รีวิว KRABI | THAILAND กระบี่ 6 วัน ไปกันมั้ยล้าาาาาาาาา [รูปเยอะมาก]





มกราคมปีที่แล้ว เพื่อนมาชวนไปกระบี่กับโปรแอร์เอเชีย  เลยตอบตกลงไปอย่างไว หัวเราะ ใครชวนไปไหน ไปหมด พอคุยกันเสร็จ คืนนั้นก็ไปต่อสู้แย่งชิงมาในราคาเพียง 100บาทเท่านั้นอิอิ

แต่เดี๋ยวก่อน!!!
คิดว่าการไปมันจะง่ายและถูกขนาดนั้นหรอ.. ไม่จ่ะ.. จองผิด555555555อมยิ้ม08 
เรื่องความซวยเนี่ยขอให้บอก นี่เจ้าประจำ ลืมดูวันเปิดเทอมมหาลัย กำๆ ก็เซงกันไป

จนพฤษภาคม..
"เห้ยหงๆโปรแอร์เอเชียมาอีกแล้ว!! " (เสียงตื่นเต้นมาก) 
"ไปไหนดีอะ"
"แก้ตัวกระบี่ที่จองผิดกันหน่อยมั้ยล่ะ"
"เออว่ะ จริงด้วย ป่ะจัด!!"
"กี่วันดีอะ "
"ไม่อยากไปแค่2-3วันแล้วอะ ไม่สะใจเลย"
"สัก5-6วัน หงโอป่ะ"
"โอเครสเตนมยานมากๆ deal!!"
แล้วคืนนั้นก็มีเพื่อนคนเดิมเนี่ยแหละ ไปต่อสู้แย่งชิงมา ได้มาอีกแล้วนะครับ2ที่ในราคา590บาท น้ำตานิแทบไหล *ก้มกราบนาง*

อิสองนางนี่ตื่นเต้นมาก นั่งอ่านพันทิพ ดูรีวิวกันยาวๆ คือเราอยู่เชียงใหม่ ส่วนเพื่อนอยู่กรุงเทพ โทรวางแผนกันเรื่องทริปทั้งวันทั้งคืนอะพูดเลย55555555 แล้วก็จองทุกอย่างกันเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ตุลา

จะรีวิวจริงๆละ55555555555
กระทู้นี่เป็นกระทู้ที่2 ต่อมาจากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/35324768
อาจมีการใช้ภาษาวิบัติเล็กน้อย (จริงๆก็ทั้งหมดอะแหละ55555)
ถ้าผิดพลาดยังไง ขอโทษด้วยนะคะอมยิ้ม17
ถึงจะผ่านมานานพอตัว แต่เค้ายังจำได้ทู้กอย่างเลยยยยย






Day 1 : 24.12.2015
18.00 ดั๊นจองมาได้รอบเย็นซะงั้น ก็เลยต้องรอจนหกโมงเย็น แต่ไม่เป็นไร เราก็ถ่ายรูปไปพลางๆแบบชิคๆ การเดินทางตอนเย็นมันดีตรงที่ได้ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปพร้อมกับบรรยากาศกลางคืนของเมือง ซึ่งมันสวยมากจริงๆ
19. 25 ก็มาถึงกระบี่แล้ว ยะฮู้ ไงต่อละทีนี้ มาถึงดึกมาก เลยไม่รู้จะทำไรดี เริ่มจากหารถไปที่พักก่อนละกัน เค้าขึ้นรถShuffle busที่มีตรงสนามบิน ราคา90฿ ออกจากเกทมาเจอเคาท์เตอร์ขายเลย หาไม่ยาก พอได้ขึ้นรถShuffle bus ในรถนิมีแต่ฝรั่งหมดเลย มีเค้าเป็นคนไทยกับเพื่อนกันอยู่2กัน นั่งแค่ประมาณ30นาทีก็มาถึงจุดลงรถ โครตโชคดีเลยที่จุดลงรถของเค้าใกล้กับที่พัก เดินแค่300เมตรเอง ที่พักเค้าชื่อว่า ‘Pak up’ อยู่ตรงหัวมุมสุดของสี่แยกเลย ระหว่างทางที่เดินไป ก็เจอร้านขายทัวร์เลยแวะเข้าไปถามซะหน่อย ราคาถือว่าไม่แพงมาก ต่อรองแปปนึงก็ได้ทริปสำหรับพรุ่งนี้ ไป4เกาะ ทะเลแหวก แบบ sunset (เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าแบบ sunsetเป็นยังไง) ในราคา 850บาท ซึ่งถือว่าถูกแล้วนะ
ขอโทษทีนะ ลืมถ่ายที่พักมา มัวแต่เหนื่อยก็เข้าพักเลย ละก็ลืมไปเลย5555555
แต่เค้าเอารูปจากเวป www.hostelworld.com มาให้ดู 



ขอบคุณรูปภาพจาก www.hostelworld.com ด้วยค่ะ
สถานที่จริงก็เป็นแบบในรูปนี้เลย สวยและสะอาด อ้อ Pak up เป็น hostel นะ คือพักรวมๆกันกับคนอื่นด้วย แบบนี้ไง 



โดยรวมสะอาดมาก ที่นี้จะมีแยกเป็นห้อง แล้วก็ชื่อเตียงด้วย น่ารักมาก ถ้าเข้ามาอยากจับจองเตียงไหนก็เอาป้ายชื่อเราไปผูกไว้กับเตียง แล้วเตียงนั้นก็เป็นของเราทันที55555 



เค้าเลยเลือกนอนเตียงบนดีกว่า ชอบ ส่วนเตียงอื่นๆเป็นฝรั่งหมดเลย5555555 แต่แทบไม่มีใครอยู่ห้องเลย มีแต่คนออกไปปาร์ตี้ 
เค้าเลยเดินออกไปหาข้าวกินกับเพื่อน ตรงจากสี่แยกที่พักไปอีก200เมตร ทางเดินจะเป็น slopeลงไป แล้วก็จะเจอร้านข้าวเรียงรายเยอะมาก ราคาไม่แพงมาก เค้ากินไข่เจียว ใช่ ไปที่ไหนเค้าก็เลือกกินไข่เจียว55555555 พอกินเสร็จกลับมาที่พัก เคยอ่านเจอว่ามีบาร์ใกล้ที่พักมากๆ จริงๆคืออยู่หลังที่พักเลย ชื่อ Playground bar มีประตูจากที่พักเดินเชื่อมไปเลย เค้าไปดูบรรยากาศมาละ รู้สึกว่ายังไม่ใช่อารมณ์นั้นเท่าไร อยากนั่งชิวๆกว่านั้น เลยเดินไปร้านข้างๆที่พักดีกว่า





สั่งน้ำส้มไป รสชาติ เอ่อ… กินได้แค่ในรูปนั่นแหละ เพราะเสียดายตัง5555555555 แล้วก็กลับที่พักไปนอน ด้วยเวลาเที่ยงคืน พอละ เก็บแรงไว้พรุ่งนี้ดีกว่า






Day 2 : 25.12.2015
นี่ไง! เพื่อนร่วมทริปเค้าเอง ดูผ่านๆเหมือนเป็นคู่หูคนจีนมั้ยละ5555555 หลังจากที่ตื่น เพื่อไปออกทริปในวันนี้ก็คือทริป 4เกาะ แบบsunset และวันนี้คือวันคริสต์มาส!!! ขออินกับเทศกาลด้วยการใส่หมวกคริสต์มาสไปด้วยนะอิอิ และด้วยความที่บริษัททัวร์อยู่ใกล้ที่พักมาก เขาเลยบอกให้เดินมาเจอที่บริษัทละกันนะหนู ป้าดป้าเอ๊ยยยยย แดดความร้อนแรงร้อยองศาในตอนเที่ยง (เว่อละแหม่555555555) โอเคเดินมาเจอป้าโดยที่ไม่ได้กินข้าวอะไรเลย ไม่ใช่เขานัดเร็วขนาดนั้นนะ คือตื่นสายมาก ปาไปเกือบเที่ยงละมัวแต่แต่งหน้าอีก5555555 ความสวยต้องมาก่อน แม้ว่าเรากะลังจะไปลงน้ำก็ตาม แต่ลุงคนขับรถใจดีมาก แอบแวะเซเว่นให้ตอนก่อนจะไปรับผู้โดยสารคนอื่นๆ แหม่ สบายท้องไปอีกมื้อด้วยไส้กรอกเซเว่น 



ทีนี้จะมาอธิบายว่าทริปแบบsunset เป็นยังไง คือ ทริปปกติมันจะเริ่มเช้าละก็กลับมาตอนเกือบ5โมงเย็นงี้ใช่มั้ย แต่ทริปแบบsunset เนี่ยจะเริ่มบ่าย อยู่จนพระอาทิตย์ตกดินแล้วก็ดำดูแพลงก์ตอนเรืองแสง ตอนมืด แล้วค่อยกลับตอน2ทุ่ม เห็นมั้ย แค่ฟังก็อยากไปละ 



พอกินเสร็จก็เตรียมขึ้นเรือได้เล้ยย ตรงสถานที่ขึ้นเรือมันจะมีเรือเยอะมากๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้ไปเรือลำไหน ตรงสติ๊กเกอร์ที่เราได้แปะตรงหน้าอก รอบตัวป้าดโท้ะ มีแต่ฝรั่งหล่อเต็มไปหมด ในใจนี่ก็หวัง เราต้องได้ไปกับฝรั่งหล่อๆแน่ๆ คิดแล้วน้ำลายไหล ตาลุกวาว พอถึงตาเราขึ้นเรือ เค้ากับเพื่อนขึ้นเรือไปก่อนเป็น 2 คนแรก ก็มานั่งรอคนอื่น ทาออย ทาครีมกันแดดรอไป สักพัก ก็มีฝรั่งวัยรุ่นกลุ่มนึง! ประมาณเกือบสิบคน เดินตามมากำลังขึ้นเรือ แม่เจ้าโว้ยยยยย ฝันของลูกช้างเป็นจริงแล้ว หล่อโครตๆเลยแม่จ๋า เขาเหล่านั้นเดินขึ้นมานั่งใกล้ๆเค้า เพราะเค้าจะอาบแดด เลยไปนั่งด้านนอกที่มีแดด แต่คนอื่นๆนั่งด้านในหมดเลย เอ้าเสร็จกูละงานนี้ แล้วทันใดนั้นเอง ลุงเรือข้างล่างก็ตะโกนมาว่า ‘ hey comยิ้ม you guys! Go to another boat’ เดี๋ยวๆลุง อะไรนะ ให้ย้ายไปอีกเรือ? ลุงจะดับฝันหนูแบบนี้ไม่ได้นะ T_T 



โอเคจบไป มองไปรอบๆเหลือแต่คนจีน กับสัญชาติต่างๆนานา โอเค๊ น่ารักไปอีกแบบ มาแบบครอบครัวกันทั้งนั้น สรุปแล้วคือมีเค้านั่งด้านนอกคนเดียวเลย เพราะทุกคนหลบอยู่ในร่มกันหมด เพื่อนเค้าก็ด้วย ฟินไปสิ นั่งอาบแดดอยู่คนเดียว ไม่มีใครมายุ่ง (แหม่ลุงนะลุง เกือบได้อาบแดดกับฝรั่งหล่อละ ชิ)





วันนี้อากาศเป็นใจมากๆ แดดที่มีแรงแต่ไม่แรงจนเกินไป แล้วดูสิ มองไปทางไหนก็ดีไปหมด ทะเลที่กว้างมาก นั่งมองคลื่นกระทบกันไปเรื่อยๆ ลมตีหน้าได้แรงมาก เค้าเป็นชอบมองท้องฟ้า แล้ววันนี้ท้องฟ้าสวยจับใจเลย ก้อนเมฆก้อนใหญ่มาก ไม่มีอะไรมาบดบังเหมือนในเมือง มองไปทางไหนก็ได้ แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว นั่งดื่มด่ำอากาศและแสงแดดไปสักพักก็ถึงจุดที่ต้องลงจุดแรก 



Quote by Pinterest , Picture by me
จุดนี้แทบไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากเลย เพราะน้ำแรงมาก ว่ายทีนิโดนซัดออกไปตลอด ว่ายกลับก็ลำบาก เลยลงไปได้แปปเดียวก็รีบขึ้นก่อน กลัวโดนน้ำซัดไปไกล



ปะการังที่ให้ดูก็แทบมองไม่เห็นเพราะน้ำแรงมาก แปปเดียวก็ขุ่นอีกแล้ว แล้วเท่าที่เห็นก็คือหอยเม่นเต็มไปหมด 



กลับมานั่งชมวิวทะเลอีกครั้ง ห้อยขาแบบนี้ตลอดทาง และเช่นเคย นั่งด้านนอกคนเดียว เพราะคนอื่นหลบในที่ร่มกันหมด อิอิ 



และแล้วก็มาถึงจุดดำน้ำที่2 ไม่รู้มีชื่อรึป่าว ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไร แหะๆ ละไปถึง คือตรงที่เค้านั่งปกติมันจะแดดใช่มั้ย แต่ทีนี้พอไปจอดหลังหน้าอันนี้ มันร่มมากเลย แล้วทุกคนผู้หลบแดดอยู่ก็กรูกันออกมาจนด้านในคือโล่ง เบียดกันมาก จนเค้ายอมเข้าไปด้านในก็ได้ ปั้ดโถ่ ทีงี้นะ555555555 



จุดนี้ก็มองไม่เห็นไรมากเหมือนเคย5555555 มีแต่หอยเม่นอีกละ น้ำขุ่นไปนิด แต่ไม่เป็นไร ไฮไลท์มันอยู่ตรงที่หน้าผานี่แหละ ปีนได้! แล้วก็กระโดดลงมา มันสูงมากจริงๆนะ ฝรั่งนิรีบว่ายไปแย่งกันโดด ส่วนทางนี้หรอ หึ กลัวความสูงค่า5555555 ได้แต่ดูอยู่ด้านล่าง แล้วก็ดูคนอื่นโดดลงมาด้วยความเสียว





เห็นมั้ย ฝรั่งกำลังปีนบนผาเพื่อไปกระโดด ส่วนเค้าก็ถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนลูกเดียวเลย สักพักก็มีเสียงนกหวีดหรือนกหวีดมือเนี่ยแหละ ดังมาก บอกว่า จะมีการโดดโชว์ แล้วพี่เขาก็ชี้ขึ้นไปที่พี่ไกด์คนนึง โอ้โหหหห พี่เขาไต่ไปสูงมาก แบบสูงมากๆจริงๆ เหนือฝรั่งคนอื่นๆไปเกือบ3เท่าอะ แล้วทุกคนก็เงียบมาก รอดูพี่คนนั้นโดด โห! พอโดดเท่านั้นแหละ ทุกคนแบบเฮ ปรบมือเลย เค้านี่ก็อึ้งไปด้วย กลัวแทนมากกว่า55555 พอดีกลัวความสูงมาก



สภาพเรือก็ประมาณด้านหลังนี้เลย เค้าไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพเพราะเห็นว่าน้ำมันแรง แล้วเค้าลงมาถ่ายรูปใกล้ๆเรือ เลยถอดออกหน่อย เพื่อไม่ให้อึดอัด การมาทริปแบบ sunset มันดีตรงไหนรู้มั้ย ตรงที่เราแทบไม่ต้องไปเบียดกับทัวร์อื่นๆเลย เพราะทัวร์อื่นออกแต่เช้าไปแล้ว บ่ายๆก็แทบจะเตรียมตัวกลับกันหมด แต่นี่เค้าเพิ่งไปเอง คนก็มีแค่คนจากในเรือที่เค้าไป กับเรืออีกลำที่ลุงไล่dกลุ่มฝรั่งหล่อไปนั่ง (พูดละน้ำตาจะไหล เจ็บใจสุดๆ555555555)



แล้วทีนี้พี่ๆไกด์เรือจะบอกให้เรือทั้ง2ลำ เลือกว่าจะไปไหน ระหว่าง ทะเลแหวก ต่อด้วยเกาะปอดะ กับไปชมเกาะไก่ แหม๊คุณค่ะ มีหรือชั้นจะพลาด unseen Thailand ไปค่ะ เลือกไปทะเลแหวก แต่งงเหมือนกัน เรือทั้ง2ลำรวมคนเป็น40-50คน แต่มีคนไปทะเลแหวกแค่ประมาณ10 คน นอกนั้นไปเกาะไก่หมดเลย แต่โนสน กี่คนชั้นก็จะไปดู unseen Thailand นั่งเรือหางยาวไปสักแปปก็ถึงแล้ว ทะเลแหวก unseen Thailand ของเค้า





พอไปถึง สิ่งที่เห็นคือ ทรายสีขาว ดูสะอาดเวอร์ แบบนี้เลย นุ่มตีนมากบอกเลย 
แล้วเค้าและเพื่อนก็ไปจ่ายเงินขึ้นเกาะอะไรเรียบร้อย ก็เดินหาทะเลแหวกไปเรื่อยๆ




แท๊นแท่น! ถึงแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ทะเลแหวกมั้ย แต่มันแหวกนะ จริงๆ5555555555 แต่ด้วยอารมณ์ที่ไปถึงคือ อ่าวแค่นี้เองหรอ กูเข้าใจแล้ว ทำไมไม่มีใครมากับกู แหม่ ไปเกาะไก่กันหมดเลยนะ55555555555 



แต่เวลานี้ กับคนที่แทบจะไม่มี มันเหมาะมากกับการนอนอาบแดด ชิวเลย พี่เขาบอกว่าให้เวลาทีนี้ 40นาที แหล่มละทีนี้ นอนอาบแดดไปเรื่อยๆ แอบมีเงาของเพื่อนมาด้วยเล็กน้อย555555





พอถึงเวลาที่พี่ไกด์นัด ก็ต้องไปแล้ว ยังไม่อยากไปเลย กำลังชิว สถานที่ต่อไป คือ เกาะปอดะ



ระหว่างไปเกาะปอดะ ข้างทางเวลานี้มันสวยจริงๆ เวลาเย็นๆ แสงแดดกำลังดี ส่องลงมาที่น้ำทะเล ระยิบระยับ (พอๆเริ่มเพ้อเจ้อละ555555) แต่มันสวยจริงๆนี้คอนเฟิร์มให้มาทริปตอนเย็นเลย



มาถึงแล้วเกาะปอดะ จะบอกว่าทรายนะขาวกว่าทะเลแหวกมะกี้ซะอีก แถมคนนิมีแต่พวกเค้าที่ไป แทบจะเรียกได้ว่าเกาะตรงนั้นเป็นของเค้าจริงๆ เดินสำรวจไปได้แปปเดียวก็รู้สึกเหนื่อยละ เลยเลือกที่จะนั่งเฉยๆชมวิว ถ่ายรูปเล่นดีกว่า 





นี่เป็นรูปถ่ายจากมุมที่นั่งนะ 



เค้าลืมเช็คหน้ากล้อง มันขุ่นมัวมากโดยเค้าไม่รู้ตัวเลย และแล้วพี่ไกด์ก็เรียกพวกเราทั้งหมดขึ้นเรือ เพื่อจะไปที่หาดพระนาง
ด้านหลังคือ ถ้ำพระนาง ที่ตรงหน้าผาเนี่ย มีฝรั่งมาปีนผาเยอะมากเลย ผาตรงนี้ดังมากๆ แต่เห็นความสูงแล้วขอถอยหนี รอดูอยู่ตรงนี้จะดีกว่า 555555



อันนี้คือ ศาลที่ถ้ำพระนาง จะมีปลัดขิก วางอยู่เต็มไปหมดเลย เค้าก็ไหว้ขอให้คุ้มครองให้ทริปนี้ปลอดภัยทั้งเค้าและเพื่อน



หาดนี้ฝรั่งเยอะมากๆ เหมือนทุกคนมารวมตัวตรงนี้เลย แล้วที่พักก็มีนะ เยอะด้วย แต่ได้ข่าวว่าแพงหูฉี่เลย นี่ก็มานั่งพัก รอดูพระอาทิตย์ตก นั่งไปส่องไป มีบางครอบครัว ถ่ายรูปทำท่าตลกๆด้วยกันโครตจะน่ารักอะ ทุกคนเวลานั้นดูชิลไปหมดเลย นั่งดูพระอาทิตย์บ้าง เดินเล่นกับแฟนบ้าง ไม่ก็เล่นน้ำกับครอบครัว อินี่นั่งดูไปด้วยก็ปริ่มยังไงบอกไม่ถูก



นั่งไปสักพัก พระอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้า



กลายเป็นท้องฟ้าสีพาสเทลแบบนี้



สียิ่งเข้มขึ้นจนเป็นสีหวานขนาดนี้ โอ้ย บอกไม่ถูกเลยนะ ตอนนั้นมันปริ่มมากสำหรับคนที่ชอบมองท้องฟ้าแบบเค้า มันอยู่บนหัวเราแบบเหมือนจะเอื้อมมือไปจับได้เลยอะ ชอบมากจริงๆ อยู่เชียงใหม่ นานๆทีจะได้เห็นท้องฟ้าสีนี้ ที่เคยเห็นก็ไม่เคยเต็มท้องฟ้าขนาดนี้ แต่นี้มันทั้งท้องฟ้าจริงๆ



สีเป็นแบบนี้จริงๆนะ เหมือนโลกเราถูกใส่ฟิลเตอร์สีชมพูเลย รูปนี้ไม่ได้แต่งเลย อยากให้เห็นว่ามันชมพูจริงจังมาก5555555 ส่วนหมวกนั้น ไม่ถอดค่ะ สุขสันต์วันคริสต์มาสอย่างเต็มที่ ต่อจากนี้ก็นั่งชิลรอเวลาที่พี่ไกด์นัด นั่งไปแบบเดียวก็หกโมงกว่าแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ เค้ากับเพื่อนเลยเดินไปรอที่จุดที่ไกด์นัดเพื่อรับไปกินข้าว ที่กลางทะเล แล้วก็ต่อด้วยดำน้ำอีกนิด ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก เราจะดำน้ำกันต่อ มืดๆเนี่ยนะ? ใช่ ยิ่งมืดยิ่งดี เพราะเราจะดำน้ำกับแพลงก์ตอนเรืองแสง!



รูปที่กิน BBQบนเรือไม่มีนะ โดนความหิวครอบงำ กินด้วยความเร็วสูงมาก5555555 คือพี่ไกด์เขาพาไปจอดกลางทะเลชิดโขดหินคู่กับเรือของกลุ่มฝรั่งหล่อ (ยังเจ็บใจอยู่ฮรืออออ) แล้วก็ให้เลือกตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เลย กองเท้ามันต้องเดินด้วยท้องอยู่แล้ว หึ! จัดไปจานใหญ่มาก อาหารอร่อยมาก มีบาร์บีคิว น่องไก่ทอด ผัดผักอะไรสักอย่าง กินไปส่องฝรั่งไป พอกินเสร็จสักพัก ก็ถึงเวลาดำน้ำกับแพลงก์ตอนเรืองแสงแล้วเย้! พี่ไกด์แบบให้ทุกคนที่อยากลงไปดูเตรียมสนอคเกิลให้พร้อม แล้วว่ายไปตามเชือกที่พี่เขาผูกติดไว้กับโขดหิน บอกเลยว่าเค้าก็แอบกลัวเบาๆ เดี๋ยวมันจะมืดหมดเลยหรอวะ ไรงี้ เพราะตอนนั้นคือมืดแล้ว ท้องฟ้าสีดำเลย พอลงไป พี่ไกด์ก็นับถอยหลังปิดไฟ แม่เจ้าโว้ยยยยยยย กูเสียวสุดในชีวิตเลย กลัวความมืดโว้ยยยย พอนับ 3..2..1.. นี่เตรียมตามืดเลย มืออีกข้างขอจับพี่ไกด์ไว้แปป กลัว555555555 สรุปไม่มืดเห้ย เพราะมันมีแสงจากดวงจันทร์มาช่วย ถือเป็นว่ามองเห็นกำลังดีเลย เอาละทีนี้พี่ไกด์ก็บอกใส่สนอคเกิลดำลงไปดูเลย ไอ่เราก็เอาหัวจลงน้ำเลย โอโห้ *0* มันเกินบรรยายจริงๆ แพลงก์ตอนเรืองแสงมันเป็นยังงี้นี่เอง ยิ่งเรากวาดมือกวาดเท้านะ มันจะออกมาจากมือเท้าเรายั่งกะเรามีเวทมนตร์เลย ยิ่งสะบัดมือเท้าไปมาแรงเท่าไร แพลงก์ตอนยิ่งออกมาชัดและเยอะมาก เอาละสนุกละทีนี้ปล่อยมือพี่ไกด์เลยจ้า555555 ด้วยความที่เค้าไม่ใส่ชูชีพ เค้าสามารถลงไปได้ทั้งตัว ดำลงไปเลยงานนี้ แล้วไปหมุนตัวอยู่ใต้น้ำ แล้วแพลงก์ตอนมันก็รอบตัวเรา สวยมากๆเลยเหมือนอยู่คนละโลกจริงๆ กูมีเวทมนตร์เว้ยเห้ย เพลินจริงไรจริง จนกระทั่งถูกตรีนของใครสักคนเตะเนี่ยแหละ555555555 เลยขึ้นมาบนผิวน้ำ แล้วพี่ไกด์ก็เรียกให้ขึ้นเรือพอดี ทุกคนขึ้นเรือโดยปลอดภัย ระหว่างทางที่กลับฝั่งก็ดูพระจันทร์ไปด้วย วันนั้นพระจันทร์เต็มดวง ส่องสว่างมากกลางฟ้า สวยแบบสุด วันนี้รู้สึกปริ่มมากจริงๆที่ได้มาทริปนี้ สำหรับใครที่กำลังดูทริป เค้าขอแนะนำทริปแบบ sunset เลยนะ แล้วคุณจะได้เห็นทะเลในอีกมุมมองนึงที่คุณต้องหลงรักไปอีกแน่ๆ



พอขึ้นฝั่งมาแล้ว ก็ยังไม่จบแค่นั้นนะจ๊ะ มีการแสดงควงไฟจากพี่ๆไกด์นี่แหละ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้เลย สุดยอดเลย สนุกดี และแล้วก็จบทริปวันนี้ไปอย่างสวยงาม ปลื้มปริ่มมากๆ พี่ไกด์ทุกคนดูแลดีแล้วก็เฟรนลี่มากๆ เค้าต้องขอโทษด้วยที่ลืมชื่อทัวร์ แต่คนกระบี่น่ารักหมดแหละ ไปกับทัวร์ไหน เค้าก็เชื่อว่าพี่ไกด์จะดูแลเราดี หลังจากนี้ก็มีรถตู้ไปส่งตามโรงแรมต่างๆ เค้าก็ขึ้นรถตู้ไป แต่เอ้ะ วันนี้มันมีถนนคนเดินนี่หน่า แล้วถนนคนเดินก็ใกล้ที่พักซะด้วย อิอิ ไปสิ แหม่



เค้าเลยขอให้พี่คนขับรถตู้มาส่งที่ถนนคนเดินแทน แล้วจะหาทางกลับเอง พอมาถึง รู้สึกคิดถึงถนนคนเดินเชียงใหม่55555555 บอกตรงๆว่าในชีวิตนี้ ไปเดินที่ถนนคนเดินที่ไหน ก็สู้ถนนคนเดินเชียงใหม่ไม่ได้จริงๆ แต่ถนนคนเดินที่นี่ก็ดีทีเดียวนะ ของกินเยอะแล้วก็อร่อยมาก แต่เค้าก็กินไปได้ไม่เยอะหรอก ยังอิ่มข้าวเย็นที่ซัดไปเยอะมากอยู่ จริงๆกะว่าจะมาหาโรตี ที่เพื่อนแนะนำมาว่ายังไงก็ต้องไปกิน แต่ดันปิดวันนั้นพอดี ชวดเลย แต่เดี๋ยวกลับมากินแน่! โรตีหน้าห้างโวค เจอกันค่ะ แล้วหลังจากนั้น เค้าก็หารถกลับที่พัก เป็นวินมอไซด์ ราคาคนละ20 ใกล้มาก ประมาณ2ซอยถนน แต่เค้าเดินไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก พี่วินมีแอบไม่เชื่อว่าเป็นคนไทย555555  เขาบอกว่านึกว่าเป็นคนจีน ปลอมมาหลอกพูดไทยใส่เฉย เลยได้ลดราคาจาก 30บาท พอมาถึงห้องก็เหนื่อยมากแล้ว ไม่ออกไปไหนแล้ว พักจ้าพัก รอเก็บแรงไว้ดีกว่า




Day 3 : 26.12.2015
ด้วยความที่เมื่อวานเหนื่อยมาก วันนี้เราทั้งคู่ก็ตื่นปาไปเกือบเที่ยงวัน555555555 ทริปที่ตอนแรกว่าจะไปสระมรกต สำหรับวันนี้ก็ยกเลิกไป เพราะกว่าจะหารถจากในตัวเมืองมาที่อ่าวนาง เช็คอินเข้าที่พักก็บ่ายกว่าแล้ว วันนี้จะพักที่ ‘Glur hostel’ เป็นโฮสเทลอีกตามเคย ต้องขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมาอีกแล้ว เพราะลืม แหะๆ พอเก็บของเข้าห้องพักอะไรเสร็จ ก็เดินออกจากที่พัก ค่อนข้างใกล้อ่าวนาง แต่ดันอยู่ในซอยเนี่ยแหละ เค้าเดินออกมาเพื่อหาทริปสำหรับวันต่อๆไป ได้ทั้งทริปไปเกาะพีพี ไปสระมรกต แล้วก็รถตู้ไปเกาะลันตา ถือว่าได้ครบทุกอย่างเลย 



เดินเล่นไปตามร้านค้าแถวหาดนี่แหละ ตรงนี้ไม่ต้องกลัวจะไม่มีทัวร์หรอก คือทัวร์เยอะมาก เรียงกันเป็นแถวเลย เค้าไปต่อราคามาจนแบบ เห้ยถูกแล้วอะ555555 ที่เค้าออกทริปเกือบทุกวัน ยกเว้นวันนี้เพราะต้องเดินทางอะไรหลายอย่าง เลยถือว่าเป็นวันพักไป เพราะเค้ากับเพื่อนชอบดำน้ำแบบสนอคเกิลมาก เลยจัดไปทุกวันเลย ยอมทุ่มเงินตรงนั้นเลยทีเดียว



ถึงแล้วหาดอ่าวนาง น้ำไม่ใสเลย คนค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นถิ่นธุรกิจ ตรงนี้จะเจริญมาก ของก็แพงมากเช่นกัน 
ตอนนั้นเวลาประมาณ4โมงเย็นได้แล้ว เค้ากับเพื่อนก็เลยเดินชิวแถวนั้น กะจะรอดูพระอาทิตย์ตก เค้าก็อาบแดดรอไปพลางๆ แดดกำลังดีมากเลย ไม่แรงจนเกินไป



ยิ่งตอนเย็นมากเท่าไร คนก็ยิ่งมานั่งเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนทยอยมากันเป็นแถวเลย



เอ้าไหน มองผ่านแว่นกันแดดบ้างสิ



พอถึงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้ามันก็สวยยังงี้หล่ะ (หรือกูถ่ายไม่สวยเองหว่า) แต่จริงๆมันสวยมากนะ เป็นวันที่2แล้วที่ได้ดูพระอาทิตย์ตก ยังสวยเหมือนเดิมเลย แค่สวยกันคนละแบบกับเมื่อวาน



แล้วถึงเวลาเย็น ที่อ่าวนางครึกครื้นมากเลย เพลงเปิดกันกระหึ่มมาก แต่เค้าเลือกที่จะมานั่งชิวที่ร้านนี้ดีกว่า จำชื่อร้านไม่ได้เลย เป็นร้านที่ไม่ติดหาด แต่มี2ชั้น โดยชั้นบนเป็นชั้นลอย บรรยากาศชิลเว่อ เลยขึ้นมาชั้นบน บรรยากาศเป็นแบบที่เห็นในรูปเลย



แล้วเค้าก็ย้ายโต้ะมาตรงที่ด้านนอกนิดนึง อยากนั่งหันหน้าออก แล้วก็มองคนเดินผ่านไปผ่านมา จบวันนี้ไปแบบสวยงาม เข้าที่พักไปนอนหลับ เตรียมพร้อมสำหรับเช้าพรุ่งนี้ที่จะไปเกาะพีพีดีกว่า เฮ้!






Day 4 : 27.12.2015
ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยวิวแบบนี้จากหน้าต่างเตียงเค้าเอง ที่พักที่นี้สวยดีนะ สะอาด เตียงกว้างด้วย ชอบกระบี่ตรงที่จุดที่ใกล้ทะเลก็ยังมีเขา คือได้ฟีลผสมกันที่ดีมากเลย เอาละ อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมสำหรับทริปในวันนี้



ทริปวันนี้เค้าตื่นเต้นเพราะอยากไปเกาะพีพีนานแล้ว แต่งตัวเก็บของแล้วไปโลดดดด ปล.คนไทยนิไม่เคยตรงเวลาเลยจริงๆ วันนั้นไปช้าเพราะรอกลุ่มคนไทยกลุ่มนึง น่าเบื่อมาก อยากฝากสำหรับคนที่ไม่ชอบตรงเวลาเนอะ ช่วยเห็นใจกันเถอะ คนอื่นที่ตรงเวลา เขาเดือดร้อนไปด้วย เกือบไปทริปไม่ทันแหนะ 



นั่งเรือไปสักพัก พี่ไกด์ก็พูดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่หยุดเลย จนมาถึงที่นี้เลย เกาะไม้ไผ่ มีแต่ไม้ไผ่รึป้าวไม่รู้ไม่ได้เดินเข้าไปดู55555555 หรั่งแถบนี้นิพรีเมี่ยมทั้งนั้น ด้านหลังจะน่ารักนะบอกเลย นั่งเรือมาด้วยกัน หุหุ 



คนโครตจะเยอะเลย กะจะหาที่สงบซะหน่อย หาไปหามา ในที่สุด!! ก็หาไม่ได้555555 ก็ไม่เป็นไร ตามนั้น



แบบที่สงบที่สุดก็หาได้แค่นี้แหละ 



น้ำที่นี้ใสไม่แพ้ที่อื่นเลย ใสๆกับทรายสีนวลตา ตัดกับท้องฟ้าแบบนี้ โห ปลื้ม ติดอย่างเดียว ให้เวลาตรงนี้น้อยไปนิด ถ่ายรูปอยู่แปปนึงก็อยากเล่นน้ำ เล่นได้แปปเดียว วิ่งไปตามที่พี่ไกด์นัดแทบไม่ทันแหนะ 



มีความสีตัดกันเยอะมาก ทรายสีออกเกือบขาวกันเลยทีเดียว



คลื่นทีนี้แรงใช่ย่อยเลยนะ เผลอเซลงไปนิดหน่อย โดนซัดออกไปอย่างแรงอะ





ไม่เชื่อดูว่าซัดแรงมั้ย
ซัดทีกูปลิวเลย



มาๆขอมาในมาดนิ่งๆบ้าง



หลังจากที่ขึ้นเรือไป พี่ไกด์ก็พาไปที่จุดดำน้ำนึง ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกัน พี่เขาบอกว่า ตรงนี้เป็นจุดดำน้ำจุดแรก



ถ้าถามว่าสวยมั้ย ขอบอกว่าเฉยๆเลย ไอ่ปลาเนี่ยเต็มไปหมด ปะการังก็ไม่มีอะไรมากเท่าไร แต่น้ำใสอยู่นะ 



อุตส่าห์ได้โดรมมาใช้ ดันมาเสียซะได้แหม่ ภาพที่ได้ก็แบบนี้แหละ แล้วก็พังเลย T_T



Quote by Pinterest 
สนับสนุนให้ทุกคนออกไปเที่ยวค่ะ การได้ออกไปในหลายๆที่มันทำให้เราได้เปิดโลกที่กว้างขึ้น เปลี่ยนมุมมองของเราให้กว้างออกไป



นั่งเรือได้สักพักก็มาถึงอ่าวปิเละ หรือว่า  blue lagoon นั่นเอง สวยมากเลย แต่เรือเยอะไปหน่อย 



น้ำตรงนี้เป็นสีเขียวมรกตแบบนี้จริงๆนะ อารมณ์เดียวกับที่ตรังเลย แต่เป็นพื้นที่ใหญ่กว่าเยอะอะ แล้วเรือก็วุ่นวายไปหมด จนเค้านี่หมดอารมณ์กลับไปนั่งในเรือเลย เรือผ่านไปมาเยอะเกิน







แล้วพี่ไกด์ก็พามาที่อ่าวมาหยาก่อน โอ้โหคนเยอะแบบ ชั้นจะไปอยู่ส่วนไหนของที่นี้เนี่ยยยยยยย คือคนเยอะจริงๆ เยอะเกินไปมากๆ เดินนิแทบชนกันวุ่นวาย ดูได้จากภาพเลย นี่แค่เบาๆนะ เพราะคนกลับไปส่วนใหญ่แล้ว



ที่นี้ฝรั่งนอนอาบแดดเต็มไปหมดเลย เค้านิอาบแดดเสร็จก็ขอไปแช่น้ำสักนิดนึงพอให้ไม่ร้อนเกินไป แต่พีคมากตอนที่ไปเล่นน้ำ ดันลืมถอดแว่นกันแดด ฮรือ หายไปยังไม่ทันรู้ตัวเลย รู้อีกที บนเรือนะจ๊ะ โอ้ย เจ็บปวดมากที่ในวิดีโอตอนเล่นน้ำ มีตอนที่แว่นหล่นด้วย คาตาเป็นวิดีโอเลย เจ็บใจที่สุดอะ T_T 



แล้วพี่ไกด์ก็พาไปดำน้ำอีกที่นึงหลังกินข้าว ก็เหมือนก่อนหน้านี้คือไม่มีอะไรเท่าไร แต่น้ำใสมาก เลยไม่ได้ถ่ายอะไรมามาก
หลังจากดำดูปะการังเล็กๆน้อยๆก็ถึงเวลากลับแล้ว แดดร้อนมากๆ มีความเพลียแดดเบาๆ



ตอนเย็นนั้นคลื่นแรงมากกกกกก พี่ไกด์บอกว่าคลื่นสูง3เมตร แต่ความรู้สึกกูคือ น้ำท่วมโลกรึป่าวเนี่ย ละนี่นั่งท้ายๆเรือ น้ำสาดมาแบบ ต้องเอาสนอคเกิลมาใส่อะ55555555 กลับไปถึงห้องคิดว่าเป็นไง ไข้-สิจ๊ะ นอนซมอยู่ห้องเลย แดดวันนี้มันแรงไปจริงๆ แต่เป็นไข้นะ ก็ยังแอบเดินออกไปถนนคนเดินเล็กๆตรงก่อนถึงหาดอ่าวนางแปปนึง ไม่อยากป่วยเลย ขอสู้ตายเพื่ออาหาร ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่ป่วยหนักขึ้นก็พอ

Day 5 : 28.12.2015
วันนี้ตื่นขึ้นมาด้วยความจากการทะเลาะกับนางที่มาจากสวีเดนเมื่อคืน นางเปิดแอร์แรงมาก ละนางก็ยึดรีโมตแอร์ไปไว้ไหนไม่รู้ ทั้งๆที่เค้าบอกว่าเค้าไข้ขึ้น นางก็ไม่ยอม จ่ะ ไม่มีความมีน้ำใจเอาซะเลย วันนี้ก็ได้มาที่น้ำตกร้อน กับสระมรกต นั่งรถออกมาจากที่พักไม่นานมาก ประมาณชั่วโมงนึงก็มาถึงที่แรก น้ำตกร้อน!



เค้ามาตอนที่คนเยอะไปหน่อย แทบจะแย่งกันอยู่แล้ว ถ้าใครอยากมาไม่เจอคนเยอะมาก แนะนำว่าให้มาเช้าๆหน่อย ลักษณะของที่นี่ก็จะเป็นบ่อ แล้วแต่ละคนก็ไปนั่งจับจองได้เลย หินจะค่อนข้างลื่นนิดนึง ต้องระวังด้วย





ที่นี้น้ำร้อนจริง งงดีร้อนได้ไง แต่สบายตัว ที่นี้บอกแช่แค่15-20นาที แต่ละคนเลยได้แช่แค่แปปเดียวก็ต้องขึ้น



ทีนี้เราก็จะมาต่อกันที่ สระมรกต จากการนั่งรถมาจากน้ำตกร้อนไม่ถึงชั่วโมง เดินตามทางที่บอกเข้ามาไม่ลึกมาก ก็ถึงที่นี้จนได้ วินาทีแรกที่ไปถึงแล้วเห็นสระมรกต คือ แค่นี้หรอ? จริงหรอ? แต่มันก็สวยจริงๆนะ สีน้ำเขียวมรกตเลย แต่แค่งงว่ามันเล็กกว่าที่คิด 

นี่ไงแหล่งที่น้ำไหลมา แต่จริงๆก็ไม่รู้หรอกว่ามาจากตรงไหนอยู่ดี 555555



ความพยายามทั้งเกือบชั่วโมง คือพยายามถ่ายรูปนี้นี่แหละ ขว้างกล้องกันจนเมื่อยอะ5555555 พอถึงเวลาก็รีบกลับไปเจอที่รถ เพราะต้องรีบกลับไปที่พัก เดี๋ยวจะมีรถมารับไปเกาะลันตากันต่อในค่ำคืนนี้



เรานั่งรถตู้มาจากที่พัก แล้วก็ยาวจนข้ามเกาะลันตาน้อย เพื่อไปเกาะลันตาใหญ่ โดยการข้ามไปเนี่ย จะให้รถเข้าไปจอดอยู่ที่เรือยักษ์ เป็นการข้ามทะเลมาแบบช้าๆ





โดยการรอเรือข้ามไป ก็แล้วแต่คนว่าจะอยู่รอในรถ หรือจะออกมาเดินเล่นไปพลางๆก็ได้ แต่สิ่งที่ทุกคนจะได้เห็นเหมือนกัน คือ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแบบนี้ เป็นอีกวันแล้วที่เค้าได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน รู้สึกชิลสุดๆไปเลยกับการยืนตรงนั้น ดูพระอาทิตย์ตกดิน พอมืดก็เข้าไปรอในรถ แล้วก็เริ่มสังเกตว่า นี่กูถึงแล้วนิหว่า แม่เจ้าโว้ยยยยย มีแต่ฝรั่งเด็ดๆทั้งนั้น ผมนิเกาะกระจกเลย คือเคยได้ยินมาว่าเกาะลันตาเนี่ยฝรั่งเยอะมาก ดังมากในหมู่ฝรั่ง เพื่อนฝรั่งเค้าก็เคยบินมาเพื่อมาเกาะลันตาที่เดียวด้วยนะ คนไทยแทบไม่ไปกันเลย ที่นี้ดูมีความมีเอกลักษณ์อะ มีความเป็นชุมชนดี น่าเสียดายที่ได้มาที่นี่กลางคืน แล้วพรุ่งนี้ก็เตรียมตัวกลับซะแล้ว



หลังจากที่เราไปถึงตอนประมาณทุ่มครึ่งก็เช็คอินเข้าที่พักทันที คืนนี้จะพักที่ lanta hug hostel ไม่ค่อยคุ้มกับราคาที่ต้องจ่ายเท่าไร แต่ก็ไม่แย่เลย ค่อนข้างสะอาด มีโต๊ะสนุ๊กไว้ให้เล่นด้วย หลังจากที่เช็คอินเสร็จก็ไปติดต่อที่จะไปดำน้ำเกาะรอกในวันพรุ่งนี้ ที่ร้านทัวร์ตรงข้ามกับที่พัก ไปถามพี่เขา สิ่งเดียวที่ได้กลับมาคือ เต็มค่ะน้อง… อะไรนะ เต็ม?! เห้ยเต็มไม่ได้นะ แล้วแพลนพรุ่งนี้อะ ตอนนั้นลนมาก กลัวไม่ได้ไป เพราะพี่เขาบอกว่า เค้าสองคนไม่จองมาก่อนเอง ฝรั่งเขาจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ ดังนั้นแนะนำใครจะมาก็จองไปก่อนนะคะ เพื่อความชัวร์ ทีนี้ก็ขอให้พี่เขาประสานไปเจ้าอื่นให้หน่อย ซึ่งก็เต็มหมด ก็หมดหวังนะ แต่ก็ขอพี่เขาช่วยละจริงๆ เพราะตั้งใจมามากๆ มาเพื่อไปเกาะรอกเลย สรุปพี่เขาช่วยจ้า ยะฮู้ ยัดกูสองคนลงไปได้จ้า55555555 ต้องขอบคุณพี่จริงๆและขอโทษผู้ร่วมทริปในวันนั้นด้วยที่ไปเบียด เอ้าละ พอได้ทริปแล้วก็ต้องหาของกินสิ ยังไม่ได้กินไรเลยตั้งแต่ก่อนมาแล้ว หิวสุดๆ หาในเน็ตไปเจอร้านนึง ไปโลดดดดดด เรียกรถตรงนั้น ไปประมาณ20นาทีได้ ขอเร่งพี่เขาด้วยเพราะหิวมาก555555ไปถึงก็สั่งจัดเต็มโต๊ะกันไป อร่อยมาก ชื่อร้าน ลานตาซีฟู๊ด  จ่ายไปคนละ600 แต่ยอม เพราะอร่อย คุ้มแล้ว บรรยากาศที่ร้านก็ดีมาก ติดริมน้ำเลย หลังจากนั้นก็กลับมานอนเก็บแรงไปเกาะรอกพรุ่งนี้ คร่อกกกกกกก… Zzzz…






Day 6 : 29.12.2015
วันสุดท้ายแล้ว เราจะไปเกาะรอกกัน รถของทัวร์มารับจากที่พักมาที่หาดอะไรสักอย่างเพื่อรอเรือ คนก็มารอเรือเต็มเลย



เค้าเคยได้ยินว่าเกาะรอกสวยมาก ตอน2ปีที่แล้ว ตอนนั้นไปตรัง พี่ไกด์แนะนำให้ไป แต่เวลาเค้าไม่พอ เลยเลือกไปพวกเกาะมุก เกาะกระดานแทน ทีนี้แหละหึ เกาะรอก พี่มาแล้ววววววววว



วันนี้อากาศดีอีกแล้ว หลังจากที่เมื่อวานพายุเข้า แต่เมื่อวานเค้าไม่ได้ออกทะเลเลย ไปแค่น้ำตกร้อนกับสระมรกต แหม่ โชคดีจริงๆเรา



นั่งเรือออกไปพักใหญ่ พี่ไกด์ก็อธิบายให้ฟังนิดๆหน่อยๆว่า เกาะรอกเนี่ย มีเกาะรอกใน และเกาะรอกนอก 



ก็มาถึงจุดดำน้ำจุดแรกที่เกาะรอกนอก น้ำสีสวยมากกกก คือดูในรูปมายังไง ของจริงสวยกว่าเยอะเลย สีมันเขียวๆฟ้าๆยังไงบอกไม่ถูกแต่ชอบที่นี่มากที่สุดในทั้ง6วัน แล้วคนก็ไม่เยอะเท่าทริปเกาะพีพีด้วย 



ดูสิ มีแค่เรือเค้าลำเดียวจริงๆนะ ตอนนั้น



แต่ถ้าถามว่าด้านล่างเป็นยังไง ก็สวยดีนะ อย่างน้อยก็สวยกว่าทริปอื่นๆ 



และแล้วก็เจอเจ้าเต่า ได้ไงไม่รู้ พี่ไกด์จับมันได้ด้วย ขอแชะรูปไว้หน่อยละกัน น่ารักดี แต่ก็แอบสงสาร มันดูกลัวมากๆ พอพี่ไกด์ปล่อยนิว่ายหนีอย่างไวเลย





อย่ามาดูหุ่นนะ5555555 ด้านล่างก็ประมาณนี้เลย แต่น้ำใสมากๆ



ที่จริงเจอทั้งปลานีโม่ ปลิงทะเล ปลาสีรุ้งๆ ปลาดาวหายาก ละก็ปลาอะไรสักอย่างที่เหมือนเข็ม แต่ถ่ายรูปไม่ทันสักอย่างเลย แหะๆ TT ได้แต่อีปลาในรูปเนี่ย มีเต็มทะเลไปหมดเลยถ่ายได้5555555 เอากล้องให้พี่ไกด์ดำลงไปถ่ายให้ พี่ไกด์กดผิดเลย เลยสรุปไม่ได้รูป ไม่ได้วิดีโอไรเลย แต่ก็ไม่เป็นไร พี่ไกด์ที่นี่น่ารักทุกคนเลย พาไปดูนู่นนี่เต็มไปหมด แล้วก็บอกชื่อสัตว์เหล่านั้น แต่ะก็นะ ฟังไม่ทัน ไม่ใช่ไร55555555



ทริปนี้แพงกว่าทริปอื่น แต่ก็บริการดีกว่าจริงๆ มีฟินกบ ผ้าเช็ดตัว แล้วก็อาหารให้



บรรยากาศบนเรือนะ อิอิ พ่อบ่าวจากสวีเดนผู้มีซิกแพคและมากับครอบครัวนั่งเรือลำเดียวกัน แหม่ อาหารตาดีๆนี่เอง XD 



เวลาเที่ยงแล้ว เราก็มาขึ้นฝั่งเพื่อกินข้าวที่เกาะรอกใน จุดนี้คือเรือจากทริปอื่นจะมากินข้าวที่นี่หมด แค่แยกที่ตักอาหารกันเป็นส่วนๆ



น้ำที่นี่ใสไม่แพ้ที่อื่นเลย สวยอีกต่างหาก คนก็ไม่พลุกพล่าน เพราะทริปคนจองเต็มแล้ว ไม่รับเพิ่ม (ที่ต้องแทบไปอ้อนวอนพี่ที่ขายทัวร์)



แหม่ ถึงทรายจะไม่ใช่ทรายขาว แต่ทรายที่นี่ละเอียดนุ่มตรีนมากจริงๆ ก่อนจะมาเดินชมหาดและน้ำทะเล ควรไปกินข้าวก่อน หิวมาก



นี่เล้ยยยยย! ข้าวของเค้าในเที่ยงวันนี้ หิวมากเลยตักไปเยอะเลย ข้าวเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะ ตักเองเลย อร่อยมาก น้ำก็หยิบได้เลย ไม่จำกัด



พอกินข้าวเสร็จ เห็นคนยืนมุงอะไรกันไม่รู้ มุงกันใหญ่ เลยเดินไปดูบ้าง อ้ออออ นึกว่าอะไร น้องตัวยิ้มนิเอง



กินอิ่มแล้วก็ต้องไปนอนอาบแดดสิ กินแล้วก็นอนเป็นหมูกันเลย55555555 เนี่ยแหละเวลาของการชื่นชมของจริง มุมในภาพคือมุมที่ได้จากจุดที่นอนอาบแดด เห็นมั้ย คนไม่เยอะเลย ดูไม่วุ่นวายเท่าที่อื่นที่ไปมา



อาบแดดเสร็จก็มาเล่นน้ำให้ชื่นใจกันหน่อย นี่ไม่ใช่สระว่ายน้ำที่ไหนนะ นี่คือสีน้ำทะเลเกาะรอกเอง อิอิ





หลังจากกินข้าวเสร็จก็ลงเรือต่อเพื่อไปดำน้ำอีกจุดของเกาะรอกนอก



ตรงนี้คล้ายๆจุดแรก เลยขอแชะรูปซะหน่อย



ฟินนิมันฟินจริงๆตอนที่อยู่ในน้ำ



หลังจากจบทริป เราก็ต้องรีบออกจากที่พัก ไปที่สนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องให้ทันรอบ4ทุ่ม แต่พอไปถึงสนามบินแล้ว รู้สึกขาดอะไรไปอย่าง ก็คือโรตีที่เพื่อนบอกเป็นล้านรอบให้ไปกิน!! ด้วยความที่วันที่2ไปแล้วไม่เจอโรตี ทำให้วันสุดท้ายนี่ เรา2คนยอมถ่อออกมาจากสนามบินด้วยกระเป๋าที่หนักมากๆ เพื่อมากินโรตีเจ้าดัง โรตีหน้าห้างโวค!! โอเค ออกมาจากสนามบิน และต่อแถวที่ยาวมากๆ ในที่สุดก็ได้กิน อร่อยจริงว่ะ อร่อยแบบนุ่มลิ้นอะ ของเพื่อนอะอร่อยมาก (อ่าว555555) เพื่อนสั่งแบบทิชชูไง อร่อย นี่สั่งแบบกรอบๆไป อร่อยดี แต่สู้ของเพื่อนไม่ได้



แล้วก็รีบกลับมาที่สนามบิน ขึ้นเครื่องกลับทันเวลา ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฮรือ แล้วจะกลับมาใหม่นะ ลาก่อยกระบี่ 



ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่า ไว้ถ้าได้ไปที่ไหนอีก จะมารีวิวใหม่นะ 


ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ค่าเครื่องไป-กลับกทมกระบี่1,243 บาท
ที่พัก4คืน(pak up และ glur) 1,933 บาท
ค่าเช่ากล้อง 750 บาท
ทริปsunset 850 บาท
ทริปพีพี 950 บาท
ทริปเกาะรอก1,300 บาท
ทริปน้ำตกร้อน สระมรกต 600 บาท
ค่ารถไปเกาะลันตา 300 บาท
ค่ารถไป glur hostel 50 บาท
ค่าที่พักlanta hug hostel 350 บาท
ค่าอาหารรวม6วัน+ค่าจิปาถะ 1,500 บาท
รวม 10,446 บาท
ค่าอาหารน้อย เพราะ เค้าไม่กินข้าวเช้าเลย และ เวลาไปทริป รวม3ทริป จะได้กินฟรีบนเรือมื้อกลางวัน เลยจ่ายแค่ค่าข้าวเย็น ซึ่งเค้ากินง่ายๆพวกไข่เจียวไรพวกนี้ ตามข้างทางเลยถูก จะมีมื้อหนักแค่ที่ลันตาซีฟู้ดที่เดียว




ยังไงทักมาคุยกันได้นะคะ ที่ https://www.facebook.com/gogononghong/


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2962166