สวัสดีครับทุกคน นี่เป็นรีวิวที่ 2 ของผมครับ ทริปแรกเป็นทริปหลีเป๊ะ http://pantip.com/topic/35087581 ส่วนทริปนี้เราจะไปเที่ยวเมืองกาญฯกันครับ
ทริปนี้เริ่มจาก กทม. ครับ ขับรถกันไปเอง ออกจาก กทม. 7 โมงเช้า ไปถึงกาญฯ ประมาณเกือบ 11 โมง ไปวันเสาร์ รถค่อนข้างติด สถานที่แรกที่ผมไปก็คือ ทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซครับ
ชื่อ ทางรถไฟสายมรณะ ดูน่ากลัว แต่ สถานที่ไม่น่ากลัวเหมือนชื่อนะครับ
แถวๆถ้ำกระแซ จะมีรีสอร์ทด้วยครับ เป็นแพริมน้ำ มีเครื่องเล่นให้ด้วยครับ
จริงๆทริปนี้ จุดมุ่งหมายคือมานอนแพครับ ผมหาข้อมูลทาง Internet ไปเจอรีสอร์ทนี้มาครับชื่อ River kwai jungle rafts ครับ ในเว็บจะมีเบอร์โทรให้โทรไปติดต่อ ก็โทรจองได้เลยครับ รีสอร์ทนี้จะมีท่าเรือในการเดินทางไปครับเพราะต้องนั่งเรือเข้าไปที่แพ การเดินทางไปท่าเรือจะค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อย แต่ผมใช้ Google map ช่วยครับ พอใกล้ถึงจะมีป้ายบอกตลอดทาง ถึงท่าเรือจะมีเจ้าหน้าที่ถามว่าไปพักที่ไหน เพราะท่าเรือนี้ใช้เป็นท่าเรือรับ-ส่ง 3 รีสอร์ทครับ รอเรือไม่เกิน 15 นาที ก็มีเรือมารับเราครับ
ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆครับ นั่งมาประมาณ 20 นาที ถึงแล้วครับแพของเรา
มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำหน้าแพด้วยครับ
พอถึงแพก็เชคอินเข้าห้องพักครับ ห้องละ 2000 บาท พักได้ 3 คนครับมีอาหารค่ำและอาหารเช้าให้ แต่บอกไว้ก่อนเลยครับว่าที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะครับ เพราะอยู่ลึกเข้าไปในป่าครับ แต่กลางคืนจะมีตะเกียงให้ ดังนั้นต้องเตรียม Power bank สำรองไว้นะครับสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยมี ตัดจากโลกภายนอกและดื่มด่ำธรรมชาติได้เต็มที่ครับ ....
เก็บของเข้าที่พักเสร็จแล้ว ผมก็ไม่รีรอครับ ลงเล่นน้ำเลยครับ ที่นี่น้ำค่อนข้างเชี่ยว ดังนั้นก่อนลงต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยนะครับ
เล่นน้ำเสร็จขอนอนพักเหนื่อยก่อน
พระอาทิตย์เริ่มตก ช่วงค่ำที่นี่จะมีแต่ความเงียบ สงบ มีแค่แสงไฟจากตะเกียงเท่านั้น
มาดูภายในห้องพักครับ มีแค่ไฟจากแสงเทียน ที่เหลือก็ใช้แฟลชช่วย
มาถึงมื้อค่ำกับครับ มีกับข้าว 5 อย่าง สามารถเติมได้ตลอดครับ
กินเสร็จก็เข้านอนครับ เพราะไม่มีอะไรทำ โซเชียลก็เล่นไม่ได้ครับ 55555
สวัสดีเช้าวันใหม่ หมอกบนเขาตอนเช้า เยอะมากครับ
สูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าเสร็จก็ไปรับประทานอาหารเช้ากันครับ
ทานให้เต็มที่ เพราะเราต้องเดินทางกันต่อครับ จุดหมายปลายทางอยู่ที่สังขละบุรีครับ ระยะทางจากกาญฯ ไปสังขละบุรีค่อนข้างไกลและถนนขรุขระเป็นเนินเขา ควรระมัดระวังในการขับรถด้วยนะครับ
สถานที่แรกที่สังขละบุรี คือ วัดวังวิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตะมะ ครับ มาถึงก็ต้องไหว้พระขอพรกันก่อนครับ
ไหว้พระขอพรเสร็จ ก็เดินทางไปเจดีย์พุทธคยาครับ มาแดนมอญต้องแต่งตัวให้คล้ายมอญด้วยครับ (เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามครับ) 555555
สถานที่ต่อไปคือ โบสถ์กลางน้ำ วัดหลวงพ่ออุตตะมะครับ มาสังขละถ้าไม่แวะไปชมโบสถ์กลางน้ำ ถือว่าพลาดมากครับ เพราะที่นี่ภือว่าเป็น Unseen Thailand เลยครับ เป็นโบสถ์หลังเก่าของหลวงพ่ออุตตะมะ หลังจากน้ำท่วมก็ย้ายขึ้นมาสร้างใหม่บนบกครับ
การเดินทางคือ เหมาเรือของชาวบ้านมาครับ เค้าคิด 300 บาทนั่งได้ 5-6 คน ระหว่างทางไปผ่านสะพานมอญกับสะพานลูกบวบด้วยครับ
ใกล้ถึงแล้วครับ ปลายทางของเรา
อันนี้เป็นหอระฆังครับ
พอเรือเทียบท่าจะมีไกด์ตัวน้อยๆมารอรับครับ ไกด์ตัวน้อยหารายได้เสริมโดยการเล่าประวัติของโบสถ์หลังนี้ให้นักท่องเที่ยวฟังครับ
เดินเข้ามาภายในโบสถ์กันครับ
ไกด์ตัวน้อยกำลังเล่าความเป็นมาของโบสถ์อยู่ครับ
เมื่อเล่าจบก็ให้เงินไปเป็นค่าขนมนิดหน่อยครับ
แชะรูปสักหน่อย มุมนี้สวย
เดินทางกันต่อครับ ไปยังแลนด์มาร์คของที่นี่ สะพานมอญ สังขละบุรีครับ เมื่อกี้นั่งเรือผ่าน อีกไม่กี่อึดใจจะได้ลองไปเดินสำรวจครับ
คนขับเรือส่งเราที่สะพานลูกบวบ เพื่อให้เดินสำรวจไปเรื่อยๆจนถึงสะพานมอญครับ
ถ่ายรูปสักช้อต
ระหว่างทางเดินไปสะพานมอญจะมีชาวมอญมาขายของกันครับ
เดินมาเรื่อยๆหาของกิน ของฝากมาเรื่อยๆ ถึงแล้วครับแลนด์มาร์คของเรา
เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาอำลาเมืองเล็กๆที่แสนน่ารัก แห่งนี้ซะแล้ว ต้องเดินทางกลับ กทม. แล้ว เศร้าาาาาา
เสียดายที่ไม่ได้มานอนสังขละบุรี หน้าหนาวไว้ผมจะกลับมาเยือนเพราะได้ข่าวว่าอากาศดีมาก ....
Bye Bye สังขละบุรี Bye Bye แดนสวรรค์ตะวันตก
ผู้ร่วมทริปของเรา......
ขอบคุณทุกคนที่รับชมจนจบนะครับ
ที่มา Pantip
Cr. ฟอฝ้าย
ทริปนี้เริ่มจาก กทม. ครับ ขับรถกันไปเอง ออกจาก กทม. 7 โมงเช้า ไปถึงกาญฯ ประมาณเกือบ 11 โมง ไปวันเสาร์ รถค่อนข้างติด สถานที่แรกที่ผมไปก็คือ ทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซครับ
ชื่อ ทางรถไฟสายมรณะ ดูน่ากลัว แต่ สถานที่ไม่น่ากลัวเหมือนชื่อนะครับ
แถวๆถ้ำกระแซ จะมีรีสอร์ทด้วยครับ เป็นแพริมน้ำ มีเครื่องเล่นให้ด้วยครับ
จริงๆทริปนี้ จุดมุ่งหมายคือมานอนแพครับ ผมหาข้อมูลทาง Internet ไปเจอรีสอร์ทนี้มาครับชื่อ River kwai jungle rafts ครับ ในเว็บจะมีเบอร์โทรให้โทรไปติดต่อ ก็โทรจองได้เลยครับ รีสอร์ทนี้จะมีท่าเรือในการเดินทางไปครับเพราะต้องนั่งเรือเข้าไปที่แพ การเดินทางไปท่าเรือจะค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อย แต่ผมใช้ Google map ช่วยครับ พอใกล้ถึงจะมีป้ายบอกตลอดทาง ถึงท่าเรือจะมีเจ้าหน้าที่ถามว่าไปพักที่ไหน เพราะท่าเรือนี้ใช้เป็นท่าเรือรับ-ส่ง 3 รีสอร์ทครับ รอเรือไม่เกิน 15 นาที ก็มีเรือมารับเราครับ
ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆครับ นั่งมาประมาณ 20 นาที ถึงแล้วครับแพของเรา
มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำหน้าแพด้วยครับ
พอถึงแพก็เชคอินเข้าห้องพักครับ ห้องละ 2000 บาท พักได้ 3 คนครับมีอาหารค่ำและอาหารเช้าให้ แต่บอกไว้ก่อนเลยครับว่าที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะครับ เพราะอยู่ลึกเข้าไปในป่าครับ แต่กลางคืนจะมีตะเกียงให้ ดังนั้นต้องเตรียม Power bank สำรองไว้นะครับสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยมี ตัดจากโลกภายนอกและดื่มด่ำธรรมชาติได้เต็มที่ครับ ....
เก็บของเข้าที่พักเสร็จแล้ว ผมก็ไม่รีรอครับ ลงเล่นน้ำเลยครับ ที่นี่น้ำค่อนข้างเชี่ยว ดังนั้นก่อนลงต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยนะครับ
เล่นน้ำเสร็จขอนอนพักเหนื่อยก่อน
พระอาทิตย์เริ่มตก ช่วงค่ำที่นี่จะมีแต่ความเงียบ สงบ มีแค่แสงไฟจากตะเกียงเท่านั้น
มาดูภายในห้องพักครับ มีแค่ไฟจากแสงเทียน ที่เหลือก็ใช้แฟลชช่วย
มาถึงมื้อค่ำกับครับ มีกับข้าว 5 อย่าง สามารถเติมได้ตลอดครับ
กินเสร็จก็เข้านอนครับ เพราะไม่มีอะไรทำ โซเชียลก็เล่นไม่ได้ครับ 55555
สวัสดีเช้าวันใหม่ หมอกบนเขาตอนเช้า เยอะมากครับ
สูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าเสร็จก็ไปรับประทานอาหารเช้ากันครับ
ทานให้เต็มที่ เพราะเราต้องเดินทางกันต่อครับ จุดหมายปลายทางอยู่ที่สังขละบุรีครับ ระยะทางจากกาญฯ ไปสังขละบุรีค่อนข้างไกลและถนนขรุขระเป็นเนินเขา ควรระมัดระวังในการขับรถด้วยนะครับ
สถานที่แรกที่สังขละบุรี คือ วัดวังวิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตะมะ ครับ มาถึงก็ต้องไหว้พระขอพรกันก่อนครับ
ไหว้พระขอพรเสร็จ ก็เดินทางไปเจดีย์พุทธคยาครับ มาแดนมอญต้องแต่งตัวให้คล้ายมอญด้วยครับ (เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามครับ) 555555
สถานที่ต่อไปคือ โบสถ์กลางน้ำ วัดหลวงพ่ออุตตะมะครับ มาสังขละถ้าไม่แวะไปชมโบสถ์กลางน้ำ ถือว่าพลาดมากครับ เพราะที่นี่ภือว่าเป็น Unseen Thailand เลยครับ เป็นโบสถ์หลังเก่าของหลวงพ่ออุตตะมะ หลังจากน้ำท่วมก็ย้ายขึ้นมาสร้างใหม่บนบกครับ
การเดินทางคือ เหมาเรือของชาวบ้านมาครับ เค้าคิด 300 บาทนั่งได้ 5-6 คน ระหว่างทางไปผ่านสะพานมอญกับสะพานลูกบวบด้วยครับ
ใกล้ถึงแล้วครับ ปลายทางของเรา
อันนี้เป็นหอระฆังครับ
พอเรือเทียบท่าจะมีไกด์ตัวน้อยๆมารอรับครับ ไกด์ตัวน้อยหารายได้เสริมโดยการเล่าประวัติของโบสถ์หลังนี้ให้นักท่องเที่ยวฟังครับ
เดินเข้ามาภายในโบสถ์กันครับ
ไกด์ตัวน้อยกำลังเล่าความเป็นมาของโบสถ์อยู่ครับ
เมื่อเล่าจบก็ให้เงินไปเป็นค่าขนมนิดหน่อยครับ
แชะรูปสักหน่อย มุมนี้สวย
เดินทางกันต่อครับ ไปยังแลนด์มาร์คของที่นี่ สะพานมอญ สังขละบุรีครับ เมื่อกี้นั่งเรือผ่าน อีกไม่กี่อึดใจจะได้ลองไปเดินสำรวจครับ
คนขับเรือส่งเราที่สะพานลูกบวบ เพื่อให้เดินสำรวจไปเรื่อยๆจนถึงสะพานมอญครับ
ถ่ายรูปสักช้อต
ระหว่างทางเดินไปสะพานมอญจะมีชาวมอญมาขายของกันครับ
เดินมาเรื่อยๆหาของกิน ของฝากมาเรื่อยๆ ถึงแล้วครับแลนด์มาร์คของเรา
เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาอำลาเมืองเล็กๆที่แสนน่ารัก แห่งนี้ซะแล้ว ต้องเดินทางกลับ กทม. แล้ว เศร้าาาาาา
เสียดายที่ไม่ได้มานอนสังขละบุรี หน้าหนาวไว้ผมจะกลับมาเยือนเพราะได้ข่าวว่าอากาศดีมาก ....
Bye Bye สังขละบุรี Bye Bye แดนสวรรค์ตะวันตก
ผู้ร่วมทริปของเรา......
ขอบคุณทุกคนที่รับชมจนจบนะครับ
ที่มา Pantip
Cr. ฟอฝ้าย