สวัสดีเพื่อนสมาชิกชาว blueplanet ทุกท่านเจอกันอีกครั้งครับ สำหรับรีวิวในวันนี้จะพาไปเที่ยวที่หัวหินกัน ต้อนรับวันแม่ปีนี้กันซักหน่อย ในทริปนี้คงเน้นกินๆ นอนๆแค่นั้น เพราะคืนก่อนวันเดินทาง เกิดเหตุระเบิดที่หัวหิน ทำให้ทริปนี้ กระส่ำ ไปพอสมควรครับ เพราะแพลนที่จะไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ก็ต้องยกเลิกลงทั้งหมด เพราะทริปนี้มีทั้งเด็กและ สว เพื่อความปลอดภัย เลยงดกิจกรรมนอกโรงแรมทั้งหมด ทำให้ทริปนี้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่อยู่แต่ใน โรงแรมเท่านั้น..
เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดี๋ยวเราไปรับชมรีวิวกันเลยดีกว่าครับ ในรีวิวนี้ คงเน้น อาหารซะส่วนใหญ่ นะครับ เพราะทริปนี้เราเน้นกินล้วนๆ 555
คำเตือน!! ก่อนรับชมรีวิวควรทานอาหารให้อิ่มเรียบร้อย เพราะไม่งั้นอาจทำให้ท้องร้องระหว่างรับชมได้..
เราเริ่มล้อหมุนออกจากบ้านแถวบางบัวทองกันประมาณ 7.30 ไม่อยากออกช้า เส้นพระราม 2 นี่ปกติรถเยอะด้วยตอนสายๆ เลยออกเช้าหน่อยดีกว่า พิกัดแรกเราจะไปแวะทานอาหารเช้ากันแถวๆคลองโคน สมุทรสงครามกันก่อนเลยครับ
สำหรับพิกัดแรกครับ เราจะไปแวะทานอาหารกันที่แถวคลองโคนกันก่อน โดยปกติผมก็ไปเที่ยวหัวหินบ่อยพอสมควร แต่ไม่เคยแวะคลองโคนเลยซักครั้ง น้องแนะนำร้านเด็ดมาเลยต้องขอลองแวะชิมซักหน่อย ใช้ Google นำไปทางเลยครับ สะดวกสบาย ไม่มีหลง ร้านที่จะพาไปชิมในวันนี้คือร้าน “ครัวตาหนุ่ย” ครับ
แผนที่ตามนี้เลยครับ จะเจอปั้ม ปตท ก่อน แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปได้เลย
สำหรับร้านครัวตาหนุ่ยนี้จะเลี้ยวเข้าไปห่างจากถนนใหญ่ไม่ไกลมากครับ แล้วเวลาทานเสร็จ ก็ไม่ต้องตีย้อนกลับออกมาสามารถวิ่งตรงเข้าไปแล้วไปทะลุตัวเมืองเพชรบุรีได้เลยสะดวกดีรถไม่ติดด้วย แต่ถนนอาจเป็นเลนสวนกันขับลำบากหน่อย ก็แล้วแต่ใครสะดวกแล้วกันนะ ขับเข้ามาซักพักเราก็จะเจอป้ายร้านแบบนี้อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ
สำหรับร้านอาหารในระแวกคลองโคน มีร้านเด็ดร้านดังมากมายหลายร้าน แต่น้องบอกว่าร้านนี้เค้าว่ารสชาดอร่อย ราคาไม่แพงด้วย ในๆก็ผ่านมาละต้องลองซักนิด มาดูบรรยากาศภายในร้านครับ
มาดูวิวด้านหลังร้านกันซักหน่อยครับ
ไปตอนเช้าๆแบบนี้ก็ดีครับคนยังไม่เยอะ ตอนที่ไปถึงมีคนมานั่งทานก่อนแล้วโต๊ะนึง ระหว่างนั่งทานไปก็มีคนทยอยมาเรื่อยๆครับ สำหรับใครที่มาทานที่ร้าน ครัวตาหนุ่ย นี้ เวลาสั่งอาหาร อาจต้องรอนานนิดนึงนะ เพราะไม่ว่า พริกตำ หรือเครื่องปรุงต่างๆที่นี่ไม่ได้ทำเตรียมเอาไว้ สั่งปุ๊บ ก็มานั่งตำพริก หั่นผัก กันทีละจานเลย อาจใช้เวลารอนิดนึงอยากชิมของอร่อยต้องใจ เย็นๆ น๊า อิอิ
หลังจากสั่งอาหารไปแล้วรอซักพัก ก็ได้เวลาอร่อยกันแล้วครับ มาเริ่มกันด้วยเมนูแรกกันเลย อันนี้เด็ดสุดๆ ปลาดุกทะเลผัดฉ่า...
ตามมาด้วยเมนู แกงคั่วชะครามกุ้งสด อาหารที่สั่งมานี่ เป็นเมนูแนะนำล้วนๆครับ น้องบอกว่าเด็ด เลยต้องสั่งมาลองซักหน่อย ชะคราม หรือ ช้าคราม เป็นพืชล้มลุก พบทั่วไปตามชายฝั่งทะเล ที่น้ำเค็มขึ้นถึง ในไทยพบมากที่จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม เป็นพืชทนเค็ม กิ่งก้านอวบน้ำ ใบแคบยาว พองกลม ปลายแหลมมีนวลจับขาว จำนวนมาก สีเขียวอมฟ้า ใบมีรสเค็ม เอามาทำเมนูนี้ อร่อยไปอีกแบบครับ
อีกหนึ่งเมนูครับที่แปลก และอร่อยมากมาย นั่นคือ เมนู เมี่ยงปลากระพง เนื้อปลา หั่นมาเป็นชิ้นๆพอดีคำ ทานง่ายไม่ต้องมาลำบากเลาะจากก้าง
มาต่อด้วยเมนูปลากันอีกซักเมนู กับเมนูปลาทอดงา ทานเมนูปลาที่ร้านนี้ไม่ลำบากครับ เพราะ ที่นี่เลาะเนื้อออกมาทอดเป็นชิ้นๆให้เรียบร้อย ทานสะดวกมากมาย เมนูนี้ก็แนะนำเลยครับ สุโก่ยยย!!
ต่อด้วยเมนู "กุ้งทอดซอสมะขาม" กุ้งเน้นๆ เต็มๆคำครับ
สำหรับเด็กๆ ก็เมนูนี้เลย เมนูยอดนิยม ไข่เจียว นั่นเอง ครับ แต่เราใส่เนื้อปูเพิ่มไปอีกนิด จะได้อร่อยมากยิ่งขึ้น
หลังอิ่มหนำสำราญ ก็วิ่งเส้นในไปทะลุเพชรบุรีเลยครับ เห็นมีเพื่อนบอกว่ามียายคนนึงฐานะยากจน อยู่บ้านหลังเล็กๆตัวคนเดียวไม่มีลูกหลานอยู่ระแวกเพชรบุรี เลยแวะบริจาคของให้แกซักหน่อย อิ่มท้องแล้วก็อิ่มใจ แล้วไปไหว้พระอิ่มบุญกันต่อที่วัดระแวกแถวนั้นแล้วก็มุ่งหน้าเข้าสู่หัวหินเลยครับ ระหว่างทางไปเพื่อน line มาบอกว่าเค้าปิดเมืองหัวหิน ตรวจค้นระเบิดและไล่ล่าผู้ต้องสงสัย เอาล่ะหวา ทำยังไงดีละคราวนี้ เลยโทรเช็คกับทาง โรงแรม ทางโรงแรมแจ้งว่า เค้าตั้งด่านตรวจค้นอยู่ตรวจช่วงก่อนถึงวังไกลกังวล โชคดี โรงแรม Anantara ถึงก่อน เลยรอดไปไม่ต้องลำบาก แต่ รถติดค่อนข้างมาก ท้ายแถวมาถึงหน้าโรงแรมเลยทีเดียว เห็นทางฟร้อนบอกว่ามีลูกค้ายกเลิกโรงแรมในตัวเมืองแล้วหนีมาพักที่ Anantara ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
เช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมไปเข้าห้องพักกันเลยครับ บรรยากาศภายในโรงแรมร่มรื่น เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ วันนี้ที่โรงแรมออกจะดูคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจาก มีลูกค้ายกเลิกโรงแรมในตัวเมืองย้ายมาพักที่นี่แทน
โรงแรม อนันตรา หัวหิน เดิม ก็คือ แมริออต นั่นเอง โดยทางอนันตรา เทคมาทำต่อ ตัวโรงแรมตบแต่งสไตล์ไทยๆ แยกเป็นตึกๆ จะมีห้องพักในส่วนชั้นบน และชั้นล่าง ห้องพักที่ผมจองไว้จะเป็นชั้นล่างครับ เดี๋ยวเราเข้าไปห้องพัก ดูบรรยากาศภายในกันซักหน่อยครับ
มาดูบรรยากาศในห้องพักกันซักหน่อยครับ ตบแต่งได้สวยงามคลาสสิค มากมาย
มุมโซฟา ไว้นั่งเล่นอ่านหนังสือ ชิลๆได้ที่มุมนี้ได้เลย
เครื่องดื่ม ถ้วยกาแฟ มาที่มุมนี้ได้เลย มีให้ครบเซต
ที่นอน หนานุ่มนอนสบายฝุดๆ ห้องน้ำเป็นแบบซีทรูมองทะลุได้ แต่ไม่ต้องห่วง มีม่านไฟฟ้า สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ครับ
ในห้องนอนคงมีแค่นั้นเดี๋ยวมาดูในห้องน้ำกันบ้างครับ แยกส่วนเปียกแห้ง ครีมอาบน้ำยาสระผมของที่โรงแรม อนันตรา หอมถูกใจมากๆ
มาดูที่ระเบียงหน้าห้องกันซักหน่อยครับ อยู่ชั้นล่างก็ดีอย่างครับ ออกไปเดินไปไหนมาไหนง่ายหน่อย ถ้าอยู่ชั้นบน ต้องลงบันไดมาอีก โดยรวมในห้องก็คงมีแค่นี้ครับ อ้อ ข้อดีอีกอย่างของที่โรงแรมนี้ก็คือ มีน้ำแข็งบริการฟรี ถูกใจดีจัง เวลาดื่ม โทรสั่งได้เลย สะดวกดี 555
ก็บข้าวของเสร็จ ก็ไปเดินสำรวจโรงแรมกันซักนิดครับ มาเริ่มที่สระว่ายน้ำกันเลยดีกว่า สระว่ายน้ำที่นี้ขนาดกำลังดีครับไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป มินิบาร์ ให้บริการติดขอบสระเลย ว่ายน้ำเหนื่อยๆแวะเข้าไปสั่งเครื่องดื่มได้เลย
มาทะเลทั้งที ขอออกไปสัมผัสทะเลซักหน่อย บรรยากาศด้านริมทะเลครับ นอนสูดอากาศกันชิลๆ
จากนั้นก็ไปว่ายน้ำดับร้อน เสร็จแล้วก็มาเริ่ม ตั้งวงสนทนาจิบชิลๆริมทะเลครับ จนเริ่มมืด มาดูบรรยากาศยามใกล้ค่ำของที่ โรงแรมกันซักนิดครับเริ่มจากตรง บาร์ริมทะเลครับ
บริเวณ ทางเข้าและล็อบบี้กันซักหน่อยครับ ใกล้ๆล็อบบี้ก็จะมีบาร์อีกจุดนึงสามารถมานั่งชิลๆตรงนี้ได้อีกเช่นกัน
หลังจากนั้นก็นั่งชิลกะเพื่อนจนดึก ก็ได้เวลาแยกย้ายเข้าห้องพักผ่อนครับ
ตัดมาตอนเช้าเลยครับมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของ โรงแรม ชื่อ “Issara Café” ครับ ห้องอาหารของที่โรงแรม Anantara นี้เป็นแบบ open air ครับ
บรรยากาศในห้องอาหารโดยรวมกันซักหน่อยครับ ครับ รับประทานอาหารเช้าท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ ทำให้เจริญอาหารดีนะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเด่วเราไปดูไลน์อาหารกันเลยครับ
เริ่มจากมุมพวกอาหารคาว กันดีกว่าครับ เอามาให้ชมแค่บางส่วน ละกันนะ เพราะถ้าลงครบเดี๋ยวกระทู้จะยืดยาวกันไป
ของหวานและผลไม้กันซักหน่อยครับ
ปิดท้ายด้วยกาแฟเย็น พร้อม แพนเค้ก กันอีกซักนิด จากนั้นก็กลับห้อง เตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางกลับละครับ
ก่อนกลับแวะถ่ายรูปกะอีกหนึ่งมุมเก๋ๆ ด้านหน้าโรงแรมกันซักหน่อยจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับ มุ่งหน้าเข้าสู่ กรุงเทพ
ขากลับแวะช็อปปิ้งที่ Outlet ซักนิด แล้วก็มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพละครับ มาถึงสมุทรสงครามบ่ายนิดๆ ก็แวะทานอาหารกันซักหน่อย กับร้านอาหารดัง ร้าน แดง อาหารทะเลครับ ที่นี่นอกจากมีอาหารทะเล อร่อยๆแล้วยังมีขนมต้ม อร่อยด้วย ที่ห้ามพลาด สำหรับแผนที่ๆที่จะไปที่ร้านก็ตามนี้เลยครับ หาไม่ยาก ข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองมาแล้วก็ชิดซ้าย พอเจอ รพ มหาชัยแม่กลองทางซ้ายมือ จะมี U turn วิ่งย้อนกลับมาแล้วเตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยตามแผนที่เลยครับวิ่งตรงไปเลย เข้าซอยไปนิดเดียวก็ถึงละ
เอาภาพจาก google street ประกอบซักหน่อย พอเลี้ยวเข้าซอยแล้ว วิ่งตรงไปแล้วสังเกตุ ร้านแดง จะอยู่ทางขวามือตามภาพแบบนี้เลยครับ ที่จอดรถจะอยู่ตรงนั้น พอดี
ได้เวลาอร่อยกันละ มาดูเมนูเด็ดของที่ร้านแดงกันเลยดีกว่าครับ เริ่มจากเมนูนี้เลย "ปูผัดผงกระหรี่"
ตามมาด้วยเมนูนี้ แซ่บบบบ สะใจแน่นอน มาทานอาหารร้านนี้ ถ้ามาไม่เยอะอย่ารีบสั่งหลายอย่างนะครับ เพราะอาหารที่ร้านนี้จานใหญ่มากๆ เคยมาครั้งก่อน หิวจัด สั่งมาหลายอย่างสุดท้าย ต้องใส่กล่องกลับบ้าน 5555
ตามมาด้วยเมนูนี้เลยครับ "ปลากระพง นึ่งมะนาว"
และเมนูปิดท้าย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่ร้านนี้นั่นก็คือ เมนู "ปลาทูซาเตี๊ยะ" หรือ ปลาทูตาเตี๊ยะ มาถึงแม่กลองทั้งทีก็ต้องสั่งจานนี้ที่เป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่ คล้ายกับปลาทูต้มเค็ม รสชาติ หวาน เค็ม เข้มข้นดี
ทานอาหารคาวกันอิ่มแล้วมาตบท้ายกันด้วยของหวานกันซักหน่อย และนี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมต้องมาทานที่ร้านนี้ กับเมนู "ขนมต้ม" นั่นเองครับ ขนมต้มที่ร้านนี้รสชาด ถูกใจสุดๆ ไส้รสหวานหอม เนื้อมะพร้าวอ่อนมากๆ ที่สำคัญ ขายหมดไวมากครับ ด้านหลังร้านก็มีขายแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของที่เดียวกันไหมเลยซื้อในร้าน แดง ดีกว่า สั่งกลับมาบ้านกินอีก 3 กล่อง จัดเต็มกันเลยทีเดียว 5555
รีวิวทริปหัวหิน ก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้เลยแล้วกันนะครับ บรรยากาศยามเช้า อาจดูเหงาๆ ไปซักหน่อย สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่ได้เที่ยวน้อยที่สุดตั้งแต่ไปเที่ยวมา เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปกติ เลยของด กิจกรรมตามสถานที่ท่องเที่ยวไว้ก่อน เดี๋ยวรอบหน้าค่อยกลับไปเที่ยวใหม่ หัวหิน ใกล้ๆแค่นี้เองสบายอยู่ละ
ขอขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเวียนมาชมรีวิวนี้ ขอบคุณ ทุก Like ที่มอบให้ หวังว่า รีวิวนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดหัวหิน แล้วหาร้านอร่อยๆทานกันนะครับ ขาดตกบกพร่องไปตรงจุดไหน ขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ สถานกาณ์ตอนนี้ก็เป็นปกติแล้ว หวังว่าหัวหินคงจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม คนไทยไม่เที่ยวไทย แล้วใครจะกล้าเที่ยวจริงไหมครับ สู้ๆ แล้วพบกันในรีวิวต่อไปครับ สำหรับวันนี้ขอกล่าวคำว่า ขอบคุณ
ที่มา Pantip
Cr.ตระเวนเที่ยว