รีวิว ที่พักสุดเจ๋ง และที่เที่ยว(ที่กิน)สุดฮิต เชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน กับงบเบาๆในกระเป๋าแบนๆ

รีวิวนี้ รูปอาจจะไม่ครบน้า และรูปก็ไม่สวยเหมือนกระทู้อื่นๆ มือใหม่สุดๆอมยิ้ม07 คือว่าไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิว แต่เพราะเจ็บใจเรื่องการจองที่พัก แล้วได้ที่พักใหม่แบบบังเอิญมากๆๆๆ ซึ่งก็ดีแบบเห้ยยยย ในเรื่องร้ายๆ มันต้องมีเรื่องที่ดีๆโผล่มาเว้ยย ซึ่งก็ดีกว่าอีที่เก่ามากกกกกกกกกก(ก.ไก่ล้านตัว!!!!!!!!!!!!!!!) เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อนๆได้ระวังกันเนอะ

ทริปของเราเริ่มต้นขึ้นเพราะวันหยุดยาวที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี คือเข้าใจอารมณ์คนที่ไม่ค่อยจะมีวันหยุดยาวป่ะ แบบ ที่เที่ยวรอบกรุงเทพก็ไปมาหมดแล้ว จังหวัดใกล้เคียงก็ไปมาทุกซอกทุกมุม เพราะส่วนใหญ่ เราจะได้ไปเที่ยวก็แค่ 2 วัน หรือ ไปเช้าเย็นกลับ คือที่ไกลๆนี่ อย่าได้คิด แต่นี่ได้หยุดยาวตั้ง 5 วัน เลยมานั่งคิด

เออ...เว้ย!!! ไปไหนดีที่ยังไม่เคยไป และเหมากะ ส.ว. 2 คน ที่จะติดสอยห้อยตามไปด้วย คือ ต้องไม่ผาดโผน และที่สำคัญ ของกินต้องอร่อยง่ะ โจทย์ยากเริ่มมา ..... เราก็มานั่งคิด มีเชียงใหม่ กะขอนแก่น กะกระบี่ ที่ดังๆอ่ะนะ ไปไหนดี คิดไปคิดมา เชียงใหม่ละกัน คงจะร้อนน้อยกว่าจังหวัดอื่นอ่ะ ดอกไม้

ละเราก็เริ่มปฏิบัติการหาที่พัก ละเราก็ได้ที่พัก ในตัวเมืองเชียงใหม่ อยู่ในถนนนิมมานเหมินทร์ พี่เราเคยไปพักมา ประเด็นของมัน คืออาหารเช้าดีมากกกกกกกกกกกก อร่อยถูกปาก ประหยัดตังในกระเป๋าได้มื้อนึง คือต้องประหยัดไว้ก่อนงะ หรือสั้นๆก็งกนั่นแหล่ะ 5555 พี่เราเลยโทรไปจอง 4 คน 2 คืน มีคนรับเรื่องเรียบร้อย บลาๆๆ

จะเล่าให้ฟังก่อนว่า เราขับรถขึ้นไปจากกทม.ถึงเชียงใหม่ ละกะจะนอนเชียงใหม่ 2 คืน อีกคืน ไปหาจังหวัดตามรายทาง ที่จะขับรถลง เพราะจะได้ไม่หักโหมการขับรถเกินไป แล้ววันก่อนเดินทาง พนักงานของรร.ที่เราจะไปพัก ก็โทรมาคอนเฟิร์ม คือช่วงที่เราไป คนไปเยอะ ห้องเราจะถูกย้าย เป็นคนละห้อง แต่ได้ 2 คืน โอเค ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวพนักงานจะจัดการเรื่องย้ายห้องให้ เราก็โอเค เตรียมจัดกระเป๋าออกเดินทางอมยิ้ม02

พอเราไปถึงที่พัก จะเช็คอิน พนักงานบอกว่า เราจองเอาไว้แค่คืนเดียว อีกคืนนึงห้องเต็ม เราก็ เห้ยยยยย!!!! เป็นไปได้ไง ก็เมื่อวานพนักงานยังโทรมาคอนเฟิร์มเราอยู่เลย ว่าจองเอาไว้ให้เราแล้ว พนักงานต้องรับก็ปฏิเสธลูกเดียว ว่ายังไงก็ไม่มี เดี๋ยวเค้าจะประสานงานกับหัวหน้าให้ หัวเราะ

แล้วซักพัก หัวหน้าก็โทรมา บอกว่า เราต้องไปหาที่พักอื่นเอาเอง แต่เดี๋ยวเค้าจะรับผิดชอบ โดยจะหาที่พักอื่นให้ ซึ่งราคามันแพงกว่าที่เราตั้งใจไว้ตอนแรกสูงอยู่ เห้ย ทริปนี้เริ่มจะไม่สนุกละนะ ละรร.ส่วนใหญ่มันก็เต็มละป่ะ มาตายเอาดาบหน้าหาที่พัก ละคือตอนนั้นก็ 5 โมงเย็นกว่าๆแล้ว จะเอายังไง คือเวลาจองที่พัก คือเราพลาดเองอ่ะ อย่างน้อยต้องมีเลขบุ๊คกิ้ง ชื่อคนรับเรื่อง หรือถ้าให้ดี ก็โอนเงินมันจำบางส่วนไปก่อน แต่นี่คือ ไม่มีอะไรเลย กะอีแค่ พี่เราเคยมา ละมันดีงะ พลาดมากกกก เต่าเอือม

เราเลยนึกถึงเพื่อนเรา คนเชียงใหม่ มีที่พักแนะนำป่ะ ขอไม่แพง เพื่อนเราก็แนะนำที่พักมา เป็นแนวเกสเฮ้าส์ ชื่อ ‘แสงปัญญาโฮม - Saeng Panya Home’
https://www.facebook.com/Saeng-Panya-Home-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%AE%E0%B8%A1-752840154847120/?fref=ts
ที่พักอันนี้ดี เพราะว่ามีขึ้นอยู่ใน Google map ด้วย มีคนชี้เป้า เราก็แห่กันไป ละคือดีมาก เพราะขับรถจากถนนนิมมานเหมินทร์ไปแค่ 5 นาทีก็ถึง เป็นที่พักแบบที่ฝรั่งชอบไปกัน สงบ บรรยากาศคนในท้องถิ่น ไม่วุ่นวายเยี่ยม

รูปนี้เราถ่ายอีกวันนึงนะ เพราะตอนเราไป คือข้างนอกก็มึดไปแล้ว


ข้างในคือหรูหรามากกกก ออกแนวล้านนาประยุกต์ คือไม่ได้ดูโบราณจนน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้สมัยใหม่จนลืมไปเลย ว่านี่ชั้นมาเที่ยวเชียงใหม่หรือพัทยาวะเนี่ย คือถ่ายรูปไป คนก็รู้ไง ว่ามาเที่ยวเหนือ


เก้าอี้และของตกแต่ง ก็เป็นไม้สวยๆ แสงก็ให้ คือใครชอบเซลฟี่ก็จัดกันไป สวยงามตามท้องเรื่อง
ที่พักที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ คือเสียดายมาก เพราะเจอสาวจีน เห็นหนุ่มรัสเซียหลังไวๆเหมือนกัน แต่ไม่ทันจริงๆ ใครสนใจจะมาส่อง จะมาอ่อย ก็แนะนำนะ เอ้ย โทษๆ แมวพิมพ์ 55555


ต่อไปมาดูห้องพัก อันนี้คือห้องของเรา 4 คน ตกแต่งดี สวยงาม ดีเกินราคา ห้องใหญ่มาก เตียงใหญ่ เตียงนุ่ม แต่นอนแล้วไม่บุ๋ม คือเราชอบเตียงแบบนี้นะ เพราะเราเคยไปนอนบางที่ เตียงนุ่มมากกกก นุ่มขนาดที่นั่งแล้วมันยวบยุบลงไปเลย นอนไปแล้วตื่นเช้ามาปวดหลัง เอ๊ะ หรือโรคคนแก่ เอิ่ม -..-“ ไม่ใช่ละ 



อันนี้ห้องน้ำ เราชอบที่ฝักบัวมาก เห็นกันไหม มันให้อารมณ์ไปเล่นน้ำตก มีน้ำซู่ลงมาเยอะๆ สบายปลอดโปร่งดี แต่พ่อเราเดินมาถาม ว่าจะอาบน้ำยังไงให้หัวไม่เปียก เราก็เลยให้พ่อเราอาบน้ำท่าหรีดมหาลัย พร้อมกับสอนท่ากรีดนิ้วไปด้วย 5555


อันนี้เป็นตู้เสื้อผ้า และวางของ คือ เห้ยยยยยยยย ไม้แขวนเสื้อ เราไม่ได้ถ่ายชัดๆมา แต่มันเจ๋งดี เอาไม้มาตอกๆ เข้ากะบรรยากาศมากค๊า


อันนี้เป็นประตูสุดเจ๋ง คนออกแบบเข้าใจคิดมาก เรากะไว้ว่า ถ้าเราได้มาเที่ยวกะเพื่อนหลายๆคน เราจะมาพักที่นี่อีก เพราะมันคือประตูเชื่อมห้อง เวลากลางคืนมาเปิดวงเล่นอะไรนั่นแหล่ะ หรือจะจิบ L.ก.ฮ. กะเพื่อน เคยเป็นป่ะ ที่อยู่คนละห้อง ละพอปิดวงแยกย้ายอ่ะ มันไม่อยากแยก แต่นี่คือ ถ้าเราเช่าห้องติดๆกัน ละเปิดประตู มันเหมือนเป็นห้องๆเดียว คลานกลับเตียงของเราได้ แม้จะอยู่ในสภาพอุบาทแค่ไหนก็ตาม คือมันดีมว๊ากกก เราแนะนำ


ต่อไปก็อาหารเช้า ฟรีค่ะ ฟรี เย้ๆๆๆๆๆ หลักๆก็ ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง แยมมีให้เลือกหลายแบบ กาแฟ โกโก้ ผลไม้ตามฤดูกาล
และจะมีอาหารพิเศษแต่ละวันแตกต่างกันไป แต่เป็นเจ้าอร่อยประจำท้องถิ่นนะจ๊ะ เราถ่ายมาไม่หมด เพราะว่ามัวแต่กิน กลัวหมด 55555 


ขนมใส่ไส้ของท้องถิ่น
ไก่ทอดร้านอร่อย
ข้าวเหนียวห่อใบตอง หนึบหนับอร่อยดี


อันนี้ของพิเศษ เพราะเราบอกว่า เราจะมารีวิวที่นี่ให้ แหะๆ งานยังไม่ทำ ก็รับของกำนัลมาซะละ 


ที่พักที่นี่ ดีจริงๆน้า เราไม่ได้เห็นแก่ของกินซักกะตี๊ดดดดดนึง เชื่อเราเถอะ
(จริงๆอยากจะกินอะไรก็บอกได้นะ สไตล์เกสเฮ้าส์อ่ะ แต่เราก็เกรงใจป่ะ ใครจะบอก หนูขอโต๊ะจีนลิงค่ะ ก็คงไม่ใช่อ่ะเนอะ เจี๊ยก!!!)

อันนี้เป็นโต๊ะนั่งกินข้าวเช้า เป็นโต๊ะไม้ยาวสุดคลาสสิก เราชอบที่นี่อ่ะ กินบรรยากาศดี รู้สึกดีที่ไม่ได้พักที่รร.แรก ที่นี่เป็นที่พักที่ไม่เหมือนที่อื่น มีความเป็นกันเอง อยากไปไหนก็ถามได้คุยได้ ไม่รู้จะไปไหนก็ถามได้ 55555 


ต่อไปเป็นส่วนที่เค้าทำเพิ่มอยู่ ใกล้จะเสร็จแล้ว พ่อเราเลยขอขึ้นไปดู




คิดว่าน่าจะเป็นห้องอาหาร สวยงามล้านนาประยุกต์จริงๆ




ไม่แปลกใจ ทำไมพวกฝรั่งถึงชอบมาพักที่แบบนี้มากกว่าโรงแรม ละราคาก็พอๆกันด้วย สัมพันธไมตรี ก็ดีกว่า พูดคุยได้มากกว่า เป็นกันเองมากกว่า ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้มากกว่า เปลี่ยนประสบการณ์ของเราจริงๆ โชคดีจัง ยิ้ม



ใครสนใจที่พักอันนี้ ก็ลองเข้าไปดูใน Facebook : Saeng Panya Home หรือจะเวป booking.com ก็ได้ค่ะ

ปล. แนะนำให้โทรไปจอง แล้วบอกว่า มาจาก ’รีวิวพันทิป’ นะคะ จะได้ลดราคาพิเศษ 5% ค่ะ 


ต่อไปเป็นรีวิวที่เที่ยว ที่เราได้ไปค่ะ 

วันแรก คือถนนคนเดิน ประตูท่าแพ จะมีจัดวันอาทิตย์ ส่วนวันเสาร์ก็มีเหมือนกัน แต่เป็นอีกที่นึง 


คนเยอะมากกกกกก ของถูก เราชอบที่นี่ เพราะเค้าไม่ค้ากำไรเกินควร แล้วคนที่มาขาย ก็คือชาวบ้านชาวเขาจริงๆ รายได้ส่งตรงถึงผู้ผลิต ไม่มีนายหน้า ยิ่งทำให้อยากซื้อมากขึ้นอีกค่ะ ก็จะมีพวกของทำมือเยอะ อาหารพื้นเมือง น้ำปั่น เสื้อผ้า ขนม ของฝาก หอบหิ้วถุงใหญ่ๆกลับที่พักกันเลยค่ะประหลาดใจ

เรื่องการเดินทาง จะขับรถส่วนตัวมาก็ฝันไปเถอะค่ะ เพราะหาที่จอดรถยากมากๆ นั่งรถสองแถวจากที่พักมาจะง่ายกว่า คนละ 35 บาท เมื่อหลายปีก่อน เราจำได้ว่า สองแถวเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ฟันราคาหัวแบะ แต่ตอนนี้เหมือนเค้าจะปรับปรุงแล้วนะ แบบ ส่งเสริมการท่องเที่ยวระยะยาวดีกว่าไรงี้


วันที่สอง เราก็ขึ้นเขา ไปม่อนแจ่ม อากาศดี เย็นสบายยยยยย เย็นกว่าในตัวเมืองเยอะเลย แล้ววันที่เราไป ก็ไม่ค่อยมีแดดด้วยแหล่ะ 
วิวสวยมาก แต่ฝีมือถ่ายภาพเราไม่ค่อยดี เอาเป็นว่า ของจริงสวยกว่าที่เราถ่ายมาแน่นอน








ผักผลไม้สดๆเพียบ และเป็นชาวเขา เอามาขายเอง หอบหิ้วกันมาขาย ใครอยากซื้ออะไร แนะนำเลย ถูกกว่า สดกว่าในตัวเมืองเยอะเลย แล้วเงินทุกบาททุกสตางค์ ก็ส่งตรงถึงคนปลูกจริงๆ ไม่มีผ่านมือนายทุนค่ะ











ระหว่างทางลง เราก็แวะสวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 



ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ พืชพันธุ์ไม้ ตัวอ่อนแมลง อื่นๆอีกเยอะแยะเลย ใครพาเด็กๆมา อาจจะต้องแพลนเวลาที่นี่กันนานๆหน่อย

ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง 





ต้นกระบอกเพชร ที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในกระถางเล็กๆบ้านเรา





ลงจากเขามา เหนื่อยแล้วค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

เราไปกินร้าน เฮือนเพ็ญ 2 ที่นี่ข้าวซอยอร่อย แต่กว่าเราจะมา อาหารหลายอย่างก็หมดไปแล้ว ใครสนใจอยากจะมาตามรอย มาตอนมื้อกลางวันจะดีกว่า ส่วนแผนที่ ก็หาใน google map ได้เลย ไปง่าย ติดถนนใหญ่


ไส้อั่วอร่อยค่ะ พูดละก็อยากกินอีกอมยิ้ม05

กินข้าวเสร็จแล้ว เราต้องไปตามหาของหวานล้างปากเสียหน่อย ร้านที่เราเล็งเอาไว้ คือ กู โรตี อยู่ที่หัวมุมถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 3 แนะนำให้ไปกลางวันหน่อย ซัก 4-5 โมงเย็น ถ้าไปเย็นกว่านั้น คิวยาววววววมาก อาจจะทนไม่ไหว อดกินกลับบ้านหน้าเหี่ยวกันไป



เราจำชื่อเมนูไม่ได้ ดูตามภาพละกันเนอะ
เราสั่งโรตีมา 3 อย่าง กะน้ำ 1 แก้ว ที่นี่เค้ามีน้ำชาร้อนหอมๆ บริการให้ด้วย เอาไว้จิบแก้เลี่ยน





กินกัน 4 คน สายหวานก็ฟาดเรียบ แต่ถ้าใครไม่ใช่สายของหวาน แนะนำสั่งไซส์เล็กนะจ๊ะ เพราะเราเห็นโต๊ะข้างๆ มากันสองคน สั่งอันเดียว กินกันไปครึ่งเดียวก็ไม่กินแล้ว เห็นแล้วเสียดาย 



คือของเค้าใหญ่จริง เครื่องแน่น ถูกใจสายของหวานจริงๆ


วันที่ 3 
ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เลยไปถามคุณน้าเจ้าของเกสเฮ้าส์ค่ะ เค้าแนะนำแม่กำปอง คนกำลังฮิตกัน จะได้ไม่ตกเทรน 

การเดินทางก็ขับรถนั่นแหล่ะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่า คนขับขึ้นเส้นนี้ ต้องขับรถเก่งพอสมควร ทางคดเคี้ยวและถนนก็แคบกว่าม่อนแจ่มเยอะ บางโค้งเป็นโค้งหักศอก ที่รถผ่านได้แค่คันเดียว รถอีกฝั่งที่สวนทางต้องจอดรอ ให้อีกฝั่งไปก่อน ซึ่งต้องขับด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่วิวข้างบนก็สวยงาม มีร้านอร่อยรอเราอยู่ ฉะนั้นก็ ป่ะ ตามเรามา

ร้านแรกที่เราแวะ คือ ชมนก ชมไม้ 



คนเยอะมากกกกกก มีบิ๊กไบค์ ขับกันมาเป็นกลุ่ม 10 กว่าคนได้ แล้วมีลูกค้าคนอื่นอีก เราหาที่นั่งไม่ได้ ก็เลยต้องเดินคอตกออกมา แต่ก็ยังไม่ลืมชักภาพเป็นที่ระลึก ถ้าใครได้มา ในช่วงที่คนน้อยๆ บรรยากาศคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว นั่งจิบกาแฟ กินขนม พร้อมมองวิวสวยๆ อากาศเย็นๆ น่าสบายจัง



เดินลงมาที่ชั้นล่าง มีห้องน้ำ แล้วก็โต๊ะนักเรียนตัวนี้ คือนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยตอนยังเรียนประถมเลย มานั่งตรงนี้ชิวๆ ทำงาน วาดภาพ อินดี้กันไป


ขับรถต่อ ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด(รึเปล่า???) ก็จะไปเจอกับ น้ำตกแม่กำปอง 



ที่นี่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก มีบางครอบครัวก็มาเล่นน้ำกัน คนยังไม่ค่อยเยอะ ถือเป็นจุดพักผ่อนที่ดีอีกที่นึงเลย


สายแล้วเริ่มหิว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยมาหยุดกินข้าว ที่โครงการหลวง ตีนตก
อาหารอร่อย ราคาไม่แพง 

เมนูที่ชอบที่สุด คือ น้ำพริกข่า และ ขาหมูตุ๋นวนิลา 
น้ำพริกข่าเผ็ดเปรี้ยวอร่อยดี คนที่ชอบทานเปรี้ยว เมนูนี้ต้องลอง เอาไป 9.5/10 หักที่ให้มาน้อยไป (จริงๆไม่น้อยนะ แต่จะกินเยอะๆอ่ะ เข้าใจกันเนอะ 55555) เคยกินน้ำพริกข่าในตัวเมืองเชียงใหม่หลายเจ้า ก็ไม่อร่อยเท่าของที่นี่


ส่วนขาหมูตุ๋นวนิลา ปกติเราไม่ค่อยชอบกินขาหมู ไม่รู้ว่าร้านอื่นมีทำกันรึเปล่า แต่เรากินตุ๋นวนิลาที่นี่เป็นครั้งแรก ประทับใจมาก แต่จริงๆแล้วถ้ามีหมั่นโถวเคียง จะให้ 100/10 เลย 55555 แต่นี่ให้ 10/10 ไปก็แล้วกันนะ รสชาติหอมหวาน ไม่ได้หวานมาก แต่หวานละมุนเข้ากับวนิลาพอดีเป๊ะ รักเมนูนี้จริงๆนะ
รูปนี้ กองทัพเค้าหิว ตักแหว่งไปแล้ว ไม่ว่ากันเนอะ อมยิ้ม07


ใครคอทองแดง ก็มีเหล้าข้าวโพดให้ลองกันด้วย เราก็ลองไปนิดนึง ก็ขมๆดี กินไม่เป็น 55555 คอไม่ทองแดง แต่เป็นทองเก๊!!!!! อิอิ


มาต่อกันที่ น้ำพุร้อนสันกำแพง 


อันนี้ออกนอกเส้นทางนิดนึง เพราะแม่อยากจะแวะไปหาคนรู้จักที่สันกำแพง แต่ก็ไม่ได้ไกลมาก จากม่อนแจ่มนะ ใครไม่รู้จะไปไหนต่อ ตามเรามา มาต้มไข่กินกัน เย้ๆ

เค้าจะมีไข่ขายเป็นชะลอม ชะลอมละ 20 บาท มีให้เลือกทั้งไข่ไก่ และไข่นกกระทา แต่เราก็เห็นหลายคน เอาไข่ไก่กันมาเป็นแผงๆเลย พร้อมด้วยข้าวเหนียวส้มตำ กลิ่นปลาร้านี่ ฟุ้งเลยแหล่ะ ..... พอซื้อไข่มา ก็เอามาจุ่มในน้ำแบบนี้ อยากได้ไข่สุก ไม่สุก ยางมะตูม หรือแบบไหน ก็จุ่มกันตามใจชอบ แต่ไข่ของเรา เราทำเป็นไข่ออนเซ็นนะ


แกะออกมาเป็นแบบนี้ 555555 เพราะน้ำไม่ได้ใส่เกลือไง ใส่แต่กำมะถัน ไข่ขาวเลยติดเปลือก อันนี้สวยสุดแล้ว ที่แกะมา กะซิกๆ ร้องไห้


มื้อเย็นก็กลับมากินในเมืองต่อ แหะๆ ทริปกินจริงๆเนอะ 
มาต่อกันที่ ร้านเตี๋ยวต้มยำไข่หวาน ก็อ่านรีวิวจากพันทิปนี่แหล่ะ สีสันเค้าดูน่ากินจริงๆนะ
อันนี้เมนู


อร่อยมากกกกกกกกกกกก น้ำซุปต้มยำน้ำข้น อร่อยเข้มข้น ถึงเครื่องต้มยำ 
แนะนำปูจ๋า อร่อย พริ้มมมมมมม


วันที่ 4 วันสุดท้าย เดินทางกลับ กทม.
มื้อสุดท้ายละนิเนอะ จริงๆ กินข้าวเช้าจากเกรสเฮ้าส์มาด้วยแหล่ะ 55555 คุณน้าใจดี เค้าชวนให้กินก่อนไป เราก็เคลิ้มไง จัดไป 1 ดอก 55555 อมยิ้ม07แต่ก็ยังมีกระเพาะ มาหาอะไรกินนิดหน่อย
ร้านสุดท้ายที่เราจะได้กิน ก็คือ ร้านข้าวซอยอิสลาม ตามรีวิวมาอีกเช่นเคย สำหรับเราก็โอเคนะ แต่ทีเด็ดคือผักกาดดองซ้ายมือบนของภาพ ที่มีอยู่หยุ๋มเดียวนั้น อร่อยแตกต่างจากที่อื่น คือเป็นผักกาดดอง ที่มีพริกนิดๆ อร่อยจนต้องขอซื้อแต่ผักกาดดองกลับบ้านเลยครับท่าน 


ทริปของเราก็จบแต่เพียงเท่านี้ค่ะ หวังว่า ทริปของเรา จะพอแนะแนวทางให้เพื่อนๆได้ไปเที่ยวเชียงใหม่กันได้บ้างเนอะ มีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ เพ้อมาเยอะจริงๆ ขอบคุณมากค่า


ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1079855