รีวิว "คีรีวง" องศาแห่งความสุข.. (พร้อมรวบรวมที่พักในหมู่บ้านมาฝากด้วยคะ)

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ ...
อันที่จริงโดยปกติแล้ว เราเป็นคนที่ชอบออกเดินทางอยู่บ่อยๆค่ะ ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งเห็นจะได้
ทั้งในและต่างประเทศ เรียกว่าลางานเต็มตามกำหนดที่ได้ วันหยุดยาวมีเท่าไหร่ ก็ใช้สิทธิ์หมดค่ะ 
แต่ทุกๆครั้ง จะไม่ค่อยได้มารีวิว หรือมาแชร์อะไรเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีเวลา และประกอบกับว่าฝีมือการถ่ายรูปของเรานั้นธรรมดามากๆ

แต่กับการไปเยือน คีรีวง ครั้งนี้ให้ความรู้สึกต่างกันมากๆ เรารู้สึกว่าถ้าเรากลับมาแล้วไม่ได้มาบอกต่อ หรือไม่ได้มาชวนใครไป 
คงจะไม่ได้แล้ว เลยทำให้ตัดสินใจ ทำรีวิวครั้งนี้ขึ้น หากการรีวิวครั้งนี้ มีข้อผิดพลาดอะไรไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ 

ภาพ : Canon D760 และ Samsung Note 5   



เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้าตรู่ โดยสารไปกับ Air Asia ได้ราคาจากโปร 0 บาทมา คนละ 145 บาท (ไป-กลับ กทม-นครศรี)
ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. กว่าๆ ก็มาถึงจุดหมายประมาณ 9 โมง ออกไปรับรถเช่า เมื่อได้รถแล้ว

ก็มุ่งหน้าไป  "ร้านโกปี้"  ที่เขาว่ามีชื่อ หากไปนครศรีแล้วต้องไปลองสักครั้ง 


หน้าตาอาหารถือว่าดูดี มีความรวดเร็ว รสชาติอร่อย แต่คั่วกลิ้งเผ็ดสาแก่ใจ สมเป็นเมืองใต้


หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันต่อ ไปศาลหลักเมืองประจำจังหวัด


เสร็จสิ้นภารกิจช่วงสายๆ คราวนี้ถึงตานางเอกของเราแล้ว มุ่งหน้าไปยัง หมู่บ้านคีรีวง ไฮไลต์ของการเดินทางครั้งนี้
เมื่อขับรถเข้าถึงหมู่บ้าน เราก็เริ่มหาที่พักของเราที่ได้ทำการจองล่วงหน้ามาแล้ว นั่นคือ "ซือวานโฮมสเตย์" 






ภาพห้องที่เราพักคะ เป็นบ้านไม้ จัดที่นอนน่ารักๆ น่านอน ส่วนห้องน้ำทั่วไปแยกอยู่หลังบ้าน (ไม่ได้ถ่ายมา)
พักที่นี่โอเคทุกอย่างคะ ยกเว้นเรื่อง ยุง ที่เป็นอุปสรรคกวนใจ แต่ก็แก้ได้ด้วยการเตรียมยาทากันยุงไปด้วยคะ 


เมื่อเราเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาเช่าจักรยาน เพื่อใช้เป็นพาหนะคู่ใจ ในการเที่ยวรอบหมู่บ้านคะ
โดยร้านที่เราเลือกก็คือ ร้าน บ้านนายทั่งคะ เป็นร้านที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ 
อันที่จริง ยังมีอีกหลายร้านนะคะ ยังไงก็อยากให้กระจายรายได้ให้ทั่วๆทุกร้าน เราจึงเก็บภาพมาฝากด้วยคะ เพื่อเพื่อนๆจะสนใจ 





เมื่อได้จักรยานแล้วเราก็ออกเดินทางสำรวจหมู่บ้าน ปั่นไปเท่าที่จะปั่นไหว 555+
ไปชมบรรยากาศกันคะ 

ฟ้าขุ่นๆ แต่ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ

ชาวบ้านมาลงเล่นน้ำ จอดมอไซกันตรงนี้เลยคะ มีคนซักผ้า อาบน้ำกันด้วยนะ แต่ไม่ได้ถ่ายมา

มองทอดยาวไป

ความใสของน้ำ


เขาว่ากันว่าอย่างนี้ ... 

ร้านกาแฟในหมู่บ้าน พอให้ได้แวะพัก ชิลๆ

ร้านสะดวกซื้อที่น่าจะใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านคะ

ตกเย็นหิวแล้วก็หาอะไรกินกันไป ... มาจัดมื้อหนัก ที่ร้าน Black Bull Cafe 
อาหารไม่ได้ถ่ายมา เพราะพอวางลงโต้ะปุ้ป ก็จัดการกันทันที ไม่สามารถห้ามความหิวโหยนี้ได้ 555+
ความน่ารักที่ของชาวบ้านที่ได้เจอคือ เจ้าของร้านแนะนำแกงส้ม แต่เรากลัวจะเผ็ด ก็เลยไม่สั่ง 
แต่เพื่อนอีกคนนึงพูดกันว่า แต่ก็อยากชิมนะแต่ไม่เป็นไร(ทำนองนี้) แล้วทีนี้อีกโต้ะนึงในร้านเขาสั่งพอดี 
พอแกงส้มมา เขาก็ตักแบ่งมาให้เราชิม แบบมีปลามีกุ้งพร้อม น่ารักจริงๆคะ เราก็เลยแบ่งหมูมะนาวให้พี่เขาไปทานแกล้มเบียร์กันด้วย 
***รสชาติอาหารร้านนี้ถือว่าใช้ได้ เรื่องปริมาณกับราคา คุ้มสุดๆ อิ่ม อร่อย สบายกระเป๋าคะ






พอเรากินข้าวกันเรียบร้อย ... ก็ไปเล่นน้ำกันต่อคะ ไปนอน ไปนั่ง ไปแช่ ไปว่าย ไปเล่นกับเด็กๆในหมู่บ้าน 
ไปคุย ไปแลกเปลี่ยนภาษา (ภาษาใต้ กับ ภาษากลางคะ 55) ชั่วโมงนั้นเราสัมผัสได้ถึงความสุขคะ ความสุขแบบที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย
มีความสุขได้โดยไม่แพงคะ ไม่มีราคา แต่มีคุณค่าและมีความหมายมากๆ ชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมดา ธรรมชาติ มันดีแบบนี้นี่เอง
เราเป็นคนกรุงเทพฯ ในชีวิตในเมือง ไม่เคยได้สัมผัสอะไรแบบนี้ รู้สึกดีมากจริงๆ 

พอค่ำๆหน่อย สักประมาณ 2 ทุ่ม ก็เงียบ ส่วนใหญ่ปิดไฟมืดกันทั้งหมู่บ้านแล้ว ประกอบกับการที่เราสนุกมาทั้งวัน ก็นอนหลับสนิทเลยคะ
พอรู้ตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงไก่ขัน เสียงสวดมนต์ เสียงตามสายของหมู่ เป็นการตื่นเช้าที่สบายๆมาก 
เราตื่น ออกไปปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า อยากเก็บเกี่ยวความรู้สึกแบบนี้ไว้ให้ได้มากที่สุดคะ 


ตอนเช้าๆมีหมอก

แวะเข้าวัดยามเช้า

ในระหว่างทางที่ปั่นจักรยาน เรามานึกได้ว่า เราอยากชวนเพื่อนๆมาที่นี่จัง อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ 
ได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้มาสัมผัสดูสักครั้ง ความเรียบง่ายที่มีเสน่ห์ 

จำได้ว่าตอนที่เราหาข้อมูลเพื่อมาที่นี่ เราหาที่พักยากมาก เราเลยตะเวนปั่นจักรยาน รวบรวมข้อมูลมาฝากเพื่อนๆด้วยค่ะ 
คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนอยู่น้าาาา เลยตัดสินใจหอบร่างในชุดนอน หน้าสด บวมๆ ปั่นไปรอบหมู่บ้านเลยคะ 555+

ริมธารโฮมสเตย์


คืนละ 800.- บาท มีแอร์ เจ้าของบอกว่า จะนอนกี่คนก็แล้วแต่เรา นอนได้เท่าไหร่ก็นอนเลย 555+
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พี่แดง โฮมสเตย์


เป็นบ้านหลังๆแบบนี้คะ มีประมาณ 2-3 หลัง 
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
หน้าชายคลอง


โซนห้องแอร์

เบอร์ติดต่อ

โซนห้องพัดลม
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปู่อินทร์ รีสอร์ท


----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บ้านริมธาร


----------------------------------------------------------------------------------------------------------
และอีกหลายๆที่ตาม ป้ายนี้เลยคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

เราปิดท้ายทริปคีรีวงนี้ด้วยร้าน "ขนมจีนป้าเขียว" ที่เจ้าของโฮมสเตย์ย้ำเราประมาณ 3 รอบว่าต้องไปกินให้ได้
ต้องไปกินที่นี่เท่านั้น กำชับอย่างหนักแน่น จนเราเริ่มคิดไปว่าอาจจะเป็นหน้าม้าหรือเปล่า 
แต่เมื่อเราไปถึงจริงๆ ก็พบว่าคนแน่นเต็มร้าน 



ร้านนี้จะเป็นสไตล์บริการตัวเอง คือซื้อแต่หนมจีน เป็นชุดๆ แล้วน้ำยาตักเองได้เลย 
ตักไม่อั้น ตักเท่าไหร่ก็ตักไป ผักมากมายหลายชนิด จะกินเท่าไหร่ให้ตักกันเอง
มีไก่ทอดหอมๆ ที่ต้องไปยืนเฝ้าเท่านั้นถึงได้กิน เพราะวางปุ้ปคนหยิบปั้บ
ถ้าหวังรอเขามาเสิร์ฟ คงได้กินตอนร้านปิดเป็นแน่


เรื่องรสชาติ เราคงไม่พูดอะไรมาก เพราะเราพูดไม่ได้เรากินอยู่ ... 555+ คือแทบอยากจะขับรถกลับไปหาเจ้าของที่พักแล้วขอบคุณเขาที่แนะนำ
เพราะมันอร่อยมากๆ มากๆๆ แบบ ก.ไก่ อีกล้านตัว ไก่ทอดที่แย่งๆกันนี่ก็เลอค่าจริงๆ คือถูกปากเรามาก ไม่ทำรสจัดเกินไป 
คือมันดีอะแกร ไปลองเห้อะ น่าเสียดายที่เราต้องไปเที่ยวที่อื่นต่อ เลยไม่สามารถซื้อกลับกรุงเทพมาฝากที่บ้านได้ 
เลยวางแผนว่า ครั้งหน้าจะมาปิดจ้อบที่คีรีวงและขน หนมจีนน้ำยาที่นี่กลับกรุงเทพฯ จริงจังมากๆคะ 555+ 

ก็ผ่านไปแล้วคะ สำหรับทริป คีรีวง หลังจากที่นี่ เราไปต่อกันที่หาดหินงาม หาดในเพลา 
ซึ่งในช่วงเดือนนี้ ท้องฟ้าไม่ใส ทำให้ทะเลไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ทะเลเงียบสงบมาก เล่นน้ำสบายใจ เหมือนเราเหมาหาดไว้
ก็มีความสนุกไปอีกแบบคะ เป็นการพักผ่อน แบบไร้กิจกรรมแน่นตาราง แต่เป็นการเอาร่างไปพักผ่อนจริงๆ 


จบแล้วคร้า ยังไงขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ^^
อ่านจบแล้วอย่ามัวรีรอ กางปฎิทิน หาวันให้ไว จองตั๋วให้ทัน ที่พักก็โทรเลย จองแล้วแพคกระเป๋าไปใช้ชีวิตกันเถอะคะ
"เพราะเราทุกคน มีหน้าที่ที่จะมีความสุขนะคะ"

"ขอบคุณค่ะ"


ที่มา Pantip
Cr. Dreamer vv