" ทริปหน้าไปเที่ยวด้วยนะ ไปกาญกัน" นี่คือบทสารจากเพื่อนในกลุ่ม
เนื่องจากทริปที่แล้วนางไม่ได้ไป ทริปนี้นางเลยรีเควสขอมา
ประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้เราอยากไปสังขละอยู่พอดี อิอิ
หลังจากที่พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะไปกาญ ไปเที่ยวตรงนี้ ตรงนั้นพักกันกี่วัน
สรุป เพื่อนที่รีเควสจะไปกาญดั๊นนนนนนไม่ว่างซะงั้น #รอไปทริปหน้านะสาวน้อย
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ทริปนี้เราไปกัน 3วัน 2คืน
มีเพื่อนร่วมทริปรวมเจ้าของกระทู้ทั้งหมด 11คน สัตว์เลี้ยงน่ารัก 1ตัว กล้อง 4ตัว กระเป๋ามากกว่า 11ใบ (เยอะไปไหน)
เรามาเข้าโหมดจริงจังกันดีกว่า
เราเดินทางกันวันที่ 21 มิถุนายน 2559 เวลา 05.00 น. จากคิวรถตู้ข้างห้างแหลมทอง บางแสน
**รายละเอียดค่าใช้จ่ายเดี๋ยวสรุปให้ตอนท้ายนะคะ
นั่งรถตู้ปะมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมืองหลวงแล้ววววววว จากนั้นพวกเราก็นั่ง Taxi ไปสถานีรถไฟธนบุรีเพราะสะดวกสุด
มาถึงสถานีก็เกือบ 7โมง รวบรวมบัตรประชาชนไปแลกตั๋วรถไฟ (ฟรีๆๆๆๆๆ)
เหลือเวลาอีกหลายนาทีกว่ารถไฟจะมาพวกเราเลยไปหาไรกินรองท้องกันก่อนขึ้นรถไฟกัน...
07.50น. ปู้น ปู้นนนนน รถไฟมาแล้ววว มาเร็ว ตรงต่อเวลามากกกก
ด้วยความที่พวกเราเคยนั่งรถไฟกันแล้วโบกี้ต้นๆเราไม่นั่งคะ เราไปนั่งโบกี้ท้ายๆซึ้งติดกับโบกี้เสบียงอาหาร
ความหิวครอบงำ
เราไปกันวันธรรมดาคนไม่เยอะ นั่งกันสบายๆ
นั่งรถไฟกันชิลๆ จากนั้นภาพพวกเราก็ตัด ฟื้นคืนชีพอีกที่ก็สถานีรถไฟกาญจนบุรี
มีเพื่อนตามมาสมทบอีก 2คน เนื่องจากมาขึ้นรถไฟไม่ทันเลยต้องนั่งรถตู้ตามมาทีหลัง สมาชิกครบแล้ว 11คน
และแล้วก็ถึงแลนด์มาร์ค "สะพานข้ามแม่น้ำแคว"
สะพานที่นี้ข๊าววว ขาววววว (นั้นเห็นมั๊ยเนื้อคู่เรา)
ข้างล่างก็มีแพอาหารให้บริการเยอะแยะ
อย่าคะ อย่าคิดว่าถึงกาญแล้ว แล้วจะถึงที่พักเรา นั่งวนไปคะ นั่งจนเมื่อยตูด
"ครืด ครืด" นั้นเสียงอะไร ท้องร้องใช่หรือไม่ ??
รอช้าทำไมของกินบนรถไฟเยอะแยะ จัดมาคะ
ทุกคนมีความสุขกับการกินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย ใกล้แล้วอีกนิด ถึงแล้วววววววววว
"ทางรถไฟสายมรณะ" ถึงแล้ว กดชัตเตอร์กันรัวๆ
นี้ๆๆๆๆ บ้านพักที่เราจะพักกันคืนนี้ "บ้านริมแคว แพริมน้ำ"
นั่งรถไฟกันมาอีกนิดก็ถึงแล้วจุดที่เราจะลง "สถานีรถไฟถ้ำกระแซ"
ภายในถ้ำนั้นมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ พวกเราเลยเข้าไปไหว้พระทำบุญก่อนเข้าที่พัก
ทำบุญไหว้พระกันเสร็จ ก็ยังคะ ยังไม่ใช่เวลาที่จะเข้าที่พัก "ถ่ายวนไปคะ"
เพื่อนคงคิดว่าตัวเองเป็นคนตัวเล็ก
เพื่อนมีความสดใส ฟันมาทั้งแผง 55555
หลังจากได้รูปกันหนำใจ เราก็โทหาที่พักให้มารับ
ที่พักนั้นเราต้องเดินไปรอเรือข้างล่าง จะมีพี่ทางที่พักขับเรือมารับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี้คือห้องพักของเราาาาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เก็บของกันเรียบร้อยเราก็ไปหาข้าวกินกัน ราคาอาหารที่นี้เราว่าไม่สมกับอาหาร
อาหารตามสั่งเริ่มต้น 80บาท ไม่ร้อน ไม่ค่อยอร่อย แต่พอกินได้
พวกกับข้าวก็เริ่มต้น 100บาท พวกเราสั่งข้าวเย็นไว้เลย จะได้ไม่ต้องรอนาน
จากนั้นเราก็มาซึมซับบรรยากาศ ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านกัน
ลองปล่อยวางจากเรื่องต่างๆ เอาเท้าจุ่มน้ำ ปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร ไม่รีบ
เพื่อนมีความทุ่ทเท
ที่นี้มีเสื้อชูชีพเยอะมาก หลายขนาดถ้าใครจะเล่นน้ำหยิบได้เลย
แล้วก็มีล่องแพด้วยคนละ 250บาท แต่พวกเราไม่ล่อง (เปลืองงงงงง)
มาด้วยกัน กลับด้วยกัน ใส่เสื้อไว้ปลอดภัยไว้ก่อนเพราะที่นี้น้ำไหลแรงมาก ๆๆๆๆๆ
ใกล้เวลาอาหารเย็นแลัว พวกเราแยกย้ายไปอาบน้ำของที่เราพักเป็นห้องน้ำรวม
มีเยอะ สะอาด มีแชมพูให้ มีที่อาบน้ำกลางแจ้ง วันนั้นเราไปเจอพอดี หื้มมมม ที่อาบน้ำขาวมากกกก 55555
หน้าตาอาหารเย็นเรา ถ่ายทันแค่นี้
พร้อมลุยยยยย ที่นี้ให้ข้าวเยอะมากเราสั่งกันมา 4โถ กินไป 2โถเอง (แอบเสียดายย)
กับข้าวพอใช้ได้ ไม่ค่อยถูกปากเพื่อนหลายๆคน
ตกดึกพวกเราก็คงทำได้แค่นั่งคุย เปิดเพลงฟัง เพราะห้องพักไม่มีโทรทัศน์ให้
WIFI ก็ไม่มี สัญญาณเน็ตก็ช้า แต่ก็ดีนะนั่งๆ นอนๆ ละจากโซเชียลให้ยุงกัดเล่นๆ 5555
จบแล้ววววววันที่หนึ่ง รูปเยอะไปหน่อยนะเดี๋ยวมาต่อวันที่สองขอพักสายตาแป๊ป
มาคะ มาต่อวันที่สองกัน
สวัสดีเช้าวันดีวันที่สอง อย่างที่บอกว่าที่นี้มีบุฟเฟ่อาหารเช้าครัวเปิดตั้งแต่ 07.00 - 10.00 น.
พวเราเลยรีบตื่นมาอาบน้ำ เก็บกระเป๋า
ระหว่างรอเพื่อนคนอื่นแต่งตัว พวกเราก็ไม่พลาด
หลังจากทุกคนพร้อมเพียงเราก็เดินไปทานอาหารเช้ากัน
อยากจะบอกว่าไกลมากกกกกกกกกก ทางเดินขึ้นชันมาก เหนื่อยเลยทีเดียวเชียว
อันนี้หน้าตาอาหารบางส่วน ที่จริงก็มีเยอะนะ ข้าวผัด ผัดคะน้า น้ำส้ม ผลไม้ กาแฟ ชา โอวัลติน
เก็บกระเป๋าร่ำลาจากที่นี้กันเถอะ ใจจริงก็มีเพื่อนอยากเล่นน้ำกันต่อนะแต่เราต้องเดินทางไกล
วันนี้เราจะไปสังขละกัน กัน กันนนน
บ๊าย บาย จิ๋มขอลาก่อนนนนน
อย่างที่บอกข้างต้นว่า วันนี้เราจะไปสังขละกัน ด้วยความที่ว่าเรามากันเยอะ 11คน
เลยลงมติกันว่าจะเช่ารถไปกันเพราะน่าจะสะดวกกว่ามากันหลายคนช่วยกันหาร
ทางที่พักเลยให้เบอร์รถนำเที่ยวไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่รถลุง ก็เป็นรถ 2แถวธรรมดา 11คนนั่งกันได้ สบ๊ายย สบายย
วิวระหว่างทาง ยิ่งสูงอากาศก็ยิ่งดี โชคดีวันที่เราเดินทางอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่
และแล้วก็ถึงที่แรกที่ลุงพาแวะ "พุน้ำร้อนหินดาด"
เราว่าที่นี้ไม่ค่อยมีไร คล้ายสถานที่บำบัดมากกว่าแต่ถ้าขับขึ้นไปจะเป็นน้ำตก
แต่ที่นี้ฝรั่งเยอะดี 55555
ที่นี้ไม่ค่อยมีไรหรอก จริ๊งจริง
แต่รูปแค่ที่นี้ที่เดียวสร้างเป็นอัลบั้มได้เลย
พิสูจน์ความร้อน ร้อนจริงๆด้วยแหะ
การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง และหยุดลงอีกครั้งเมื่อลุงพาแวะที่ "น้ำตกเกริงกะเวีย"
ไปที่ไหนก็มีแต่ขาวๆ ที่นี้ก็เหมือนกันแต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา
เอารูปพวกเราไปดูก่อนละกัน อธิบายแค่ว่า น้ำใสมาก สวยมาก เย็นมาก ปลาตอดเท้าเยอะมากทำสปาเท้าไปในตัว ผีเสื้อเยอะมาก
ในส่วนของน้ำลึกนั้น กระโดดทีน้ำกระจายยยยย
เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้พอสมควร จนได้พูดคุยกับพี่ที่เพิ่งกลับมาจากสังขละ
และพี่ก็แนะนำที่พักให้ด้วย ถึงเวลาจากจรไปสังขละกันสักที
จวนเวลาใกล้พลบค่ำเราก็มาถึงสังขละ สถานที่แรกที่ลุงแวะคือตลาดพวกเราเลยเก็บเงินกองกลางกัน
ไปซื้อกับข้าว เครื่องดื่ม ไว้กินกันที่บ้านพัก
จากนั้นลุงก็ขับรถพาเราไปหาบ้านพัก
อันนี้เป็นวิวจากพีเกสเฮ้าท์ แต่เราไม่พัก 5555 เลวมากเข้ามาเอาบรรยากาศ
แต่บรรยากาศดีจริง แต่ในส่วนของห้องพักที่ว่างแต่ละห้องมันเดินไกลกัน
มันไม่เข้าถึง คำว่ามาเป็นหมู่คณะ มันต่างคนต่างอยู่ เราเลยบายที่พักนี้
จากนั้นเราให้ลุงพาไปที่พัก ตามคำแนะนำของพี่ที่เราเจอตรงน้ำตก
ที่พักนี้เราต้องนั่งรถข้ามไปฝั่งมอญ แต่ถ้าเดินข้ามสะพานก็ได้ไม่ไกลจากสะพานนัก
มาถึงแล้ววววว
เป็นบ้าน 2ชั้น ส่วนของที่พักจะอยู่ชั้นล่าง
มุมกาแฟ โอวัลตินฟรี
ภายในบ้านพัก
มีห้องส่วนตัว 2ห้อง มีห้องน้ำ โทรทัศน์ในตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากเก็บกระเป๋า อาบน้ำ กินข้าวกันเรียบร้อยฝนก็ปรอยลงมาพอดี
แต่ใช่ปัญหา ลองออกไปตากฝนบ้าง
...แต่หยิบร่มไปหน่อยก็ดี 55555
วันนั้นเราไปตรงสะพานไม่เปิดไฟเลย ถ้าเปิดคงจะสวยน่าดู
ท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตกดินมันสวยไม่เหมือนกันสักที่จริงๆนะ
มาสังขละ ต้องไปกินหมูจุ่มไม้ละบาทสินะ สอบถามจากพี่ป้าน้าอาแล้ว โลเดียวเองหนูเนี่ยไปตามทาง
หึหึ เบะปากและมองบน เดินไปเพื่อนก็บ่นไปเมื่อไหร่จะถึง
ความรู้สึกตอนนั้นแบบไกลมาก ขาล้า เหนื่อย จะถอดใจกันอยู่ละ 5555
แต่
แต่
แต่เราก็มาถึง
จริงๆ มันมี 2ร้าน อีกร้านจะอยู่ตรงหน้าเซเว่น แต่ร้านหน้าเซเว่นคนเยอะเราเลยไม่เข้า (มันน่าจะแปลว่าอร่อยป๊ะวะ)
แต่ช่างเหอะกินร้านนี้ก็อร่อยนะ กินได้
นี่กินๆ อยู่เพื่อนก็ถาม "เนื้อหมูใช่ป๊ะวะ"
ก็เขาเขียนว่าหมูจุ่ม มันก็ต้องหมูสิเพื่อนนนนน
ทำไมเพื่อนต้องมองแรง ไม้ละบาทก็ได้แค่นี้แหละ
นี้แหละหมูจุ่ม เดินมาขาลากมากินแค่นี้จริงๆ
จบทริปวันที่สองด้วยการจิบเครื่องดื่มเบาๆ พร้อมกับดูคนอวดผี
อบอุ่นกันจัง 11คนมากองอยู่หน้าโทรทัศน์
มาคะมาต่อกันวันที่สาม วันสุดท้ายแล้ว
วันนี้เราตื่นกันแต่เช้า เพราะต้องไปตักบาตรกัน
ชุดตักบาตรชุดละ 99บาท
เดินลงไปตักบาตรกัน
บุญบารมีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเองนะคะ
ทางที่พักจะเตรียมน้ำไว้ให้เรากรวดน้ำหลังจากตักบาตรเสร็จ
หลังจากนำตระกร้าตักบาตรมาคืนป้าแล้ว แล้วหันมามองทุกคน
หึ หึ ชุดแน่นขนาดนี้ หน้าแน่นปานนั้น ข้าไม่ถอดออกง่ายๆแน่นอน
ปะคะ พวกเราพร้อมไปโพสต์ท่าสวยๆ ที่สะพานมอญกัน
มาสะพาญ ต้องเห็นสิ่งนี้สินะ "เก่งจริงๆ เลยนะตัวแค่เนี่ย
ข้างล่างสะพานจะมีของขาย
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ นั้นหนู หนูชุดเหลือง หนูไปทำไรตรงนั้นคะลูก
มาถึงสะพานทั้งที ไม่มีมีรูปก็จะยังไงอยู่
รูปเดี่ยวก็ต้องมี
1. วันอาทิตย์สีแดง
2. วันจันทร์สีเหลือง
3. วันอังคารสีชมพู
4. วันพุธสีเขียว
5. วันพฤหัสบดีสีส้ม
6. วันศุกร์สีฟ้า
7. วันเสาร์สีม่วง (เมื่อเพื่อนทรยศไม่ใส่ชุด5555)
เป็นมือกล้องต้องอดทน ไม่มีรูปก็ห้ามงอแง
รูปคู่ก็ต้องมา
เกลียดคนมีคู่
เดี๋ยวๆๆๆ นี่หนูเขาไม่ให้เข้าประเทศหรอคะ
รูปเผลอตามมาติดๆ
ปิดท้ายสะพานมอญด้วยรูปผู้ร่วมทริปทั้งหมด 11คน
หลังจากเก็บกระเป๋า และร่ำลาคุณป้า
ลุงก็พาเรามุ่งหน้าไปที่วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตะมะ
แต่ว่าพวกเราส่วนใหญ่ใส่ขาสั้นบวกกับไม่เห็นว่าทางวัดเขามีผ้าคุมให้ก็เลยไม่ได้เข้าไป และก็ไม่ได้รูปมาด้วย
บรรยากาศรอบๆ สงบ ร่มรื่น วัดสวยงามอลังการมาก เสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปมา
จากนั้นลุงก็พาพวกเรานั่งรถอีกละ จะพาไปขายที่ชายแดนพม่า แต่ก็โชคดีไม่มีใครเอา
ตลอดเส้นทางนั้นก็จะมีทหารคอยตรวจ ใครร้องเพลงชาติไทยไม่ได้ก็ลงไปคะ 5555
แต่เราไม่มุ่งเน้นตรงนั้น เราเน้นไปที่พี่ทหารยิ้มน่ารัก จนอยากจะชวนพี่มายิ้มด้วยกัน 5555555
ถึงแล้วนี้คือ ด่านเจย์ดีย์ 3องค์
แค่ข้ามรั้วกั้นไปก็คือเขตพม่าแล้ว แต่พวกเราไม่ได้ข้ามไปหรอก
มีพี่แถวนั้นพูดกับเราว่า "จะยอมเสียเงินให้พวกเขาหรอ เที่ยวประเทศเรานะดีที่สุดแล้ว"
(ภาพในหนังพระนเรศวรผุดขึ้นมา) "เออวะ จะเสียเงินให้เขาทำไมแค่นี้ยังเสียไม่พออีกหรอ"
แต่มันก็มีหลายความเห็นถ้าจะข้ามไปซื้อของฝั่งโน้นซื้อฝั่งเราก็ได้ราคาพอๆกัน
แต่ถ้าอยากไปเที่ยว ไปทำบุญมันก็คงคุ้มถ้าเราจะเสียเงินข้ามไป เพราะวัดฝั่งพม่าเราว่าก็สวยนะ
สวยเกินเลยไม่ผ่าน ตม.
มาถึงกันแล้วจริงๆนะ
ของฝากก็เยอะ ถูกด้วยแต่ไม่กิน ไม่ดูดก็เลยขอบายคะ ไม่ซื้อ
แต่ได้ไพ่มาตลับนึง ขอบทอง 50บาท พอดูได้ ไว้เล่นแก้เหงากันที่หอ
ทริปยังไม่จบก็ต้องนั่งรถกันต่อไป เนื่องด้วยเราต้องทำเวลาเพราะเราต้องกลับชลกันอีกเดี๋ยวจะตกรถ
เราจึงต้องร่ำลาสังขละเสียแล้วจริงๆ
ก่อนที่ลุงจะพาไปส่งที่ท่ารถตู้ ลุงก็พามาแวะที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก่อน
คุณพระ นั้นหรือที่เรียกว่าแดด ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใสมาก
บำรุงผิวมาเป็นปี จะดำทั้งทีดั๊นนนมาดำที่สะพาน ....แดดแรงสมคำร่ำลือ
หลบแดดมานั่งร้านน้ำปั่น น้ำปั่นก็แสนถูกแก้วละ 50บาท ตอนนั้นคิดถึงร้านนมหลัง H2Mเลย
....ผู้ชายเป็นเพศมุ้งมิ้ง
หมาประจำร้าน มีความหน้าย่น ไปฉีดโบท๊อกบ้างก็คงจะดี
คงถึงเวลาต้องจากจรจากกาญจนบุรีจริงๆ แล้ว
เราขึ้นรถตู้กลับอนุกันเกือบ 4โมง ไปถึงก็เกือบ 6โมง
รอรถต่อเข้าชลบุรีเกือบ 1ทุ่ม เราถึงบ้านตอน 3ทุ่ม เป็นอันจบทริป "มีกัน และกาญ (จนบุรี)"
ขอบคุณผู้ร่วมทริปทุกคนนะ ทริปนี้ทุกคนเจอครบกันทุกฤดูเลยแดด ฝน หนาว
ทริปนี้อาจจะลำบากไปหน่อย ทรหดไปบ้างเพราะเราไปกันตั้ง 3วัน 2คืน นั่งรถกันซะเหนื่อย
แต่ในระหว่างทางตลอดทริปทุกคนมีแต่เสียงหัวเราะ ทุกคนมีรอยยยิ้ม มีความเฮฮา
เราเชื่อว่ามันทดแทนกับความลำบากนั้นไปได้ ขอบคุณนะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า.
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆนะ
วันที่ 21
ค่าห้องจ่ายล่วงหน้า 350บาท
ค่าวินจากหอไปคิวรถ 15บาท
ค่ารถตู้ไปอนุ 110บาท
Taxi ไปสถานีรถไฟ 20บาท
ค้าข้าวเย็น 2090/11 คนละ 190บาท
รวม 685บาท
วันที่ 22
ค่าเช่ารถ 440บาท
ค่าเข้าอุทยานน้ำพุร้อน 20บาท
ค่ากองกลางซื้อของที่ตลาดสังขละ 110บาท
ค่าที่พักต่อคน 150บาท + ของลุงคนขับ 15บาท
รวม 735บาท
วันที่ 23
ค่าอาหารแหเงใส่บาตร 99บาท หารกับเพื่อนตกคนละ 50บาท
ค่ารถกลับอนุ 130บาท
ค่ารถกลับชลบุรี 100บาท
รวม 280บาท
รวมค่าใช้จ่ายหลัก 3วัน 2คืน 1700 ถ้วน เราไม่รวมค่ากิน ค่าของฝากนะเพราะมันแล้วแต่ละคน
ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามนะคะ ชมได้ห้ามติ 55555
ขอบคุณคะ.
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2423281