รีวิว Trip Day เที่ยวกันแค่วันเดียว (สะพายกล้องท่องมหานคร)



สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปที่น่ารักทุกๆคนนะคะ ^^  เดือนนี้เรามาเจอกันอีกแล้วววแหม..เราเจอกันทุกเดือนแบบนี้จะมีอะไรล่ะคะนอกจากจขกท.ไปออกทริปเก็บภาพความทรงจำผ่านกล้องถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆที่น่ารักของจขกท.ไงงง จขกท.ตกลงกับแฟนไว้ว่าเดือนนี้เราจะไม่ไปไหนไกลๆเอาแค่ใกล้ๆก่อนเพราะสิ้นเดือนกันยาเรา2คนจะหนีเพื่อนๆไปเชียงใหม่กันอีกกก555555 ทริปนี้ก็เลยลงเอยปักหมุดที่วัดพระแก้วฯ จขกท.จะบอกว่าจขกท.กับแฟนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับทริปนี้เลยอาศัยเอาว่ามันคงไปไม่ยากแถมแฟนจขกท.ก็เคยไปมาเมื่อสมัย7-8ปีที่แล้ว แล้วด้วยค่ะคงไม่ยากหรอก😅 แต่ถ้าหากจขกท.เขียนอะไรผิดพลาดประการใดจขกท.ก็กราบขออภัยไว้ตรงหน้าตักหน้าใจตรงนี้เลยนะคะ เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วงั้นเราก็ไปแบกกล้องท่องมหานครกันเลยยยยย🚕


เอาล่ะเช้าตรู่8นาฬิกาได้เวลาที่พวกเราต้องตื่นแล้วหลังจากที่เมื่อคืนพวกเราเจอศึกหนักกันมากว่สจะถึงห้องก็ปาเข้าไปตี1กว่าแล้ว😒😒😒😒😒😒😒 
อ่ะไหนๆก็เกริ่นมาแล้วจขกท.ก็ขอเล่าสู่กันฟังสักนิดนึงเนอะ เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก5555คือคืนวันก่อนไปจขกท.กับเพื่อนๆพี่น้องๆก็พากันไปหาของกินแถวจตุจักรขากลับประมาณ4ทุ่มกว่าๆได้เราก็พากันนั่งรถตู้จะกลับเข้าหอไงพีคตรงลงรถนีาแหละค่ะเราพากันเดินลงรถตู้หน้าตาเฉยมาก..ข้ามสะพานมาได้ครึ่งค่อนทางมีพี่คนที่ไปด้วยตะโกนออกมาว่ากล้อง! กล้อง!! กล้อง!!!!! พวกเราลืมกล้องไว้บนรถตู้คันนั้นนนนนนนนน วิ่งสิเอ๋วิ่งงงเรา3คนพากันวิ่งลงสะพานแต่ช้าไปค่ะรถตู้คันนั้นออกไปซะแล้วแถมเราก็พากันจำเลขทะเบียนไม่ได้แต่ก็ยังดีที่แฟนของจขกท.จำชื่อที่เขาเขียนติดรถไว้ได้พวกเราเลยโบกรถตู้สายที่เรานั่งมาให้ตามหารถตู้คันนั้นไปซึ่งปลายทางของรถคือฟิวเจอร์แต่เมื่อเราไปฟิวเจอร์กลับไม่เจอรถตู้คันดังกล่าว ตอนนั้นหลายความรู้สึกมาปนกันในหัวสมองมากเลยค่ะอยากร้องไห้ อยากกรี๊ด อยากด่า คือสติหลุดไปเลยมันบวกกันจขกท.ร้อนใจมากด้วยถามๆวินรถตู้สายเดียวกันเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเขาบอกแค่ว่าถ้ามีผู้โดยสารขึ้นต่อโอกาศที่จะได้คืนก็ยากหน่อยแต่ถ้ารถตู้คันนั้นเข้าบ้านโอกาศที่จะได้คืนก็มีสูงอยู่เหมือนกัน จขกท.เลยโบกพี่แท็กซี่ให้ไปส่งที่จตุจักรที่เดิมที่เราได้ขึ้นมาพี่แท็กซี่ใจดีมากค่ะหลังจากที่เล่าเรื่องราวให้พี่เขาฟังพี่เขาก็ช่วยแนะนำให้โทรแจ้งเบอร์นี้ๆๆๆนะเขาแนะนำทุกหนทางที่จะช่วยเราได้เลยค่ะตลอดการเดินทางที่พี่เขาขับพาเรามาจขกท.ได้แต่ภาวนาให้เจอกล้องด้วยเถอะ สักพักพี่เขาก็พาพวกเรามาส่งที่จตุจักรที่เดิมเราพากันเดินหารถตู้คันนั้นซึ่ง..มันไม่เจอจขกท.เลยถอดใจแต่พอหันไปเห็นแฟนจขกท.ยกมือไหว้รถตู้ทุกคันเพื่อขอให้เขาเปิดประตู้ให้เราเข้าไปหากล้องแล้วก็แอบคิดไม่ได้ในเมื่อแฟนเรายังทำถึงขนาดนี้เราจะถอดใจได้ยังไง เราพากันเปิดรถตู้หาทุกๆคันที่จอดตรงวินท่ารถแล้วโชคดีก็ยังเป็นของเราค่ะ เราเจอกล้องแล้ววินาทีนั้นน้ำตาแทบจะไหลเลยค่ะซึ่งสอบถามพี่คนขับเขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่ามีผู้โดยสารลืมไว้แต่ยังไงก็ขอชื่นชมและขอบคุณพี่ๆแท็กซี่และพี่วินรถตู้ทุกๆคนที่ช่วยเหลือนะคะ นี่ล่ะค่ะที่มาที่ทำให้เราต้องพากันนอนดึก -_- 
เอาล่ะค่ะทีนี้เข้าเรื่องของเราได้แล้วเนอะ55555555

ทริปนี้เราเริ่มกันที่อนุเสาวรีย์ชัยฯค่ะจากหอที่สะพานใหม่มาอนุฯใช้เวลา1ชม.เต็มคือรถติดมากกกแถมดูจากสภาพอากาศแล้วฝนต้องตกแน่ๆ55555 

เราแพลนกันไว้ว่าทริปนี้จะใช้บริการรถเมย์ไทยค่ะ😅แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากไปแบบจขกท.แนะนำอย่าไปรถเมย์นะคะเพราะรอนานมากกกกจขกท.รอเกือบ2ชม.แหนะค่ะ5555555นานแบบโอ้โหหหหหเลยก็ว่าได้ค่ะส่วนรถเมย์สายที่เราสามารถนั่งไปลงสนามหลวงได้ก็จะเป็นสาย59กับสาย503ค่ะให้เพื่อนไปรอขึ้นรถที่ฝั่งเดียวกับห้างเซนจูรี่นะคะอาจจะนานหน่อยนิดนึงงงงงงงงงง ระยะเวลาเดินทางก็แล้วว่ารถจะติดมากติดน้อยแค่ไหนค่ะวันที่จขกท.ไปเป็นวันเสาร์รถเลยติดเป็นธรรมดาค่ะ มาถึงสนามหลวงก็เที่ยงเกือบจะบ่ายแล้วหิวข้าวมากกกกแต่หิวกาแฟมากกว่า^^ อ่อ..จขกท.ลืมบอกว่าทริปนี้เราไม่ได้ไปกัน2คนแบบทริปก่อนๆนะคะทริปนี้ได้เพื่อนร่วมเดินทางมาอีกคนคือเพื่อนของแฟนจขกท.เอง เรา3คนเลยพากันเดินหาของลองท้องก่อนจะเข้าไปในเขตวัดค่ะ เสริมนิดนึงเรื่องการแต่งกายนะคะสำหรับต่างชาติบางคนเขาไม่รู้หรอกค่ะว่าต้องแต่งกายยังไงเข้าวัดแต่สำหรับคนไทยจขกท.ขอให้แต่งกายให้เป็นระเบียบเรียบร้อยให้เป็นตัวอย่างแก่ชาวต่างชาติที่เขามาเที่ยวบ้านเราด้วยนะคะ เราเป็นคนไทยควรทำเป็นเยี่ยงให้เขาเอาไปเป็นอย่างจะดีกว่าคะ จขกท.มีตัวอย่างการแต่งกายมาให้ดูด้วยนะคะ5555555 

กางเกงขายาวกับเสื้อพื้นๆแค่นี้ก็เรียบร้อยได้แล้วค่ะ อ่ะๆห้ามใส่กางเกงขาสามส่วนเข้าวัดนะคะ ห้ามค่ะ^^ 

เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆก็จะเจอกับพี่ๆทหารขี่ม้ามาเดินตรวจนั่นนู่นนี่อยู่เป็นระยะๆค่ะ เดินมาเกือบถึงหน้าวัดเราก็จะเจอกับของขายเพียบเลยค่ะเรา3คนพร้อมใจกันมาหยุดอยู่หน้าร้านคุณป้าคนสวยร้านนี้เลยค่ะ 

เป็นก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่คนต่อแถวเยอะมากๆแสดงว่ารสชาติต้องเอาเรื่องแน่ๆเรา3คนเลยจัดการสั่งมาลองดูคนล่ะชามเป็นการเรียกน้ำย่อยเบาๆค่ะ55555 

หน้าตาน่าทานไม่เบาเลยแถมรสชาติจากน้ำซุปแล้วไม่ต้องปรุงก็อร่อยแล้วค่ะมื้อนี้ก็จ่ายกันไปที่30/ชามค่ะถือว่าถูกอร่อยและคุ้มมากๆเลย 😋 
เดินถัดมาอีกนิดก็จะเจอกับแผงลอยของร้านของฝากของที่ระลึกต่างๆรวมไปถึงร้านขายผ้าซิ่นผ้าถุงไว้สำหรับนักท่องเที่ยวบางคนที่แต่งกายไม่สุภาพค่ะ

สำหรับเรื่องผ้าซิ่นจขกท.ไม่แนะนำให้ซื้อนะคะเพราะทางด้านในจะมีจุดบริการให้นักท่องเที่ยงได้ยืมกันฟรีๆไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะแต่ถ้าท่านใดสะดวกซื้อก็ตามสบายค่ะราคาจะอยู่ที่100-200บาท/ผืนค่ะ^^



วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของแผ่นดินสยาม วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะ
วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้านเมือง ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ(ขอบคุณข้อมูลจากgoogleค่ะ)

เดินเข้ามาจากทางด้านในของวัดสังเกตุได้ว่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มากค่ะปกติคนเยอะหรือป่าวจขกท.ไม่รู้แต่วันนี้ตัดภาพมาที่ภาพด่านล่างนี้ค่ะ😅

คนเยอะมากกกกกกหันไปทางไหนก็แน่นไปหมดค่ะตอนนี้แถมแดดก็เปรี้ยงมากๆด้วยและด้วยความที่คนเยอะทำให้การถ่ายภาพของจขกท.คราวนี้ออกมาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ก็อย่าดุกันนะคะถ่ายภาพลำบากมากจริงๆ😅 (อ่ะๆห้ามถ่ายภาพพระแก้วมรกตที่อยู่ทางด้านภายในนะคะ ห้ามค่ะ) 

เข้ามาในนี้แล้วไม่ต้องกลัวหลงนะคะมีป้ายคอยบอกทางให้ดูด้วยค่ะ^^ ระวังไว้อย่างเดียวคือสัมภาระที่พกมาด้วยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่สงสัยว่าจะต้องเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาเองมั้ยแล้วแต่สะดวกนะคะแต่ที่นี่ก็มีไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเช่นกันค่ะ^^ เดี๋ยวเราเข้าไปดูความสวยงามทางด้านในกันบ้างดีกว่าค่ะ ตามมาๆ

ภายในวัดพระแก้วมีอาคารสำคัญและอาคารประกอบเป็นจำนวนมากแบ่งกลุ่มอาคารออกเป็น 3 กลุ่ม ตามตำแหน่งและความสำคัญค่ะ 

พระอุโบสถ เป็นอาคารประธาณซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตซึ่งอาคารตรงนี้ห้ามนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปเด็ดขาดค่ะ จขกท.เลยไม่ได้แชะภาพมาฝากเพื่อนๆนะคะได้แค่ดูภาพภายนอกอาคารนี่แหละคะ😅😅

หอพระนาก พระเศวตกุฏาคารวิหารยอด หอมณเฑียรธรรม พระอัษฎามหาเจดีย์ ยักษ์ทวารบาล และจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง ซึ่งมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังจำนวน 178 ห้อง 

ทั้ง178ห้องเรียงต่อกันยาวตลอดฝาผนังทั้ง 4 ทิศ มีเนื้อหาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ สังเกตุง่ายๆก็คือเราจะเจอกับย.ยักษ์เขี้ยวใหญ่ยืนเฝ้าทางประตูด้านหน้าเอาไว้ค่ะ



พระมณฑป ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งอยู่บนฐานไพทีตรงกลางระหว่างปราสาทพระเทพบิดรและพระศรีรัตนเจดีย์ เป็นมณฑปยอดปราสาทเจ็ดชั้น

พระศรีรัตนเจดีย์ จะตั้งอยู่บนฐานไพทีทางด้านทิศตะวันตกของมณฑปภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามค่ะ โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ที่พระราชวังกรุงศรีอยุธยาแถมองค์เจดีย์มีความสูงถึง 40 เมตรเลยนะคะภายในประดิษฐานเป็นพระบรมสารีริกธาตุนั่นเองค่ะ^^

แต่ที่จขกท.ชอบที่สุดก็คงจะเป็นมุมทางด้านข้างๆประสาทพระเทพบิดร ตรงนี้จะเรียกว่าพระสุวรรณเจดีย์ เป็นเจดีย์เพิ่มมุม 12 มีรูปลิงและยักษ์แบก
เจดีย์นี้รัชกาลที่ 1 โปรดให้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระชนกชนนี ซึ่งเป็นตามธรรมเนียมการสร้างวัดที่จะสร้างเจดีย์คู่ไว้หน้าวัด เป็นการอุทิศแก่บิดามารดาของผู้สร้าง ที่ฐานเจดีย์เป็นรูปยักษ์กับกระบี่ (ลิง) แบกเจดีย์

คือมองไกลๆว่าสวยแล้วพอได้เข้ามาเห็นใกล้ๆนี่ amazing Thailand มากเลยค่ะทั้งทรงเจดีย์ที่แปลกตากับลวดลายที่บรรจงมารวมกันดูแล้วก็อดชวนหลงไหลไม่ได้ จขกท.เทใจให้ตรงนี้เลยค่ะชอบมากๆ👍 เดินออกมาจากนอกประตูรั้วเขตวัดจขกท.ก็มาเจอเข้ากับกลุ่มไทยมุงต่างชาติมุงหรืออะไรก็ตามที่มุงอยู่ตรงร้านน้ำร้านนี้ค่ะ

มันคือน้ำลำใยค่ะ จขกท.ก็ไม่รู้ว่าที่เขามุงๆกันนี่คือมุงอะไรแต่น้ำลำใยนี่ต้องเด็จแน่ๆเลยจัดมาลองกันคนล่ะกระป๋อง

หน้าตาก็ตามรูปที่ได้นี่เลยค่ะรสชาติดีไม่เบาไม่หวานมากไม่จืดไปอันนี้แนะนำค่ะอร่อยใช้ได้เลยราคาก็แค่25/กระป๋องเองง เดินดื่มน้ำลำใยชื่นใจก็ตกลงกัน3คนว่าจะเดินถ่ายรูปเล่นกันเรื่อยๆมาสะดุดตากับกรุ๊ปทัวน์กรุ๊ปนี้เข้าให้😅😅😅😅

สีผ้านุ่งชั่งบาดใจจขกท.เสียเหลือเกิน5555 เห็นแล้วก็อดอมยิ้มแฉะภาพมาฝากเพื่อนๆไม่ได้ น่ารักดีนะคะจขกท.ว่า555555555555

เดินออกมาทางประตูทางเข้าที่เราเข้ามาตอนแรกทางด้านซ้ายมือก็จะเป็นพระบรมมหาราชวังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท มีความโดดเด่นกว่าพระที่นั่งในหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทอื่นๆ เนื่องจากเป็นผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมยุโรป 

โดยตัวอาคารพระที่นั่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่หลังคาพระที่นั่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย จนเป็นที่มาของชื่อ "ฝรั่งสวมชฎา" นั่นเองค่ะ^^

และเนื่องจากความเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นกว่าพระที่นั่งอื่นๆ ทำให้ปัจจุบันพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทกลายเป็นหนึ่งในจุดดึงดูดสำคัญที่สุดของพระบรมมหาราชวังด้วยค่ะ^^



ถัดมาจากฝั่งตรงข้ามเราก็จะเจอกับพิพิธภัณฑ์วัดพระแก้ว แต่ตอนที่จขกท.ไปเขางดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปทางด้านในค่ะจขกท.เลยได้แค่ภาพด้านนอกมาฝากเพื่อนๆตามที่เห็นเลยค่ะ -_- 

โชคดีที่ท้องฟ้าเปิดไม่มืดแบบเมื่อเช้าแล้วเลยทำให้ภาพออกมาค่อนข้างสวยเลยทีเดียวค่ะ (ทั้งทริปมีนายแบบอยู่แค่2คนนี้แหละค่ะจขกท.จ้างมาด้วยแป๊บซี่คนล่ะป๋องเลยนะคะเนี่ย) 😅😅😅😅😅
เดินเล่นกันได้สักพักเริ่มหิวขึ้นมากันอีกแล้วค่ะเราเลยตกลงกันว่าจะนั่งตุ๊กตุ๊กไทยแล๊นนนนนน(ขอซาวน์แบบน้องแนทมิสไทยแลนด์เลยนะคะ)ไปลงท่าเรือมหาราชแล้วต่อเรือไปหามื้อกลางวันกันที่วังหลังค่ะ กันค่ะ 👌 ก่อนออกจากเขตพระราชวังชออีกสักรูปแล้วกันนะคะ

หลังจากถ่ายรูปเสร็จสรรพเรา3คนก็พากันหอบร่างกายอันหิวโหยมาถึงหน้าพระราชวังแล้วเจอพี่ตุ๊กตุ๊กพอดีเลยค่าาาาา

สอบถามได้ราคาไปท่าเรือที่40บาทโอเคจะรออะไรงั้นไปกันเลยสิค่ะไปปปปปป~ 

แรงกว่าวินมอไซด์ก็ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์ไงคะลูก😅😅😅 ใครไม่ชอบไม่รู้แต่จขกท.ชอบมากค่ะมันดูมีอรรถรสดีนั่งไปก็หัวเราะไปชอบใจไปอีกค่ะ555555จากวัดพระแก้วมาท่าเรือมหาราชใช้เวลา10-15นาทีโดยประมาณค่ะ 

ถึงท่าเรือแล้วววววว ตรงนี้โปเกมอนน้ำเยอะเลยแวะพักสักแปบได้โปเกมอนตัวแจ่มๆสักตัวสองตัวค่อยไปต่อแล้วกันค่ะ😅😅

เดินเข้ามาก็จะเจอกับวิวกำแพงจักรยานเก๋ๆจอดลอยฟ้าเรียงกันอยู่หลายคันเลยค่ะ good idea มากๆเลย^^เราพากันจับโปเกมอนพักนึงแล้วจัดการซื้อตั๋วเพื่อที่จะนั่งเรือข้ามฟากไปอีกฝั่งนึงค่าโดยสารก็อยู่ที่คนล่ะ7บาทเท่านั้นเองค่ะนี่เป็นการนั่งเรือครั้งที่เท่าไหร่ของปีนี้แล้วนะเนี่ย😅 

ค่าเรือ7บาทแลกกับได้เห็นวิวสวยๆกลางแม่น้ำแบบนี้จขกท.ยอมค่ะ จากฝั่งมหาราชมาถึงฝั่งวังหลังใช้เวลาแปบเดียวค่ะ(เรือแล่นเร็วมาก😒)เก็บภาพได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะเรือโคลงเคลงมากเลย😅 
ลงจากเรือเรา3คนก็พากันเดินมาตามทางตลาดวังหลังตามตรอกซอกซอยจุดประสงค์ตอนนี้คือหาของกอนมื้อกลางวันค่ะ!

อารมณ์ก็ไม่ได้ต่างจากเจเจสักเท่าไหร่แต่เพียงแค่วังหลังจะมีของกินที่เยอะและราคาน่ารักกว่าเท่านั้นเองเราพากันเดินมาเรื่อยๆจนมาจบที่ร้านสเต๊กร้านนึงจขกท.จำไม่ได้เหมือนกันว่าชื่อร้านอะไร555555 คือหิวมากกกเลยพากันกทหน้าสั่งอาหารของใครของมันไม่มีใครสนใจใครเลยค่ะ😅

รูปร่างหน้าตาน่าทานหรือจขกท.หิวจนตาลายก็ไม่รู้😆

สเต๊กจขกท.ไม่แน่ใจว่ารสชาติอะไรยังไงแต่รสชาติสปาเกสตี้ที่จขกท.สั่งมาอร่อยใช้ได้เลยค่ะไม่เลี่ยนเกินไปด้วย

ของคาวผ่านไปก็ต้องตามธรรมเนียมเก่าแก่ของเรานะคะเคยได้ยินสำนวนที่ว่า"กินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่"กันมั้ยคะทุกคน55555555 ของหวานวันนี้จขกท.เลือกมาการองตัวนี้เลยค่ะเจ้าไมค์ตัวการ์ตูนจาก monster university คือมันอร่อยมากกกกเป็นมาการองที่ไม่หวานเลยค่ะซึ่งจขกท.ไม่ทานหวานอยู่แล้วมาการองไม่หวานนี่หายากสุดชีวิตเลยนะคะบอกเลยแถมราคมก็แค่ชิ้นล่ะ15บาทเองเอาใจไปเลยค่ะเอาตังค์ค่ามาการองไปด้วย😅😅😅 
อิ่มหนำสำราญกันแล้วตอนแรกว่าจะกลับห้องเลยแต่อารมณ์มันไม่สุดค่ะแถมนี่ก็เพิ่งจะ5โมงเองงั้นไปเอเชียทีคกันดีกว่าเนอะไปนั่งเรือเล่นชิลๆพอหิวก็ค่อยนั่งรถไปเยาวราชหาของกินก่อนเข้าห้อง โอเค!!เอาแบบนี้แหละไปซื้อตั๋วเรือกันเลยยยย


รอบนี้เรือที่เราจะนั่งไปเอเชียทีคเป็นเรือด่วนค่ะก็อยู่ที่คนล่ะ15บาทไปลงสุดสายเลยค่ะก็จะเป็นท่าเรือวัดราชสิงขร 

สำหรับเรือรอบนี้ใช้เวลาเดินทางก็ประมาณ15-20นาทีค่ะเส้นทางไกลมากแต่เรือเราเป็นเรือด่วนไงคะมันเลยถึงเร็ว5555 จขกท.จะบอกว่ามันเร็วมากๆตามชื่อมันเลยค่ะ😅😅แอบน่ากลัวเบาๆเรือด่วนจะมาจอดเทียบท่าใช้เวลาในการจอด2-3นาทีแค่นั้นค่ะผู้โดยสารทุกคนต้องมีสติค่ะต้องรีบขึ้นเรือหาที่นั่งให้เร็วที่สุดนะคะ55555 

เรือแล่นออกด้วยความเร็วสูงค่ะ -_- แถมไม่ได้นั่งอีกต่างหากวิวระหว่างทางจากท่าเรือวังหลังมาท่าเรือวัดราชสิงขรก็จะมองเห็นทั้งเรือที่แล่นสวนมาและตึกมหานครที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี่เองค่ะ ส่วนภายในเรือไม่ต้องพูดถึงค่ะ

น้องเขาคงเหนื่อยอ่ะเนอะ555555555555 ขึ้นเรือปุ๊บเอาผ้าปิดตาแล้วเข้าโหมดส่วนตัวทันทีแบบไม่สนใจคนรอบข้างหรือใครใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ😒 
มองตรงไปตรงฝั้งตรงข้ามที่เรือแล่นก็จะเจอวิววัดสวยๆที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอย่างวัดนี้ค่ะ

วัดอรุณราชวรารามหรือคนทั่วๆไปเรียกกันว่าวัดแจ้งนั่นเองค่ะ^^ตอนแรกจขกท.ก็ไม่ทราบหรอกค่ะว่ามันเป็นวัดอะไรแต่ก็ได้คุณป้าใจดีอาสามาเป็นไกด์จำเป็นให้เราค่ะ^^ 

โฉมหน้าของคุณป้าไกด์ใจดีทั้ง2จขกท.ก็ขออนุญาติลงรูปคุณป้าไว้ตรงนี้เลยนะคะถ้าไม่ได้คุณป้าคอยแนะนำตลอดการเดินทางพวกเราก็ยืนโง่ๆไร้ความรู้กันอยู่อย่างนั้นแน่ๆเลย5555555 
หันมามองอีกฝั่งไกลๆก็พอจะรู้ว่าเรากำลังจะถึงท่าเรือปลายทางแล้วล่ะค่ะเพราะแอบเห็นชิงช้าสวรรค์ Bangkok Eye ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเรามากนัก ตื่นเต้นดีจังเลยเนอะ555555 

วิวระยะไกลของชิงช้าสวรรค์ Bangkok eye ค่ะมองจากบนเรือยังสวยขนาดนี้เลยถ้าได้ลองไปนั่งต้องฟินมากแน่ๆเลยล่ะเนอะว่ามั้ย >//< 
เอาล่ะเรือจอดเทียบท่าที่ท่าเรือวัดราชสิงขรสำหรับเพื่อนๆท่านใดที่ไม่เคยมาก็ให้ลงเรือแล้วเดินตามพวกเขาไปเลยค่ะเพราะ80%ของคนที่ลงที่ท่านี้เขาก็ไปที่เดียวกันกับเรานั่นแหละเชื่อจขกท.สิ5555555 เดินมาตามทางจนถึงเอเชียทีคจากทางด้านหน้าก็จะเจอกับของขายจุ๊กจิ๊กทั่วไปเลยค่ะ

สายผ้าสายโบฮีเมี่ยนเก๋ๆต้องมาโดนค่ะที่นี่ของพวกนี้เยอะมากกกกกก

ใครที่กำลังมองหากระเป๋าจขกท.ก็แนะนำให้มาซื้อที่นี่เลยค่ะคือราคาถูกมากจนน่าตกใจ5555แนะนำเลยค่ะ😅

ถัดมาเรื่อยๆก็จะเจอพวกร้านขายของเล่นขายโมเดลการ์ตูนราคาก็ไม่แพงนะคะเอาง่ายๆก็ซื้อตามเว็ปเพจจะแพงกว่าด้วยซ้ำค่ะ หลักๆก็จะเป็นร้านขายเสื้อผ้าขายสิ้นผ้าประเภทแบบที่จขกท.เกริ่นไปทางด้านบนของกินก็จะมีไม่มากค่ะแต่ของกินแอบแพงด้วยนะคะจขกท.ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับมา ที่มาที่นี่เพื่อจะมาดูชิงช้าสวรรค์แค่นั้นเองว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าาาาาา😅😅😅

Bangkok eye ชิงช้าสวรรค์ที่จขกท.ใฝ่ฝันอยากนั่งมาตั้งนานแต่พอมาเห็นจริงๆกลับไม่กล้าขึ้นจขกท.กลัวมันค้างอ่ะค่ะกลัวมากๆเลยไม่ขอเสี่ยงดีกว่า😩😩😩

มาเห็นแค่นี้ก็ชื่นนนใจเหมือนได้มานั่งเองแล้วค่ะ55555555 โอเคเราเห็นชิงช้าแล้วทีนี้กลับกันเถอะเนอะ5555555555 อินดี้ไปอีก..คือมันไม่มีอะไรให้พวกเราได้ตื่นตาตื่นใจเลยอ่ามาเพื่อดูชิงช้าจริงๆ😅 เพื่อนๆท่านใดที่จะมาตามแบบจขกท.ก็ลองคิดดีๆก่อนนะคะจะได้ไม่เสียเวลามา5555 
แพลนต่อจากเอเชียทีคเรา3คนแพลนกันไว้ว่าจะไปหาของกินมื้อเย็นที่เยาวราชแล้วค่อยกลับเข้าที่พักแต่กล้องเจ้ากรรมดันมาแบตหมดซะนี่จขกท.เลยไม่ได้เก็บรูปของกินเด็จๆมาฝากเพื่อนๆเลย
เอาเป็นว่าจขกท.ขอจบทริปเที่ยวกันแค่วันเดียวไว้แค่นี้ดีกว่าเนาะไว้เจอกันเดือนหน้ากับรีวิว เชียงใหม่ เร็วๆนี้นะค๊าาาาาา รักทุกคนค่าาาาชุบชุ๊บบบบบ😘

#ขอบคุณข้อมูลดีๆจากGoogleด้วยนะคะบ๊ายบายค่าาา😘😘😘😘😘😘


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 3095142