รีวิว ทริปทัวร์อัมพวา ตามรอยได้ ที่พักเริ่ด ร้านกาแฟสุดชิค++รูปเยอะ

สวัสดีครับ  กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกถือกำเนิดเกิดขึ้นจากการไปเที่ยวกับแฟนสาวแล้วรู้สึกประทับใจ  ได้เจอที่พักดีๆ เจอร้านกาแฟดีๆ แล้วอัดอั้นความสุขกันอยู่สองคนไม่ได้บอกใคร เลยตัดสินใจทำพรีวิวซะเลยเพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้รับทราบกันว่า จ.สมุทรสงคราม  เมืองแห่งปลาทูหน้างอคอหัก และตลาดน้ำอัมพวาที่คนแห่กันไปเที่ยว มันมีดีอะไร...

เริ่มต้นกันเลย  ชักช้าจะยืดเยื้อไปไกล  เราออกเดินทางกันจาก กทม.  07.30 น. อากาศดี รถยังไม่ติดมากมาย แค่มีจังหวะที่รถเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน ทำให้รถติดนิดๆหน่อย  แค่ประมาณ ชั่วโมงเศษๆเราก็มาถึง  จ.สมุทรสงคราม ถึงปั๊บจอดรถปุ๊บ  ตรงดิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยทันที ร้านชุ้นพานิช  ลูกชิ้นปลาสุดอร่อยที่คนแม่กลองรู้จักกันดี ใครมาเที่ยวแม่กลองแล้วไม่แวะร้านนี้ถือว่าพลาด  พอดีลืมถ่ายรูปมา  ดูตามลิงค์นี้แทนละกันนะ
https://www.wongnai.com/reviews/ff80808136cbd87f0136d0366fb150da


อิ่มท้องแล้วเวลาเหลืออีกประมาณ 4 ชม.เพราะเช็คอินเข้าที่พัก บ่ายสอง จึงต้องหาที่สิงสถิตย์ เป็นร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ  กาแฟรสนุ่มๆ เบเกอรี่รสชาติดีๆ  ทำการ search หาข้อมูล พิมพ์คำว่า “ร้านกาแฟ สมุทรสงคราม”
สิ่งที่เด้งขึ้นมาคือ ร้านกาแฟเทพๆ  กดเข้าไปที่ลิงค์นี้ 
http://www.chillpainai.com/scoop/6347/
เห็นร้าน (The Kittens Koffie Arts 'n Eats) ขึ้นแท่นเป็นแชมป์ได้อันดับหนึ่ง ดูทรงแล้วก็น่าจะเวิร์ก หน้าตาขนมและกาแฟดูดี น่าโดนอย่างแรง  ว่าแล้วก็บึ่งรถไปที่ร้านทันที  เพื่อพิสูจน์ว่าเหตุใดร้านนี้จึงได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแชมป์จังหวัด  


สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศนะ (เผื่อใครยังไม่รู้) จากตัวเมืองวิ่งมาอัมพวาก็แค่ 6 กิโล แปบเดียวก็ถึงร้าน The Kittens Koffie Arts 'n Eats  
ร้านนี้มีขนาดพอดีๆไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป  บรรยากาศโดยรวมน่ารักด้วยคอนเซปร้านแมวเหมียว  ของประทับตกแต่งจึงเต็มไปด้วย แมวทั้งเล็กใหญ่  น่ารักกันไป  ทาสแมวทั้งหลายน่าจะใจละลายได้ง่ายๆ  แต่ไม่มีแมวเป็นๆมาวิ่งเล่นในร้านนะ 

การแต่งร้าน สวยดูดี  มีรสนิยม ทั้งการเลือกใช้โต๊ะเก้าอี้  ผนัง  รูปภาพประดับร้าน เครื่องชงกาแฟ ฯลฯ ทุกอย่างผ่านการคิด การออกแบบมาอย่างประณีต     

กาแฟร้อนแก้วแรก ลาเต้อาร์ต สวยใช้ได้ทีเดียว เอ่ยชมกับคนทำเป็นพี่ผู้ชาย ท่าทางเป็นเจ้าของร้าน  พี่ก็ถ่อมตัวว่าทำไม่ค่อยเก่ง

จิบกาแฟเข้าคำแรก เฮ้ย!!!!!  OMG  เซอร์ไพรส์  เป็นกาแฟลาเต้ที่รสชาติอร่อยที่สุดเลยตั้งแต่กินมา  กาแฟลาเต้ร้อนส่วนใหญ่ที่ชิมมา ก็จะขมๆเฉยๆ  วัดกันแค่ใครแต่งลายนม ทำหน้าตาได้สวยกว่ากัน  แต่นี่สวยใช้ได้ แถมอร่อย รถหอมนุ่มประทับใจมาก  และนี่คือเคล็ดลับความอร่อย  

พี่เจ้าของร้าน  เอาเมล็ดกาแฟใส่กาละมังคัดแยกด้วยมือ ทำซ้ำๆอยู่เนิ่นนาน  คัดไปด้วยก้มลงดมสัมผัสกลิ่นไปด้วย  เป็นคนที่คลั่งไคล้กาแฟตัวจริง  พอเอ่ยชมว่ากาแฟอร่อยเขาก็บอกว่า  เป็นกาแฟ โคลัมเบีย  ยกความดีให้กาแฟมันไป แก้เขิน แหมน่ารักจิมๆ ที่สำคัญลาเต้สวยและอร่อยซึ้งแก้วนี้  แค่ 50 บาท ถูกมากถ้าเทียบกับรสชาติและหน้าตา ภายในร้านน่ารักๆแบบนี้

สืบเนื่องจากผมกับแฟนเป็นนักชิมสายแข็งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาหากเราจะสั่งพิซซ่ามาทดสอบ
รสชาติ พิซซ่าเปปเปอโรนี่ ขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่จนท้องแตก รสชาติโอเคไม่ขี้เหร่ ราคา 120 บาท สมเหตุสมผล   


ชาร้อน ควันฉุย ให้ฟรีไม่คิดตัง
น้ำแข็งเปล่า ฟรีไม่คิดตัง 
ชาร้อน กานี้ ฟรีไม่คิดตัง  อ่านไม่ผิดหรอกครับ ให้ฟรีจริงๆ  ชาร้อนกาใหญ่ๆ แบบนี้ ถ้าขายคงต้องร้อยกว่าบาท 
ที่นี่ถ้าสั่งของกินหลายอย่าง  แจกฟรีทันที  งงสิ


ยัง ยังไม่จบ สั่งกาแฟเย็น คาราเมล แต่งหน้างดงาม รสชาติกลมกล่อม ราคาแก้วนี้ 65 บาท 

แผ่นชาร์ตบอกรายละเอียดรูปแบบ ส่วนผสมของกาแฟแต่ละชนิด

ผนังอิฐสวยๆ เท่ๆ ประดับด้วยโลโก้ร้าน


เพลงที่เปิดในร้านก็ฟังสบาย  ลื่นหู ฟังแล้วอยากไปหาเปิดฟังบ้าง
มุมนั่งชิล OUTDOOR  ด้านข้าง สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ
ทั้งหมดทั้งมวลคือเหตุผล ที่ทำให้ร้าน The Kittens Koffie Arts 'n Eats  
เป็นร้านกาแฟอันดับหนึ่งของจังหวัดที่ชาวเน็ตแนะนำกัน อาหารเครื่องดื่มอร่อย  ร้านสวย บรรยากาศดี  เจ้าของร้านเอาใจใส่ทุกรายละเอียด  ราคาไม่แพง บริการก็ดี    อิ่มหนำเรียบร้อย เราเดินทางต่อมุ่งหน้าไปยังตลาดน้ำ  ระหว่างทางแวะไหว้พระที่วัดบางกุ้ง  แวะชมสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์
วัดบางกุ้ง เป็นวัดประวัติศาสตร์ สมัยที่ไทยยังรบกับพม่า แล้วทหารไทยมาตั้งค่าบอยู่บริเวณของวัด ชื่อว่า ค่ายบางกุ้ง    ไฮไลต์ของวัดนี้คือ โบสถ์ปรกโพธิ์  เป็นโบสถ์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ ที่เติบโตปกคลุมโบสถ์ทั้งหลังจนกลืนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน  ได้อารมณ์เข้มขลัง แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
เที่ยงกว่าเราเดินทางต่อไปยังปลายทางที่พักที่อยู่ใจกลางตลาดน้ำอัมพวา
ที่พักที่มีชื่อน่ารักๆว่า “ชบาบานฉ่ำ”
จอดรถแล้วเดินเข้าไปตามทาง  ขึ้นสะพานที่ 2  หากไปสะพานแรกจะหลงนะจ๊ะ
ถึงซะที ที่พักสุดเริ่ดหรูของเรา  
ทางเข้าด้านหน้าเก๋ไก๋  ดูเชื้อเชิญ  มีมนต์เสน่ห์แบบชาวอัมพวา
ต้อนรับลูกค้าด้วยผนังที่อัดแน่นด้วยลูกมะพร้าว  ชอบจัง เท่มากออกแบบได้งดงาม ได้อารมณ์พื้นถิ่นที่สัมผัสได้จริง
ห้องพักที่จองไว้เป็นแบบ VIP 2400 บาท (พักคืนวันเสาร์)  งดงามตามภาพ  ที่นอนหมอนมุ้ง สะอาดได้มาตรฐาน
ทีวีตู้เย็นพร้อม  มี DVD หนังให้ดู 3 เรื่อง
ห้องส้วม สุขา  ห้องอาบน้ำแบบกลางแจ้ง
ประตูห้องเป็นประตูบานเฟี้ยมแบบโบราณ   วินเทจสุด ใครชอบสไตล์นี้ต้องมาโดน 
ทางเดินที่สร้างบนสวนมะพร้าว สิ่งปลูกสร้างใหม่ที่กลมกลืนกับท้องร่องดั้งเดิมที่มีอยู่
ศาลากลางน้ำ  สำหรับแขกผู้มาพักทานอาหารเช้าร่วมกัน
ดอกไม้สวยๆริมทางเดินในรีสอร์ท
นอนเล่นในห้องสักพักใหญ่  เริ่มเย็นได้เวลาสำรวจตลาด ไปซิ่งกันดีกว่า ผลไม้สดๆตามฤดูกาลมีให้เห็นตลอดทาง
ร้านรวงที่นี่มีหลากหลาย  หลายร้านนำเสนอสิ่งที่เป็นความดั้งเดิม  เช่นร้านนี้  มีอุปกรณ์ เครื่องมือโบราณที่หาดูยาก
ได้เวลาอาหารเย็น  หาอะไรกระแทกปากกันดีกว่า
ป้าเล็กซีฟู้ด   กุ้งแม่น้ำ จานละ 300 บาท  ปลาหมึก 150 บาท  หอยเชลล์ 50 บาท  สดๆอร่อย
ยังไม่จบเราสองคนยังไปต่อดินเนอร์ตบท้ายด้วยหมูสะเต๊ะ และหอยทอดรสชาติดี
บรรยากาศความคึกคัก วุ่นวายแต่สนุกสนาน ของตลาดน้ำอัมพวา
ผู้คนในตลาดน้ำ
ทางเดินในที่พักท่ามกลางต้นมะพร้าว
ตื่นเช้า 06.00 น. มาใส่บาตรพระในเรือ  หลวงพ่อท่านใจดี แจกสร้อยพระหลวงพ่อบ้านแหลมคนละเส้น
อนุโมทนา สาธุ
บรรยากาศยามเช้า สงบ เยือกเย็น นั่งนิ่งๆริมน้ำสบายใจ สุขสงบลึกซึ้ง
หลังคามุงจาก  รู้มาว่าหลังคาแบบนี้ราคาไม่ถูกนะ  เผลอๆแพงกว่ากระเบื้องด้วยซ้ำ
ข้อเสนอแนะที่ค้างคาใจเพียงสิ่งเดียวของการพักที่ ชบาบานฉ่ำ คือ อาหารเช้าเสริฟช้าเกินไปครับ จริงๆทางรีสอร์ทก็แจ้งตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้วล่ะ  ว่าอาหารเช้าเสริฟ 08.00 น. แต่พอถึงเวลาจริงๆลูกค้าหิวครับ ทุกคนหิวมานั่งรอกันตาละห้อย เพราะ อาหารเช้าโดยทั่วๆไปแทบทุกที่จะเสริฟตอน 07.00น.ซึ่งน่าจะเหมาะสุด  สรุปก็ได้ทานตอน 07.30น.  อาหารก็อร่อยได้มาตรฐาน
มะพร้าวสูงสวยโปร่ง  วิวงดงามที่คนเมือง โหยหา หิวโหย อยู่ที่นี่เราจะได้เชยชมแบบเต็มอิ่ม
ที่พักห้องวีไอพี มีชั้นลอยด้านบน ผูกเปลญวน นอนรับลมได้ สบายๆๆๆๆ
สิ่งดีงามที่ต้องเอ่ยชม สำหรับชบาบานฉ่ำ คือใจที่รักในการทำรีสอร์ทครับ  จริงๆแล้วในแง่ทางธุรกิจ พื้นที่กว้างขนาดนี้ สามารถสร้างห้องพักเพิ่มได้อีกเพียบ  ห้องชั้นเดียวก็สามารถทำเป็นหลายๆชั้นได้ ยิ่งทำเลทองอยู่ใจกลางตลาดน้ำ ยังไงก็มีลูกค้า  แต่ที่นี่เลือกที่จะทำห้องแค่ 22 ห้อง พื้นที่ส่วนกลางปล่อยเป็นต้นมะพร้าวเป็นท้องร่องดั้งเดิม  เป็นพื้นที่สีเขียวให้แขกได้พักตาพักใจ  ผมไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของนะ แต่สัมผัสได้ว่า เจ้าของชบาบานฉ่ำสร้างที่นี่ขึ้นด้วยใจรัก และทำธุรกิจโดยไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้งต้น ไม่เอาเปรียบลูกค้า ทุกอย่างจึงออกมาดี  งดงามทั้งทางกายภาพและจิตวิญญาณ  ควรสนับสนุนกันนะครับ
กลับกันแล้วนะทางเดินไปที่จอดรถ มีกราฟฟิตี้ให้ชมเล็กๆ
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 793134