รีวิว สุราษฎร์ธานีกับชะนี 4 ตัว!! (รูปเยอะมากกกก)

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้เป็นการรีวิวการไปเที่ยวของพวกเรา 4 สาวครั้งแรก  (6 วัน 5 คืน ) ตั้งแต่วันที่ 21-26 ก.ค. 59 

DAY 1

การเดินทาง จุดหมายแรก พะงันนนนนน น 

ไป >>> เครื่องบินของสายการบินนกแอร์เวลา 06.10 น. 

ถึงสนามบิน    ตอนประมาณ 07.00 น. พวกเราเลือกเหมาแท็กซี่ของสนามบินคันละ 500 บาท(ถ้าเป็นรถ pantip ของสนามบินตกคนละ 100 บาทแต่ต้องรอจนคนเต็มคัน) บอกไปลงที่หน้าวัดธรรมฯ ในตัวเมืองสุราษฯตรงฝั่งตรงข้ามวัดจะมีบริการเรือ + รถทัวร์ ไปที่เกาะต่างซึ่งแบบราคาจะถูกกว่าซื้อแพ็คเกจที่สนามบิน ซื้อไปเกาะพะงันคนละ 310 บาท 






ถึงเกาะพะงัน   เราพักที่ Phangan P10 ในราคา 2000 บาทต่อห้อง ห้องหนึ่งพักได้ 2 คน พอไปถึงมีปัญหากับห้องพักนิดหน่อย เลยได้แค่ห้องเดียวพัก 4 คน ในราคา 2200 บาท ซึ่งก็ถูกลงไปอีกจ้า   



เป้าหมายของเรา Full moon !! แต่เนื่องจากที่พักของเราอยู่ไกลจากหาดริ้นประมาณ 10 กิโลซึ่งไกลแล้วประกอบทางที่ไปก็เหมือนขึ้นเขาเลยเราจึงจำเป็นต้องเช่ารถจากที่พักไปที่หาดริ้น ก็ตกคนละ 200 กลับอีก 200 เผอิญโชคดีมีพี่ที่ใจดีมากกกกกกกกกก
พาพวกเราติดรถไปด้วยทั้งไปและกลับ ฟรีจ้างานนี้ ไปตอน 21.00 น. ค่าเข้างานคนไทยฟรีจ้า 

ทางเข้าหาดริ้น ทางชันมากๆๆๆ

คนเยอะมากสุดลูกหูลูกตา 95 เปอร์เซ็นต์เป็นฝรั่ง 

อันนี้มาเจโต้ อร่อยมากแนะนำกินง่าย 150 บาทต่อbucket 


DAY 2  เป้าหมายคือ เกาะเต่า 

อาหารเช้าก่อนเดินทางไปเกาะเต่า

การเดินทาง ค่าเรือจากเกาะพะงันไปเกาะเต่า 500 บาทต่อคน เป็นเรือด่วนลมพระยา รอบ 13.00 น. ถึงเกาะเต่า 14.30 น. 
แอร์เย็นมาก ที่นั่งสบาย  ไม่ค่อยโคลงเท่าไหร่ 

ที่นั่งในเรือไปเกาะเต่า สบายมาก

ไปถึงเกาะเต่า ใช้บริการแท็กซี่ไปที่พักราคา 300 บาทที่เรียกตามท่าเรือ (ลองต่อดูก่อนนะ อาจได้ถูกกว่านี้)
ครั้งนี้เราพักกันที่ บ้านโฉลกโฮลเทล อยู่หน้าที่ว่าอำเภอเกาะเต่า ราคาคนละ 400 ต่อคืน ไปกัน 2 คืน ที่พักบริการดีมาก มีขนมปี๊ป น้ำดื่ม กาแฟ ชา บริการฟรีตลอดทั้งวัน  







ห้องน้ำในตัว

ที่ขาดไม่ได้สำหรับเกาะนี้คือการเช่ามอเตอร์ไซต์!!!! โดยเราเลือกร้านที่อยู่ใกล้กับที่พัก โดยเดินออกจากที่พักไปทางขวามือ ตรงไปจนถึงทางแยก ร้านจะอยู่ตรงใกล้ๆกับหัวมุม ราคาเช่าที่ร้านนี้อยู่ที่คันละ 150 บาท/วัน และมีค่ามัดจำมอเตอร์ไซต์ 1,000 บาท (ราคาถูกมากกก เพราะถ้าเลือกไปเช่าที่แถวท่าเรือจะมีค่ามัดจำประมาณ 3,000-5,000 บาทเลยค่ะ) 

ร้านเช่ามอไซต์ เป็นร้านผลไม้ดองข้างหน้า

ตัวมอเตอร์ไซต์มีน้ำมันอยู่ประมาณ ครึ่งถัง พอได้มอเตอร์ไซต์แล้วเราเลยไปเติมน้ำมันกันที่ปั๊มแถวๆนั้นค่ะ ราคา 50 บาทก็อยู่ได้ 2 วันแล้วค่ะ 

จากนั้นนน เรื่องปากท้องก็เป็นเรื่องที่เราขาดไม่ได้เช่นกัน ในการไปหาดทรายรีเราไปทางถนนเส้นหลักที่กำลังทำทาง และในระหว่างทางเราก็แวะร้านที่อยู่ใกล้ๆกับเซเว่นใหญ่ 

กินร้านนี้หาไม่เจอโทรถามเจ้าของร้านเลย ป้าใจดีมาก อาหารอร่อย เป็นกันเอง 

ข้าวผัดพริกเผาทะเล ได้เยอะมาก 

ข้าวหมูผัดพริกแกง

ข้าวทะเลผัดผงกะหรี่

ต้มยำทะเลน้ำใส

ยำวุ้นเส้น

ข้าวเย็นมื้อนี้หมดค่าเสียหายไปตกหัวละ 140 บาท/คน  มื้อนี้....อิ่มยันคอหอยยยยย!!!

มุ่งสู่หาดทรายรีโดยเปลี่ยนมาใช้ถนนสายรองเรียบชายหาด ไหนๆมาถึงที่นี่แล้ว ก็มาไหวพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ซึ่งอยู่ริมหาดตืดกับศาลาที่เป็นที่นวด



ร้อนเทียนละลาย

มาเดินดูบรรยากาศเรียบหาดทรายรีกัน!!!! 






แว๊ะกินของหวานหลังจากทานข้าวไปแล้ว เครปร้อนๆ หวาน หอม Nutella กับ  Peanut Butter แผ่นละ 60 บาท ริมหาด


ภารกิจต่อไป....ตามหาต้นมะพร้าวในตำนาน!!!! เดินไปตามหาดเรื่อยๆ ก็จะเห็นต้นมะพร้าว เอนลงเข้าหาทะเล ซึ่งถือเป็น Signatureของที่นี่เลยก็ว่าได้


เจอแล้วววววว ว ว ว ว ว วว วว ว 

นั่งใต้ต้นมะพร้าว ”โลตัส บาร์”หาอะไรจิบ ฟังเพลงเพลินๆ ดูพระอาทิตย์ตก......ใครมากับแฟน คงโรแมนติกน่าดู





DAY 3 ทริปดำน้ำ @ เกาะเต่า ต่อยาวไปนางยวน

ในตอนเช้า ก่อนออกเดินทาง ได้ทานอาหารที่ที่พักจัดไว้ให้ คือ ขนมปังปิ้งกับกล้วยหอมลูกหย่ายยยยยยย

วันนี้เราจะไปเริ่มต้นทริปดำน้ำกันจ้าาา นำทีมโดยลุงคล่อง....รู้จักผ่านคุณลุงใจดีที่เคยช่วยเหลือตอนอยู่พะงัน ในราคา 2,500 บาทต่อวัน

ออกเดินทางโดยนัดกับลุงหน้าที่พัก เวลาประมาณ 9.00 น. ลุงเอามอเตอร์ไซต์แล้วเราก็ขี่ตามไป อากาศวันนี้ไม่มีแดด ฟ้าหลัวๆ ฝนตกพรำๆ แต่เราก็ไม่ย่อท้อ ไปดำน้ำกันค่ะ!!!!!

เรือที่เราจะฝากชีวิตกันวันนี้


สภาพอากาศ เป็นใจสุดสุด






ที่แรกมาลงดำดูฉลาม แต่ลุงบอกว่าไม่มีคนเห็นมา 3 วันแล้ว สรุป ณ จุดนี้ fail นะจ้ะ แต่ฉลามที่ลุงพามาไม่เป็นอันตรายนะคะ ไม่แน่ใจว่าพันธุ์อะไรแต่ปลอดภัยแน่นอนจ้า

จุดที่ 2 สวยมากกกกกก ปลาเยอะมากกกก
แล้วก็มีฝูงปลาข้างลายที่อยู่ใต้น้ำ ลุงคล่องอาสาดำลงไปถ่ายใต้น้ำให้ อู้วหู้วววว เหมือนอยู่ในสารคดีเลยค่ะ 


แฮะ!!


จุดต่อไปที่เรามาคือ อ่าวโตนดค่ะโดยที่นี้ เราได้รับคำท้าจากคุณลุงผู้นำทางค่ะ ให้กระโดดจากหินที่สูงประมาณ 7-8 เมตร 
จะกลัวอะไรละจ้ะ มาถึงนี้แล้ววว คำเตือน! ใครใจเสาะ ไม่ควรมาล้อเล่นนะคะ น่าจะไม่รอดตั้งแต่ทางขึ้นละค่ะ 555555
ทางขึ้นไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปจริงๆค่ะ แต่ลักษณะทาง ชันมากกก ทุลักทุเล ไม่มีอะไรให้ยึดเลยนอกจากเชือกเส้นเดียว แต่คนที่ชอบปีนเขาน่าจะชอบนะคะ 

อู้วหู้ยย ยยยย 
พอดีว่าตอนไปถ่ายรูปไว้ไม่ได้จริงๆ เลยขออนุญาติเอารูปมาจากเฟสของคุณลุงนะคะ




จุดสุดท้าย ลุงจะพาเราขึ้นฝั่งค่ะ ลักษณะเป็นหาดเล็กๆ แต่มีนักท่องเที่ยวจากจีนมาลงพร้อมกันพอดี เราเลยออกไปเล่นไกลชายฝั่งสักหน่อย เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ แต่ในความใสกับพวกปะการังก็ไม่ต่างกันมากเท่าไร

สถานีต่อไป คือ เกาะนางยวนจ้า



ที่เกาะนี้เราก็มาหาอะไรกินกัน เพราะหิวมากกก เลยเที่ยงแล้ว 
โดยมีค่าขึ้นเกาะ 30 บาท/คนค่ะ และเค้าจะไม่ให้เอาขวดน้ำขึ้นบนเกาะนะคะ


หาร้านเจอแล้ว!!!

แต่.. เอิ่มมม มม

ดูราคาแล้วจะเป็นลมม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ….   160 บาท!! อันนี้คือข้าวไข่เจียวนะคะ ย้ำ! แค่ข้าวไข่เจียวนะคะ!! ยังดีที่มีหมูสับมาให้ ..

รสชาติใช้ได้ค่ะ ไม่รู้ว่าอร่อยหรือว่าหิวกันแน่  แต่แนะนำให้ตอนเช้าซื้อข้าวไปกินบนเรือเลยนะคะ  เพราะร้านอาหารที่นี่ค่อนข้างผูกขาด เพราะมีร้านเดียว

เมื่อกินเสร็จก็เดินทาง เป้าหมายคือจุดชมวิว 

โดยเดินไปตามสะพานไม้ เดินไปเรื่อยๆเลยค่ะ จนมีป้ายบอกให้เลี้ยวขึ้นเขา เดินต่อด้วยบันได ไม่ไกลมากนะคะ เดินเพลียๆ เหนื่อยก็พัก นั่งตบยุง







ถึงแบย้วววววววววววว ตอนถึง จุดชมวิว ฟ้าเปิดโปร่งโล่งพอดีเลยค่ะ อากาศกำลังดี แสงก็สวยย ถือว่าจบทริปนี้อย่างสวยงามทีเดียวค่ะ

สวยงามจริงๆนะ 

เรากลับมาถึงหาดประมาณบ่ายสามพอดีค่ะ ทีนี้เราก็เลยรีบกลับไปทีพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาแว๊นส์กันต่อเลยย 

พวกเราเลือกที่จะไปหาดทรายแดงกันค่ะ ทางไปไม่ยาก เพราะมีป้ายบอกชัดเจน หรือถามคนแถวนั้นก็ได้ค่ะ คนที่นี่น่ารักมาก
ลักษณะทางของที่นี่ค่อนข้างขี่ยากนะคะ เพราะเป็นทางชันยาว และคดเคี้ยว แต่วิวมันดีจริงๆ



ไม่รู้เลยว่าคนหรือวิวที่สวยกว่ากัน ฮรี้ๆ (ด่าได้แต่อย่าแรง)

.
.
ที่ต่อไปถือเป็นไฮไลท์อีกที่นึงเลยค่ะ สำหรับพวกเรา นั้นคือ “freedom beach” ทางไปไกลพอสมควรเลยค่ะแล้วก็ลึกด้วย 

นี้จะเป็นจุดชมวิวโดยเฉพาะเรียกว่า “จุดชมวิว จอห์นสุวรรณ” ถึงทางเข้าแล้วต้องจอดรถไว้ก่อนแล้วเดินต่อไป 
เดินไปเรื่อยจนเจอกระท่อมเก็บเงินนะคะ ค่าเข้ารอบนี้ 50 บาท/คน 

เรามาดูกันค่ะว่าจะคุ้มไหมมม


ทางขึ้นค่อนข้างชัน ต้องไต่เชือกไป



แต่ดูผลลัพธ์ที่ได้…


อันนี้สวยมากก 

.
.
.
สิ่งสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ในวันนี้.. เนื่องจากเราไม่อาจทานทนเสียงท้องที่ร้องได้!! Let’s go บุฟเฟ่หมูกะทะ!!

คนละ 169 บาท ไม่รวมค่าน้ำ รับประกันความอร่อย มีเจ้าเดียวในเกาะเต่า พิกัดร้านนี้อยู่ตรงทางไปปั๊มน้ำมัน

คำเตือน.. : อย่าดูตอนท้องว่าง!







ของจะมีมาเติมเรื่อยๆนะคะ







Day 4 เป้าหมาย กลับไปตั้งหลักที่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี



วันนี้เราเริ่มวันใหม่ด้วยปาท่องโก๋กับหมูปิ้ง

โดยเราสี่สาวตั้งใจออกเดินทางจากเกาะเต่าไปยังตัวเมืองสุราษฎร์ธานี (ดอนสัก) รอบ 9.30 น. (รอบเช้ากว่าจะเป็นรอบ 6.00 น.ถึงตัวเมืองประมาณ 10.00 น. ถ้าอยากได้เวลานี้ต้องจองก่อนนะคะ ผ่านเว็บไซต์ลมพระยา) 



การเดินทางใช้เวลานานนน เนื่องจากต้องไปต่อเรือที่เกาะพะงันตอนเที่ยง เลยถึงตัวเมืองประมาณสี่โมงเย็นค่ะ

โรงแรมที่เราพักกันในวันนี้ เราได้พักเป็นห้องใหญ่แบบ family มี 2 เตียงแบบคิงไซต์ ในราคา 2290 บาทเท่านั้นค่ะ และเรามีเพื่อนมาจอยเพิ่มอีกคนเลยได้ราคาถูกลงไปอีกค่ะ

ลืมถ่ายตอนกลางวันค่ะ - -



ไหนๆมาถึงตัวเมืองแล้ว ก็ไปไหว้ศาลหลักเมืองซักหน่อย โดยโบกรถสองแถวรอบเมือง(ที่นี่เรียกตุ๊กๆนะจ้ะ)แค่คนละ 15 บาท ไปได้ทั่วเมือง

ถึงแล้ว ววววว










สาธุ ขอให้ไม่นกก สาาาธุ!!

เดินเลียบแม่น้ำตาปีไปตลาดบ้านดอน หาของกินกัน 


บรรยากาศระหว่างเดินทาง 

ที่ตลาดมีของกินเยอะมากค่ะ แต่เนื่องจากว่า พวกเราหิวมาก เลยตะบี้ตะบันกินไม่ได้ถ่ายรูปไว้

หลังจากอิ่มท้องจากตลาดบ้านดอนแล้วก็กลับที่พักจ้า สะดุดตากับโตเกียวที่คนมุงเยอะมากอยู่แถวมินิมาร์ทหน้าโรงแรมเดอะวัน  ด้วยความอยากลองเลยไปสั่งกินบ้าง

บอกเลย อร่อยมากกกกกก กินร้อนๆยิ่งฟินนนน

เอิ่ม มม พุงตอนนี้ไม่ไหวแล้วว วว - -
ขอตัวไปนอนเพื่อเตรียมตัวกับวันพรุ่งนี้ก่อนนะคะ


DAY 5 เขื่อนเชี่ยวหลาน ยิ้ม

ก่อนเดินทางไปเชี่ยวหลาน เราก็ตื่นแต่เช้าเลยวันนี้เพื่อติ่มซำ!!! 




พร้อมไปเชี่ยวหลานค่ะ ออกเดินทางไปขึ้นรถตู้โดยขึ้นรถรอบเมืองบอกว่าไป ท่ารถตู้ไปเขื่อน 

ค่ารถตู้ไปเขื่อนคนละ 150 บาทต่อคน  เที่ยว 09.00 น.


ไปถึงเขื่อนประมาณ 10.30 น. พอไปถึงก็ไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท และเหมาเรือไป-กลับ 2500 บาทเพื่อเดินทางไปที่พัก
(สำหรับคนที่ไปเที่ยวเป็นหมู่คณะก็มีทัวร์เที่ยวรอบเขื่อนพร้อมไกด์ราคา 2000 บาทราคานี้คิดแยกจากที่เหมาเรือไปกลับนะคะ)





นี้คือเขาสามเกลอค่ะ 

นี้คือเขายังไม่มีใคร 555555555

ถึงที่พักแล้ววันนี้เราพักที่ แพคลองคะ เป็นแพของอุทยานค่ะ แพที่เราเป็นแบบนอน 6 คน มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง ราคาประมาณ 700 กว่าบาท
บริการอาหารเช้ากับอาหารเย็น คนละ 300 บาททางอุทยานจะเป็นเตรียมไว้ให้ เจ้าหน้าที่ของแพคลองคะเป็นกันเองมากเลย น่ารักมาก




หลังจากเข้าที่พักก็ไปของเรือคายัค  เช่าของอุทยาน มัดจำ 500 บาท เช่า100 บาท พายได้ตลอดเวลาที่พักอยู่ที่แพของอุทยาน


ทริปพลีชีพ


บรรยากาศดีมากกก

มากระโดดน้ำกันดีกว่าทุกคน !!




คิ้วมะ คิ้วอ่ะ เขียนหน่อยมั้ยละ คิ้วอ่ะ!!! ถถถถถถ

อาหารเย็นน่ากินมากอร่อยด้วย เติมได้เรื่อยไม่จำกัด ยกเว้นปลาทอด กับ ผลไม้ที่เติมไม่ได้ 






อิ่มแปล่! แต่ปลานี้ถ้าอยากกินอีกตัว บอกเค้าได้เลยนะคะ ถ้าจับขึ้นมาได้เค้าก็ทอดให้เลยค่ะ

.
.
อาหารเช้าเป็นข้าวต้มปลา มีบริการโอวัลติน กาแฟบริการตนเองได้เลยค่ะ



หลังทานข้าวเช้าเสร็จก็ถ่ายรูปนิดหน่อย ก็เดินทางกลับกัน กลับเครื่องบินเหมือนเดิมจ้า  
สรุปค่าเสียหายทั้งหมดทั้งมวล ประมาณ 8000 บาทต่อคนไม่เกิน  





จบแล้วนะคะสำหรับการรีวิวครั้งแรกของพวกเรา รูปอาจจะไม่สวยไปบ้างก็ขอโทษมา ณ ที่นี่ ด้วยค้าา าา

ที่มา Pantip