รีวิว เกาะช้าง 3 วัน 2 คืน ชิวทั้งกายและใจ ด้วยงบ 3,000 บาท

สวัสดีค่ะ เป็นคนเที่ยวบ่อย แต่ไม่เคยมารีวิวเลย วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ การไปเที่ยวเกาะช้างด้วยตัวเองแบบชิลชิลนะคะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะ ถ่ายภาพด้วยไอโฟน 5 บางสถานที่เที่ยวเพลิน จนลืมถ่ายภาพมาฝาก หรือ รายละเอียดอาจขาดตกบกพร่องไป
ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ 

เริ่มกันเลยทริปนี้เดินทางตั้งแต่วันที่ 1 - 3 เมษายน เดินทางโดยรถส่วนตัว ไปกับเพื่อน 3 คน ด้วยค่าใช้จ่ายต่อคนไม่เกิน 3,000 บาท จะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ในคอมเม้นสุดท้ายนะคะ

วันแรกนะคะ
8.00 ออกเลทนึดนึงเพราะตื่นสาย 555 เมื่อทานข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถออกจากกรุงเทพ มุ่งหน้าไปยังท่าเรือท่าเรือเฟอร์รี่ อ่าวธรรมชาติ
ตอนแรกตั้งใจว่าไหนๆก็ขับรถมาเองแล้ว จะแวะเที่ยวระหว่างทางไปเรื่อยๆ แต่ดั้นขับเลยไปสะทุกที่ เลยคิดกันว่าเราค่อยแวะขากลับละกัน
เราขับตาม GPS มาเรื่อยๆ ก็จะมีป้ายสะกดจิตให้เราไปท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย แต่จากที่ทำการบ้านมานะคะ
ท่าเรืออ่าวธรรมชาติที่เราจะไปกันเนี้ย จะถึงก่อนอีกท่านึง มีเรือถี่กว่า (ทุกๆ 30 นาที) ระยะเวลาเดินทางสั้นกว่า (ประมาณ 30 นาที) คนนิยมมากกว่า
แต่ข้อเสียก็คือ ถ้าหากช่วงเทศกาล Traffic จะหนาแน่นมาก อาจต้องรอคิวขึ้นเรือนานถึง 4 ชม. ข้อเสียอีกข้อ คือ ราคาแพงกว่า นิดหน่อย

13.30 แวะทานข้าวเที่ยงที่ครัวเสวย ซึ่งอยู่ข้างๆท่าเรือ เราสั่งข้าวราดคนละจาน รสชาติงั้นๆ ราคาก็แพง เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพ อากาศก็ร้อน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เราไม่ได้ถ่ายรูปมารีวิวนะคะ ของไม่ประทับใจก็ปล่อยผ่านไป
จากกนั้นก็ต่อคิวขึ้นเรือ มีค่าใช้จ่ายคนละ 80 บาท รถคันละ 120 บาท

15.00 จากการต่อคิวขึ้นเรือ และอยู่บนทะเลอีกประมาณ 30 นาที ให้ลมเย็นๆตีหน้า ดมกลิ่นไอทะเล และแล้วเราก็ถึงเกาะช้างงงงงงง




เมื่อขึ้นฝั่งนะคะ ถ้าเราเลี้ยวขวาจะเป็นแหล่งธุรกิจ มีที่พัก ที่เที่ยว ที่กินจำนวนมาก เรียกง่ายๆว่าฝั่งที่เจริญ
แต่ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นแหล่งที่อยู่ของคนท้องถิ่น มีการทำมาหากินแบบท้องถิ่น และมีธรรมชาติ เรียกง่ายๆว่าฝั่งชาวบ้าน
แน่นอนว่า เราต้องเลี้ยวขวา 555 เพราะที่พักเราอยู่ฝั่งขวา


ทางบนเกาะช้าง เป็นลักษณะเป็นภูเขาใครขับไม่แข็งแนะนำให้นั่ง Taxi (สองแถว) นะคะ
เราขับขึ้นไปบนเกาะเรื่อยๆ เพื่อมุ่งไปยังหาดทรายขาว "อลีน่า แกรนด์ & รีสอร์ท"  ของเราอยู่ฝั่งซ้ายมือ ฝั่งภูเขานะคะ
มาถึงงานอวยที่พักกันบ้าง ที่นี่เงียบ ไม่วุ่นวาย ราคาดีงามมาก ห้องกว้างมาก ตู้เย็น ต็เสื้อผ้า เตียง ห้องน้ำ ใหญ่เกินราคา
ที่ประทับใจอีก คือ ในห้องมีปลั๊กเยอะมาก ไม่ต้องแย่งกันใช้ มีระเบียง มีพื้นที่ให้ตั้งวงกัน
ความประทับใจยังไม่หมด ที่พักเราใกล้ โลตัส แม็คโครและแหล่งอาหาร รับรองไม่อดตาย แต่อาจจะอ้วนตาย 55555
แต่ข้อเสียก็มีนะคะ ที่นี่ต้องเดินแบกของขึ้นบันได เราเป็นผู้หญิงของเยอะ กว่าจะถึงห้อง ลำบากเอาการเลยทีเดียว
แล้วอีกข้อ คือ ของใช้ในห้องน้ำมีให้แค่สบู่ก้อนเดียว คือ งงมาก ไม่มีหมวกอาบน้ำ แชมพู บลาๆ เลย ที่งงอีกอย่าง คือ เรานอน 2 คืนแต่ไม่มีการมาคลีนห้องหรือน้ำเติม เปลี่ยนผ้าปูเตียง ผ้าขนหนูในห้องเลย


15.30 เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวจะไปน้ำตกคลองพลูกัน เค้าจะปิดตอน 16.30น.
แต่เมื่อถามพนักงานที่เคาเตอร์ นางบอกว่าน้ำที่น้ำตกแห้งมาก พวกเรา 3 คนพร้อมใจกัน กลับขึ้นไปนอนกลิ้งบนห้องทันที
ข้อเสียอีกข้อของรีสอร์ท คือ wifi ช้ามากกกก แต่ 4G แรงมาก เลยไม่บ่นละกัน เมื่อเล่นโซเชี่ยวกัน เป็นที่พอใจ
เราก็เพื่อนสาวก็ลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำหลังรีสอร์ทกัน ใครไม่มีชุดทางรีสอร์ทมีให้เช่า 100 บาทนะคะ
สระว่ายน้ำเป็นสระรวมของรีสอร์ท มีขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำก็ไม่ใสด้วย ช่างมัน เราว่ายกันไปก็ดูวิวภูเขา ดูวิวฝรั่งไป 555 เพลิน

สระว่ายน้ำค่ะ แอบถ่ายตอนไม่มีคน

หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการว่ายน้ำ เราก็หิวมาก และที่กินมีเยอะมาก เพื่อความรวดเร็ว เราเลยแบ่งกันตัดสินใจ มากัน 3 คน ก็เลือกอาหารกันคนละวันเลยละกัน ถ้าให้โหวตมีหวังไม่ได้กิน และแล้วเพื่อนเราก็เลือก "ร้านบัฟฟาโล่ บิลล์ สเต็ก เฮ้าส์"
เดินทางที่พักไปประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ตรงข้ามสบาย บาร์
มาดูเมนูกันก่อนเลย


ราคาไม่แพงมากนะคะ สำหรับร้านอาหารที่อยู่บนเกาะ เนื่องจากเราหิวมากกะจะสั่งแบบถล่มร้านละ แต่ยังไม่แน่ใจในรสชาติและปริมาณ
เราจึงสั่งแบบเบาๆ ก่อน งั้นมาดูหน้าตาอาหารกันก่อนดีกว่า



โอ้โหปริมาณใหญ่กว่าที่คาดและอร่อยมากจริงๆ โดยเฉพาะริบ เหมือนเชฟเค้าปรุงสูตรเฉพาะ ไม่เหมือนใคร เป็นรสชาติที่หากินได้ที่นี่ที่เดียว คิดว่าเชฟจะใส่ใจรายละเอียดของการหมัก การปรุง เพราะทุกอย่างลงตัวหมด อร่อยมาก แนะนำเลย


จากนั้น เราก็เดินเล่นไปเจอร้านไอติมโฮมเมด อยู่ฝั่งเดียวกับร้านสเต็ก ไม่ไกลกันมาก อร่อยไม่น่าเชื่อ ร้านเค้าเป็นร้านขายของชำครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเป็นร้านไอติม เราถ่ายรูปไม่ทันนะคะ เพื่อนมันกินสะก่อน แต่เราด่ามันไปเรียบร้อยแล้วนะคะ 5555

ระหว่างทางก็มีชาวบ้านมาขายของกิน เช่น โรตี เครป น้ำปั่น ผลไม้ ไม่แพงด้วย น่าอุดหนุนชาวบ้าน
จบวันแรก แบบชิล ชิล

วันที่ 2
เราซื้อทัวร์ดำน้ำกับรีสอร์ท ราคา 550 บาท จะมีรถมารับหน้ารีสอร์ทเลย ตามที่คุยกันคือ 8.00 - 17.00น. มาดูของจริงกัน
8.15 รถมารับ เป็นรถ Taxi 2 แถวที่ได้บอกไปตอนต้นนะคะ รถจะแวะรับแต่ละรีสอร์ท เรานั่งกันไป 10 คน ทั้งคัน
จากหาดทรายขาวไปท่าเรือบางเบ้าใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทางค่อนข้างขดเคี้ยวขึ้นๆลงๆ ถ้าหากใครเมารถเมาเรือ แนะนำให้กินยาแก้เมา ตั้งแต่ออกจากรีสอร์ทเลยนะคะ ขนาดเราเป็นคนไม่เมารถ ยังแอบเมาเลย
9.00 ถึงท่าเรือ คนก็ทยอยเดินกันขึ้นเรือของบริษัททัวร์ของตัวเอง คนเยอะใช้ได้เลยนะคะ


เดินผ่านร้านค้าระหว่างทาง ไปจนสุดทางก็จะเจอเรือจอดรอเราอยู่ ของเรา คือ ศรัทธาทัวร์ ไปกันเลย


10.00 เอิ่ม รอนานมากไปละนะ เริ่มเวียนหัว เราจึงกินยาแก้เมาเรือไป 1 เม็ด อาจจะเมาค้างจากบนรถ
ว่างๆ ก็ถ่ายวิวมาฝากเพื่อนๆ นะคะ ท้องฟ้าใส ไม่ร้อนมาก


ขณะที่เรือกำลังออก เรากับเพื่อนเห็นเมฆดำก้อนใหญ่ แอบเซ็งละ ว่าฝนจะตก แต่สักพักมันก็หายไป สงสัยมีคนช่วยไล่เยอะ 555


ทัวร์จะแวะให้ดำน้ำทั้งหมด 4 เกาะ ใช้เวลาเกาะละ 45 นาทีนะคะ 
มาถึงเกาะแรก "เกาะยักษ์เล็ก" ไม่ค่อยมีอะไรประทับใจ มีปลาไม่เยอะ ไม่มีประการัง แต่น้ำใส อากาศดีลมโฟวไม่ร้อน เราเลยว่ายน้ำเล่น
เสร็จแล้วก็ขึ้นมาทางอาหารกลางวันบนเรือ


เกาะที่ 2 เกาะโล้น แม่เจ้า โล้นจิงๆ ดำไปไม่มีอะไรหนักกว่าเกาะแรกอีก แอบผิดหวัง เลยขึ้นมาหลับบนเรือ


เกาะที่ 3 เกาะยักษ์ใหญ่ ตื่นมาแบบเพลียๆ เพราะหลับสนิทมากจริงๆ เพราะเหนื่อยจาก 2 เกาะแรก
เตรียมตัวกระโดดลงน้ำ เกาะนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง มีฝูงปลาและปะการังมากมาย และที่มากไม่แพ้กัน คือ หอยแม่น น่ากลัวจริงๆ


เกาะที่ 4 เกาะหวาย ไม่พีคเท่าเกาะยักษ์ใหญ่ แต่มีชายหาดให้เดินเล่น เราเหนื่อยและกลัวว่ายกลับมาไม่ไหว เลยไม่ได้ไปเดิน


ก่อนถึงฝั่ง เพื่อนๆ อย่าลืมถ่ายรูปกับประภาคารนะคะ เราตื่นเต้นมาก ถ่ายประภาคารไม่ทัน เห็นแต่หน้าตัวเอง 555


อย่าคิดว่าดำน้ำเสร็จ แล้วทริปวันที่ 2 จะจบง่ายๆ นะคะ เราต้องออกหากินค่ะ วันนี้เป็นตราเราเลือกร้าน เราเลือก "ร้านหนองบัว ซีฟู้ด"
อยู่ข้างๆกับรีสอร์ทเลยเดินไม่ไกลมาก พนักงานแนะนำมา คนเยอะ อาหารมีให้เลือกหลากหลายดี
ที่ทึ่งมากคือ เมนูมี 3 ภาษา ไทย อังกฤษและจีน พนักงานในร้านก็พูดใน 3 ภาษาเช่นเดียวกัน
มาดูเมนูที่เราสั่งกันดีกว่า วันนี้เบาๆอีกแล้ว หมูทอดกระเทียม ปูนิ่มผัดพงรยิ้มผัดผักหวาน ปลา 3 รส หอยเชลล์อบเนยกระเทียม อันนี้ชนะเลิศ รสชาติเยี่ยม เครื่องล้น สะใจเลย (ผลไม้ ทางร้านแจกฟรีนะคะ)


ค่าใช้จ่าย 780 บาท ลืมถ่ายใบเสร็จ มัวแต่เถียงกันว่าชิ้นสุดท้ายใครจะกิน 5555

ต่อด้วยของหวาน เราเดินกลับมาทางแมคโครนะคะ ชื่อร้าน "มารินคอฟฟี่"
เป็นไอติมและเค้กโฮมเมดเช่นเดียวกันกับเมื่อวาน แต่รสชาติเทียบกันไม่ได้ ราคาก็แพงกว่า แต่ร้านตกแต่งสวยดี
ยังไงสะก็ไม่โอ ไม่บอกต่อละกันนะคะ

เรามาเดินย่อยที่โลตัสและแมคโครข้างๆ รีสอร์ท พบว่า เหตุที่ของบนเกาะราคาไม่แพงนัก เหตุน่าจะมาจากของสดที่ขายใน 2 ห้างนี้
ไม่ Mark up ราคาเลย ราคาเท่ากทม. จะมีแค่แซลม่อนกับของสดที่ไม่สามารถหาได้บนเกาะจะแพงขึ้นหน่อย แต่ยังรับได้
ดังนั้น ใครที่แบกขนม แบกเหล้ามาจากกทม. เหมือนเรา วันหลังไม่ต้องนะคะ บนเกาะก็ราคาเท่ากัน

จบวันที่ 2 อย่างครบรส

และแล้วก็มาถึงวันที่ 3

เรารีบตื่นแต่เช้า ไปเดินเล่นชายทะเล จากรีสอร์ทเดินข้ามถนนก็ถนนหาดทราบขาวแล้ว



แสงยังไม่สะท้อนทราย ทะเลและเมฆ ชัดเจนนัก เพราะยังเช้าอยู่ แต่แสงเริ่มมาเท่านั้นแหละ
ถ่ายแต่คนจนลืมรีวิวไปเลย 5555




ที่มา Pantip
Cr. hakjao