รีวิว/รายงานสถานการณ์น้ำตกห้วยแม่ขิ้น สำหรับวันหยุดนี้

เมื่อถึงหน้าฝนแล้ว ที่เที่ยวที่ทุกคนสนใจ คงหนีไม่พ้นน้ำตกแน่ๆ
แต่ก็อย่างที่รู้ ปีนี้แล้งมากกกกกก แล้งจนเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า และผลกระทบก็คงไม่พ้น "น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น"น้ำตกที่สวยงามอันดับต้นๆของประเทศ
หลายๆคนคงอยากรู้ว่า "เอ๊ะ! นี่กลางหน้าฝนแล้ว น้ำมีรึยัง" หรือคนที่สนใจจะไปเที่ยวช่วงหยุดยาวนี้ ลังเลว่าควรจะไปดีมั้ย 
  โอเค กระทู้นี้ผมจะพาไปสำรวจกัน ว่าจะเป็นยังไง เผื่อเอาไว้ให้ทุกคนตัดสินใจ 
  (กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ อมยิ้ม17 )
ปล.รูปนี้ของเมื่อปี 2558 เน้อ


สำหรับกระทู้นี้ จะเน้นที่ตัวน้ำตกอย่างเดียว ส่วนเรื่องการเดินทาง คงมีหลายๆท่าน รีวิวไว้แล้วมากมาย ผมก็ขอข้ามไปเลยละกัน เพื่อความไม่เสียเวลาครับ

ผมเชื่อว่า ผู้คนส่วนใหญ่ที่พึ่งเดินทางมาถึง ที่แรกที่จะเดินไปเลยคือ "ชั้น4" ซึ่งเป็นจุดขายของน้ำตกแห่งนี้เลย "แต่เราไม่" เราจะพาทุกคนไปชั้น 7 ก่อน แล้วค่อยไล่ลงมา ฮ่าๆ
  "ชั้น 7"
สำหรับชั้น 7 แล้ว น้ำค่อนข้างมีเยอะพอสมควร ลงเล่นได้สบาย เยอะสมกับเป็นช่วงกลางหน้าฝน แต่อาจจะน้อยกว่าปีที่แล้วนิดนึง
เคยคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า "จริงๆแล้วมีชั้น 8 ด้วยนะ" แต่มันอยู่ไกล เป็นต้นน้ำ เจ้าหน้าที่เลยไม่ให้เข้าไป ผมก็ยังไม่เคยเข้าไปเหมือนกัน 
เห็นพวกร่องรอยจีวรเก่าๆของพระธุดงค์ หน้าจะมีพระธุดงค์ไปปลีกวิเวกที่นั่นอยู่บ้าง


ลงมาอีกชั้น คือชั้น 6 ซึ่งสวยไม่แพ้กันกับชั้นอื่นๆ ชั้นนี้ดูค่อนข้างกว้าง เล่นน้ำได้ น้ำไม่ลึกมาก แต่ไม่ค่อยเห็นคนมาเล่นเท่าไร หรือเพราะผมมาแต่วันธรรมดาก็ไม่รู้ ไม่ค่อยได้มาวันหยุดเลย น้ำก็เยอะอยู่ แต่ที่เยอะไม่แพ้กันคือ "ยุง" เยอะมากกกกก เยอะสุดๆ แถมดุจัด อะไรก็เอาไม่อยู่ กัดทะลุเสื้อแขนยาวเลยทีเดียว ซื้อซอฟเฟลมา แต่ดันลืมไว้ที่รถซะงั้น (จะซื้อมาทำม้ายยยย)

"ชั้น6"

ชั้นนี้มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ถ้าน้ำเยอะกว่านี้จะสวยมากๆ

ต่อมาคือชั้น 5 ชั้นนี้เป็นชั้นลูกเมียน้อย ขาขึ้นก็เดินผ่านไป ขากลับก็ไม่มีใครมองอมยิ้ม20 น่าสงสารที่สุด เป็นชั้นที่ ไม่รู้จะถ่ายอะไร ฮ่าๆ

"ชั้น5"

ชั้นนี้ เป็นน้ำมุด ไหลแล้วหายไปเลย หลายคนสงสัย ว่ามันจะไปออกที่ไหน คาดว่าน่าจะไปออกที่ลำธารเล็กๆไกล้ๆกับชั้น 4 นั่นเอง


เดินต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ เราออกจากโซน 567 กันแล้ว จากชั้น 5 มาชั้น 4 ก็ไม่ไกลมากนัก เอาหล่ะ เราจะไปดูชั้น 4 ซึ่งเป็นจุดขายของที่นี่กันแล้ว อุตสาห์ใจแข็งไม่แวบไปดูก่อนนะเนี่ย อยากลุ้น 555

"ชั้น4"

   "ผ่างงงงง" และนี่คือชั้น 4  เห้ยยย แล้วน้ำมันหายไปไหนหมด นี่มันก็กลางเดือน ก.ค แล้วนา มันควรจะมีสิ อุตสาห์เฝ้าติดตาม จริงๆก็ทำใจไว้แล้วแหละ เสียงน้ำตกที่เคยดังกระหึ่มราวกับสิบล้อวิ่งผ่านมันหายไป เหลือแค่เสียง แบบ "ซ่าาาาาา ซ่าาาาา" แค่นั้น โอเค ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแล้ว TT มันยังมีน้ำไหล ไม่ได้แห้งเหือดหายไปแบบหน้าร้อนที่ผ่านมา ผมก็ดีใจแล้ว

เทียบกับเมื่อ ปี 2558 ช่วงกลาง สิงหาคม


และเราก็ต้องเดินลงบันไดไปที่ชั้น 3 ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่เหมือนกัน พอๆกับชั้น 4 เลย ผมคิดว่า อีกสักเดือนนึงก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมแหละ แต่คงเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ คงต้องไปลุ้นเอาปีหน้า (คงไม่มีเอลนิญโญ่แล้วนะ) ปลอบใจตัวเองแล้วเดินลงไปต่อ


ลืมไปเลย ก่อนลงไปแนะนำยาทากันยุง หรือยาฉีดลงไปด้วยนะครับ ยุงโหดมากกกกก อาจทำให้ท่านหมดอารมณ์ในการถ่ายรูปหรือเที่ยวชมน้ำตกไปเลยทีเดียว (ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่ถ้าให้ก็เอา ฮ่าๆๆ)

เอาหล่ะเราก็มาถึงชั้น 3 แล้ว   "ท๊าาาาาาด๊าาาาาาา"

"ชั้น3"

  "ฆ่าฉันให้ตายเสียยังดีกว่า" เสียงน้าแอ๊วยอดรักลอยขึ้นมาเลย TT ร้องให้ครับ อะไรมันจะโกร๋นขนาดนี้ นี่กะจะมาโดดให้ชุ่มช่ำไปยั้น Hum และตั้งกล้องพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติท่ามกลางละอองน้ำอันสดชื่น แต่นี่มันอะไรก๊านนนน สักหยดก็ไม่มีแหมะลงมาเลย จบเลย จากการสอบถามเจ้าหน้าที่(อีกแล้ว) เขาบอกว่า ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย นี่เป็นปีแรกที่น้ำแห้งขนาดนี้ ซวยจริงๆ นี่เราเกิดช้า หรือธรรมชาติมันแปรปรวนกันหล่ะนี่ แต่ก็แอบเห็นร่องรอยการไหลของน้ำบนหินปูนอยู่นิดหน่อย คงไหลมาแปปเดียวอ่ะแหล่ะ

รูปจากปี 2558 กลางเดือนสิงหาคม


เดินลงมาจากชั้น 3 มาเรื่อยๆ ไม่ต่างกันเล้ยFacepalm



รูปจากปี 2558 กลางเดือน สิงหาคม


"แต่เดี๋ยวก่อน" หากท่านคิดจะถอดใจ หันหลังกลับเดินขึ้นไป ท่านคิดผิดแล้ว ลองเดินมาอีกสักนิด แล้วท่านจะประหลาดใจว่า "น้ำมันมาจากไหนเยอะแยะฟระ"

   ใช่แล้ว ผมก็ประหลาดใจ น้ำมันมาจากไหนเนี่ย ที่อีชั้น บนๆงี้แห้งเชียว ผมคิดว่า น่าจะเกิดจากน้ำมุด มุดตั้งแต่ชั้นบนๆนู้นนน เลย คงมีโพรงใต้ดินขนาดใหญ่เป็นทางไหลของน้ำ ผมก็ไม่ทราบว่า ในกรณีที่น้ำแห้งสุดๆนั้น น้ำที่ไหลมา จะสามารถเปลียนทางได้หรือไม่ คงต้องรอคำตอบของผู้รู้แหละครับ เพราะผมก็เดาสุ่มๆไป

ชั้นนี้ก็เล่นได้นะครับ ผมชอบชั้นนี้อย่างนี้ คือ แอ่งตรงกลางน่ะ เหมือนอ่างจากุซซี่เลย น้ำเป็นสีเขียวมรกต สวยมาก แลส่วนตัวดี 
เหมาะสำหรับแช่เพลินๆ


เดินลงมาอีกก็จะเจอน้ำตกชั้นย่อยอีก สวยดี น้ำแรงใช้ได้ ชั้นนี้ผู้คนก็นิยมมาเล่นกันอย่างหลากหลาย โดดน้ำตกก็ได้ ไม่สูงมาก ตรงกลางน้ำลึกพอประมาณ



เดินลงมาอีก ก็เจอชั้นย่อยอีก มันคือ สระน้ำมหัศจรรย์ คือมันกว้างมาก ว่ายฟรีสไตล์เล่นได้เลยแหละ น้ำไม่ลึก ผมสูง 175 เต็มที่แค่หน้าอก ชั้นนี้เหมาะสำหรับเด็กๆนะ เพราะน้ำไม่ลึก ผู้ปกครองดูแลได้ แต่อย่าไปปีนตรงผาหล่ะ มันคม บาดเอาง่ายๆ


และแล้วก็มาถึงชั้นสอง

"ชั้น2"

   ชั้นขวัญใจวัยรุ่น น้ำลึก ลึกมาก น้ำใส ไหลแรง ส่วนตัวผม ชอบชั้นนี้ที่สุด ไม่เหมาะกับเด็กโดยสิ้นเชิง เพราะน้ำแรงและลึก แต่สายฮาร์ดคอร์นี่ จัดไป
มันส์สุดๆ แต่ทางอุทยานมีป้ายบอกชัดเจนว่าไม่ให้โดด ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะเพื่อนๆ เพื่อความปลอดภัยเน้ออมยิ้ม16


(รูปเบลอไปนิด ไม่ได้ใช้ขาตั้ง)

และชั้นนี้ ผู้คนนิยมมากระโดดกันสุดๆ แหงละ มันสูง ประมาณ 4-5 เมตรได้มั้ง และน้ำข้างล่างก็ลึก เรียกว่า โดดลงไป ขาไม่ถึงพื้นละกัน และที่น่าสังเกตคือ ชั้นนี้ น้ำแทบจะไหลเป็นปกติของกลางหน้าฝนแล้วนะ คือไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนัก แสดงว่า ชั้นบนๆที่แห้งนี่ อาจเกิดจากน้ำมุดหรือเปล่า ไม่แน่ใจ


ตอนนี้ก็มาถึงชั้นสุดท้ายแล้ว นั่นคือ

"ชั้น1"


สวยงามตามท้องเรื่องครับ น้ำเยอะเป็นปกติเหมือนกัน ชั้นนี้เป็นชั้นยอดฮิตของคู่รัก มาที่ไร เจอตลอด ฮ่าๆ น้ำมีทั้งช่วงลึก และช่วงตื้น แบ่งโซนเลย


ส่วนที่ถัดไปจากชั้น 1 ก็คือลำธารที่จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนั่นเอง เดินไปได้ครับสวยดี มองวิวเพลินเหมือนกัน บางช่วงก็ลงเล่นได้ แต่ไม่สวยเท่าชั้นบนๆแล้วหล่ะ


   จบแล้วครับสำหรับการรีวิวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้ง 7 ชั้น หวังว่าคงจะเป็นตัวเลือกให้ทุกคนที่กำลังหาที่ท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวนี้  
สรุปคือ คุ้มค่าเข้า ถ้าไม่คิดอะไรมาก น้ำตกหายไป 2 ชั้น 555 น้ำมีแค่ ชั้น  1 2 5 6 7 เท่านั้น น่าเสียดายชั้น 3 4 ไม่มีซะงั้น คงต้องรอกันต่อไป
   
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยอมยิ้ม17

   .............
   .............
   .............
   .............
   .............
   .............
   .............
   .............

   :สถานีต่อไป "น้ำตกผาสวรรค์" pasawan waterfall (เสียงแบบ BTS ) 


ที่มา Pantip
Cr. เสียงสวดคาถาภาษาบาลี