รีวิว แบกเป้ สะพายกล้อง ออกจากบ้านไปพักใจที่กาญจณบุรี 4 วัน 3 คืน ด้วยงบ 1000 กว่าบาท :))

สวัดดีครับ
                                                                     กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมนะครับ
                                                                 แล้วก็เป็นการจับกล้องครั้งแรก รีทัชรูปครั้งแรกกก
                                                      ทริปนี้เพื่อนเดินทางคนเก่งของเราที่ขาดไม่ได้เลย คือ Fuji x-a2
                                                                      
                                                                      
                                                                      
                                                                      
มาเริ่มกันเลยนะครับ 
30/12/2015
13.00 เราก็เริ่มออกเดินทางจากศิริราช คือเดินไปหาพี่วิน ไปที่สถานีรถไฟธนบุรี(บางกอกน้อย)


พอถึงแล้วเราก็เอาบัตรประชาชนไปรับตั๋วโดยสาร ฟรี



13.50 หัวรถจักร พระเอกที่จะพาเราไปสู่จังหวัดกาญจนบุรีก็เดินทางมาถึง


เราเดินทางด้วยขบวนรถบริการสังคม ขบวนรถที่ 259 ธนบุรี-น้ำตก


13.55 รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้า คือตรงเวลามากจ้าาาาาา 5555


ระหว่างทางก่อนถึงกาญจนบุรี เห็นน้องมาช่วยคุณแม่ขายของ น่ารักมากกกกกก


คุณยายเหม่อ


17.25 รถไฟก็เดินทางมาถึงสถานีกาญจนบุรี 
พี่ 2 แถวก็พาเรา Drive in หาที่พัก เราเลือกพักเกสเฮาส์แห่งหนึ่งไกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว
เช็คอินเสร็จเก็บของเข้าที่พักเราก็ออกมาเดินเล่นที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2




เดินสักพักก็มีเสียงคนเดินมาบอก รถไฟกำลังมา ผู้คนบนสะพานก็หลบเข้าข้างสะพาน ไม่นานเสียงแตรดังมาก ก็แผดเสียงมาหาพวกเราที่ยืนรอแช๊ะภาพอยู่บนสะพาน

เมื่อรถผ่านมา คนบนรถและคนบนสะพานก็ต่างทักทายกันด้วยรอยยิ้ม และการโบกมือ 

หลังจากรถไฟได้ผ่านไป สถานการณ์บนสะพานก้กลับมาเป็นปกติ ผู้คนก็ต่างออกมาเก็บภาพ ทั้งเซลฟี่ ทั้งมีคนถ่ายให้



ไม่นานตะวันก็เริ่มพลบค่ำ เราก็ชวนกันกลับที่พัก อาบน้ำแล้วก็ออกไปหาอะไรทานกัน


ระหว่างเดินกลับเห็นน้องผู้หยิงคนนี้เล่นกีตาร์เพื่อหาทุนการศึกษา น้องเล่นเก่งมากๆ เลยแช๊ะรูปมาาาาา




31/12/2015 วันสุดท้ายของปี
6.00 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมลุกขึ้นปลุกเพื่อนๆ เพื่อจะออกไปเดินเล่นรับอากาศสบายๆ แต่สุดท้ายมีผมคนเดียวที่ตื่น หึหึ 5555


เดินอยู่ไม่นานผมก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมไปอุทยานแห่งชาติเอราวัณ


ทุกคนพร้อมออกเดินทาง 


เรานั่งรถคันนี้เพื่อไป ขนส่งกาญฯ เรียกรถอะไรไม่รู้ ที่กรุงเทพเรียกซาเล้ง 5555


พอไปถึงรถจะออกพอดี ลุงบอกขึ้นรถเลย ภาพที่เห็นคือคนแน่นมาก กะจะรอคันต่อไปก็ไม่ไหว เกือบ 10 โมงแหนะ

ไม่ว่าคนจะแน่นขนาดไหน เพื่อนผมคนนี้ก็หลับได้ 5555


เดินทางไปสักพักอากาศเริ่มเย็น วิวข้างทางเริ่มสวย จนอดไม่ได้ที่จะเอากล้องมาถ่าย ผมยืนตรงบันไดทางขึ้นลงพอดีครับ โชคดี ถ่ายรูปสะดวกดีครับ



ในบางเวลา ดูเหมือนรถคันนี้จะไม่ไหวแล้ว ขึ้นเนินเขาน่ากลัวมาก 55555



ไม่นานเราก็ได้เดินทางมาถึง ปกติค่าเข้าอุทยาน คนไทย 100 บาท ชาวต่างชาติ 300 มีบัตรนักเรียนนักศึกษาลด 50% แต่วันที่ผมไปเป็นช่วงเทสกาลปีใหม่ เจ้าหน้าที่บอกคนไทยเข้าฟรี เฮกันทั้งคันรถ 55555


เสร็จแล้วเราก็ทำการเช็คอินในที่ทำการอุทยาน ดีนะที่ผมจองเตนท์ในเว็ปอุทยานล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน บางคนไม่ได้จองก็ค่อนข้างผิดหวัง เพราะที่พักเต็มหมดแล้ว




เมื่อเช่าของใช้กับทางอุทยาน เจ้าหน้าที่อุทยานก็พาเราเดินไปที่เตนท์ เจ้าหน้าที่บอกเราดีมากที่จองเตนท์มาก่อน เลยได้โซนที่ค่อนข้าง Exclusive นิดนึง คือวิวดีมาก ไม่แอร์อัด เตนท์ห่าง อยู่ริมน้ำ ฟินนนนน 5555





หลังจากจัดแจงเรื่องที่พัก เก็บข้าวของในเตนท์เรียบร้อย เราก็ไปทานข้าวกลางวันกัน เนื่องจากไม่ได้ทานข้าวเช้า พวกเราเลยทานกันกระหน่ำมาก ไม่ขอเอามาให้ดูแล้วกัน อิอิ
เสร็จแล้วเราก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็จะไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณกัน ตื่นเต้นๆ 5555


พร้อมแล้ว ไปเล้ยยยยยยยย


เราก็เดินขึ้นไปน้ำตก เป้าหมายคือผู้พิชิตภูผาเอราวัณ 
ระหว่างทาง เป็นทางขึ้นเนินแล้วที่บันใดคนเยอะ ผมเลยเดินขึ้นทางเนินที่เป็นดิน นางอยากขึ้นตาม สรุปผมขึ้นได้แต่นานงมาไม่ถึง สมน้ำหน้า 5555


อันนี้เป็นน้ำตกชั้น 4 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด คือสวยมาก เราก็เลยเวะถ่ายรูปนิดหน่อย


เราออกเดินทางกันต่อ เดินแล้วเดินอีก จนเหนื่อมากๆแล้วเมื่อไหร่จะถึง แต่ก็นะมาแล้ว สู้ต่อไปปปปปป


เดินมาสักพักก็เห็นป้ายบอกทางแล้ว เย้ๆ 



และแล้ว เราก็มาถึง สวยมากครับ ภูผาเอราวัณ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที คือเดินแบบไม่หยุดพักเลย ก็ถ่ายรูปข้างทางนิดหน่อย





แต่คนเยอะไปนิดนึง


ทีแรกก็ว่าจะไม่ลงแช่น้ำ ความความใสและสวยของน้ำมันดึงดูดให้ผมลงไป ก่อนเดินลงก็ขอเป็นผู้พิชิต ภูผาเอราวัณ สักรูปครับ 555


จากนั้นเราก็ทำการเดินลงครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ไวกว่าตอนขึ้น 


เผลอหลับไปแปปเดียว ตื่นมาก็เกือบค่ำแล้ว เราก็เลยออกไปหาอะไรทานกัน



กลับมานั่งเล่นกันหน้าเตนท์ของเพื่อนผู้หญิง ผมจองเตนท์ไว้ 2 หลังครับ นอนได้ 6 แต่เราไปกัน 4 คน ชาย2 หญิง2 เลยแบ่งกันนอนเตนท์ล่ะ 2 คน แยกชายหญิง แต่เราก็มานั่งเล่นนั่งคุยกัน



20.30 โดยประมาณ ทางเจ้าหน้าที่ประกาสเชิญชวนให้ออกมาร่วมกิจกรรมกับทางอุทยาน 
-มินิคอนเสิร์ตจากพี่ๆเจ้าหน้าที่
-สวดมนต์
-เคาท์ดาวน์ปีใหม่

น้องน่ารักมาก มาวิ่งเล่นกันสนุกสนาน


01/01/2016 สวัสดีปีใหม่คร้าบ
คืนนั้นดาวสวยมาก เราก็เลยมานั่งดูดาวกันใต้แสงเทียน โรแมนต์มากถ้ามากัลแฟน แต่ผมไม่มีแฟนไง อิอิ



ไม่นานนักสาวๆเพื่อนผมก็ขอตัวไปนอนกัน ไหนคืนนี้ใครบอกจะไม่นอนไง หึหึ เหลือผมกะน้องชายขี้เซา 2 คนแล้ว


สักพักผมก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
6.00 นาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมตื่นมาก็สะพายกล้องออกมาถ่ายรูป คืออากาศหนาวมาก



เสร็จแล้วผมก็เลยมาเรียกเพื่อนๆไปล้างหน้าแปลงฟัน เพราะผมหิว ในช่วงเทศกาลทางอุทยานจะมีเป็นเตนท์ร้านค้าหลายร้านให้เลือกทาน เปิดตั้งแต่ คนตื่นนอน จนถึงคนหลับ เจ้าหน้าที่บอกมาแบบนี้ 55555


กลับไปที่เตนท์ พระอาทิตย์ก็ขึ้นสูงขึ้น แดดเริ่มร้อนแล้วแฮะ







สายๆเตนท์ข้างๆผมก็ย้ายออกไป มีครอบครัวใหม่เข้ามาพักแทน ครอบครัวนี้มีเด็กแฝดด้วย น่ารัก 


และแล้วแม่น้ำก็เริ่มดึงดูให้ผมลงไปแช่ 


น้ำเย็นมาก




เล่นน้ำเสร็จ ผมก็ขึ้นมาอาบน้ำ แล้วก็สะพายกล้องออกไปเดินเล่นคนเดียวชิลล์ 




เดินไปสักพักก้เห็นป้าย เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผมก็เลยลองเดินเข้าไป 


เข้าไปแล้วมันเงียบมาก วังเวงๆแบบแปลก รีบถ่ายแล้วรีบออกเลยครับ




พอถึงที่พักก้เริ่มพลบค่ำอีกวัน


คืนนี้เรานัดกันออกมานอนดูดาวกันนอกเตนท์ โรแมนต์อีกแล้ว 55555



02/01/2016 ตื่นเช้ามาทุกอย่างเปียกหมด ถุงนอน โทรศัพท์มือถือเป็นไอน้ำเลย น้ำค้างลงครับ ดีนะผมเอากล้องเข้kไปเก็บในเตนท์แล้ว 55555


ชุดเป็ดน่ารัก 555




เราอาบน้ำแต่งตัว เก็บของไปเช็คเอาทืเพื่อจะไปนั่งรถไฟสายมรณะก่อนกลับกรุงเทพ


สรุปเราไปถึงสถานีรถไฟสะพานแม่น้ำแควใหญ่ 11.30 ซึ่งไม่ทันรถไฟแล้ว 



เอาไงดีหล่ะ ก็ตกลงกันว่าไม่ไปไหนแล้ว รอรถไฟกลับกรุงเทพรอบ 14.30 เพื่อนๆก็นั่งรอคุยกัน แต่ผมไม่ชอบอยู่เฉยครับก้เลยไปเดินเล่น 


เดินจนไม่รู้จะไปไหนแล้ว ก็เลยเดินไปดูพิพิธภัณฑ์สรงครามโลก







รู้สึกหดหู่ 

ในพิพิธภัณฑ์จะมีที่นั่งชมวิว ซึ่งเห็นวิวของสะพานแม่น้ำแคว มุมที่สวยมาก


14.30 ผมกลับมาหาเพื่อนเพื่อรอรับตั๋วรถไฟ ก้ยังไม่มีวี่แววของเจ้าหน้าที่ อะไรครับ รถไฟรอบ 14.38 นะ 14.30 แล้วยังไม่เปิดขายตั๋วอีกหรอ เลยเข้าไปถามแม่ค้าแถวนั้นเค้าบอกว่าวันนี้รถไฟน่าจะเลท



อะไรกันรถไฟเลท แต่ก็คิดว่าจะเลทนานขนาดนี้ ผมเองไม่อะไร แต่เหล่าบรรดาคุณป้าที่ยืนถือบัตรประชาชนรอรับตั๋วฟรีก็ต่างคิ้วขมวด หน้างอคอหัก แต่ก็ต่างเมาท์มอยส์ ตำหนิ เจ้าหน้าที่ออกตั๋วที่ 15.50 ยังไม่มา คือคุณป้าอย่าบ่นสิคร้าบ รอนั่งรถไฟฟรีนิ ถ้ารอไม่ไหว ขนส่งอยู่ไกล้ๆนะครับ นึกในใจ คือ จขกท. ขี้เกียจฟังแล้ว จะสโลว์ใลฟ์ทั้งทีก็เอาให้มันสุดๆไปเลย 55555

16.00 เราได้ตั๋วฟรีมาแล้วครับ ตอนนี้ก็รอขึ้นขบวนรถอย่างเดียว เราเดินทางกลับด้วยขบวนรถบริการสังคม ขบวนที่ 258 น้ำตก-ธนบุรี เข้าเทียบชานชาลาที่ 1 สถานีสะพานแควใหญ่  14.38 แต่นี่มันกี่โมงแล้วห๊าาาาาา 5555


16.30 หัวรถจักรเคลื่อนขบวนเข้าชานชาลาแล้วครับ ผมเองไม่รอช้า เข้าไปซูมถ่ายภาพ รถไฟก็นะ บีบแตรใล่ผมสะงั้น 5555


รอบนี้ขบวนรถยาวมาก แต่คนก็แน่นมาก แต่พวกผมโชคดี วิ่งมาขึ้นคันแรกของขบวนคนไม่เยอะ


รถไฟจาก ธนบุรี สวนทางกันที่สถานี กายจนบุรี คนรอขึ้นที่สถานีนี้ก็เยอะอยู่ครับ




นั่งไปนั่งมาพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว 





ประมาณ 20.05 เราก้เดินทางมาถึง สถานีปลายทาง ธนบุรี โบกมือลารถไฟ แล้วจะมาใช้บริการใหม่นะครับ โดยส่วนตัวผม ชอบการเดินทางด้วยรถไฟนะครับ เพราะเชื่อมั่นว่ามันปลอดภัยดี และได้อะไรมากมายจากเพื่อนร่วมทางและเพื่อนข้างทาง


จากนั้นเราก็ขึ้นพี่วิน แว๊นมาส่งที่ท่าวังหลังเพื่อข้ามไปฝั่งพระนคร 
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง(วัดพระแก้ว) 


ท่ามหาราช


สรุปค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางนะครับ ผมมีเงินติดตัวไป 1700 บาท เหลือกลับมาบ้าน 150 บาท 
เริ่มด้วยค่าพี่วินไปสถานีรถไฟ: 20
ค่ารถไฟ: ฟรี
ค่ารถไปที่พัก: 25
ค่าที่พักเกสเฮาส์คือนแรก: 200
ค่ารถไปขนส่งกาญฯ: 20
ค่ารถไปเอราวัณ: 50
ค่าเข้าอุทยาน: ฟรี (ช่วงเทศกาลปีใหม่)
ค่าเตนท์ที่พัก 2 คืน คนล่ะ: 225  (ปกติถ้าไปครบตามจำนวนก็คนล่ะ 150/2คืน เพราะเป็นเตนท์ขนาด 3 คน แต่ผมไป 4 คน เลยนอนกัน 2 คน/เตนท์)
ค่าถุงนอน 2 คืน: 60
ค่าที่รองนอน 2 คืน: 40
ค่าหมอน 2 คืน: 20
ค่ารถจากเอราวัญไปกาญจนบุรี: 50 
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์สงคราม: 40
ค่ารถไฟกลับกรุงเทพ: ฟรี 
ค่าพี่วินมาท่าเรือข้ามฝาก: 20
สรุปค่าใช้จ่ายที่รีดมาคือ 770 บาท ผมใช้เงินไป 1550 บาท 1550-770=780 ค่ากินตลอดทริปนี้คือ 780 

จบไปแล้วครับกับการรีวิวทริปครั้งแรกของผม ใช้งบไป 1550 บาท 4 วัน 3 คืน คุ้มค่ามากครับ
เจอกันใหม่ครั้งหน้าค้าบ


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1453306