รีวิว อคีรีณยา@เขาค้อ ที่พักราคาคุ้มค่า กับบรรยากาศที่เกินนน .. คุ้ม



ก่อนอื่นเลยต้องออกตัวก่อนว่า ผมเองก็ไม่ได้ชำนาญการรีวิวที่พักมากนัก แต่อาศัยจากการที่มีโอกาสได้ท่องเที่ยว
ไปกับพาหนะ 2 ล้ออยู่เรื่อยๆ และบ่อยครั้ง (ไม่สิ เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว 4 ล้อนี่นับครั้งได้เลย) 
เป็นทริปค้างคืน 1 คืนบ้าง 2-3-4-5 คืนบ้าง แล้วแต่เวลา ทั้งที่ขี่ไปคนเดียวบ้าง มีคนซ้อนบ้าง ออกทริปกับเพื่อนๆบ้าง 
(และก็ตามแต่สภาพการเงินขณะนั้นจะอำนวย แฮ่ๆ) 

คราวนี้เป็นอีกครั้งนึงที่มีโอกาสได้เดินทางไปกับ BMW R 1200 GS ที่ได้รับจาก BKK Motorcycle 
โดยผมได้มีโอกาสเดินทางไปยัง อ.เขาค้อ จ.​เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่นึงที่ใครต่อใครหลายๆคนต้องหาโอกาส
ไปแวะเวียนกันอยู่เรื่อยๆ ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย ไปกับสายลมอ่อนๆ (ทำเอานั่งสั่น !) 
ปล่อยอารมณ์ และเวลาให้ไหลช้าๆ ปลีกหนีจากความวุ่นวายออกไป 

กับที่พักที่หากันมาในคืนนี้ที่ อคีรีณยา รีสอร์ท เขาค้อ ที่เป็นที่พักที่นึงที่ “คาดว่า” จะได้กลับมาเยี่ยมเยียนอีกแน่นอน 
(สงสัยจะหลายครั้งเลยทีเดียว) ด้วยราคาที่คุ้มค่า แต่สิ่งที่ได้คือบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ที่อลังการที่สุดที่นึง
เท่าที่เคยมีโอกาสได้เดินทางมาในประเทศ พร้อมด้วยความเป็นกันเองจากพนักงาน 
ทำให้คราวนี้ขออนุญาตหยิบขึ้นมาเป็น รีวิวที่พักสักครั้งหล่ะกันครับ

เพื่อความง่ายขอแบ่งหัวข้อเป็น
1. การเดินทาง
2. ความเป็นมา
3. ห้องพัก และสาธารณูปโภค
4. บรรยากาศ
5. สรุป


การเดินทาง



สำหรับรถยนต์
วิ่งตามทางมาเลยครับระยะทางประมาณ 419 km ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. จากกรุงเทพ 
ขับชมวิวมาเรื่อยๆสบายๆโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 21 วิ่งผ่าน สระบุรี ลพบุรี เข้าสู่เพชรบูรณ์ 
ก่อนจะแยกมาทางพิษณุโลกบนทางหลวงหมายเลข 12 พร้อมชมวิวทิวทัศน์ตระการตาของเขาค้อไประหว่างทาง

สำหรับมอเตอร์ไซค์
ตารางเวลาที่ผมใช้คร่าวๆก็จะประมาณนี้เลยครับ
06:00 ออกเดินทางจากกรุงเทพ
08:30 พักเติมน้ำมันที่ลำนารายณ์ หามื้อเช้าทานเบาๆ
10:30 พักเติมน้ำมันที่เพชรบูรณ์
12:00 ถึงบริเวณวัดผาซ่อนแก้ว ทานอาหารเที่ยงหรือจะขึ้นไปทานที่พักเลยก็ได้ครับ

หมายเหตุซักนิด ทางแยกเข้าที่พักจะเป็นลูกรังอัดนะครับประมาณ 1 กม. รถเก๋งก็ขึ้นมาได้สบายๆ ส่วนมอเตอร์ไซค์ชิวๆฮะ


หลังจากที่เราคลำทางมาเรื่อยๆผ่านเส้นทางลูกรังเรียบๆ ทันทีที่มาถึงก็จะพบกับ พนักงานต้อนรับเป็น 
“พี่นินจา” สุนัขพันธุ์ปั๊ก และ “น้องบราวน์” สุนัขพันธุ์เวย์ ! (พันธุ์ทาง)


“นินจา” : เก้าอี้นี้ข้าจอง ใครมาแย่งนั่งต้องทำโทษด้วยการมาเกาพุงสามที !



“บราวน์” สุนัขพันเวย์ (พันธุ์ทาง แต่บางมุมเหมือนพิทบูลเลยแฮะ) แป้นแล้น เดินเล่นไปเรื่อย
ถ้าใครคุ้นหน้าคุ้นตาผม จริงๆผมเป็นดารา จาก เพจ Gluta  นะฮะ ตอนนี้มาอยู่ดอยแถวนี้หล่ะฮะ 

ความเป็นมา

อคีรีณยา รีสอร์ทเกิดขึ้นจาก ความตั้งใจที่จะทำที่พักขึ้นมาบนพื้นที่ขนาดประมาณ 10 ไร่ 
โดยให้มีจำนวนห้องไม่มากนักเพื่อให้ดูแลได้อย่างทั่วถึง และเป็นกันเอง ด้วยราคาที่ย่อมเยา
ไม่มีการแบ่งแยกว่าจะเป็นช่วงไฮร์ หรือช่วงโลว์ เน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย 
ประกอบด้วยต้นไม้นานาพรรณ ที่ปลูกแซมอยู่รายรอบไปหมด

สำหรับพื้นที่ของตัวรีสอร์ทจะแบ่งออกเป็น
* ส่วนที่พักเป็นอาคารหลัก 3 อาคาร มีห้องพักทั้งหมดเพียง 5 ห้อง 
* พื้นที่กางเตนท์
* พื้นที่ห้องน้ำรวมสำหรับกางเตนท์
* พื้นที่ทานอาหาร

ห้องพัก และสาธารณูปโภค


ห้องพักมาตรฐานจัดแต่งอย่างเรียบง่าย 


ห้องน้ำแบ่งโซนเปียกแห้ง พร้อมเครื่องสุขภัณท์อย่างดี


พร้อมชั้นวางของ ทีวี และเครื่องปรับอากาศ (ที่ไม่น่าจะค่อยได้ใช้ ฮาาา)


ทุกห้องมาพร้อมกับ USB Charger ให้เสียบใช้ได้ ไม่ต้องพะวงกันหล่ะทีนี้ว่าจะเกิด “สงคราม” แย่งปลั๊กเสียบชาร์จอุปกรณ์กัน 

สำหรับเพื่อนๆที่เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์พร้อมคนซ้อนอย่างผม ปลั๊กชาร์จ USB แบบหลายๆหัว
ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากเลยทีเดียวหล่ะครับ เพราะแต่ละครั้งที่เข้าที่พักจะต้องมีการชาร์จ
* โทรศัพท์ 3 เครื่อง
* บลูทูธติดหมวกอีก 2 ตัว 
* Power Bank อีก 1-2 ตัว 
นับขำๆ ก็ต้องการ USB ไปแล้ว 6-7 port ...​เอิ่ม ...​ปกติก็ชาร์จแบ่งๆ เอาเรื่อยๆ ทีละ 3-4 ตัวเอาหล่ะครับ 
พกชุดชาร์จหมดไม่ไหวๆ เยอะเกินไป = =’


ที่สำคัญ “ทุกห้อง” มาพร้อมกับระเบียงที่เปิดกว้างออกไปพร้อมรับกับอากาศยามเช้า จิบกาแฟบางๆ 
กับอากาศเย็นๆ พร้อมสายลมให้นั่งกันลืมเวลาได้เลยหล่ะครับ


บรรยากาศ

สำหรับผมไฮไลท์ของที่นี่คือใช้ชีวิตแบบ Slow life (รีบมาตลอดแล้วขอช้าบ้างนะ) … 
คือไม่ต้องคิดอะไรมากครับ แค่นั่งเสพย์อากาศไปให้สุดก็พอ ก่อนเข้าที่พักก็แวะเที่ยววัดผาซ่อนแก้วก่อนได้ 
ระยะทางใกล้ๆกัน จิบกาแฟให้เรียบร้อยแล้วขึ้นไปหยุดเวลากัน


บางครั้งขอแค่นั่งเฉยๆ บ้างหล่ะกัน


ส่วนของอาคารล็อบบี้ยามเย็น


พื้นที่โรงอาหาร (เอิ่ม) บริเวณทานอาหารครับ มีแขกจากที่พักรอบๆ มาแวะเวียนทานกันเรื่อยๆเลยเหมือนกัน 
อาหารรสชาติอร่อย ด้วยว่า เชฟ (ก็ทั้งพ่อ และลูก) ทำร้านอาหารในตัวเขาค้อกันมาก่อนครับ ที่สำคัญ 
“ราคาย่อมเยา” มากกับการทานอาหาร เสพย์วิว จิบสายลม บนนี้


โรงอาหารยามค่ำคืน วันนี้คนเยอะหน่อย พักกันเต็มความจุ 5 ห้อง และ 2 เตนท์ เลยหล่ะ


วันนี้มีคนเอาพลุขึ้นมาเล่นกัน บนนี้เล่นได้พอสมควรครับ มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยดูแลให้เป็นอย่างดี


ยามค่ำคืนจะนั่งดึงดาวกันก็ตามสะดวกไป

สรุป


อคีรีณยา รีสอร์ทเป็นที่พัก “ใหม่เอี่ยม” ที่ยังมีการก่อสร้างอยู่บ้างเล็กน้อย โดยตอนนี้สำเร็จตามความตั้งใจของทางที่พัก
ไปแล้วประมาณ 80% จะเหลือในส่วนของลานกางเตนท์ที่อาจจะยังไม่ได้รับการเปิดให้กว้างขวางนัก 
คือยังกางได้ไม่เยอะมาก และส่วนของสวนที่กำลังจัดเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ห้องน้ำสำหรับพื้นที่กางเตนท์มีให้เหลือเฟือ
สำหรับเพื่อนๆที่อยากจะสัมผัสอากาศในเตนท์อย่างเต็มที่ 

โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ 100% ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้านี้ (สอบถามก่อนนะครับ)


การเดินทางค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรคือประมาณ 6 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ถ้ามาค้างสัก 2 คืนน่าจะดีเลยครับ 
ระหว่างวันออกไปเที่ยวรอบๆ ได้ จากที่พักสามารถมองไปเห็นวัดผาซ่อนแก้ว และภูทับเบิกได้พอดี

ราคาที่พักอยู่ที่ 2,500 บาทไม่มีช่วง ไฮร์ หรือ โลว์ ซีซั่น จำนวนห้องพักเพียง 5 ห้องเท่านั้น 
เพื่อให้สามารถดูแล และพูดคุยกับแขกที่พักทุกคนได้อย่างทั่วถึง 
ไม่เน้นไปที่การสร้างจำนวนห้องเยอะๆ เพื่อให้รองรับได้มากๆ นะครับ

อาหารการกินอาจจะยังไม่หลากหลายมาก แต่บอกเลยว่า “อร่อย” และ “ราคาย่อมเยา” 
คือมาฝากท้องกันได้เลย (ผมจัดไปเรียบร้อย มื้อเที่ยง เย็น เช้า ครบ 3 มื้อ แฮ่)

ห้องน้ำ เครื่องนอน สะอาดสะอ้าน ทำความสะอาดดี ที่สำคัญ พาน้องหมา น้องแมวมาพักด้วยได้นะครับ 
แต่ทั้งนี้ทางที่พักขอความร่วมมือไม่ให้ขึ้นเตียงโดยเด็ดขาด ถ้าขนาดเล็กมีบ้านให้เค้ามาด้วยจะดีมาก 
ส่วนพื้นที่กางเตนท์ยังไม่ 100% ดี และยังไม่มีเตนท์ให้นะครับ เตรียมเตนท์มากันด้วย แต่มีเครื่องนอนให้
ผมเอง เดี๋ยวคงได้กลับไปอีกครั้ง เร็วๆนี้กับที่นี่ อคีรีณยา 

ปล. ใครไปพักบอกว่าอ่านรีวิวจากผมมา รับเลยน้ำเปล่าฟรี 2 ขวดในห้องพักพร้อมกาแฟ และไมโล ! (เอ๊ะ)  


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. ทองม้วนกลมๆ