บันทึกการเดินทางของนักเที่ยวมือใหม่
เล่าเรื่องด้วยรูป ตอน หลงรักสมุย...เพราะ ibis samui bophut
ตลอดเส้นทางตั้งแต่ไปและกลับ เราได้ภาพสวยๆ จาก Fuji XA-2 ใช้โหมดเดียวคือ หน้าใสฟรุ้งฟริ้ง ส่วนเลนส์ก็ที่แถมมากับกับกล้องนั่นเลย ไม่มีแต่งสีแสงใดๆ เพราะแต่งไม่เป็น
Day 1 : 2-7-2016
ทริปนี้จริงๆ เราต้องเดินทางด้วยกัน 9 คน แต่เนื่องจาก 1 ในเดอะแก๊งขอถอนตัว เนื่องจากป่วยกะทันหัน และลางานกลับต่างจังหวัดไปก่อน แก๊งสก๊อยเกาะสมุยของเราจึงเหลือสมาชิกเพียง 8 คน
06.10 น. สมาชิกคนแรกเดินทางไปกับนกแอร์
07.00 น. อีก 7 คนที่เหลือนั่งแอร์เอเชียตามไปสมทบ (เที่ยวไป 590 บาทต่อคน เราเช็คอินผ่านเว็บ ที่นั่งเลยติดกันทั้งหมด แต่มี 2 คนเป็นสมาชิกบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ-แอร์เอเชีย นางเลยไปใช้สิทธิโหลดกระเป๋าฟรี กับเลือกที่นั่ง hot seat แถวแรก พร้อมกับน้ำดื่มร้อนหรือเย็นฟรี 1 แก้ว) แอบหมั่นไส้และอิจฉามาก
08.10 น. เครื่องลงจอดสนามบินสุราษฎร์ธานี ตรงเวลามาก "บินคุ้ม คุณภาพครบ" รับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ วิ่งซื้อตั๋วเรือ ferri speed boat ของบ.ลมพระยา (ออกจากประตูทางออก อยู่ขวามือ) รถทัวร์ + เรือ คนละ 600 บาท (ถ้าจองผ่านเว็บ จะมีรถ transfer จากท่าเรือถึงโรงแรมแถมฟรีด้วย) รถทัวร์ออกจากสนามบิน 08.30 น. ขับด้วยความเร็วเพื่อให้ทันเวลาเรือออกจากท่า ตอน 10.00 น. ใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน 1.30 ชม. ถึงท่าเทียบเรือของบริษัทลมพระยา
10.10 น. เรือ ferri speed boat ออกจากท่า เป็นเรือขนาดใหญ่แต่ไม่ใหญ่มาก ใหม่ สะอาด มี 3 ชั้น ชั้นล่าง เป็นห้องปรับอากาศ มีอาหารเครื่องดื่ม ทีวี ชั้นสองรับลมทะเลแต่มีร่ม มีห้อง vip ด้วย ส่วนชั้นบนสุดของเรือ ก็ตาม style ฝรั่งเขา คือ ไว้นอนอาบแดด แต่เราคนไทย เจอแดด 2 นาทีแทบไหม้ ผิวตอนนี้ก็เกือบสุกแล้ว
เราเลือกที่นั่งชั้น 2 เพราะรับลมทะเล เห็นวิว และโลมาสีชมพู
ตอน take off ที่สนามบินดอนเมืองฝนลงเม็ด พอ Landing สุราษฏร์ธานีเท่านั้นแหละ พระอาทิตย์อ้าแขนรับเลย
11.00 น. ถึงเกาะสมุย เจรจาต่อรองราคาคุณป้าแท็กซี่ อดีตไกด์เก่าเกาะสมุย ส่งโรงแรม 800 บาท (คนละ 100) ป้าใจดี แวะให้ทานข้าวข้างทาง เป็นมื้อแรก อาหารบ้านๆ แต่รสชาติไม่บ้านเลย เผ็ดร้อนถึงใจ น้ำพริกก็ทะลวงปากกระชากลิ้นมาก
รสชาติโดนมากถ้วยนี้ ไม่แน่ใจว่าใช่หยวกกล้วยไหม แต่อร่อยลืมตาย
หมูผัดพริกแกงใต้ กินไปเช็ดน้ำตาไป หร่อยแรง
กินอิ่มแล้ว นั่งรถเข้าโรงแรมตอนเที่ยงนิดๆ นั่งคุยกับป้าแท็กซี่ตลอดทาง เพราะไม่เคยมา ถามทุกอย่างที่ถามได้ 20 นาทีก็ถึงโรงแรม
12.20 น. ถึงแล้ว โรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด (Ibis samui bophut) ที่พักของเราสองคืนนับจากนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าโรงแรมไม่ใหญ่โตมากมาย แต่คุณภาพการบริการนี่ใหญ่โตมาก โรงแรม 5 ดาวที่เคยไปนอนยังเทียบไม่ได้ คำแรกที่เจอหน้ากัน น้องๆพนักงานกล่าวสวัสดี เกือบทุกคน เก็บคะแนนไปก่อนเลยโรงแรมนี้
วิธีการเช็คอิน : ที่นี่ค่อนข้างละเอียด และรักษาความปลอดภัยดี โดยผู้เข้าพักต้องแสดงบัตรประชาชนทุกคน ระหว่างรอเช็คอิน และรอห้องอีก 2 ห้อง (เพราะเช็คอินก่อน 2 ชม.) ก็ชมบรรยากาศหน้า Lobby ไปก่อน
โชฟาตัวกลางสีแดงอร่าม ยิ่งกลางคืนยิ่งสวย
บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
จุดบริการรถจักรยานยนต์เช่า รถตู้รับส่ง ติดต่อทัวร์ one day trip
ห้องพัก : เราจองห้อง Standard ราคาถูกสุด ผ่าน agoda ตั้งแต่ต้นปี ได้ราคา 1,425 บาทต่อคืน มา 8 คนนอน 4 ห้อง เฉลี่ยจ่ายค่าห้องคนละคืน เป็นปลื้ม... ตอนจองเรา request ผ่าน agoda ขอห้องติดกัน หรือใกล้กัน เพราะมาด้วยกัน ibis ก็จัดให้ตามคำขอ ได้ที่พักอาคาร 4 ติดสระว่ายน้ำ ห้อง connect เปิดประตูเข้ามาหากันได้ ที่สำคัญ ใกล้สระว่ายน้ำ และห้องอาหารเช้า ไม่ต้องเดินไกล เก็บคะแนนเพิ่มไปอีก
ราคาห้องพัก : เช็คราคาในวันที่เข้าพัก แอบดีใจได้ราคาถูกกว่าเพราะจองล่วงหน้า แต่แอบเสียใจ เพราะถ้า walk in จองหน้าเคาน์เตอร์ หรือ accorhotels.com หรือ ibis.com แล้ว @Line ของ ibisthailand จะได้ทานอาหารเช้าฟรี รอบหน้าแก้ตัวใหม่
สภาพภายในห้อง : ห้องของ ibis เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก คือ ห้องไม่ใหญ่มาก แต่เพียงพอสำหรับสองคน อุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน ความสะอาดให้เต็ม 10
คำวิจารณ์ : หลังจากสำรวจห้องแล้ว พอใจระดับหนึ่ง เสียอย่างเดียว wifi เดินช้าไปหน่อย พี่เต่ากวักมือเรียกหลายรอบแล้วก็ยังไม่มา แต่ไม่ซี เพราะพี่ใช้ net 215 ของ mybycat และ OPENSIM by i-mobile ขอบอก wifi ชิดซ้ายเลย ปลื้ม....
บรรยากาศภายในโรงแรม
เดินพามาสำรวจบรรยากาศรอบๆ โรงแรมกันหน่อย ย่อยอาหาร
จาก Lobby เดินตรงมาด้านหลัง ขนาบข้างด้วยอาคารซ้ายขวา เพื่อเชิญชวนมาสัมผัส hilight ของไอบิส สมุย
แวะชมห้องอาหารเช้า แต่เสียดายไม่ได้ลองรสชาติ เพราะจองแบบ room only จะกินก็ตั้ง 250 บาท/คน เก็บเงินไปกินซีฟู้ดหรืออาหารใต้ original ดีกว่า มาถึงใต้ทั้งที breakfast buffet ก็คงเหมือนๆกัน
ถึงแล้ว...
มนต์เสน่ห์แห่งไอบิส สมุย บ่อผุด
สระว่ายน้ำ วิวทะเล และนวดสปา เชิญทัศนา ณ บัดนี้
14.00 น. หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศัย ก็ได้เวลาของแว๊นบอยสก๊อยสมุย เราเดินออกมาเช่ามอเตอร์ไซด์หน้าโรงแรม โดยเดินไปร้านทางซ้ายมือ เจอป้าเจ้าของร้านใจดี ขับรอบเกาะสมุยกันคันละ 200 บาท (บางร้าน 150 บาท) มีหมวกกันน็อคให้พร้อม
หาดเฉวง คือจุดหมายปลายทางแรกของเรา เพราะจากคำบอกกล่าวของน้องพนักงานที่โรงแรมว่า อาหารอร่อย มีให้เลือกเยอะ นักท่องเที่ยวงานดี เกรด premium วิวสวย หาดทรายขาว ไม่ชักช้า สตาร์ทเครื่องแล้วค่อยๆบิด เพื่อความปลอดภัยและอรรถรสในการชมวิวสองข้างทาง
ถึงหาดเฉวง ตามป้ายบอกทาง จอดรถหน้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย แล้วลัดเลาะเข้ามา
เล่นน้ำที่หาดเฉวงกันสักพัก 17.00 น.ก็พากันกลับโรงแรม เพื่อมาดื่มด่ำกับบรรยากาศตอนกลางคืนที่หาดเฉวงกันต่อ ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ
18.20 น. หลังจากใช้พลังงานเต็มที่ ความหิวโหยก็ปรากฎ สอบถามน้องพนักงานว่าเกาะสมุย มีร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดไหม น้องบอกว่าทยอยปิดตัวไปหมดแล้ว น้ำตาซึม แต่เดี๋ยวก่อน มีบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ลองดูไหมคะ คลายหิว สมาชิกเดอะแก๊งรับเป็นเสียงเดียวลองดูแล้วกัน หิวกินช้างได้ทั้งโขลงแล้ว ไม่ชักช้าเปิดไฟใส่หมวก สตาร์ทเครื่อง ขับย้อนกลับไปหาดเฉวงตามเดิม
18.30 น. ถึงแล้ว GURU Buffet Samui ร้านอยู่ซ้ายมือ ตอนแรกก็แปลกใจว่าใช่ไหม จะกินจริงๆเหรอ นี่มันร้านหมูกระทะ กินที่กรุงเทพยังไม่หนำใจเหรอ ถึงมากินที่นี่อีก เดอะแก๊งเราก็มองโลกในแง่ดี ลองหมูกระทะสมุยบ้าง เผื่อแตกต่างจากกรุงเทพ เอาไงเอากัน เข้าไปในร้าน แขกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะทัวร์จีน มาดูอาหารบางส่วน (ถ่ายเฉพาะที่อยากกินนะ หิวมือไม้สั่นไปหมดล่ะ)
อาหารให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับคนหิวโซอย่างเรา บุฟเฟ่ต์อาหารรวมเครื่องดื่ม ไม่จำกัดเวลา หัวละ 239 บาท Net ไม่มีบวกเพิ่ม แต่พวกเราสั่งน้ำอัดลมด้วย เพราะเดี๋ยวไม่ได้อรรถรส...
20.30 น. อิ่มหนำแต่ไม่สำราญ เพราะแน่นท้องไปหมด กินหมูกระทะทีไร แบบนี้ทุกที ก็ขับรถไปจอดหน้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุยอีกรอบ เพื่อเดินเล่นหา one day trip ไปหมู่เกาะอ่างทองพรุ่งนี้
มีของที่ระลึกขาย เดินย่อยอาหาร สนุกปนฮา ร้านอาหารในตัวห้างเซ็นทรัลก็เยอะ หลากหลายดี ปากอยาก แต่ท้องรับไม่ได้แล้ว
ที่หาดเฉวง ไฟสว่างทางดี เดินหาทัวร์ one day trip ไปหมู่เกาะอ่างทอง ด้วยเรือใหญ่ join trip สนนราคาหัวละ 800 บาทรวมรถตู้รับส่ง อาหาร 2 มื้อ แต่ไม่รวมค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ประเด็นช็อคสุดคือ รถตู้มารับที่โรงแรมเพื่อไปขึ้นเรือตอน 07.30 น. เช้าไปไหน...
มาต่อกันที่ ARK BAR Beach club ไม่ไกลจากเซ็นทรัล เดินมาได้ แต่เราขับมอเตอร์ไซด์กันมา แวะนั่งชิลล์ริมหาด สาดด้วยน้ำทะเล มีโชว์ควงไฟด้วย ตื่นเต้น ไม่เคยเห็น
ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้ว ก็ขอตัวไปนอน เตรียมแรงสำหรับ one day trip พรุ่งนี้กันดีกว่า ฝันดี ราตรีสวัสดิ์...
Day 2
07.45 น. รถตู้ของ บ.อ่างทองทัวร์ มารับที่โรงแรม หลังจากไปรับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จากโรงแรมอื่นมาแล้ว ของเราเป็นที่สุดท้าย ลืมบอกว่า วันนี้เราไปกันแค่ 5 คน ส่วนอีก 3 คนขอถอนตัว เพราะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ยังกังวลเรื่องการนั่งเรือ ส่วนอีกคน ขอนั่งๆนอนๆกินลมชมฝรั่งแถวโรงแรม ซึ่งถือเป็นจุดประสงค์หลักของการมาที่นี้ของเธอ
รถตู้พาเรามาส่งท่าเรือเพื่อนั่งต่อไปยังหมู่เกาะอ่างทอง ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชม.ถือว่านานอยู่ แต่เรือใหญ่ ดูปลอดภัย มีห้องน้ำห้องท่าบนเรือ มี 3 ชั้น บนสุดอาบแดด ชั้นสอง เป็นชั้นคนขับเรือ และอาหารเช้า นม กาแฟ โอวัลติน น้ำอัดลม ขนมปัง กล้วย ฯลฯ ชั้นล่างสุดก็นั่งได้ มีห้องน้ำและน้ำจืดบริการ สะดวกสบายทีเดียว พร้อมแล้วก็ออกเดินเรือกันเลย
10.00 น. นั่งก็แล้ว นอนสามหาวสี่หาวก็แล้ว เห็นเกาะวับๆแวมๆ
ขอคั่นรูปวิวสักรูปนะ คุณผู้ชม อารมณ์กำลังได้ ขาดแจ็คอย่างเดียว โรสพร้อมแล้ว
เรือที่พาเรามาก็จะเหมือนเรือลำด้านหลังเลย (เสียดายไม่ได้ถ่ายเรือตัวเอง) เรือจอดห่างฝั่ง แล้วต้องใช้เรือเล็กขนถ่ายผู้โดยสารจากเรือขึ้นเกาะ ความสนุกจึงเกิดขึ้น
เรือลำแรกจะส่งผู้โดยสารที่ซื้อทัวร์แบบพายเรือคายัคด้วย เราซื้อเฉพาะทัวร์เกาะที่ราคาถูกกว่า เพราะพายเรือกันไม่เป็น ดำน้ำก็ไม่เป็น เป็นโรคกลัวน้ำอีกต่างหาก
ถึงแล้ว จุดชมวิวจุดแรกของเรา ลากูนน้ำสีเขียว ต้องขึ้นบันไดหลายขั้น เอาหอบอยู่เหมือนกัน
ขึ้นบันไดจุดชมวิวมาสักพัก หันหลังมาดู หายเหนื่อยเลย
จากจุดนี้ขึ้นไปอีกหลายขั้นบันไดแม้ว ใครบอกยิ่งสูงยิ่งหนาว ไม่จริงไม่เชื่อ ยิ่งสูงยิ่งเหนื่อย ยิ่งร้อน ยิ่งหิว (ข้าวเช้ากินแค่กาแฟ กล้วย ขนมปัง) แต่ผลลัพธ์...มหัศจรรย์
หลังจากกดชัตเตอร์ไป 400 รูป ครบทุกมุมแล้ว หัวหน้าทัวร์ก็ตามเราขึ้นเรือเล็กเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน บนเรือใหญ่ เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารที่คนไทยและต่างชาติทานได้ เครื่องดื่มไม่อั้น เราขอพักให้ท่านผู้ชมรับชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ ระหว่างทานอาหาร ก่อนที่จะมาต่อกันที่หมู่เกาะอ่างทอง ภาคบ่าย
ก่อนจะตัดภาพไปที่ห้องส่ง มาดูบรรยากาศของเดอะแก๊งอีก 3 คนที่เหลือซึ่งไม่ยอมน้อยหน้า ออกมาหาของกินขึ้นชื่อ ขนมจีนป้าไมตรี ที่สองสาวนั่งยันยืนยันว่าอร่อยลืมตาย
ที่มา Pantip
Cr. P Phutthi