สวัสดีครับ เรายืม login ของเพื่อนมาตั้งนะครับ
One Day Trip ณ ชุมพรประตูภาคใต้
วันนี้ผมและเพื่อจะมารีวิว ทริป One day trip ที่ จังหวัดชุมพรครับ
การเดินทางไปยังจังหวัดชุมพรนะครับ ไปได้หลายวิธีครับ แต่ในทริปนี้ ผมและเพื่อนๆไปโดย รถทัวร์ กรุงเทพ-ระนอง ป.2 ราคาค่าโดยสาร คนละ 250 บาท โดย ผมและเพื่อนๆๆนัดเจอที่มหาลัยเวลา 14.00 น. และออกเดินทางไปยังสถานีขนส่งสายใต้ เวลา 15.00น. ที่ขนส่งสายใต้คนเยอะมากๆ เนื่องจากใกล้เทศกาลสงกรานต์ เวลารถออก 17.30น. ในระหว่างรอเวลารถผมและเพื่อนๆได้ ทานอาหารกัน ข้าวขาหมู ข้าวขาหมูคากิ บะหมี่ น่ากินจัง..!
เราใช้เวลาในการเดินทางไปถึงชม. 9 ชั่วโมงครับ ถึงที่พัก 03.00น. ซึ่งพักที่บ้านพักเพื่อนในการไฟฟ้าจังหวัดชุมพร
ถึงเเล้วบ้านพัก 03.00น. ตาจะปิดแล้วว
เช้าวันต่อมา เวลา 8.00น. ได้ออกเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ใช้เวลาเดินทาง 30นาที จากที่พัก และ แนะนำให้ซื้ออาหารกลางวันไปด้วยครับ นี่ไงอาหารของพวกเราอร๊อยอร่อย!
จากนั้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่เราได้จองเรือและเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ราคา 100 บาท ค่าเรือที่เหมาไปเกาะ คนละ 417บาทครับ โดยค่าเมาเรือไปเกาะกุลา ราคา 2900 บาท ต้องกลีบก่อนบ่าย 3 โมง ถึงแล้วววววอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร!!! การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรแนะนำให้เอารถส่วนตัวมานะ เนื่องจากไม่มีรถประจำทางเข้ามาครับ
นั่นไงเรือที่จะไป
จากนั้นเราได้ขึ้นเรือไปยังเกาะกุลาซึ่งขณะนั่งเรือไป ทั้ง 2 ฝั่งของเรือมีทัศนียภาพที่สวยงามากๆ ทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยเกาะใหญ่ และน้ำทะใสๆ เราใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 40นาที
ขึ้นเรือแล้วววว let's Go
นั่นมันป่าชายเลนนี่!
ลอยล่องกลางทะเล!
สวยจังเกาะอ่ะไรนี่!
นั่นไงเกาะกุลา! ถึงเเล้ว
เกาะกุลาเป็นเกาะน้องใหม่ที่พึ่งได้เปิดให้เข้าท่องเที่ยวได้ไม่นาน และเป็นเกาะสัมปทานรังนกมีขนาดใหญ่ อยู่ในเขตอำเภอ สวี สภาพทั่วไปของเกาะปกคลุมด้วยป่าดงดิบชื้นมีชายหาดขนาดใหญ่ 2 แห่งทิวทัศน์สวยงามด้านตะวันตกของเกาะเป็นแนวปะการังชายฝั่งมีสภาพค่อนค้างเสื่อมโทรมส่วนด้านอื่น ๆ เป็นปะการังที่ปรากฏบนโขดหิน มีสภาพดีเกาะกุลามีพื้นที่แนวปะการังประมาณ 0.108 ตารางกิโลเมตร บนเกาะมีเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยบนเกาะ
เมื่อถึงเกาะกุลา เรือจะจอดห่างจากฝั่งพอสมควร เนื่องจากเรือเข้าใกล้ฝั่งมากไม่ได้ เพราะติดแนวปะการัง และ น้ำตื้น เลยต้องว่ายน้ำขึ้นเกาะกัน มาถึงก็สนุกกันเลยครับ กิจกรรมที่ผมและเพื่อนๆได้ทำบนเกาะมี 3 กิจกรรมด้วยกัน มี พายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง และ ชมการอนุบาลเต่า
ว่ายน้ำขึ้นเกาะกุลา! มาถึงก็สนุกเลย! เอ้าๆบึ๊ดจั๊มบึ๊ด!
เริ่มที่กิจกรรมแรกครับ ดูอนุบาลเต่ากันครับ เต่าที่อนุบาลนี้เป็นเต่ากระครับ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมุลว่า เต่ากระชอบมาวางไข่บนเกาะกุลา เจ้าหน้าที่เลยได้จัดทำอนุบาลเต่ากระ เต่าตัวนึงไข่ 140 ฟอง ในปีที่แล้ว มีเต่ากระขึ้นมาวางไข่ประมาณ 10 ตัว แสดงว่าไข่ทั้งหมด คือ 1400 ฟอง การอนุบาลเต่าเป็นการอนุรักษ์พันธ์สัตว์ไว้ไห้สืบเนื่องต่อไป
ลูกเต่ากระ ตัวน้อยน้อยๆ น่ากินจัง! เอ๊ยน่ารัก!
กิจกรรมที่ 2 นะครับ พายเรือคายัคครับ ที่เกาะกุลามีเรือคายัคให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ซึ่ง ไม่เสียค่าใช้จ่าย ฟรี..! แต่ตอนที่ผมและเพื่อนๆๆไปกันมี 3 ลำ น่ะครับ ตอนนี้ไม่รู้เพิ่มหรือยัง มีเสียงจากเจ้าหน้าที่ว่า เอาเรือไปพายตามใจชอบเลย! แต่ถ้าไม้พายหาย อันละ 1500 น่ะ ได้พายเรือชมทิวทัศน์ของเกาะ ซึ่งสวยงามมาก พายเรือแข่งกัน เรือคว่ำบ้าง บ้าง สนุกมากๆๆครับบอกเลย
และแล้วมาถึงกิจกรรมที่ 3 ครับ ดำน้ำดูปะการัง ผมและเพื่อนๆได้พายเรือคายัคที่ขอยืมมาจากเจ้าหน้าที่อุทยานหลังจากชมทิวทัศน์ของเกาะกันแล้ว เราก็นำเรือคายัคนี่และครับพายไปยังจุดต่างๆที่มีปะการังครับ ปะการังยังอยู่ในช่วงฟื้นคืนสภาพครับ แต่สวยงามมากครับ มีทั้งปลาน้อยใหญ่มากมาย ปลาเป็นฝูงๆ และมีหอยเม่นเยอะมากครับ เวลาดำน้ำก็ระวังหลบหนามจากหอยเม่นๆหน่อยครับ แค่บางจุดเท่านั้นที่หอยเม่นเยอะครับ
ปะการังและหอยเม่น
บนเกาะกุลานี่ครับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่งดงามมากครับ และยังมีเจ้าหน้าที่อุทยานที่ดีให้บริการความช่วยเหลือ มีความเป็นกันเองมากครับ ถ้าไม่ได้พี่ๆช่วยงมหาอุปกรณ์ดำน้ำผมและเพื่อนคงชดใช้แพงมากแน่ๆครับ ขอบคุณมากๆครับ
หลังจากเสร็จกิจกรรมทั้ง 3 ได้ขึ้นเรือกลับมายังศูนย์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรครับ ขากลับหลับกันทุกคนเลยครับ ทั้งเหนื่อย ทั้ง(ดำ) แต่สนุกและคุ้มค่ามากครับ ระหว่างนั่งเรือกลับผมและเพื่อนๆได้สังเกตเห็นเสาเยอะแยะมากมาย และมีหอยติดอยู่เต็มเสา ได้สอบถามคุณลุงที่ขับเรือ ได้บอกว่า ชาวบ้านปักไว้เพื่อเลี้ยงหอย เป็นหอยแมลงภู่ เป็นอาชีพหารายได้ของชาวบ้าน
ไม่เหนื่อยเท่าไหร่เลย!
เมื่อถึงฝั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ได้คืนอุปกรณ์ดำน้ำให้เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่เป็นกันเองมากที่ช่วยแนะนำเกาะสถานที่และจองเรือที่ไปเกาะได้ในราคาไม่แพงมาก เพราะก่อนหน้านี่ผมและเพื่อนๆได้ติดต่อเรื่องเรือที่จะไปเกาะ 2 3 ที่ บางที่คนละ 1000 บาท บางที่ คนละ 1500 บาท แต่ถ้ามาติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เสียค่าใช้จ่าย คนละ 517 บาทราคานี้รวมอุปกรณ์ดำน้ำแล้ว
คืนอุปกรณ์ดำน้ำหู้ว ! เกรียมเลย แต่ละคน
หลังจากที่คืนอุปกรณ์ดำน้ำเสร็จได้เดินทางต่อไปยัง เขามัทรี จุดขมวิวทิวทัศน์ 360 องศา ของจังหวัดชุมพร โดยระหว่างทางที่ไปบรรยากาศ 2 ข้างทาง สวยงามและอากาศดีมากครับ ชาวบ้านละแวกนั้นทำอาชีพหลากหลายมากครับ เช่น ทำนากุ้ง สวนมะพร้าว ทำอาชีพประมง สวนปาล์มน้ำมัน ฯลฯ
ถึงเขามัทรีแล้ว ในขณะที่ ดำน้ำพายเรือกันมาเหนื่อยและอ่อนเพลียแล้ว มาถึงเขามัทรีได้มองไปเห็นบันไดสูงชัน และมีทางรถขึ้นเขาข้างๆแต่ทางรถวิ่ง วิ่งได้เฉพาะรถที่มีคนแก่ เด็ก และสตรีมีครรภ์ หรือจากสาเหตุใดๆที่ไม่สามารถเดินขึ้นได้ ผมและเพื่อนได้ขึ้นบันไดเหนื่อยมากครับ แต่เมื่อไปถึงจุดชมวิว วิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นสวยงามากครับ สามารถมองไปได้รอบ 360 องศาจริงๆ ได้เห็นความแตกต่างจากจุดชมวิวเขามัทรี คือด้านหนึ่งเป็นหาดทรายทะเลสวยๆ มีธรรมชาติที่งดงามอีกด้านหนึ่งเป็นชุมชนและตลาดปากน้ำชุมพร มีโรงงานอุตสาหกรรมแต่สวยงามมากครับ บรรยากาศดีมากครับเหมาะแก่การดูพระอาทิตย์ตกมากๆครับ ที่จุดชมวิวมีร้านค้ามีของบริการมากมาย มีร้านกาแฟถ้ำสิงห์ที่มีที่นั่งดูวิวสวยๆ ได้กินกาแฟแล้วยังได้ดูวิวสวยๆอีกครับ มีร้านขายอาหาร ของที่ระลึก และเมื่อมองขึ้นไปด้านบนของจุดชมวิวมีองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลามองออก ไปที่ชายทะเลชุมพรด้านขวาเป็นหาดภราดร ไว้เป็นที่สักกาะระบูชาแก่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในชุมชน
ทะเลมุมสูงๆสวยม๊าก!
ชุมชนปากน้ำชุมพร!
ตัวไรอ๊ะ!
องค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา
สรุปค่าใช้จ่าย ทริปนี้ของผมและเพื่อนนะครับ
1.ค่ารถทัวร์ คนละ 250 บาท
2. ค่าอาหาร คนละ 300 บาท
3. ค่าเรือไปเกาะ คนละ 417 บาท
4. ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ คนละ 100 บาท
5. ค่าน้ำมันรถเพื่อน คนละ 200 บาท (เป็นค่าน้ำใจ ตอบแทน)
6. ค่ารถกลับ คนละ 350 บาท
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่ายต่อคน 1617 บาท
สิ่งที่ผมและเพื่อนๆได้เรียนรู้ในครั้งนี้ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ของชาวบ้าน ขาวบ้านทำอาชีพหลากหลาย อาทิเช่น ทำนากุ้ง เลี้ยงหอยแมลงภู่ ทำสวนมะพร้าว ทำสวนปาล์ม ประมง ออกเรือหาปลา ตกปลาหมึก ฯลฯ ชาวบ้านมีความเป็นกันเองมาก ชุมชนละแวกนั้นยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศและบรรยากาศดีมาก รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรมาก ที่ทั้งให้บริการและความช่วยเหลือมากมาย ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ บางคนไม่เคยดำน้ำดูปะการัง บางคนไม่เคยชมวิวทะเลจากจุดชมวิวสูงๆ ในขณะชมวิว ได้เห็นความแตกต่างของทั้งสองฝั่งภูเขา ด้านหนึ่งยังคงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีหาดทราย มีป่าต้นไม้นานพันธ์ และอีกด้านหนึ่งเป็นชุมชนที่เริ่มแออัด มีโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้เห็นความแตกต่างทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน ชุมชน ซึ่งสังเกตได้ว่าพื้นที่ชุมชนเริ่มขยายเข้ามาที่ธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมและเพื่อนๆของจบทริป One Day Trip ณ ชุมพรประตูภาคใต้เพียงเท่านี้ครับ
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 907912
One Day Trip ณ ชุมพรประตูภาคใต้
วันนี้ผมและเพื่อจะมารีวิว ทริป One day trip ที่ จังหวัดชุมพรครับ
การเดินทางไปยังจังหวัดชุมพรนะครับ ไปได้หลายวิธีครับ แต่ในทริปนี้ ผมและเพื่อนๆไปโดย รถทัวร์ กรุงเทพ-ระนอง ป.2 ราคาค่าโดยสาร คนละ 250 บาท โดย ผมและเพื่อนๆๆนัดเจอที่มหาลัยเวลา 14.00 น. และออกเดินทางไปยังสถานีขนส่งสายใต้ เวลา 15.00น. ที่ขนส่งสายใต้คนเยอะมากๆ เนื่องจากใกล้เทศกาลสงกรานต์ เวลารถออก 17.30น. ในระหว่างรอเวลารถผมและเพื่อนๆได้ ทานอาหารกัน ข้าวขาหมู ข้าวขาหมูคากิ บะหมี่ น่ากินจัง..!
เราใช้เวลาในการเดินทางไปถึงชม. 9 ชั่วโมงครับ ถึงที่พัก 03.00น. ซึ่งพักที่บ้านพักเพื่อนในการไฟฟ้าจังหวัดชุมพร
ถึงเเล้วบ้านพัก 03.00น. ตาจะปิดแล้วว
เช้าวันต่อมา เวลา 8.00น. ได้ออกเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ใช้เวลาเดินทาง 30นาที จากที่พัก และ แนะนำให้ซื้ออาหารกลางวันไปด้วยครับ นี่ไงอาหารของพวกเราอร๊อยอร่อย!
จากนั้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่เราได้จองเรือและเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ราคา 100 บาท ค่าเรือที่เหมาไปเกาะ คนละ 417บาทครับ โดยค่าเมาเรือไปเกาะกุลา ราคา 2900 บาท ต้องกลีบก่อนบ่าย 3 โมง ถึงแล้วววววอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร!!! การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรแนะนำให้เอารถส่วนตัวมานะ เนื่องจากไม่มีรถประจำทางเข้ามาครับ
นั่นไงเรือที่จะไป
จากนั้นเราได้ขึ้นเรือไปยังเกาะกุลาซึ่งขณะนั่งเรือไป ทั้ง 2 ฝั่งของเรือมีทัศนียภาพที่สวยงามากๆ ทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยเกาะใหญ่ และน้ำทะใสๆ เราใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 40นาที
ขึ้นเรือแล้วววว let's Go
นั่นมันป่าชายเลนนี่!
ลอยล่องกลางทะเล!
สวยจังเกาะอ่ะไรนี่!
นั่นไงเกาะกุลา! ถึงเเล้ว
เกาะกุลาเป็นเกาะน้องใหม่ที่พึ่งได้เปิดให้เข้าท่องเที่ยวได้ไม่นาน และเป็นเกาะสัมปทานรังนกมีขนาดใหญ่ อยู่ในเขตอำเภอ สวี สภาพทั่วไปของเกาะปกคลุมด้วยป่าดงดิบชื้นมีชายหาดขนาดใหญ่ 2 แห่งทิวทัศน์สวยงามด้านตะวันตกของเกาะเป็นแนวปะการังชายฝั่งมีสภาพค่อนค้างเสื่อมโทรมส่วนด้านอื่น ๆ เป็นปะการังที่ปรากฏบนโขดหิน มีสภาพดีเกาะกุลามีพื้นที่แนวปะการังประมาณ 0.108 ตารางกิโลเมตร บนเกาะมีเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยบนเกาะ
เมื่อถึงเกาะกุลา เรือจะจอดห่างจากฝั่งพอสมควร เนื่องจากเรือเข้าใกล้ฝั่งมากไม่ได้ เพราะติดแนวปะการัง และ น้ำตื้น เลยต้องว่ายน้ำขึ้นเกาะกัน มาถึงก็สนุกกันเลยครับ กิจกรรมที่ผมและเพื่อนๆได้ทำบนเกาะมี 3 กิจกรรมด้วยกัน มี พายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง และ ชมการอนุบาลเต่า
ว่ายน้ำขึ้นเกาะกุลา! มาถึงก็สนุกเลย! เอ้าๆบึ๊ดจั๊มบึ๊ด!
เริ่มที่กิจกรรมแรกครับ ดูอนุบาลเต่ากันครับ เต่าที่อนุบาลนี้เป็นเต่ากระครับ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมุลว่า เต่ากระชอบมาวางไข่บนเกาะกุลา เจ้าหน้าที่เลยได้จัดทำอนุบาลเต่ากระ เต่าตัวนึงไข่ 140 ฟอง ในปีที่แล้ว มีเต่ากระขึ้นมาวางไข่ประมาณ 10 ตัว แสดงว่าไข่ทั้งหมด คือ 1400 ฟอง การอนุบาลเต่าเป็นการอนุรักษ์พันธ์สัตว์ไว้ไห้สืบเนื่องต่อไป
ลูกเต่ากระ ตัวน้อยน้อยๆ น่ากินจัง! เอ๊ยน่ารัก!
กิจกรรมที่ 2 นะครับ พายเรือคายัคครับ ที่เกาะกุลามีเรือคายัคให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ซึ่ง ไม่เสียค่าใช้จ่าย ฟรี..! แต่ตอนที่ผมและเพื่อนๆๆไปกันมี 3 ลำ น่ะครับ ตอนนี้ไม่รู้เพิ่มหรือยัง มีเสียงจากเจ้าหน้าที่ว่า เอาเรือไปพายตามใจชอบเลย! แต่ถ้าไม้พายหาย อันละ 1500 น่ะ ได้พายเรือชมทิวทัศน์ของเกาะ ซึ่งสวยงามมาก พายเรือแข่งกัน เรือคว่ำบ้าง บ้าง สนุกมากๆๆครับบอกเลย
และแล้วมาถึงกิจกรรมที่ 3 ครับ ดำน้ำดูปะการัง ผมและเพื่อนๆได้พายเรือคายัคที่ขอยืมมาจากเจ้าหน้าที่อุทยานหลังจากชมทิวทัศน์ของเกาะกันแล้ว เราก็นำเรือคายัคนี่และครับพายไปยังจุดต่างๆที่มีปะการังครับ ปะการังยังอยู่ในช่วงฟื้นคืนสภาพครับ แต่สวยงามมากครับ มีทั้งปลาน้อยใหญ่มากมาย ปลาเป็นฝูงๆ และมีหอยเม่นเยอะมากครับ เวลาดำน้ำก็ระวังหลบหนามจากหอยเม่นๆหน่อยครับ แค่บางจุดเท่านั้นที่หอยเม่นเยอะครับ
ปะการังและหอยเม่น
บนเกาะกุลานี่ครับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่งดงามมากครับ และยังมีเจ้าหน้าที่อุทยานที่ดีให้บริการความช่วยเหลือ มีความเป็นกันเองมากครับ ถ้าไม่ได้พี่ๆช่วยงมหาอุปกรณ์ดำน้ำผมและเพื่อนคงชดใช้แพงมากแน่ๆครับ ขอบคุณมากๆครับ
หลังจากเสร็จกิจกรรมทั้ง 3 ได้ขึ้นเรือกลับมายังศูนย์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรครับ ขากลับหลับกันทุกคนเลยครับ ทั้งเหนื่อย ทั้ง(ดำ) แต่สนุกและคุ้มค่ามากครับ ระหว่างนั่งเรือกลับผมและเพื่อนๆได้สังเกตเห็นเสาเยอะแยะมากมาย และมีหอยติดอยู่เต็มเสา ได้สอบถามคุณลุงที่ขับเรือ ได้บอกว่า ชาวบ้านปักไว้เพื่อเลี้ยงหอย เป็นหอยแมลงภู่ เป็นอาชีพหารายได้ของชาวบ้าน
ไม่เหนื่อยเท่าไหร่เลย!
เมื่อถึงฝั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ได้คืนอุปกรณ์ดำน้ำให้เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่เป็นกันเองมากที่ช่วยแนะนำเกาะสถานที่และจองเรือที่ไปเกาะได้ในราคาไม่แพงมาก เพราะก่อนหน้านี่ผมและเพื่อนๆได้ติดต่อเรื่องเรือที่จะไปเกาะ 2 3 ที่ บางที่คนละ 1000 บาท บางที่ คนละ 1500 บาท แต่ถ้ามาติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เสียค่าใช้จ่าย คนละ 517 บาทราคานี้รวมอุปกรณ์ดำน้ำแล้ว
คืนอุปกรณ์ดำน้ำหู้ว ! เกรียมเลย แต่ละคน
หลังจากที่คืนอุปกรณ์ดำน้ำเสร็จได้เดินทางต่อไปยัง เขามัทรี จุดขมวิวทิวทัศน์ 360 องศา ของจังหวัดชุมพร โดยระหว่างทางที่ไปบรรยากาศ 2 ข้างทาง สวยงามและอากาศดีมากครับ ชาวบ้านละแวกนั้นทำอาชีพหลากหลายมากครับ เช่น ทำนากุ้ง สวนมะพร้าว ทำอาชีพประมง สวนปาล์มน้ำมัน ฯลฯ
ถึงเขามัทรีแล้ว ในขณะที่ ดำน้ำพายเรือกันมาเหนื่อยและอ่อนเพลียแล้ว มาถึงเขามัทรีได้มองไปเห็นบันไดสูงชัน และมีทางรถขึ้นเขาข้างๆแต่ทางรถวิ่ง วิ่งได้เฉพาะรถที่มีคนแก่ เด็ก และสตรีมีครรภ์ หรือจากสาเหตุใดๆที่ไม่สามารถเดินขึ้นได้ ผมและเพื่อนได้ขึ้นบันไดเหนื่อยมากครับ แต่เมื่อไปถึงจุดชมวิว วิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นสวยงามากครับ สามารถมองไปได้รอบ 360 องศาจริงๆ ได้เห็นความแตกต่างจากจุดชมวิวเขามัทรี คือด้านหนึ่งเป็นหาดทรายทะเลสวยๆ มีธรรมชาติที่งดงามอีกด้านหนึ่งเป็นชุมชนและตลาดปากน้ำชุมพร มีโรงงานอุตสาหกรรมแต่สวยงามมากครับ บรรยากาศดีมากครับเหมาะแก่การดูพระอาทิตย์ตกมากๆครับ ที่จุดชมวิวมีร้านค้ามีของบริการมากมาย มีร้านกาแฟถ้ำสิงห์ที่มีที่นั่งดูวิวสวยๆ ได้กินกาแฟแล้วยังได้ดูวิวสวยๆอีกครับ มีร้านขายอาหาร ของที่ระลึก และเมื่อมองขึ้นไปด้านบนของจุดชมวิวมีองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลามองออก ไปที่ชายทะเลชุมพรด้านขวาเป็นหาดภราดร ไว้เป็นที่สักกาะระบูชาแก่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในชุมชน
ทะเลมุมสูงๆสวยม๊าก!
ชุมชนปากน้ำชุมพร!
ตัวไรอ๊ะ!
องค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา
สรุปค่าใช้จ่าย ทริปนี้ของผมและเพื่อนนะครับ
1.ค่ารถทัวร์ คนละ 250 บาท
2. ค่าอาหาร คนละ 300 บาท
3. ค่าเรือไปเกาะ คนละ 417 บาท
4. ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ คนละ 100 บาท
5. ค่าน้ำมันรถเพื่อน คนละ 200 บาท (เป็นค่าน้ำใจ ตอบแทน)
6. ค่ารถกลับ คนละ 350 บาท
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่ายต่อคน 1617 บาท
สิ่งที่ผมและเพื่อนๆได้เรียนรู้ในครั้งนี้ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ของชาวบ้าน ขาวบ้านทำอาชีพหลากหลาย อาทิเช่น ทำนากุ้ง เลี้ยงหอยแมลงภู่ ทำสวนมะพร้าว ทำสวนปาล์ม ประมง ออกเรือหาปลา ตกปลาหมึก ฯลฯ ชาวบ้านมีความเป็นกันเองมาก ชุมชนละแวกนั้นยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศและบรรยากาศดีมาก รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรมาก ที่ทั้งให้บริการและความช่วยเหลือมากมาย ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ บางคนไม่เคยดำน้ำดูปะการัง บางคนไม่เคยชมวิวทะเลจากจุดชมวิวสูงๆ ในขณะชมวิว ได้เห็นความแตกต่างของทั้งสองฝั่งภูเขา ด้านหนึ่งยังคงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีหาดทราย มีป่าต้นไม้นานพันธ์ และอีกด้านหนึ่งเป็นชุมชนที่เริ่มแออัด มีโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้เห็นความแตกต่างทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน ชุมชน ซึ่งสังเกตได้ว่าพื้นที่ชุมชนเริ่มขยายเข้ามาที่ธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมและเพื่อนๆของจบทริป One Day Trip ณ ชุมพรประตูภาคใต้เพียงเท่านี้ครับ
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 907912