล็กๆ มาแวะตรงนี้ถ่ายรูปกันต่อ เป็นหาดเล็กๆ แล้วเขาหินล้อมรอบ


ไกด์บริการดีมาก ถ่ายรูปให้เราตลอด
เรามาถึงตรงนี้เป็นกรุ๊ปแรก เดินลงไปเล่นน้ำได้แปบนึงก็มีลำอื่นตามมาเรื่อยๆ ไกด์ก็เรียกให้เราไปต่อ


มีกลุ่มฝรั่งกรุ๊ปอื่น ซนมากๆ แรงดีมาก พายแซงกรุ๊ปของเค้ามาอยู่กับกร๊ปเรา กรุ๊ปเรานำขบวนนะคะ เค้าพายกันแบบเบาๆแต่เรือไปเร็วมากๆ ดูพายสบายๆเลย ชูชีพก็ไม่ใส่ สงสัยจะชอบพายเรือเล่นน้ำ

พายกันต่อ ส่วนเรานี่กว่าจะพายได้ ต้องออกแรงเหมือนกัน

  

แอบหันไปดูว่าทำไมพายเรืออกแรงเยอะขนาดนี้ โอ้โห พี่ท่านข้างหลังเอาแต่ถ่ายรูป ไม่ช่วยพายเลย กินแรงกันนี่นา พี่นี่เหนื่อยเลย


พายมาเรื่อยๆอากาศดี ฝนตกปรอยๆ ไม่ร้อนเลย ไกด์ก็ถ่ายรูปให้ตลอด

เพิ่งสังเกตว่าเรือตัวเองหน้าลอย เพราะอะไรน๊อออออ


พายมาถึงตรงนี้เป็นช่องเขา น้ำกำลังลง เชี่ยวมาก ต้องพายเรือทวนน้ำเข้าไป พายคยเดียวไม่กระดิกเลย ไกด์เร่งให้ไวๆ เพราะน้ำลง กลัวเข้าข้างในไม่ทันจะพายไม่ได้ต้องย้อนกลับ เลยหันไปดุฝีพายข้างหลังให้ช่วยพายหน่อย ปวดแขนล้าววววว


ผ่านตรงน้ำเชี่ยวมาได้แล้ว ก็จะมาถึงตรงที่ทางแคบๆ ป่าโกงกาง ถ้าน้ำลง เราจะพายไม่ได้ ต้องย้อนกลับ มาถึงน้ำก็ตื้นเกือบไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่โชคดีที่ไปต่อได้ 


อยู่ดีๆฝนก็ตกซู่ลงมา สะใจ
หลุดตรงนี้ไป ก็จะเจอ ถ้ำจระเข้ ไกด์อธิบายว่า เมื่อก่อนมีจระเข้อาศัยอยู่ แต่ปัจจุบันนี้เป็น mosquito cave ไปแล้วววว


พอฝนซา ในป่าโกงกาง จะยุงเยอะมาก อยู่นิ่งๆไม่ได้ยุงกัดตลอด ต้องขยับตัวตลอดเวลา แล้วก็เจอลิงด้วยค่ะ อยู่ไกลๆ คงเพราะฝนตก เลยไม่ลงมาเล่นด้วย อิอิ

ออกมาจากป่าโกงกางก็จะเป็นแม่น้ำละค่ะ


ตรงนี้ค่ะ สันทรายกลางแม่น้ำที่ไกด์ลงไปยืนถ่ายรูปตอนแรก พอน้ำลง ก็เผยให้เห็นสันทราย



ตอนนี้เกือบเที่ยงละค่ะ จะถึงท่าเรือแล้ว แดดออกพอดี แอบโชคดี ที่ฝนตก อากาศไม่ร้อนเลย แดดก็ไม่ร้อน มร้อนตอนใกล้จะถึงท่าเรือ

ถึงท่าเรือ จะมีผลไม้เย็นๆอย่างสัปปะรดกับแตงโมไว้บริการ สัปปะรดหวานชื่นใจมาก กินไปหลายชิ้น

สรุปทริปนี้ ออกพายตอนเกือบสิบโมง ถึงเที่ยง ใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมงกว่า ทัวร์มีน้ำขวดให้ มีกระเป๋ากันน้ำให้ เสื้อกันฝนมีขายไม่แพง มีผลไม้ให้ตอนเสร็จ ทริปนี้เราชอบมาก ประทับใจมาก มากๆถึงที่สุด แนะนำเลยสำหรับคนชอบผจญภัย เหนื่อยนะ แต่สนุกจนลืมเหนื่อย คราวหน้าเราจะมาซ้ำทริปพายเรือเต็มวันที่บ่อท่อ

จบทริปไกด์ก็พาไปส่งโรงแรม


พอมาถึงโรงแรม ขอผ้าขนหนูที่ล็อบบี้ พนักงานบอกห้องน้ำอยู่ข้างหลังล็อบบี้ พอเราเดินไป อ่าว ห้องน้ำอาบน้ำไม่ได้ เลยได้แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้า แล้วก็เดินออกมาฝากกระเป๋าไว้ต่อเพื่อจะไปหาอะไรกิน ถามข้อมูลพนักงานว่าจะไปร้านที่เกาะกลาง ไปขึ้นเรือที่ไหน พนักงานบอกว่าเดินไม่ไกล ออกจากโรงแรมเดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆลงเรือท่าที่2 ท่าใหญ่ เราหาข้อมูลมา ว่าค่าเรือไปกลับ200บาท แต่ยังเดินไม่ทันถึงท่าเรือที่2เจอลุงขับเรือเดินมาถามว่าไปมั้ย เราถามราคาบอก300 แถวนี้300ทั้งนั้น เค้าตั้งราคามาเท่ากัน แต่เราไม่ได้ไปถามเจ้าอื่นอีกนะคะ ราคานี้ต่อลำนะคะ ไป150กลับ150 เราตัดสินใจไปกับลุงคนนี้ เสียดายที่ไม่ได้ถามเจ้าอื่นอีก อาจมีถูกกว่า

ป่ะ นั่งเรือกัน


นั่งไม่นานก็ถึงร้านแล้ว ร้านบ้านมะหญิง หาข้อมูลมาจากพันทิพ


มาถึง เราสั่ง หอยหวานต้มตะไคร้(หอยตลับที่นี่เค้าเรียกหอยหวาน)  ใบเหลียงผัดไข่ น้ำพริกกุ้งสด พนักงานถามเอาปลามั้ย เอาไปทำได้2อย่าง เลยเลือก ปลากระพงมาทอดน้ำปลากับทำต้มยำ แล้วพนักงานก็บอกว่าพอก่อนนะครับเดี๋ยวจะกินกันไม่หมด จริงๆอยากกินหอยชักตีนด้วย แต่เค้าบอกว่าช่วงนี้ไม่มี อดไป ตอนแรกเห็นราคาในเมนูก็ว่าราคาสูงกว่าในเมืองนะ แต่พอเห็นปริมาณแล้วตกใจ กินกันไม่หมดแน่ๆ ปลาพนักงานก็บอกว่าเดี๋ยวเอาตัวเล็กๆให้ ตอนเราเดินไปดูที่เค้าจับในกระชังตัวไม่เล็กเลย มีแต่ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น เราคิดว่า หวังว่าตัวนี้คงไม่ใช่ของเรานะ แต่....




ปลามาแล้ว อึ้งมาก นี่แค่ครึ่งตัวนะ จะกินหมดมั้ยเนี่ยยยยย

เทียบกะช้อน


ต้มยำส่วนครึ่งตัวบน รสชาติใช่เลย รสจัด ถึงมากๆ พนักงานบอกว่าปลาที่นี่มีแต่3โลทั้งนั้น นี่ก็2โลกว่า เล็กที่สุดแล้ว

รูปรวม


มื้อนี้ ไม่หมดค่ะ เสียดาย ไม่อยากห่อขึ้นเครื่องด้วย ข้าวก็ไม่หมด เน้นกับข้าว ค่าเสียหาย 1300+ เฉพาะปลาที่มาทำต้มยำกะทอดน้ำปลา ก็900กว่าบาทแล้ว ใบเหลียง หอย น้ำพริก ข้าว2จาน น้ำเปล่า น้ำแข็ง1ถัง
กินเสร็จแล้ว2โมงครึ่งก็นั่งเรือกลับ ลุงขับเรือรอเราอยู่ที่ร้าน

สรุปร้านนี้ รสชาติอร่อย ปลาสดมาก จับในกระชัง ตัวใหญ่ สมราคา บรรยากาศดี ตอนไปคนไม่เยอะมี 3-4โต๊ะ เราไปตอนบ่าย อาหารได้ไว ในกระชังมีปลาปักเป้าให้จับถ่ายรูป แต่เราไม่ได้ถ่าย
ค่าเรือรวมค่าอาหาร1600นิดๆ ร้านข้างๆเป็นร้ากระชัง ขนาบน้ำวิวซีฟู้ด คนเยอะพอๆกัน เรือมีเหมานั่งชมวิวเขาขนาบน้ำด้วย 500บ.ไปกลับต่อลำนะคะ ไม่ใช่ต่อคน ไปเยอะจะหารได้ถูกลง เรือลำใหญ่นั่งได้หลายคน


กลับมาถึงโรงแรมประมาณบ่าย3 เอากระเป๋า นั่งเล่นสักพัก เตรียมตัวกลับสนามบิน เรามีไฟลท์กลับตอน19.45 ใครที่จะนั่งชัตเทิลบัสกลับสามารถโทรไปจองได้ ให้มารับที่โรงแรม แอบงง ทำไมตอนขามาส่ง จอดส่งไม่ได้ แต่เราไม่ค่ะ มีที่ถูกกว่า ตอนก่อนมาหาข้อมูลมาแล้วว่าข้างโรงแรมมีรถสองแถวไปสนามบิน ราคา20บ.แต่จะส่งแค่ข้างหน้า ถ้าจะให้ส่งข้างใน50บ. เดินไปถามคนขับก่อนนะคะ นั่งรอสักพัก รถก็มา รถสีฟ้าคันนี้ เดินไปถามคนขับโอเคตกลงราคา50บ.

นั่งรถประมาณครึ่งชม.ก็ถึงสนามบินประมาณ5โมงกว่า นั่งรอเชคอินจนหลับ พอเชคอินเสร็จก็เข้าไปรอที่เล้าน์กินรอ นั่งรอ นอนรอเรียกขึ้นเครื่อง โชคดีจังนั่งบางกอกแอร์ อาหารบนเครื่องขากลับเป็นข้าวกับลาบไก่ใส่ถั่วฝักยาว แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพลียร่างมากๆ

สรุปเรื่องโรงแรม เดินทางไป-กลับสนามบินง่าย มีหลายโรงแรมละแวกใกล้ๆ มีเซเว่น ใกล้ห้างโว้ค ตลาด ถนนคนเดิน ร้านอาหารปูดำ โกส้วงติ่มซำ ตลาดท่าเจ้าฟ้า ห้องนอนสบาย มีไดร์เป่าผม ปลั๊กไฟน้อย ควรเตรียมปลั๊กพ่วง ทีวีมีช่องน้อยแต่ไม่ค่อยได้ดู ห้องน้ำดี มีผ้าขนหนูให้ไปดำน้ำ ขอได้ที่ล็อบบี้ มีอาหารเช้าให้ ไม่ใช่บุฟเฟต์ ฝากกระเป๋าวันเชคเอ้าท์กลับ แต่ยังมีไปทริปได้ ห้องน้ำมีให้เปลี่ยนเสื้อผ้าตอนกลับจากทริป แต่อาบน้ำไม่ได้ ราคากลางๆมีแพงกว่านี้ มีถูกกว่านี้ แต่เราได้โค้ดลด50%จากเพจพี่ช้างของtraveloka เลยคุ้ม


สรุปทริปไปกระบี่ทั้งหมด
ค่าเครื่องบางกอกแอร์ 2คนไปกลับ 2200บ.
ค่าเดินทางชัตเทิลบัส2คน180+40บ.
ขากลับ100บ.
ทัวร์เกาะห้อง2คน1600บ.
พายเรือคายัคท่าเลน900บ.
ค่าห้อง2คืนประมาณ1300บ.
ค่าอาหารร้านปูดำประมาณ1200บ.
วันที่สอง500บ.
วันที่สาม1600บ.
ขนมจิปาฐะ500บ.
ทริปนี้คนละประมาณ5000นิดๆ กระบี่หน้าฝนเที่ยวได้นะ แต่ต้องลุ้นเอา ข้อดีคือ ประหยัด พอหน้าฝนทัวร์ต่างๆจะมีโปร ราคาถูก ค่าห้องถูก แต่ฟ้าไม่สวย น้ำไม่ใส

ทริปนี้จบแล้วค่ะ แล้วเราจะไปซ้ำแน่ สำหรับกระทู้นี้ จบแล้วค่ะ บ๊ายบายยยยย


ที่มา Pantip
Cr. เค้าหาว่าชั้นเป็นหมู