รีวิว - สุราษฎร์ธานี ∀ เชี่ยวหลานก็มี ∀ Full moon party ก็มา -



ขณะที่เรากำลังไถทวิตเตอร์กลางดึกคืนนึง มือบังเอิ๊ญบังเอิญไถไปเจอรูปภาพ 4 รูปที่สวยมาก
"เชี่ยวหลาน" คำถามแรกที่โผล่มาคือ ที่ไหนวะ?
แต่ตอนนั้นโควตทวิตหาเพื่อนชวนไปเที่ยวเรียบร้อยแล้ว
หลังจากสอบแกทสอบแพทเสร็จเราก็จองตั๋วเครื่องบินกันไปเลย
แต่ว่าเชี่ยวหลานมันอยู่สุราษนี่นา เอ๊ะ สุราษก็มีเกาะพะงัน เกาะพะงันก็มีฟูลมูนปาร์ตี้ มีดำน้ำอีกต่างหาก
ป่ะ เที่ยวให้หมดเลยดีกว่า 555555555

แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้นที่คืนวันที่ 18 เงินจำนวน 5000 บาท ของ 5 คนลงขันกันอยู่ในถุงตุ๊กตาหน้าโง่
ที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็วที่เซเว่นหน้าปากซอย 700 กว่าบาท ซึ่งเป็นค่าของกินล้วนๆ + ของที่เพื่อนซื้อมาอีก
สรุปคือยังไม่ทันไปไหนก็หมดไปราวๆพันกว่าบาท





เราเลือกสายการบิน thai lion air เพราะถูกสุดแล้ว ไฟล์ทไป 825 บาท ไฟล์ทกลับ 775 บาท
สิริรวม 1600 บาทพอดี
เครื่องขึ้น 8.35 แต่ไปเช็กอินตั้งแต่เจ็ดโมงกว่า เพราะเรากลัวคนเยอะ
ปรากฏว่าเคาน์เตอร์ไลอ้อนแอร์โล่งมากจ้า... จะรีบเพื่อ?
กลับกันเพื่อนอีก 1 หน่วยที่หลุดไปบินแอร์เอเชียกลับมีแถวที่ยาวมาก โชคดีที่ไฟลท์นางบินหลังเราครึ่งชั่วโมง





โจ๊กแมคและราคาที่อัพขึ้นอย่างมหาศาลแถมไม่อิ่ม + ปาท่องโก๋อันละ 34 บาท แทบช็อกตาย





ขอรีวิวสั้นๆว่า เครื่องใหม่ แอร์น่ารัก ทางเดินแคบไปมากแต่เบาะใหญ่นิดนึง(นิดจริงๆ ขอสาบาน)
มีของว่างเป็นวอยซ์รสช็อกโกแลตกับน้ำเปล่าหนึ่งถ้วยเล็กๆ ทั้งขาไปและขากลับ
ขาไปถึงตรงเวลาทุกอย่าง

ความพริ้มเพราประหยัดตังอย่างหนึ่งของเราคือ เพื่อนมีเพื่อนมีบ้านอยู่สุราษจ้ะ (ไม่งงนะ ไม่งงใช่มั้ย?)
พอถึงแอร์พอร์ตก็รอสาวหนึ่งเดียวของแอร์เอเชียมาสมทบ มีเพื่อนและป้าของเพื่อนมารับไปหาของกิน ไปนอนที่บ้าน
มีความสุขสุดๆ จะมีทริปไหนสุขสบายได้ขนาดนี้....

หึหึหึหึ

ปล. จากสนามบินมีรถไปเขื่อนนะ แต่ต้องนั่งเข้าไปตัวเมืองสุราษก่อนแล้วค่อยต่อรถ หรือจะให้รถจากที่พักมารับก็(น่าจะ)ได้
เราไม่ได้ถามว่าเข้าตัวเมืองเท่าไหร่ แต่จากตัวเมืองไปเขื่อน 150 บาทนะฮ้าบ
ส่วนสำหรับใครที่มีเป้าหมายเป็นเกาะพะงันอย่างเดียวก็เชิญเลือกรถไปได้เลย มีตั้งแต่ 700 500 หลากหลายราคา ลองถามหลายๆเคาน์เตอร์ดู
เราไปส่องๆมาได้เท่านี้แล...




ตอนเย็นพ่อเพื่อนพาไปเล่นคลองแถวบ้าน มีชื่อว่า ท่าน้ำสจ.อ.วิภาวดี เป็นการเล่นน้ำที่พีคมาก
เพราะห่างจากจุดเล่นน้ำไปไม่เกิน 1 เมตร คุณลุงก็เอารถมาจอด มาล้างรถ
นั่นไง นั่นคุณป้าเอาผ้ามาซัก
เด็กน้อยลูกคุณป้าก็อาบน้ำอยู่เคียงข้างกัน
พีคมาก พีคมากๆ

พอกลับบ้านไปก็ไปโด้กล้วยฉาบน้ำตาลของบ้านเพื่อนมากินแล้วทุกคนก็ติดใจ
สั่งกลับกรุงเทพกันคนละ 5 ถุง 10 ถุง แถมหิ้วไปกินกองกลางอีกต่างหาก
ชีวิตดี อิ่มหมีพีหมัน นอนหลับสนิทกันทุกคน

หึหึหึ

ชีวิตดี๊ย์ดีย์


ตอนเช้าคุณป้าของเพื่อนก็ขับรถมาส่งเด็กน้อย 6 คน พร้อมกระเป๋า 8 ใบ และถุงกล้วยประมาณ 50 ถุง
วันนี้คุณป้าจะไปนั่งเรือเล่นกับเราด้วย




ก่อนลงเรือต้องเสียค่าเข้า 40 บาทก่อน พอลงไปถึงท่าปุ้บก็จะมีคนขับเรือแห่กันมาต้อนรับและพาคุณขึ้นเรือไป
เนื่องจากมีหน้าที่ดูแลแต่เรื่องกล้อง เรื่องเงินก็เลยจับได้แค่ว่าเสียค่าเรือ คนละ 650 บาท
ขุดมาได้แค่นี้จริงๆ




แค่เห็นก็ต้องร้องหู้วแล้ววว ขนาดริ่มฝั่งยังสวยขนาดนี้แล้วข้างในล่ะ




Let's go กันเต๊อะ
แดดแรงมากแต่ลมเย็นมากเช่นกัน เราชอบแดดที่นี่มากมันไม่แสบผิวและเหมือนจะทำให้เราเป็นไก่ย่างเหมือนกรุงเทพ




เด็กน้อยทั้งหกไปออกันอยู่แต่หัวเรือจ้ะ จนลุงคนขับแกคันปากจะด่าหลายรอบแล้ว 555555555
อย่าลืมใส่ชูชีพกันด้วยนะ 




คือของจริงสวยกว่ามาก เรียกได้ว่าต้องใช้ตาดู เพราะตาเป็นกล้องบันทึกภาพที่ดีที่สุดของมนุษย์กันเลยทีเดียว
(ความจริงคือจขกท. ฝีมือกาก 55555555555)
นั่งเรือไปก็ถามลุงไปว่าโดดลงน้ำได้มั้ย ลุงแกก็ยิ้มหวานใส่
"โดดสิ 400 เมตรเอง"
จ้ะลุง แค่สี่ร้อยเมตรเองงงงงงงงงงง




เชี่ยวหลานเป็นอะไรที่ถ่ายรูปออกมาแล้วก็สวยเหมือนของจริง บางจุดเรียกได้ว่าของจริงสวยกว่าด้วยซ้ำ สวยกว่าในรูปที่เคยดูมา
ไม่ว่าจะในทวิตเตอร์ พันทิป นิตยาสาร หรืออะไรก็ตาม




จัดเป็นสถานที่ที่ต้องมา must going สุดๆ เรคคอมเมน รับประกันว่ามาแล้วไม่ผิดหวัง 
มันสวยมากจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สวยแบบเราต้องขอบคุณอยู่ลึกๆที่ทำเป็นเขื่อน เพราะธรรมชาติมันดีมาก จนกลัวว่าถ้ามนุษย์ยังอาศัยอยู่ก็อาจจะทำลายมันไปหมด

เสร็จแล้วเราก็ไปแพพันวารีย์กัน ไม่ได้ไปพักนะจ้ะ เพราะว่าไม่มีตัง 555555555555555555555555555555555
แวะไปกินข้าว เล่นน้ำ พายเรือแคนูเฉยๆ คนละ 300 บาท เป็นการลิ้มลองอาหารใต้ของแท้ของจริง
แกงส้มของภาคใต้เผ็ดมาก เรากินเผ็ดกลางๆยังอดทนได้ครั้งละไม่เกิน 2 คำติดกัน แต่อร่อยจริง
ส่วนอาหารอย่างอื่น เฉยๆ 
เรือแคนูก็พายยากมาก พอกำลังพายคล่องก็อยากลงไปว่ายน้ำเล่นแทน เวรกรรม
ข้างหลังมีสไลเดอร์ให้เล่น ข้อแนะนำของเราก็คือ จงอย่ามาเล่นตอนกลางวัน!!

การที่ตูดเสียดสีอย่างรวดเร็วก็สร้างความร้อนให้แก่บั้นท้ายของเราได้แล้ว แต่การไถสไลเดอร์ตอนเที่ยงมันคือนรก!!!
ใครอยากลองก็ไปลองได้นะ แล้วคุณจะเข้าใจคำว่าตูดติดไฟ 
คือถ้าสไลเดอร์ยาวกว่านี้อีกหน่อยมันคงจะติดจริงๆ นี่ไม่โกหก นี่จริงจังมากๆ

อ้าววว ไม่นอนในแพแล้วนอนที่ไหนกันหรอ
หากคุณไม่มายด์ที่จะนอนบนฝั่ง และมีงบน้อยเพราะต้องปันไปทำอย่างอื่น ขอแนะนำ
บ้านดาหลา บ้านพักของกฟผ. คืนละ 1300 บาท ไม่มีอาหาร อยากกินเดินลงไป 200 เมตรมีร้านอาหาร
ที่เย็นวันนั้นกรุ๊ปทัวร์ลง เราก็กลายเป็นแก๊งนีไร้อาหาร ต้องทำสายตาอ้อนวอนแม่ครัวกับเจ้าของกันสุดชีวิต
"ถ้าไม่ให้หนูกินข้าวที่นี่ หนูก็ไม่มีข้าวกินแล้วนะคะ"
สุดท้ายก็เลยได้นั่งท่ามกลางกรุ๊ปทัวร์ที่กินบุฟเฟ่ต์ ส่วนเราเป็นอาหารจานเดียวราคาไม่แพง เฉลี่ยจานละ 60 บาท ได้เยอะ
รสชาติเฉยชามาก แต่หนูหิว หนูกินได้หมด หนูไม่เถียง หนูไม่เกี่ยง




สภาพห้องพัก 1300 บาท ขออภัยในความรก สกปรกด้วยประการทั้งปวง เพราะมาถ่ายตอนเช้าก่อนออก 
ก่อนหน้านั้นคือเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามากๆ 




เปิดประตูเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่น มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องหนึ่งเป็นเตียงใหญ่เตียงเดียว
อีกห้องมีห้องน้ำในตัว เป็นเตียงเล็ก 2 เตียงที่สุดท้ายก็ลากติดกันแล้วก็แบ่งกันนอน 
ปล.ชักโครกห้องนี้กดไม่ลง โชคดีที่เราอึตอนมันยังกดได้อยู่ 55555555555555555555




มีน้ำอุ่นน้ำเย็นให้เสร็จสรรพ ถือว่าสะดวกสบายมากๆ
และหลังจากกลับจากเขื่อน เราก็ค้นพบว่ากล้วยได้หายไปแล้ว 10 ถุง โอ้ว มายกอด....

พอเจ็ดโมงเช้าเพื่อนผู้อยู่สุราษก็ลากกระเป๋าจากไป เหลือแค่ห้าสเมิร์ฟจากกรุงเทพเปล่าเปลี่ยวเอกากันอยู่
แล้วเราก็ได้ค้นพบว่า ทริปสบายๆ มันได้กลายเป็น #ทริปนรก #ทริปนก อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่ก่อนจากไปเพื่อนก็ได้ทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงคือไปติดต่อพี่ที่เคาน์เตอร์ขอเบอร์รถตู้ เขื่อน บ้านตาขุน(รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ) ตัวเมืองสุราษ
โทรให้มารับเราไปท่ารถไปท่าเรือไปเกาะพะงัน 
รถตู้ตรงเวลาเป๊ะมาก 7 โมงครึ่งตามสัญญาสุดๆ เสียไปคนละ 130 บาท พร้อมการเดินทางอันยาวนานมากๆ ใช้คำว่ามาก 
มากถึงมากที่สุด

แต่แล้วอยู่ดีๆน้องนิคที่ไม่มีอาการใดๆมาก่อนก็จอเสีย...เสียแบบมองเห็นภาพแต่เป็นสีๆ จนเราไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ารูปที่ถ่ายมามันมีสภาพเป็นยังไง
ลูกแม่... อยู่กับแม่ก่อน อยู่กับแม่ก่อนนนนน




คุณลุงพาเรามาปล่อยทิ้งไว้ตรงข้างวัดนี้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีหน้าตาแบบนี้




เป็นที่ขายตั๋วรถ + เรือไปพะงัน ขาไปคนละ 350 บาท (หรือ 320 เนี่ยแหละ เวรกรรม ขี้ลืมอย่างไม่มีอะไรจะลบล้างได้ ขอกราบขอโทษไว้ ณ ที่นี้)
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณซื้อทั้งขาไปและขากลับจะเหลือคนละ 580 แถมถ้าจะกลับไปแอร์พอร์ตก็ซื้อตั๋วไปเลยก็ได้ แค่ 150 บาทเท่านั้น
บวกลบคูณหารแล้วน่าจะคุ้มดังนั้น ซื้อเลยสิค่ะจะรออะไร
รถจะมีเป็นรอบๆ รอบต่อไปที่จะมาคือ 10 โมงครึ่ง อ้ะ หาข้าวกินก่อน
ปล.ที่ขายตั๋วมีห้องน้ำให้เข้านะ เดินเลี้ยวเข้าซอยข้างๆ ค่าเข้าคนละ 5 บาท
แต่หากคุณหิวข้าวและอยากเข้าห้องน้ำฟรี ให้เดินไปกินข้าวร้านข้างๆ สั่งข้าว แล้วเข้าห้องน้ำซะ




ข้าวผัดพริกแกงแบบใต้ สั่งด้วยอาการลืมตายว่า...อาหารใต้มันเผ็ด
รู้สึกตัวก็สายไปเสียแล้ว กรี๊ดดดดดดด



รถมาแล้วจ้า ตรงเวลาสุดๆ 
เราขึ้นรถไปด้วยความหวังใจว่าจะได้หลับสบายๆ แต่ แต่ แต่
ชีวิตของเราได้ยากลำบากขึ้นมาแล้วเพราะ...พี่คะ พี่คนขับอ่ะค่ะ พี่ลืมเปิดแอร์ป่ะพี่
ร้อนมากกกก ร้อนแบบถวายชีวิต ร้อนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ
กว่าจะถึงท่าเรือเราโคตรทรมาน พอลงมาตามตารางบอกว่าเรือออกเที่ยง
ปรากฎว่าเรือดีเลย์จ้ะ




ลำนั้นไปสมุย แล้วพะงันของน้องล่ะ พะงันอ่ะ พะงันนนนนนนนนน




อ้ะ ทำไมคนต้องไปยืนออกันตรงนั้นด้วยนะ เรือยังไม่มาเลย ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากเป็นฝูงซอมบี้ตรงนั้น ร้อนจะตาย
เหล่าสเมิร์ฟจากกรุงเต้บก็เลยหลบร้อนอยู่แถวทางเดินแถวนั้นก่อนจะค้นพบคำตอบในที่สุดว่าเขาไปออกันทำไม




อ่อ อ่อออ อ่ออออออออ
อ่อเลยจ้ะ เพราะถ้าขึ้นเรือช้าคุณก็จะถูกถีบออกมานั่งข้างนอกห้องแอร์แบบเรานี่ไง
ประเด็นคือวันนั้นเป็นวันฟูลมูนพอดี คนก็เยอะ แต่เรือที่มารับมีที่นั่งแค่ชั้นเดียว....
ดังนั้นทางเดินรอบนอกของเรือจึงกลายเป็นตั๋ววีไอพีสำหรับเหล่าชาวสโลว์ไลฟ์ทั้งหลาย

แ.ม่.งงง

ร้อนเ.อี้.ยๆ 

เรือก็ขับช้ามากกกก ใช้คำว่าช้ามากกกกกก ปากบอกว่าถึงบ่ายสาม ของจริงก็สี่โมงเย็นนู้นนนน
อีนี่ก็นั่งกินกล้วยฉาบกันไปเถอะจ้ะ อยากนอนก็นอนไม่ลงร้อนเหลือเกิน
พอกรึ่มๆจะหลับ ก็จะมีผู้คนเดินข้ามตัวไปมา

เอออ ไม่นอนแล้วก็ได้!




พะงันจ๋า พี่มาแล้วจ้ะ อยู่นี่แล้วน่ะ เขยิบมาใกล้ๆ







พอออกมาจากเฟอร์รี่ก็จะเจอทางเดินยาวๆ สำหรับคนที่จองโรงแรมแบบมีรถมารับก็รอราชรถมาเกยได้เลย
ส่วนใครที่ไม่มีก็ไม่ต้องน้อยใจเดินต่อไปจะเจอสองแถวรับจ้างจอดรอเป็นหมู่คณะ
ส่วนพวกเราก็ เช่ามอไซค์สิจ้ะ
การเช่ามอเตอร์ไซค์ให้เดินออกจากท่าเรือแล้วเลี้ยวซ้ายตรงถนนใหญ่ ข้ามถนนเลาะหาร้านไปเรื่อยๆ
ถ้าเจอราคาพวกมัดจำ 5000 4000 ค่าเช่าวันละ 200 250 ไม่ต้องไปเอา เดินสะบัดตูดถึงมาได้เลย
ให้เดินลึกไปเรื่อยๆ จะเจอราคาที่ลดหลั่นลงมา และอย่าลืมต่อราคาเยี่ยงเรา
ที่ได้มาในราคา 150 บาทต่อวัน และมัดจำคันละ 2000 เช่ามา 2 คันถ้วน

เราส่งเพื่อนผู้มีความสามารถในการขับรถไปส่วนที่เหลือก็เดินเป๋ไปมา หาของกินอันได้แก่ส้มตำแถวท่าเรือ
ไก่ย่างแถวท่าเรือ
แล้วก็เดินไปเลียบๆถามสองแถวแถวนั้นว่าจากตรงนี้ไปฟูลมูนเท่าไหร่
จนเราได้เบอร์พี่คนนี้มา พี่พายุ 
เป็นคนที่พูดกลางชัดแล้วก็พูดจาดี ขับรถก็ดี สามารถหลังไมค์มาขอเบอร์ได้ 08x-xxxxxxx


แล้วนรกก็เริ่มต้นอีกครั้งหลังจากฝ่าฟันกับแดดร้อนๆบนเฟอร์รี่มาหลายชั่วโมง
เราจองที่พักมาชื่อว่า The ford sunset beach resort โดยเราได้ล่วงหน้าไปกับพลขับ 1 หน่วย
แต่พอไปถึงเขาก็บอกเราว่าที่พักเต็ม....จ้ะ
เราจะไม่อะไรเลยถ้าเมื่อเช้านี้เราไม่ได้โทรมาแล้วพี่เขาบอกว่าเข้ามาได้เลย ที่จองไว้ในบุ๊กกิ้งใช่มั้ย

แต่พอเราเข้ามาปุ้บพี่ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของไม่อยู่ เจอแต่ผู้จัดการที่ (ใส่วงเล็บไว้จะได้ไม่ได้ยิน พอเราไปบอกว่าจองมาเขาก็บอกว่าห้องเต็ม แล้วก็มีลุงคนหนึ่งเหมือนพ่อครัวเดินมาช่วยคุย เห็นเขาหลุดปากกันมาว่าก็ห้องนั้นไง ที่ให้พี่สาวพี่(ผู้จัดการ)พัก แต่พอเขาเหลือบมาเห็นเรายืนอยู่เขาก็เลยลากกันไปคุยในห้อง (แต่ตอนนั้นอีนี้ไม่ได้ยินจ้ะ เพื่อนได้ยินคนเดียว ไม่งั้นลุงก็คงได้รับการลงโทษอย่างสาสมตั้งแต่วันนั้นแล้ว แย่ ))
สุดท้ายลุงพ่อครัวก็บอกให้เราไปพักที่ amsterdam backpack ที่อยู่ติดกับ amsterdam bar อันชื่อเสียงเลื่องลือ เพราะชมพระอาทิตย์ตกได้
แต่ห้ามคนไทยขึ้น (แม้ว่าตอนหลังพี่เจ้าของจะชวนเราขึ้นไปบาร์แล้วก็เถอะ แต่หนูไม่มีตังจ่ายอ่ะพี่)

เป็นห้องแบบโฮสเทลมีสี่เตียง เตียงละสองชั้น แต่เราใช้แค่สองเตียง ห้องน้ำใช้ได้ 1 ห้อง
และน้ำไม่ไหล ไฟดับสลับกันไป

ปล.แต่คนที่นี่ใจดีมากเลยนะ ชอบมาก เวลาไฟดับหรือน้ำไม่ไหลเขาจะรีบมาดูให้ 
ทางขึ้นเป็นเนินสูงมากเพื่อนถอยรถลำบากบอกพวกพี่ๆลุงๆ ก็จะรีบมาช่วยทันที
เราจะไปไหนเขาก็จะคอยถามว่าแบบไปไหนกัน ไปยังไงให้ไปส่งมั้ย
ชอบคนที่นี่มาก แต่หนูมีปัญหาที่น้ำไม่ไหลไฟดับนี่แหละพี่



ทริคสำหรับฟูลมูนปาร์ตี้ก็คือ กรุณากรึ่มไปก่อนถ้าไม่อยากหมดตัวที่งาน
(แต่เพื่อนยืนยันมาว่าค่าเครื่องดื่มที่นี่ถูกกว่าฟูบาร์ที่ข้าวสารในวันสงกรานต์)

เราก็เปิดกิวเบที่ซื้อกันมาตั้งแต่กรุงเทพโหลดขึ้นเครื่องมาไกล พอกรึ่มๆ โทรเรียกพี่พายุมารับตอนสองทุ่มครึ่ง
พี่พายุก็ตรงเวลาดีมาก (เร็วกว่าเวลาด้วย)
พี่แกวนไปรับฝรั่งจากเกาะสมุยที่มาเรือรอบดึกเพื่อฟูลมูนปาร์ตี้โดยเฉพาะ แล้วเราก็โยกกันไป
ปล.ไม่ควรขับรถไปเองเพราะจะมีทางที่น่ากลัวมากอยู่ประมาณสองโค้ง 
และทุกคนก็เตือนเราว่าอย่าขับรถไปตั้งแต่ ป้าคนขายส้มตำ และพี่ๆที่อัมสเตอร์ดัมบาร์

จ่ายค่าเสียหายคนละ 150 บาท สิริรวม 750 บาทแต่พี่พายุไม่มีทอนเลยเหลือ 740 กราบค่ะพี่กราบ

หลังจากนี้ไปจงรับชมภาพที่มาจากไอโฟนล้วนๆ เพราะเราจะไปแดนซ์กัน
ปล.เราพกเงินออกมา 3000 บาทถ้วน 




เสียตังตั้งแต่ยังไม่เข้างาน ค่าห้องน้ำคนละ 20 บาทอืมมมม ห้องน้ำที่เกาะนี้นี่มันแพงจริงๆ
ปล.ร้านที่อยู่หน้าห้องน้ำขายสีเพ้นขวดละ 30 บาท เราซื้อกันมาเพ้นอย่างเมามันและเดินเข้างานอย่างมีความสุข




คนละ 100 ตัวเบาเชียววว 




อันนี้คือมีแค่แสงโสมกับมิกซ์เซอร์เล็กๆน้อยๆ เราซื้ออะไรซักอย่างมา(ลืมอีกเวรกรรม) หมดไป 350 บาท แถมชงไม่อร่อยและไม่เมาไม่กรึ่มด้วยแต่ก็หมด
ปล.สำหรับสายวาร์ปมี sleep area ให้ท่าน 
ปลล.สงสารเพื่อนคนหนึ่งมาก นางมีภาวะคออ่อนและพร้อมอ้วกตลอดเวลา แต่นางก็ฝืนเดินแบบวาร์ปๆและกลืนอ้วกที่จะออกมาทุกครั้ง
เพราะกลัวเพื่อนเอาไปปล่อย sleep area 




กระบองไฟก็มา




ลอดไฟก็มี ตอนแรกเพื่อนก็ขับไล่เราไปลอดแต่เกรงว่าด้วยสภาพตอนนั้นคงไม่ลอด มีแต่ร่วง




เป็นค่ำคืนที่ใช้ภาษาอังกฤษเยอะที่สุด และพูดกับคนต่างชาติมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา
จำได้ว่าคุยกับคนเยอะมาก แต่น่าแปลกใจมากที่ตอนเช้าจำชื่อไม่ได้ซักคน 55555555555555
แล้วทั้งกลุ่มก็กลายเป็นเทพสปีกอิงลิช จากเพื่อนที่ฟังไม่ค่อยออก พูดไม่ได้ก็กลายเป็นทักฝรั่งก่อนไปเฉย
where u come from? what ur name? are u going alone? บลาๆๆๆ
เป็นงานที่ต้องกรึ่มๆ เมาๆ ถึงจะสนุกจริงๆ 

ไม่ว่าใครจะพูดยังไงแต่เรามีความชอบฟูลมูนอย่างนึง ตรงที่เวลาไปพัทยาถ้ารู้ว่าคุณเป็นคนไทยประโยคที่โดนบ่อยๆก็คือ How much
แต่เรามาที่นี่ไม่มีใครพูดถึงน้องกรี่เลย ทุกคนดูแบบไทยแลนด์หรอ สวัสดีครับ ชื่ออะไร
คือทุกคนดูสนุก มีความสุข ให้อารมณ์เหมือนบาร์ฮอปปิง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามควรประคับประคองสติตัวเองให้เหลืออยู่บ้างซักเล็กน้อย อาทิ เพื่อนเรียกก็ยังรู้สึกตัวอยู่บ้าง เพื่อนลากก็ตามเพื่อนไป

ปล. หากมีใครรู้จักคุณคนนี้ช่วยบอกเราที ชื่อลูอิส/ลิวอิส (เป็นคนเดียวที่ยังมีชื่อติดอยู่ในความทรงจำคนทั้งกลุ่ม)
ชาวจีนแท้ๆ อาศัยอยู่ในมาเล นางเหมือนมีเรดาร์ไม่ว่าเราจะหนีไปไหนนางจะตามจนเจอ
สุดท้ายก็พูดกันอยู่สามภาษาใต้ต้นมะพร้าวตอนเกือบตีสอง จีน อังกฤษ มาเลย์(พอเมาแล้วพูดมาเลย์ได้เฉย นางสอนคำไหนพูดได้หมด ยาวแค่ไหน ยากยังไง สำเนียงแปลกตรงไหน คล่องมาก เช้ามาลืมหมด 5555555555555555555555555555)

แต่เราต้องกลับกันตอนตีสองนิดๆ เพราะพรุ่งนี้เช้ามีทัวร์ดำน้ำ!!!
ทัวร์ทุกแห่งบนเกาะจะปิดหลังวันฟูลมูน 1 วัน ยกเว้นบริษัทนี้! 
ลมหลักคีรินทร์ทัวร์....

จำความรู้สึกวินาทีตอนนั้นได้เลยว่า ทัวร์เ.อี้.ยไร ไม่ไป จะอยู่ฟูลมูนต่อ
แต่สุดท้ายก็ต้องกลับเพราะเสียค่าทัวร์ไปแล้วคนละ 1500 เกาะเต่า เกาะนางยวน

ขากลับได้ค่ารถมาคนละ 100 บาท แต่ทั้งตัวเหลือเงินอยู่ 480 บาท ก็เลยชูไปให้ลุงดูแบบเมาๆ
เพื่อนก็ไหว้ลุงแทบจะกราบอยู่แล้วว่า "หนูมีแค่นี้นะลุง" ลุงก็ขำ แล้วก็พาไปส่ง 
ปล.เราชอบอีกอย่างนึงคือ เขารู้ว่าเราเมานะ แต่เขาไม่ชาร์จเพิ่มอ่ะ ชอบๆๆ
บนรถมีไทยอยู่ 5 คนที่เหลือเป็นฝรั่งต่างด้าวอีก 6-7 คน ทุกครั้งที่มีคนลงก็จะคอยบ๊ายบาย บอกกู๊ดไนท์กัน 
อืม เมายกคัน 5555555555555
เมาแล้วสกิลอิ้งเพิ่มสูงมาก (เราเพิ่มสกิลมาเลย์มาแบบงงๆด้วยนะ)


ข้อแนะนำ ควรจะมาทัวร์ดำน้ำให้เสร็จก่อนวันฟูลมูนวันนึง แล้วก็จัดเต็มฟูลมูนไปเลย
เพราะจขกท.กับเพื่อนนั้นสภาพปางตายทุกวัน นอนตีสามตีสี่ ตื่นหกโมงงี้ บางวันตื่นตีห้า ตีสี่ จะบ้าตาย



บริษัทนี้แหละ ตอนเช้าเราโคตรงอแงแบบว่า ไม่เอาไม่อยากไป ไม่ชอบดำน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น กระยิ้มกระสนในน้ำเป็นอย่างเดียว
แต่ทัวร์นี้ดีนะ ตอนเช้าจะไปรับทุกคนที่หน้าโรงแรมมาส่งที่ท่าเรือ มีลงทะเบียน มีน้ำแจก มีกาแฟให้กิน แต่วัยสะรุ่นแบบเราก็ไปร้านตามสั่งของป้าแถวท่าเรือ
ซื้อไข่ต้มมาด้วย พกกล้วยฉาบมาด้วย 
(กล้วยฉาบนี่มันต่อชีวิตจริงๆนะ แบบหิวมาก ไม่มีไรกินก็กล้วยฉาบ แม้ว่าจะทำให้เป็นร้อนในและกลับมาจากทริปนี้จะไม่กินกล้วยอีกแล้วก็ตาม)







จงอย่าหมดสติเชื่อเราเถอะ 

ความรู้สึกเราคือยังเมาค้างอยู่เลย พวกลุงที่ท่าเขาก็บอกว่ากลับมาดำแน่ ยังไหวกันอยู่มั้ย เมื่อคืนถึงกี่โมงล่ะ
นี่ก็แบบลุงงง อย่าพึ่งพูด หนูคุยด้วยไม่รู้เรื่อง




วันนี้คนแน่นทัวร์มากเต็มทุกที่นั่ง ฝรั่งน้อย คนไทยเยอะ (ตามปากคำที่ลุงบอกมา)
ก่อนขึ้นสปีดโบ๊ทก็ต้องถอดรองเท้า เราก็เห็นฝาหรั่งคนหนึ่งยืนอยู่หน้าถุงรองเท้าที่ล้นแล้ว ด้วยความเป็นคนดีกำลังจะช่วยนาง นางก็โบกมือไล่ให้เข้าข้างใน
เอ้า คนอุตสาห์จะช่วย...เด้าะมาก

เอาอีกแล้วจ้ะ ไม่มีที่นั่งข้างใน หัวเรือมั้ยล่ะตัวเธอว์...
แดดแรงแบบจำลองนรกมาชัดๆ อืมมมม นกอีกแล้ว




ส่วนฝรั่งคนนั้นก็ไกด์ของเราไงจ้ะ เป็นบุคคลที่หน้าตาดูอิตาเลียนมาก แต่ความจริงนางมาจากมอสโคว์ 
นางแนะนำตัวว่าชื่ออีวาน(เพื่อนบอกมา ฟังไม่ทัน) เป็นไกด์ในฝันมากคือนางไม่วอแว
บอกเฉยๆว่า ยูต้องทำแบบนี้นะ เนื่องจากนางพูดได้แต่อังกฤษแต่ภาษาไทยอะลิตเติ้ลบิทมาก
ถ้าใครรู้ว่าฟังไม่ออกแน่ๆก็พาเพื่อนที่ฟังได้ไปด้วยนะคะ หรือจะถามคนไทยแถวนั้นเอาก็ได้
เนื่องจากนางพูดเร็วและรัวมาก ก็ตั้งใจฟังนางหน่อยแล้วกัน




เปิดทริปกันที่เกาะนางยวน จะมีตั้งแต่ขึ้นจุดชมวิว (ไม่ได้ขึ้น เมื่อคืนสายย่อเยอะไปหน่อยปวดเข่า)
เล่นน้ำทะเล หรือดำน้ำแบบสน็อกเคิล มีเก้าอี้ผ้าใบให้นั่ง ชั่วโมงละ 150 หรือครั้งละ 150 เนี่ยแหละเราแอบไปสืบจากลุงมา

แต่ลุงดีมากนะ เพราะว่าเรากับเพื่อนว่ายน้ำไม่เป็นแกก็บอกให้ลองลอยตัวอยู่ริมฝั่งก่อน เกิดไปหัดลอยไกลฝั่งมันจะอันตราย
เพราะไม่มีคนคอยช่วยเหลือนะ ยูดูแลตัวเองนะ ถ้าเป็นอะไรก็อาจจะเรียกให้คนแถวนั้นช่วยได้ แต่ยังไงก็ต้องพึ่งพาตัวเอง
เออดี ชอบ 
เราเคยไปดำน้ำฝั่งอ่าวไทยมาครั้งนึง โคตรประคบประหงมจ้า แบบว่าเกาะติดมาก น่าจะเพื่อความปลอดภัยแหละ แต่ว่าชอบแบบถีบหัวส่งแบบนี้มากกว่า
สรุปเป็นทัวร์แบบดูแลตัวเองนะ เวลากินข้าวคือ 11.40 - 12.40 ดูนาฬิกาเอาเอง เป็นบุฟเฟ่ต์มาไม่ทันอดแดร๊ก จบข่าว
นัดรวมตัวบ่ายโมง 20 นะ มาไม่ทันก็เรื่องของยูนะ 
ที่ผูกข้อมือห้ามหายนะ ถ้าหายไม่มีข้าวกินนะ มีสำรองให้ก็จริงแต่อย่าหายจะดีกว่า 
ชอบๆ พึ่งพาตัวเองแบบสุดๆ





พอกินข้าวเสร็จเราก็ข้ามไปเกาะเต่ากันจ้าาาา
อีนี่ก็นั่งนอกเรือกันอีกแล้วจ้า ร้อนตูดสุกตูดไหม้ไปหมด

ก่อนขึ้นเรือก็มีให้ถอดรองเท้าอีกรอบ ด้วยความที่พื้นมันร้อนแบบมากๆ แล้วเราเท้าลอกเนื่องจากไปตีแบตก่อนมา
แสบสิครับพี่น้อง อื้อหื้อออ ถึงกับอุทานว่า shit! อีวานที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดีก็เลยมองหน้าแล้วร้องเพลงกวนทรี.น 
จ้าาาา อีไกด์น่าหมันไส้ ถอดเสื้อโชว์แพ็คอยู่นั่นแหละ ไม่เห็นทำงานทำการอะไรเลย




ข้ามไปเกาะเต่าอีวานบอกว่าห้านาที แล้วก็มานั่งร้อนหัวเรือ(กว่าพวกเรา)เป็นเพื่อน ซึ่งนางบังวิวตูมาก ขอบคุณ
พอถึงนางก็อธิบายว่ามีสองแบบจะลงจากบันไดท้ายเรือหรือโดดจากหน้าเรือก็ได้ 
แล้วพวกเราที่ยืนอยู่หน้าเรือก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธจ้า เพราะนางเล่นลอยหน้าลอยตาถามเลย
Who first? You first ชี้มือมาที่เรา ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ ว่ายน้ำไม่เป็นโว้ยยยยย
เราก็เลยส่งหน่วยกล้าตายไปแทน ส่วนเราก็เป็นคนที่สอง กลั้นใจโดดสุดๆ
โดยเพื่อนๆมาบอกทีหลังว่าเราโดดเฉียดโดนอีวานถีบไปนิดเดียวเองแบบว่า ทรีนนางลอยตามตูดฉันไปติดๆ




เกาะเต่าตรงที่เราไปลึกกว่าเกาะนางยวนมากแบบว่าตู้มต้ามสุดๆ แนะนำให้ใส่ชูชีพที่รัดข้างล่างได้ด้วยไม่งั้นจะจมแบบจมเยอะมาก
สน็อกเคิลถ้าไม่ติดหน้า ยางไม่ดี น้ำเข้าตาเข้าจมูกแบบเราตลอดเวลา ขอร้องให้เปลี่ยน อย่าฝืนทน เพราะมันทรมานมาก
เกาะเต่าสวยมากกกกกก สวยมากจริงๆ ใครมีเสี่ยวหมี่ หรือโกโปรพกติดไปรับรองไม่ผิดหวัง 
ที่นี้ให้เล่นแค่ชั่วโมงเดียว แต่ภายในหนึ่งชั่วโมงอีนี่โดดน้ำไปห้ารอบละจ้า กลับมาปวดเข่าแบบปางตาย 
เมื่อคืนก็สายย่อ ตอนบ่ายยังมาโดดตู้มต้ามอีก พัง!

ปล. ใครรู้จักเฟสบุ๊คหรืออะไรของอีวานเจอก็รบกวนหลังไมค์มาหาเราที ตอนนั้นคุยค้างกับนางไว้อยู่
กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงยิ่ง


ขากลับก็นั่งพึ่งแดดกลับเกาะพะงันจ้ะ พกเสบียงมาเต็มไข่ตงไข่ต้มที่เหลือเมื่อเช้า กล้วยฉาบ แบ่งฝรั่งข้างๆ ก็ไม่กิน แต่อีวานนางกิน
สรุป ประทับใจทัวร์นี้มากแม้ว่าตอนแรกจะไม่อยากมาแบบสุดขั้วหัวใจ ตอนดำน้ำที่เกาะนางยวนก็โวยวายในใจตลอดเวลาว่า ฉันมาทำอะไรที่นี่
เป็นแบบดูแลตัวเองอย่างถึงที่สุด ชอบๆ ลูกเรือเป็นมิตรแล้วก็คอยช่วยเหลือ เห็นมีลูกทัวร์คนหนึ่งปวดหัวเขาก็คอยช่วยดูแล 

ที่มา Pantip