รีวิว ฟินกับ ภูธารา รีสอร์ท กระบี่ กับน้องหมาสุดรัก

สวัสดีคับ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนเลย ชื่อแก๊กนะคับ อาจจะมีข้อผิดตกบกพร่องใดๆ ขออภัยก่อนเลยนะคับ

ขอแนะนำนางเอกของเรากันเลยดีกว่า นางชื่อ พริบพราว เป็นหมาพันธ์ผสม ชิสึกับปอม แต่หน้าตานางอาจจะออกไปทางชิสึมากกว่า
ตอนนี้ อายุได้ขวบเต็มล่ะ เราไปเที่ยวด้วยกันตลอดเลยนะ อยู่ด้วยกันตลอด ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน (โชคดีที่มีออฟฟิศเล็กๆเป็นของตัวเอง ก็เลยเอาไปทำงานด้วยทุกวัน)




เพื่อนสมาชิกบางคนอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการนำน้องหมา หรือน้องแมวไปเที่ยวด้วย ปัญหาใหญ่ที่เจอเลยคือ ที่พักสำหรับน้องหมา หรือน้องแมว

ผมจะค่อยๆทยอยลงสถานที่ ที่ท่องเที่ยว ที่ๆต้อนรับน้องหมานะคับ วันนี้ เราจะเริ่มทริปแรกที่กระบี่เลยก็กันนะครับ


เดินทางมาเรื่อยๆ แวะกินนั้นนี่มาเรื่อย ไม่ได้เร่งรีบอะไร แปปๆ 3 ชม ก็มาถึงถนนเข้าจังหวัดกระบี่

โดยโรงแรม ภูธารา รีสอร์ท กระบี่ จะอยู่ถนนทางเดียวที่ไป ท่าปอมคลองสองน้ำนะคับ แต่เราจะขอเลยไปก่อน 



จะพาน้องไปเที่ยวที่ สววรค์ชั้น 7 กันก่อนเลย ทางไปก็ไม่ยาก ขับรถตรงไป ก่อนเข้าเมืองให้เลี้ยวขวามือไปทางที่จะไปอ่าวนาง

ขับไปเรื่อยๆ อึดใจเดียวก็มาถึง สวรรค์ชั้นเจ็ดกันแล้ว  แม่คูณณณณณณณณณณณณณ....... สวรรค์อะไร ร้อนที่สุด

ค่าเข้าชมเด็กคนละ 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท ส่วนน้องหมาฟรีจ้าาาาาาาา........



บอกตรงๆ ยังไม่ประทับใจกับสถานที่นี้เลย ไม่มีจุดเด่น หรือจุดขายอะไรเลย มีแค่สวน เอานู้นนี่นั่นมาวาง

อากาศก็ร้อนมาก ไม่มีร่มเงาให้พักร้อนกันเลย ถ้าไม่มาก็ถือว่าไม่เสียดาย แต่นั่นล่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เนอะ

ทริปนี้ คุณหนูพริบพราว หรือน้องพริบพรี่ของเรา ออกอาการดีใจ วิ่ง เล่น สนุกสนาน อยู่ตัวเดียว



ดีหน่อยที่มีลมโชยมาเป็นระยะๆ พอได้คลายร้อนกันมั่ง รวมทั้งหนูพริบพราว เล่นซะเหนื่อย ลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว

สรุป สวรรค์ชั้น 7 นี้ ให้ 4 คะแนน จาก 10 เต็มค่ะ


หลังจากที่ไปตากแดดตัวดำกันแล้ว ท้องก็เริ่มหิว เราไปหาของกินกันต่อกว่า

ขับรถจาก สวรรค์ชั้นเจ็ด ไปต่อที่อ่าวนางดีกว่า วันอาทิตย์ร้านไหนคนก็เยอะ เลยตัดสินใจไปกินร้านประจำดีกว่า

ร้านนี้เลย ท่าทรายซีฟู้ด ร้านนี้เจ้าของร้านใจดี อนุญาตให้น้องเข้ามาในร้านด้วย ขอกราบพระคุณเป็นอย่างสูงเจ้าคร้าบบบบ



นางก็ยิ้มร่าเลยทีนี้ ได้นั่งอยู่กับหม่ามี๊ และเพื่อนๆ หม่ามี๊ พร้อมสั่ง ไข่เจียวให้นางกินแก้หิวไปพลางๆ

แนะนำก่อนการเดินทางให้อาหารน้องๆ ก่อนนะคับ เพราะว่าน้องจะได้อึ๊ให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง ระหว่างทาง อาจจะให้ขนมนิดๆหน่อยได้แก้หิว

สั่งอาหารกันมาแล้ว เนื่องจากทุกคนหิว ถึงหิวมาก หิวระดับ 10 ไม่มีเวลาได้ถ่ายรูปอาหารเลย

รสชาติอาหารวันนี้ ถือว่า ดรอปไปจากครั้งที่แล้ว เนื่องจากเปลื่ยนแม่ครัวใหม่หรือยังไงไม่ทราบ รสชาติตกลงไปเยอะ และก็ช้ากว่าเดิมด้วย

แต่จะอารมณ์เสียกันไปทำไม ระหว่างนั่งรออาหาร ใครใคร่เม้าก็เม้า ใครใคร่อัพรูปก็อัพ 

ส่วนพริบพราวได้นั่งเก้าอี้เด็กด้วย อิอิ วีไอพีเลย 



เนื่องด้วยการพาน้องเที่ยวตั้งแต่เล็กๆ นางจะไม่กวน ไม่ซนเวลาอยู่บนโต๊ะอาหาร คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องฝึกน้องดีๆ นะคะ

อย่าสร้างความรำคาญให้กับโต๊ะข้างๆ เด็ดขาด อย่าลืมนะคับ ทุกคนไม่ได้ชอบหรือรักหมาเหมือนเรา เราต้องเคารพคนอื่นด้วยคับ

อันนี้เป็นวิวของร้านอาหาร ถือว่า เป็นอาหารตาได้ดีเลยทีเดียว


เนื่องด้วยผู้ร่วมทริปครั้งนี้มีเป็น 10 คน ก็เลยจิ๊กรูปมาจากหลายๆ คน ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคับ


หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน อยากเล่นน้ำ เพิ่มความสดชื่นให้ตัวเอง

ถึงเวลาแล้ว ที่จะมุ่งตรงไปสู่ที่พักของเรา ภูธารา รีสอร์ท กระบี่ เราไปกันเลย

ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 20-25 กม เข้ามาทางเดียวกับทางไป ท่าปอมคลองสองน้ำ แต่จะไปแยกเลี้ยวซ้ายก่อนถึงท่าปอมนะครับ

ทางไปไม่ยาก แต่หาป้ายไม่ค่อยเจอ ใครหลงหรือยังไง จอดถามคนในพื้นที่ก็ได้นะคะ จากถนนใหญ่ถึงตัว รีสอร์ทประมาณ 6-7 กม



เรามาถึงกันแล้ว ห้องที่จองไว้ คือ วิลลา คืนละ 5,000 บาท โดยพักได้ 4 คน ต่อหนึ่งหลัง 500 บาท ถ้าเพิ่มเตียงนะคะ



ห้องใหญ่โต สะอาด สบายค่ะ แต่เตียงแอบนอนไม่สบายไปนิด นอนหลับไม่สนิททั้งคืนเลยค่ะ 





เจ้าของรีสอร์ทน่ารักมาก จัดแจงให้เราพร้อมเรียบร้อย น้องหมาอนุญาตให้พักได้ แต่ต้องระวังเจ้าตูบ เจ้าถิ่นซะหน่อย เพราะมีหลายตัวเลย

เอาของเก็บเข้าห้อง เอนหลังซัก 5 นาที เปลี่ยนชุด ลงไปเล่นน้ำกันดีกว่า เพราะว่าถือเป็น ไฮไลท์ที่นี่เลยทีเดียว


สระน้ำ (ธรรมชาติ) อยู่ห่างจากห้องพักไป 20 ก้าว

น้ำใส สีออกฟ้าๆ เขียวๆ สวยงามมาก อยากจะกระโดดลงไปเลย แต่ช้าก่อน เนื่องจาก สระนี้ เป็นธารน้ำธรรมชาติและมีความลึกพอสมควร

ไม่ควรกระโดดลงในสระ เพราะข้างล่างของสระมีทั้งโคลน หินที่มีความคม สามารถบาดเท้า หรือได้รับความบาดเจ็บได้

ฉะนั้น ต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง นะคับ



พวกเราผู้ใหญ่มาถึงก็ดำผุดดำว่าย เหมาะกับการดับร้อนจริงๆ



ให้ดูที่วิว และน้องหมาดีกว่านะคับ อย่าโพกัสที่หน้าตาของเจ้าของกระทู้ เดี๋ยวจะมีคนทักว่า แฝดพี่เบน ชลาทิศอีก


จะรอช้าอยู่ทำไมจ๊ะ พริบพราว มามะ มาเล่นน้ำกัน


น้องพริบพราวชอบเล่นน้ำ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เล่นน้ำคลองแบบนี้ ปกตินางจะเล่นแต่น้ำทะเล ครั้งนี้เลยดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ


น้องเล่นน้ำจนเหนื่อยแล้ว กระโดดนั่งบนคุณพ่อดีกว่า อิอิ ห่วงยางพ่อมีหลายห่วง ไม่ต้องกลัวจม อิอิ
แขกที่มาพักสามารถยืมห่วงยางจากรีสอร์ทได้นะคับ แต่โดนัสอันนี้ ลงทุนหอบมาจากบ้านเลย 5555….

ส่วนแขกนอกรีสอร์ทก็สามารถเข้ามาใช้บริการส่วนนี้ได้เหมือนกัน แต่ต้องจ่ายให้กับทางรีสอร์ท 50 บาทต่อคน 


เล่นน้ำกันจนเหนื่อยล่ะ พริบพราวหนาวแล้ว ขึ้นดีกว่า ก่อนจะไปขอ สบัดๆๆๆๆๆๆ Shake it off กันเลยทีเดียว


หลังจากเล่นน้ำกันจนสะใจแล้ว ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เริ่มหิวอีกล่ะ 

สถานีต่อไป ถนนคนเดินกระบี

การเดินทางไม่ยากเลยคับ ถนนคนเดินอยู่ในตัวเมืองกระบี่ ใกล้ๆกับห้างโว้ค ขับมาเจอถนนที่มีไฟแดงเป็นลิงตัวใหญ่ๆ ล่ะใช่เลย



ขออนุญาตนางแบบลงรูปหน่อยนะครับ 

ถนนคนเดินก็ยินดีต้อนรับน้องหมาเช่นกันครับ แต่เพือความปลอดภัย แนะนำให้เจ้าของอุ้มน้องหมาไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า

เพราะว่าคนเยอะมากๆๆๆๆๆ

เสน่ห์ของตลาดที่นี่คือ ขายของน่ารักๆ กระจิ๊กกระจิ๊ก งานแฮนด์เมด อาหารพื้นเมือง ไม่ค่อยมีโอกาสถ่ายรูปบรรยากาศ 

มือนึงอุ้มน้องพริบพราว อีกมือนึงถือถุงของกิน 5555555


ตื่นเช้ามา พร้อมอากาศยามเช้าที่สดใส 



อาหารเช้าของที่นี่ มีให้เลือกเยอะดีครับ อาหารท้องถิ่น เช่น ข้าวผัด ขนมจีน ขนมต่างๆ ไส้กรอก ไข่ดาว สลัด ชา กาแฟ มีไว้พร้อมบริการ

ถึงเวลาอำลาเมืองกระบี่กันแล้ว ก่อนกลับก็ได้แวะไปที่สระมรกต แต่ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไป มีที่รับฝากตัวละ 50 บาท

ผมเองไม่ได้เข้าไป เพราะไม่อยากให้พริบพราวต้องถูกทิ้งไว้ในกรง เพราะตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยอยู่ในกรงเลย


หลังจากนั้น เราก็กลับสู่มาตุภูมิสวัสดิภาพ แต่ก่อนกลับบ้าน ป่าปี๊และหม่ามี๊ก็แวะร้านกาแฟ แรกพบก่อน

เจ้าของร้านใจดีอีกแล้ว ยินดีต้อนรับน้องหมา แต่ต้องนั่งโซนเอ้าดอร์นะครับ แต่ไม่เป็นไร แค่นี้ เราก็ฟินกันสุดๆแล้ว




อาหารคนนี่มันน่าอร่อยจริงๆ พริบพราวก็นั่งน้ำลายไหลต่อไป 555555555


จบการรีวิวทริปกระบี่ 2 วัน 1 คืน ที่ภูธารารีสอร์ท เพียงเท่านี้นะครับ 


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2917239