รีวิว วังวน วังน้ำเขียว ทริปหลากอารมณ์ โหด มัน ฮา

สวัสดีคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลยคะ เราอยากมาเล่าเรื่องราวการเดินทางเที่ยววังน้ำเขียวของเรากับแฟนคะ เราวางแผนการเที่ยวทริกนี้ก็ประมาณ 2 สป.คะ ตอนแรกเราตั้งใจจะไปเที่ยวจันทบุรีกันคะ ตามรีวิวของท่านหนึ่งในพันทิปนี่แหละคะ แต่พอดีที่พักเต้มหมดเลย เราสองคนเลยเปลี่ยนแผนคะ แฟนเราเขาเสนออยากไปเที่ยววังน้ำเขียวคะ พวกเราก็เลยหาข้อมูลดูคะ เราขอแทนแฟนเราว่าดีนะคะ ดีเขาก็ส่งรูปหาที่พักมาคะ เป็นบ้นาพักสวนลุงไกรคะ เราเลยตกลงพักกันที่นี่คะ เราจองไว้ 1 คืนคะ แต่เราเดินทางล่วงหน้า 1 วันคะ กะว่าจะไปหาเอาข้างหน้าเอาคืนแรก 555 เราออกเดินทางวันที่ 16 ก.ค. 59 คะ แฟนเราขับรถมารับเราที่บ้านถึงบ้านเราก็ประมาณเกือบๆ 4 โมงเย็นคะ พอดีว่าเรากับแฟนอยู่คนละจังหวัดกันคะ แล้วเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปวังน้ำเขียวกันคะ เราเดินทางเส้นสระบุรี-นครราชศรีมาคะ แม่เราบอกว่าเส้นนี้จะใกล้กว่าเส้นปราจีนคะ เราก็ขับรถกันไปเรื่อยๆคะ วันนี้รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่คะ วิ่งได้เรื่อยๆ พอเราออกจากทางด่วน เราก็แวะซื้อเสบียงกันเลยทันทีคะ 555 มีความหิวมากกกกก ซื้อใน 7-11 เสร็จ พอเราออกมาจากปั๊ม เราก็เจอแม็คคะ ดีจะชอบกินเบอร์เกอร์มากกกกกก เราเลยแวะอีกคะ 5555 หลังจากนั้นก็ขับรถยาวๆเลยคะ เราก็นั่งคุยกันมาตลอดทาง ระหว่างขับรถเรา 2 คนก็มองเห็นรถบิ๊กไบท์คะ เดีเขาก็เริ่มคุยว่าอยากมาออกทริปแบบนี้ เราก็ว่าดีนะ คุยกันไปเรื่อยคะ มองป้ายอีกที เฮ้ย เราเลยคะ ป้ายไปนครราชศร๊มา 555 เราสองคนมองหน้ากัน เอาไงดีๆ ตอนแรกจะยูเทรินรถกลับคะ แต่เราก็นึกได้ว่าแม่เราบอกมาถ้าเจอป้ายแรกยังไม่ต้องไปมันอ้อม เราเลยตัดสินใจคะ ไม่ยูเทริน ให้ดีขับต่อไป แล้วเราสองคนก็เห็นป้ายที่สองคะ แต่คราวนี้เราไม่สมร.เลยได้นะคะ เพราะทางมันบังคับให้ไปคะ 5555 เราก็ขับต่อไปเรื่อยๆคะ รถเริ่มติด ฟ้าเริ่มมืดลงคะ เราเข้านครราชศรีมาตอนประมาณเกือบๆทุ่มคะ เราสองคนก็เปิดจีพีเอสคะ ขับไปๆ ดีก็เริ่มบอกให้มองหาที่พักคะ เขาเริ่มเหนื่อยแล้ว เราก็พากันมองหาคะ มีแวะขับเข้าไปดูอยู่ที่หนึ่ง ป้ายบอกเข้าไป 700 ม. ขับเข้าไปเห็นแล้วแบบเอิ่มมมมม ไม่ไหวคะ น่ากลัวสุดๆ เราเลยขับกันไปต่ออีจีก็บอกให้เราเลี้ยวคะ แต่เราก็เลี้ยวไม่ทัน เราเลยไปยูเทริน แล้วเลี้ยวตามที่อีจีบอกคะ เราขับเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทหมายเลย 3060 คะ พอขับเข้ามาเท่านั้นแหละ เอิ่ม...ชนบทจริงๆคะ ไปทางไม่มี รถวิ่งน้อยมากคะ 5555 ขับไปก็มองหาที่พักไปคะ มีป้ายที่พักเยอะมากคะ แต่ แต่เราไม่ยักกะเห็นที่พักคะ แต่ละป้ายบอกให้เลี้ยวนู้นนี่นั้น ขับเข้าไป 1 กิโลบ้าง 2 กิโลบ้างคะ แต่เราสองคนไม่ไปหรอกนะคะ มันน่ากลัวคะ แต่ละทางเลี้ยว เป็นทางเข้าเล็กๆแบบทางลูกลังคะ เราก็ขับไปคะ คราวนี้แวะปั๊มคะ กะว่าจะถามพนักงาน 7-11 พอเราถามเขาก็ตอบมาคะ เราสองคนก็มองหาคะ แล้วเราก็เจอทางเกือบเป็นทางแยกคะ เป็นทางโค้งใหญ่ๆแล้วก็มีทางให้ตรงไป แล้วอีจีก็เงียบคะ ไม่บอกทาง เราจอดรถกันคะ เพื่อดูทาง ดีก็เริ่มบอกให้เราล็อกรถคะ เพราะตอนนั้นก็ค่อนข้างเปลี่ยวและมืดมากคะ สุดท้ายเราเลือกที่จะเลี้ยวคะ เราก็ขับไป ดีก็บอกว่าจะพักตรงนี้ ชื่ออะไรสักอย่าง ดีอ่านป้ายเจอ แต่เลยมาหน่อย ดีเลยเลี้ยวรถกลับคะ พอเลี้ยวกลับดีก็มองหาทางเลี้ยวเข้าตามป้าย แต่ แต่เราสองคนไม่เจอทางเลี้ยวคะ เราเลยจะเลี้ยวกลับทางเดิม ตอนที่ดีจะเลี้ยวกลับตรงนั้นเป็นบ้านร้างคะ โคตรน่ากลัวคะ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไร ดีก็เลี้ยวรถขับไปต่อแบบเงี่ยบๆ เราสองคนตัดสินใจขับรถไปเรื่อยๆคะ มองหาที่พักข้างทาง แต่แทบไม่มีเลยคะ แล้วกว่าจะถึงวังน้ำเขียวก็อีกหลายสิบโลคะ มีครั้งหนึ่งที่ดีเลือกที่พักแล้วขับรถเข้าซอยไปก็หาที่พักไม่เจอ ได้ขับออกมาบ้าง รึพอเจอขับเข้าไปก็ที่พักปิดแล้วบ้าง เราขอสารภาพเลยว่าเราเริ่มกลัวแหละ แต่ก็ได้แค่เงียบแล้วนั่งคุยเป็นเพื่อนดีเขาต่อไปคะ คราวนี้ดีเข้าเจอป้ายบ้านพักไร่ทอแสงคะ ป้ายบอก1.4โลคะ เราสองคนก็ขับเข้าไป ดีขับไป เราเสริตหาข้อมูลของที่พักคะ อีจีก็บอกทางไปคะ พอถึงหน้าที่พักประตู้ปิดคะ แล้วข้างทางที่เราเข้ามามีแต่ป่าอ้อยเต็มไปหมด จะเลี้ยวออกก็ไม่ได้คะ ถอยได้อย่างเดียว เรานี่รีบกดโทรหาเจ้าของที่พักบ้านไร่ทอแสงเลยคะ เราก็คุยกับพี่เขา สรุปว่าที่พักนี่เป็นที่พักส่วนบุคคลคะ วันนี้ปิดเพราะพี่เขาไม่อยู่ เรานี่ใจตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วคะ เราก็เลยพยายามคุยกับพี่เขาคะ พี่เขาก็ใจดีคะ โทรไปบอกลูกน้องให้มาเปิดประตู้ให้เรา พวกเราสองคนรอคะ รอได้อย่างเดียว มองไปรอบข้างก็โคตรกลัวเลยคะ รอสักพักเห็นยังไม่มาเราเลยโทรไปหาพี่เขาอีกรอบ พี่เขาใจดีมากเลยคะ เขาเปิดบ้านให้เราพักคะ เขาก็คุยว่าปกติที่นี่จะเปิดให้พักเป็นช่วงๆคะ ที่จริงวันนี้ที่นี่ไม่มีแขกคะ เพราะพี่เขาไม่อยู่ เขาเห็นว่ามันดึกมากแล้ว แล้วพวกเราก็เป็นคนต่างถิ่น พี่เขาไม่อยากให้เดินทางต่อคะ เราเลยคุยเรื่องราคาคะ พี่เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้จะคิดเท่าไหร่ เพราะปกติคิดเป็นหลังต้องมากัน 10 คนขึ้นไปคะ พี่เขาก็เสนอราคามา 1500 บ.คะ แต่ก็นะเราก็อึกๆอักเล็กน้อยคะ พี่เขาก็พูดว่าแบบคุยกันได้ครับ งั้น 1000 บ. โอเคไหม เราเลยถามดีคะ ดีก็โอเค พอดีกับจังหวะที่มีคนมาเปิดประตู้ให้คะ เราก็ยังคุยกับพี่เข้าต่อ พี่เขาก็บอกว่าพี่เขาจะให้คนทำข้าวต้มมาให้ตอนเช้า บ้านพักจะมี 4 ห้อง ให้เราเลือกพักได้เลย บอกเลยว่าเรารู้สึกเกรงใจพี่เขามาก เขาเป็นห่วงพวกเรา เขาก็บอกว่าเราต้องได้อะไรบ้าง แล้วก็บอกเราวาถ้าขาดเหลืออะไรให้บอกลูกน้องพี่เขา รึโทรมาบอกเข้าก็ได้ โห....ตอนนั้นเราสองคนนี่แบบตื่นตันมากคะ เหมือนพี่เขาเป็นเทวดามาโปรด 555 ต้องขอบคุณพี่เขาจริงๆ ยิ่งพอเราเห็นที่พัก เราสองคนนี่แบบ ตาโตมากกกกกกกหลังจากนั้นเราก็เข้าบ้านพักคะ ก็มีพี่ผช.มาเปิดประตู้ให้คะ แล้วก็บอกพวกเราว่ามีอะไรเรียกพี่เขาได้คะ เราเห็นแล้วแบบรู้สึกดีใจที่ไม่ต้องเดินทางต่อ แล้วก็รู้สึกโชคดีที่พี่เขายอมเปิดบ้านให้เราพักกันคะ ดีนี่รีบเก็บภาพในบ้านใหญ่เลยคะ สำหรับเรื่องราววันแรกก็จบลงเท่านี้คะ เดี๋ยวของวันพรุ้งนี้จะมาต่อนะคะ

มาต่อคะ หลังจากวันแรกจบลง ตอนเช้าพวกเราก็ตื่นตัวเดินทางต่อคะ ดีก็ออกไปถ่ายรูปบรรยากาศด้านนอกคะ ส่วนเราก็แต่งตัววนไป 555 ออกมาจากห้อง ดีก็นั่งรอกินข้าว เราสองคนไม่รู้ว่าพี่เข้าเอาข้าวต้มมาให้ตอนไหน 55555 แต่ข้าวต้มอร่อยมากเลยคะ กินข้าวเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันคะ 
นี่เป็นด้านหน้าของบ้านคะ 

นี่เป็นเจ้าสามทหารเสือที่เฝ้าหน้าบ้านของเราคะ 5555 มันวิ่งมารับเราตั้งแต่เมื่อคืนแหละคะ ไม่คิดว่าวันจะนอนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน

นี่เป็นด้านหลังบ้านคะ บรรยากาศดีมากเลยคะ แต่แดดก็ร้อนมากเช่นกัน 5555 
มองเห็นบ้านอีกหลังไกลๆคะ ตรงนู้นเป็นบ้านหลังใหญ่คะ น่าจะใหญ่สุด

ทางเข้าบ้านเราคะ เป็นไงคะ ตอนแรกเราสองคนนี่ใจเสียไปแล้ว ถ้าไม่ได้พี่เขานี่ เราสองคนไม่อยากจะคิดว่าจะไปยังไงต่อคะ ต้องขอขอบคุณพี่มากจริงๆนะคะ ที่ทำให้ในความโชคร้ายของพวกเรา ยังมีความโชคดีซ่อนอยู่ หลังจากนั้นพวกเราก็เดินถ่ายรูปกันคะ

แล้วเราสองคนก็เดินทางต่อไปยังวังน้ำเขียวคะ พอออกเดินทางเราสองคนคิดตรงกันเลยคะ ว่าเข้าใจแล้วที่พี่เขาไม่อยากให้เราเดินทางต่อ 5555 ทางโคตรเปลี่ยว แถมทางก็ไม่ค่อยจะดีคะ เราขับรถออกมาจากที่พักได้สักระยะ ดีเขาก็เห็นลูกหมานอนอยู่กลางถนนคะ แต่เบรกไม่ทันคะ เหยียบน้องหมาไป ดีรีบจอดรถเลยคะ ลงไปขอโทษเจ้าของหมา ตอนนั้นดีเสียใจสุดๆ พอดีดีเป็นคนรักหมาคะ เลยเศร้าไปเลย เราก็ยืนคุยอยู่นาน สุดท้ายจ่ายค่าเสียหายไป 1000 บ. หลังจากขับรถออกมาเราก็ต้องพยายามคุยเล่นกับดี ให้กำลังใจดี คือมันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดคะ เรายอมรับเลยตอนที่ดีพูดว่า เฮ้ย...หมา แล้วดีเบรดเรายังมองไม่เห็นน้องหมาเลยคะ เศร้าไปเลยทีเดียวเชียว ดีเขาก็พยายามไม่คิดมากคะ ขับรถต่อไปโยให้อีจีนำทางคะ สุดท้ายเราก็หลงอีกตามเคยคะ 5555 เราเลยไปตามเซ้นที่มีแทน ขับไปขับมาก็ออกมาอยู่ถนนหมายเลข 304 เราก็ไปยูเทิรนรถแล้วขับตรงไปก็เจอป้ายต่างๆมากมาย แล้วดีก็บอกว่าเลี้ยวตรงนี้แหละ เมื่อกี้เห็นป้านสวนลุงไกร เราเลยเปิดแผนที่ที่เอามาจากเว้บอีกที เฮ้ย...มันใช่อ่าาาาา พากเราก็ขับไปตามทางแวะกินชาหน่อยเล็กน้อย

หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไป อ่านป้ายไปเรื่อยๆ จนเจอป้ายทางเข้าสวนลุงไกรคะ เราก็เข้าที่พักกันคะ

ป้าก็พาเราเดินมาที่บ้านพักคะ
[img]http://f.ptcdn.info/492/044/000/[img] 
ถ่ายแต่ห้องน้ำมา ไม่มีใครถ่ายในห้องนอนสักคน มัวแต่ตื่นเต้นกับห้องน้ำกลางแจ้งกันคะ นายดีนี่ภูมิใจกับการเลือกที่พักสุดๆ หลังจากเราเอาของเข้าที่พักก็ออกไปเที่ยวกันต่อคะ แล้วก็ไปหาข้าวกินกันคะ ในที่พักจะไม่มีอาหารให้นะคะ ไม่มีตู้เย็น คือต้องเตรียมปเอง ส่วนเราเตรียมคะ แต่ลืมเอามา 5555 ซื้อใหม่หมดคะ ซื้อกล่องโฟมกล่องเล็กคะ เอาไว้ใส่น้ำแข็ง ส่วนจานเราขอยืมป้าเขาคะ พวกเราก็ออไปเที่ยวเก็บตะวันต่อ  
ขากลับจากผาเก็บตะวัน เราสองคนก็ขับรถไปกินข้าวที่ร้านอาหารบ้านเลขที่ 5 กันคะ   
อาหารอร่อยมากกกกก เหมือนสั่งหลายอย่าง จิบอกวาเห็นสั่งแค่นี้ เราสองคนยังกินไม่หมดเลยนะคะ ห่อกลับคะ จะรออะไร อ้อ...จะบอกว่าต้มยำอร่อยมากคะ อร่อยสุดๆ 55555 กินเสร็จก็กลับที่พักนอนคะ พอช่วงเย็นเราก็เดินไปตรงส่วนที่ขายพักของลุงไกรคะ 
เราเจอลุงไกรด้วยนะคะ 5555
 
เราสองคนก็ถ่ายรูปไปเรื่อยคะ หลังจากนั้นเราสองคนก็ซื้อผักสลัด น้ำสลัด แล้วก็เห็ดแปรรูปกลับไปกินกันคะ 
อาหารมื้อเย็นของเราสองคน กินง่ายอยู่ง่ายจริงๆ 5555 กินเสร็จก็นอนสิคะ รอไร เราสองคนเน้นการมาพักผ่อนคะ บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ 55555 อ้อ....จะบอกว่าที่นี่ตอนกลางวันร้อนมากกกกกกก แต่ตอนกลางคืนนี่หนาวสุดๆไปเลยคะ ที่พักที่นี่ไม่มีแอร์นะคะ มีแต่พัดลม แค่เปิดพัดลมตัวเดียว ห้องก็เย็นมากแล้วคะ ยิ่งกลางคืนฝนตก โอ้โห...ไม่ต้องเอ่ยคะ หนาวกันไปสิคะ 555555


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1911806