(บทนำ)
“ประแส” อายุ 72 ปีแล้ว ด้วยรูปร่างที่ดูสูงใหญ่ เลยทำให้ดูน่าเกรงขาม ตามลำตัวมีร่องรอยเต็มไปหมด แสดงให้เห็นถึงความเก๋า อันมากด้วยประสบการณ์
น้อยคนจะรู้ว่า...ครั้งหนึ่ง ประแส เคยเป็นกำลังหนุนเคียงคู่ราชนาวีไทย ร่วมเดินทางออกจากผืนน้ำที่เงียบสงบ สู่ทะเลอันเวิ้งว้างสุดสายตา รอนแรมอยู่หลายวันหลายคืน จนเข้าสู่ผืนน้ำแห่งความเกรี้ยวกราดที่โถมกระหน่ำในยามศึกสงคราม ณ คาบสมุทรเกาหลี ...
“มันผ่านไปนานแล้ว ไม่มีใครจำหรอก ... แต่ประวัติศาสตร์นั้นมันยังคงอยู่" ผมกล่าว ... เพราะประแสนั้น พูดไม่ได้
ผมขอแนะนำให้รู้จักชื่อเต็ม และประวัติโดยสังเขปครับ ...
“เรือรบหลวงประแส” ชื่อเดิม USS, GAL-LUP (PE-2) ต่อขึ้นที่อู่ต่อเรือในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สร้างเสร็จในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2487 มีความยาว 92.8 เมตร กว้าง 11.5 เมตร ติดอาวุธปืน ปืนกล และตอร์ปิโด รองรับกำลังทหารประจำเรือได้ 216 นาย
หลังจากผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน ในปี พ.ศ. 2537 จึงได้ปลดประจำการ ปัจจุบันเรือรบหลวงประแส ได้กลายเป็นอนุสรณ์เรือหลวงประแส สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณปากน้ำประแส อ. แกลง จ.ระยอง
แม้จะขาดการบูรณะเรือทั้งลำขึ้นมาใหม่ ผมว่านี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมยอมขลุกตัวเก็บรายละเอียดต่างๆ ทั้งตัวหนังสือภาษาไทยบนปืนกล เกจ์มาตรวัดที่มีตัวเลข กล่องตู้ไฟที่มีภาษาอังกฤษ รวมถึงโคมไฟเก่าๆ โทรศัพท์อันคร่ำครึ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
ยิ่งดูก็ยิ่งพลันให้คิด...นึกไปถึงสมัยก่อนที่มีทหารอยู่เต็มลำเรือ ท่ามกลางศึกสงคราม อยากรู้ว่าทหารเรือนั้น เค้าใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร?
พอจินตนาการเกี่ยวกับเรือเก่าไปเรื่อยๆ ก็เลยเถิดคิดไปไกลถึงเรือที่คนทั่วโลกรู้จัก ... "ไททานิค" (Titanic) เปิดฉากด้วยความยิ่งใหญ่ และปิดม่านลงด้วยโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึง วัตถุที่จมไปพร้อมเรือในครานั้น บางส่วนสามารถนำขึ้นมาจัดแสดงภายใต้นิทรรศการที่ชื่อว่า Titanic : The Artifact Exhibition แม้งานนั้นจะผ่านพ้นมา 4 ปี แต่ก็ยังคงชื่นชอบในเรื่องราวของเรือยักษ์นี้อยู่เสมอ
เรือทั้งสองลำแล่นกันคนละยุค แต่ผมอยากให้แล่นร่วมกันในครั้งนี้ เพื่อรวมความทรงจำที่เกี่ยวกับเรือลำใหญ่ในชื่อตอนที่ว่า "เรา.กับ.เรือ ... จากประแส ถึงไททานิค" ลองชมกันก่อนครับ
ขอแปะเพจไว้ติดตาม พูดคุยกันต่อได้ที่ FB: GO2 >> https://www.facebook.com/Go2-x-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1-1632477510328553/
ชื่อสถานที่ : อนุสรณ์เรือหลวงประแส (HTMS Prasae (PF 2) Memorial)
ที่อยู่ : หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
เวลาเปิด-ปิด : 7:00 - 18:30 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.prasaetour.com/
เรือหลวงประแสแท้จริงแล้วมีอยู่ 2 ลำ ลำแรกที่ร่วมสงครามเกาหลี ได้เกิดเกยตื้นที่แหลมคิชามุน (Kisamun) ฝั่งของเกาหลีเหนือ หลังจากที่นานาชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาได้พยายามกู้เรือ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เวลาล่วงเลยเข้าวันที่ 7 ก็ได้รับคำสั่งจากกองบัญชาการ กองกำลังสหประชาชาติ ที่กรุงโตเกียวให้สละเรือ และให้ทำลายเรือรบประแส โดยเรือพิฆาต USS English ระดมยิงกว่า 50 นัด จนกระทั่งระเบิด เหตุผลเนื่องจากเกรงว่าข้าศึกอย่างเกาหลีเหนือจะมายึดเรือสมัยใหม่ลำนี้ไป
จากนั้นรัฐบาลไทยจึงได้สั่งซื้อเรือรบจากสหรัฐอเมริกาอีกจำนวน 2 ลำ คือ เรือ USS Glendale (PF 36) ที่ทางกองทัพเรือใช้ชื่อว่า เรือหลวงท่าจีน และ USS Gallup (PF 47) ที่ใช้ชื่อเหมือนลำเดิมที่ถูกทำลายว่า "เรือหลวงประแส" (ลำที่ 2) ซึ่งเป็นลำปัจจุบันที่มาจัดแสดง ณ ที่แห่งนี้
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติการรบ และคุณลักษณะสำคัญสามารถติดตามได้จากลิงค์นี้ครับ http://www.thairath.co.th/content/462463
แท้จริงแล้ว เรือรบหลวงประแส กับ ปากน้ำประแส ไม่ได้มีความสัมพันธ์ในยุทธศาสตร์การรบ แต่ด้วยความที่ชื่อพ้องเสียงเหมือนกัน มีประวัติเรื่องราวที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.ระยอง ได้ จนในที่สุดทางกองทัพเรือได้อนุมัติจำหน่ายเรือหลวงประแส และช่วยทำการเคลื่อนย้ายออกจากอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เข้าสู่ฐานที่ได้จัดเตรียมไว้ที่บริเวณหัวโขด ปากน้ำประแส เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2546
เกริ่นกันมาพอสมควร มาขึ้นเรือกันเลยครับ ... บันไดขึ้น-ลงจะอยู่ด้านข้างของตัวเรือ หน้าบันไดแคบมากไม่สามารถสวนกันได้ ต้องทะยอยผลัดกันขึ้น ผลัดกันลง จับราวเหล็กด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย
ส่วนด้านบนเรือจะมีเป็นชั้นๆ ทั้งหมด 3 ชั้น ส่วนด้านล่างของตัวเรือไม่สามารถเดินลงไปได้ครับ
บริเวณชั้นแรกจะมีประตูที่ปิดล็อค ลองส่องจากช่องหน้าต่างกลมๆ เห็นเป็นห้องนอน และห้องน้ำ
โดยรอบเรือ ด้านหน้า และด้านข้างมีปืนอาวุธยุทโธปกรณ์
เดินขึ้นบันไดมาอีกชั้นหนึ่งจะเจอ ห้องรับรอง ซึ่งถูกปิดอยู่
มีเรือเล็กด้วย
มีบันไดลิงเหมือนบันไดหนีไฟที่สามารถปีนขึ้นไปได้ แต่ไม่อยากแนะนำครับ กลัวอันตรายหากตกหล่นลงไป ซึ่งตรงนี้จะเห็นเป็นห้องควบคุม
บริเวณโดยรอบ
มีห้องควบคุมชั้นบนสุดที่เข้าไปข้างในได้
อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนเรือ ดูมีความเป็นวินเทจ
ด้านนอก
“กลับบ้านได้แล้ววว” น้องสาวตะโกนขึ้นมาเรียกผม ในจังหวะที่กำลังยกล้องขึ้นมาถ่ายบริเวณหัวเรือ
"อีกแป๊ปหนึ่ง" ... หลังจากเก็บภาพเสร็จแล้ว ก็ลงและกลับไปยังรถ
"ถ่ายจนจะประกอบเรือได้แล้ว" น้องแซว จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายมาเยอะ หรือเราเป็นคนชอบของเก่าไปเสียแล้ว เห็นตรงไหนก็ชอบไปเสียหมด
บทสรุป : สภาพโครงเหล็กยักษ์นี้ดูทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ดูขาดการจัดการ ดูแลและควบคุม ก็อาจจะเกิดอันตรายได้กับเด็กๆ ที่ชอบปีนป่าย อยากให้มีการบูรณะ จำลองห้องต่างๆ ให้เหมือนสมัยก่อน รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบทำเป็นสวนหย่อม สวนสาธารณะให้สวยงาม จะยิ่งเพิ่มความร่มรื่น และความน่าสนใจให้อนุสรณ์แห่งนี้
การมาเที่ยวที่ อ.แกลง นอกจากมาที่เรือหลวงประแสแล้ว ยังสามารถจัดทริปร่วมกับทุ่งโปรงทอง สถานที่ท่องเที่ยวแนวป่าชายเลน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันได้ ... สวยมากครับ เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง
เรือไททานิค (RMS Titanic)
เรือโดยสารขนาดใหญ่ที่มีคนเคยกล่าวว่าไม่มีวันจม ซึ่งตอนนี้เราได้รู้แล้วว่ามันไม่จริง
เรือโดยสารขนาดใหญ่ที่มีคนเคยกล่าวว่าไม่มีวันจม ซึ่งตอนนี้เราได้รู้แล้วว่ามันไม่จริง
เรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น มีขนาดความยาว 268 เมตร กว้าง 28 เมตร ถูกออกแบบ และตกแต่งอย่างวิจิตรสำหรับลูกค้าระดับบน หรือลูกค้าชั้น 1 (First Class) มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนลูกค้าชั้น 2 (Second Class) จะรองลงมา และแน่นอนว่าลูกค้าชั้น 3 (Third Class) นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เที่ยวการเดินเรือปฐมทัศน์ ออกจากท่าเรือเมืองเซาท์แทมป์ตัน (Southampton) สหราชอาณาจักร ไปยังนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 1912 มีผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมด 2,224 คน หลังจากเดินทางอย่างราบรื่นตลอด 3 วัน ในคืนของวันที่ 14 เม.ย. ได้เกิดชนภูเขาน้ำแข็งบริเวณกราบขวาของฝั่งทางหัวเรือ รอยรั่วทำให้น้ำเข้าท่วมจนหัวเรือค่อยๆ จมลง และแยกช่วงลำตัวของเรือออกเป็น 2 ท่อน ในที่สุดก็จมลงมหาสมุทรแอตแลนติก ในวันที่ 15 เม.ย. ช่วงเวลาประมาณตี 2 เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้รอดชีวิต 710 คน อัตราการรอดชีวิต 32% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็ก อีกเหตุผลที่คนเสียชีวิตจำนวนมาก เพราะมีเรือบดไม่มากพอ และอุณหภูมิของน้ำที่เย็นเฉียบคร่าชีวิตคนที่ตกลงไปในน้ำ ก่อนที่เรือ อาร์เอ็มเอส คาร์พาเธีย (RMS Carpathia) เข้ามาช่วยเหลือ
กล่าวประวัติไว้โดยคร่าวๆ ถ้าจะให้เห็นภาพ คงต้องย้อนกลับไปดูภาพยนตร์เรื่อง ไททานิค และสารคดีชุดพิเศษ ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ที่มีภาพจากการที่ลงไปสำรวจซากเรือในท้องทะเลลึก
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พ.ศ. 2555 ได้มีนิทรรศการ "ฉลองครบรอบ 100 ปี Titanic The Artifact Exhibition" หมุนเวียนเข้ามาจัดที่ประเทศไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ (CentralWorld Live) เซ็นทรัลเวิลด์ งานนี้ก็เลยไม่พลาดชม ราคาบัตร ผู้ใหญ่คนละ 500 บาท ผมแนบคลิปวีดีโอประชาสัมพันธ์การจัดงานเผื่อจะได้เห็นภาพมากขึ้น https://www.youtube.com/watch?v=1erpiqozV74
"จุ๊ๆ เค้าห้ามถ่ายรูป" งานนี้อย่าหวังว่าจะเอากล้องตัวใหญ่ไปถ่ายด้านในอย่างสบายใจเฉิบ รูปที่ผมมาแชร์นี้ คิดเสียว่าบังเอิญมือไปโดนปุ่มถ่ายก็แล้วกันนะ รูปสั่นบ้าง เบลอบ้างตามประสา
ด้านในนิทรรศการแบ่งออกเป็นห้องๆ ค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มจนจบ ผมชอบโถงทางเดินของผู้โดยสารชั้น 1 ทำให้นึกถึงบางฉากในหนังไททานิค
ห้องต่อไปพูดถึงภูเขาน้ำแข็ง มีภาพจำลองตัวอย่างให้ดูด้วย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดแสดงให้เห็นเป็นระยะๆ ครับ อย่างในภาพเป็นห้องขนาดใหญ่จำลองพื้นท้องทะเล มีของวางบนพื้นทราย ทำทางเดินเป็นกระจกใส เก๋ดีครับ
ห้องนี้จำลองโถงบันไดกลาง (Grand Staircase) ของผู้โดยสารชั้น 1 ดูหรูหรามีระดับเสียจริงๆ
หากใครอยากถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เค้ามีบริการถ่ายรูปให้ด้วยครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าราคาเท่าไหร่
อีกจุดที่ผมชอบคือทางเดินเชื่อมไปยังห้องจัดแสดงต่อไป จะต้องผ่านระเบียงทางเดินนี้ครับ
เดินชมไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงห้องสุดท้าย แสดงรายชื่อผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมด รวมถึงกัปตันเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ แยกรายชื่อผู้ที่รอดชีวิต และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
บทสรุป : งานจัดแสดงได้ดีครับ คุ้มกับค่าบัตรที่ไม่ต้องบินไปดูนิทรรศการที่ต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่ามีการจัดแสดงที่มารีน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์ ไม่คิดว่าจะมาจัดที่เมืองไทยด้วย แม้ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ไททานิค แต่การได้มาเห็นของจริงเป็นอะไรที่ปลื้มมากครับ ผมแปะลิงค์ของนิทรรศการนี้เผื่อใครสนใจเข้าไปดูภาพเพิ่มเติม http://www.premierexhibitions.com/exhibitions/3/3/titanic-artifact-exhibition
ขอแปะเพจไว้ติดตาม พูดคุยกันต่อได้ที่ FB: GO2 >> https://www.facebook.com/Go2-x-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1-1632477510328553/
ตัวอย่างกระทู้ที่อาจสนใจ :
ตามไปเที่ยว >> เริ่มต้นด้วยผัดไทย ลงท้ายด้วยนอนครัว ณ บ้านหลวงราชไมตรี // ทริปกิน-เที่ยว จันทบุรี
http://pantip.com/topic/35228562
ตามไปเที่ยว >> วิหารแก้วแดนสวรรค์ พักกันห้องถ้ำ และนอนสปาเกลือที่ Avartarn Miracles Hotel, อุทัยธานี
http://pantip.com/topic/34974965
ตามไปเที่ยว >> ปล่อยตัวสโลว์ไลฟ์ไว้ที่ "น่าน" ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/34867917
ตามไปเที่ยว >> ชมพลุเคาน์ดาวน์ไทเป และงานอาร์ตเก๋ๆ ที่ไต้หวัน
http://pantip.com/topic/34660750
ตามไปเที่ยว >> ทริปลั่นชัตเตอร์รัวๆ ตามหาสตรีทอาร์ตที่ George Town และ Ipoh + สำรวจปราสาทผีสิง Kellie's Castle, Malaysia
http://pantip.com/topic/35121583
ที่มา Pantip
Cr. ลุงยิ้ม