รีวิว ทริป 24 ชั่วโมง ดอยเสมอดาว-ขุนสถาน-ผาชู้ ตามล่าหาสตอเบอรี่


         สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เป็นการรีวิวการไปเที่ยวเมืองน่าน เมืองต้องห้ามพลาด บทเฉพาะกิจในครั้งนี้คือการออกเดินทางไปดอยเสมอดาวดูดาว-ทะเลหมอก ตามล่าหาสตอเบอรี่ที่ขุนสถาน และตามหาผาแห่งความรักที่ผาชู้ ทริปนี้สมาชิกเป็นสาวๆกัน  4 คน ตกลงวันออกเดินทางคือ 8 มกราคม 2559 ช่วงบ่ายๆ ไปนอนหนึ่งคืน เนื่องจากพวกเราอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เป้าหมายเลยออกเดินทางบ่ายๆได้ ใช้เส้นทางอุตรดิตถ์-นาน้อย น่าน 

บอกเลยว่าเส้นทางนี้ทางโค้งแล้วโค้งอีกพากันเมาโค้งแล้วเมาโค้งอีกก็ยังไม่ถึง ใช้เวลาในการไปถึงดอยเสมอดาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ลัดเลาะไปตามป่าเขา ข้ามแม้น้ำไปเรื่อยๆ พาหมู่บ้านต่างๆซึ่งมีน้อยมาก บอกเลยทางนี้รถไม่เยอะแต่ว่าเปลี่ยว ปล.ไม่แนะนำในการใช้เส้นทางเวลากลางคืน สตรีก็ไม่ควรใช้ถ้ามาเพียงลำพัง สัญญาณโทรศัพท์บอกเลยไม่มีค่ะขาดหายตลอด ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวเรื่องรถบรรทุก แต่ต้องกลัวทางค่ะเพราะโค้งแล้วโค้งอีก 

ทางนี้สังเกตดีๆจะเห็นว่ามีใบไม้เปลี่ยนสีได้บรรยากาศประหนึ่งเราไปเที่ยวญี่ปุ่น(แบบมโนไปเอง)
        การเดินทางมาดอยเสมอ มี 2 แบบ คือ
1. รถยนต์ส่วนตัว  ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมี จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน  
2.รถประจำทาง ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่สามแยกบ้านใหม่แล้วเหมารถสองแถว เข้าอุทยานฯ

            เราเดินทางมาถึงดอยเสมอดาวประมาณ 5 โมงครึ่ง พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ได้นั่งดูมันชั่งฟินมากเลยโรแมนติกสุดๆ คิดถึงแฟนเลยมโนว่าถ้าได้มานั่งดูด้วยกันคงจะดี คริคริ

          ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 583,750 ไร่ หรือ 934 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงสา นาน้อย และนาหมื่นของจังหวัดน่าน มีเทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ขนานกันทั้งทางทิศตะวันตก และตะวันออกแบ่งพื้นที่ออกเป็น ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังใน เขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา พบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกยูงซึ่งมี อยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี กวาง หมาป่า และหมาในมีสัตว์ป่าหลายชนิดที่สำคัญ คือ ช้างป่า วัวแดง และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

          บรรยากาศกำลังดีเลยวันที่เราไปถึง อากาศเย็นถึงขั้นหนาว ลมแรงมากๆๆ ดีที่จัดเสื้อผ้าไปแบบหนาวเลย ทั้งเสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้ามาพร้อมมากๆๆตอนแรกกะว่าจะเอาไว้ไปถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆที่ไหนได้ใช้ทุกอย่างที่เตรียมไป

         การจองเต้นท์ที่พักของเรา เราเลือกจองกับเอกชน เต้นท์นอนได้ 4 คน ราคา 600 บาท มีหมอน ที่รองนอน และถุงนอนให้ เจ้าของเต้นท์ชื่อพี่ต่าย ใจดีค่ะพูดคุยกันง่าย เรามาถึงมากางเต้นท์รอเราเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางค่อยโทรหาเราตลอด สงสัยพี่คิดว่าพวกเราเพิ่งเคยมา ที่ไหนพขร.ของเราเคยมาเลย มีสมาชิก 1 คนเคยมาแล้วเลยไม่ต้องห่วงเรื่องหลง ส่วนเรื่องการขับไว้ใจได้เพราะขับขึ้นลงเขามามากกว่า 8 ปี ประสบการณ์ล้วนๆๆ คริคริ 

        เราโทรจองจากเฟสนี้ค่ะ ที่จริงการจองเต้นท์ของอุทยานฯก็ได้นะค่ะ โดยอุทยานฯจะมีบ้านพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว  3 หลัง และเต็นท์ให้เช่า ราคาหลังละ 225 บาท นอนได้ 3 ท่าน แผ่นรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท (ราคานี้ของปี 2555 อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามทางอุทยานอีกครั้ง) ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ 054 731 714
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054 701106
หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร 02 579 7223 , 02 561 2919 ต่อ 724 ,725 ,, www.dnp.go.th


       ปล.การจองเต้นท์ควรจองล่วงหน้านะค่ะ เราจองล่วงหน้า 2 วันเพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว แล้วถ้าจองเต้นท์จะยกเลิกก็ควรแจ้งเจ้าของเต้นท์ด้วย วันที่เราไปมีคนจองเต้นท์ของพี่ต่าย แต่พอมาถึงไปเอาเต้นท์ของที่อื่นแทนแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะค่ะ ไม่ว่าจะติดอะไรอย่างไงก็ควรบอกกล่าวกันบ้างค่ะ 
      เมื่อวานถึงดอยเสมอดาว ทางเข้าก่อนจะขึ้นมายังลานกางเต้นท์มีด่านต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้านะค่ะ

      จากนั้นก็นำรถขึ้นมายังลานกางเต้นท์ได้ ณ ลานกางเต้นท์เจ้าหน้าที่จะให้เราจอดรถนำสัมภาระข้าวของลงให้เรียบร้อย แต่ไม่อนุญาตให้เราจอดรถไว้ที่ลาน เหตุผลเพราะเพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆนำรถมาจอดเพื่อขนของรถ และตอนค่ำก็จะไม่ให้จอดเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้นำคนป่วยส่งรพ.นาน้อยได้สะดวก โดยจะมีลานจอดรถอยู่ด้านล่าง ตามไหล่ทางก็อย่าไปจอดเลยวันที่ไปก็มีรถโดนเชี่ยวชน มันมืดไม่มีไฟตามลายทางนะ ไปเที่ยวทำตามกฎระเบียนก็จบ ***อย่ามักง่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลยนะ 

       เรื่องต่อมาก็ว่าด้วยอาหารการกิน พวกเราโชคดีไปเจอพี่สาวที่ใจแมนๆ แกใจดีมากเลยอำนวยความสะดวกให้เราทุกอย่าง เริ่มกันด้วยการสั่งอาหาร เมนูที่ต้องจัดไปคือ หมูกระทะ 2 ชุดๆละ 200 บาท ส้มตำปลาร้า&ปูไทย อย่างละหนึ่ง บวกค่ามัดจำอุปกรณ์การกินหมูกระทะ ประกอบด้วย กระทะปิ้งหมู ถ้วย 4 ใบ ส้อม 4 อัน ตะเกียบ 4 อัน 200 บาท (คืนของแล้วพี่ให้คืนพรุ่งนี้เช้า) ส่วนเตาไฟไปเช้าอุทยานฯในราคา 100 บาท มีตะแกรงและถ่าน 1 ถุง


      ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้วยจานที่เห็นคือเตรียมไปเองค่ะ บอกเลยเนื่องจากมีพี่เคยไปมาแล้วเลยพอจะรู้ว่าเอาอะไรไปบ้าง สิ่งที่จะแนะนำก็คือ ถ้วยใช้หมูกระทะถ้าไม่คิดอะไรมาก็ใช้ของจากทางร้าน แต่จานไม่มีให้นะเป็นโฟมข้าวโพด(ที่มันย่อยสลายได้) ส้อมตะเกียบก็ใช้ของที่ร้าน แก้วน้ำไม่มีให้เอาไปเอง น้ำแข็งเตรียมลังโฟมหรือกระติกไปเองเลย ข้าวเหนียวถ้าชอบกินเตรียมไปเอง(เพราะหมดเร็ว) ขนมถุงเตรียมไปเอง เครื่องดื่มเราเตรียมกันไปเองเลือกตามใจชอบเลย ไฟฉายด้วยเตรียมไปเองด้วยก็จะดี ไปหาเทียนไม่มีอ่ะ มีแต่ตะเกียงไฟจากแบตเตอรี่(ไม่ก็งงว่าถ้าเช่าต้องเอาบัตรประชาชนไว้ทำไมคือพี่สาวใจแมนที่ส่งอาหารบอกอ่ะ) ของเราพี่สาวใจแมนให้เช่าในราคา 50 บาทคืนตอนเช้าตอนมาเอาเตาไปคืนอุทยานฯให้ อืม!!!!ลืมบอกไปพี่แกมากองไฟให้ด้วยอ่ะ คริคริ
       ******ปล.ที่สำคัญการกินดื่มคือไม่ควรเสียงดัง เต็มที่ไม่เกินเที่ยงคืนอ่ะ เนื่องจากเราไปป่าควรเคารพสถานที่ เกรงใจเต้นท์ข้างเคียงบ้าง ตอนเราไปเจอเต้นท์ข้างๆแบบห่างออกไปกินกันตีสองครึ่ง เสียงดังเรานอนไม่ได้เลย ปกติไปนอนที่อื่นก็หลับยากแล้วเจอแบบนี้ แม่เจ้า!!! เชื่อป่ะตีสองนี้เรานอนไม่หลับได้ออกมาดูดาวกันเลย ดีนะที่พี่ พขร. เราหลับได้ไม่งั้นความสามารถในการควบคุมรถคงแย่ๆ เฮอะๆๆๆ 


        ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยทะเลหมอกที่มาเป็นสายๆ เราตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ไปแปรงฟันล้างหน้าขึ้นไปดูหมอกกันตอน 6 โมงคนเต็มลานดูทะเลหมอกเลยคราวหน้าก็ตื่นให้ไว้หรือไม่ก็ไม่ต้องแปรงฟันล้างหน้าล่ะ คริคริ วันนี้กว่าพระอาทิตย์จะมาเกือบ 7 โมงแล้ว

        ระหว่างรอก็เลยมาภาพรูปกับผาหัวสิงห์เป็นหน้าผา โดยจะมีรูปร่างหมือนสิโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศา ทิศเหนือมอง เห็นตัว อำเภอเวียงสา ทิศใต้มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตกมองเห็นตัวอำเภอนาน้อย เกือบทั้งหมด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทาง เดินสำรวจธรรมชาติให้ผู้รักการปีนป่ายและการผจญภัยด้วย แต่พวกเรา No ค่ะไม่ขอปืนเขาอ่ะ 555



         ดอยเสมอดาว เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างยนสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถชม ทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม บอกคำเดียวเลยว่าถึงหมอกจะได้มาแบบทะเลแต่ก็สวยงาม ต้องจัดทริปไปกันอีกแน่นอน 




8 โมงเราก็ออกเดินทางสถานีต่อไป อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ไปตามล่าหาสตอเบอรี่ เราขับรถเข้ามายังตัวอำเภอนาน้อย มาแวะกินข้าวยังในตัวเมือง บอกเลยหากินข้าวเช้ากันในเมืองให้เรียบร้อยออกไปหมู่บ้านไม่ค่อยมีร้านอาหารนะ ใช้เส้นทางไปอำเภอร้องกวางของแพร่ ขุนสถานตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,424 เมตร ระหว่างทางไปอุทยานฯมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงทะเลหมอกด้วย โดยเฉพาะในฤดูฝนจ ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีขณะตอนที่เราไปพื้นราบแดดแรงมาถึงอากาศครึ้ม รีบใส่เสื้อกันหนาวกันแทบไม่ทัน ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นไฟส่องสว่างของหมู่บ้านในตำบลสันทะ ตัวอำเภอนาน้อย ตัวอำเภอเวียงสา ตัวอำเภอเมืองน่าน โมีลักษณะเหมือนดาวที่อยู่บนดินกลมกลืนกับดาวที่อยู่บนท้องฟ้า ที่สำคัญเลี้ยวให้ถูกหาทางไปให้ดีไม่งั้นมีหลง สังเกตุป้ายบอกทางดีๆๆอ่ะ ****ตัวอักษรบนป้ายเล็กมากค่ะถ้าไม่สังเกตมีหลงทางแน่ เลี้ยวผิดกันมาแล้วดีตาไววนกลับทัน



       เกือบ 10  โมงกว่าเราก็มาถึงขุนสถาน ภาระกิจตามหาสตอเบอรี่ก็เกิดขึ้น สายตามองไปว่าอยู่ตรงไหนนะ เข้ามาเจอร้านขายของตามข้างทาง ร้านเปิดไม่เยอะเท่าไร วันที่เราไปตรงกับวันปีใหม่ของชาวพื้นเมือง เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครมาเปิดร้าน เส้นทางมาขุนสถานก็บอกแล้วว่ามันขึ้นจากขึ้นเขาวนไปวนมาโค้งไปโค้งมาค่ะ ยาดมลูกอมเตรียมให้พร้อมสำหรับคนที่คิดว่าเมารถ ขอให้ทุกท่านโชคดี 

        แหละแล้วเราก็ได้เจอสตอเบอรี่ค่ะ แบบนี้จะรออะไรจัดกันเลยค่ะ


        ที่ขุนสถานนอกจากจะมีสตอเบอรี่แล้วยังมีซากุระเมืองไทยด้วยนะค่ะ แต่เสียดายที่ยังออกดอกไม่เยอะ ต้องกลับไปอีกแน่นอน คราวหน้าไปตามหาเส้นทางซากุระบาน เราก็ซื้อของฝาก ของกิน เสื้อผ้ากลับกันมา แต่ละร้านราคาแตกต่างกันออกไปต่อลองดูล่ะกัน บอกเลยร้านไกลๆๆราคาไม่แพง ใกล้เที่ยงเราก็ออกเดินทางกลับ สถานีต่อไป ผาชู้



     บ่ายโมงกว่าเราก็มาถึงผาชู้ 
ผาชู้ มีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีหลายแสนไร่ บริเวณเชิงผาชู้เป็นที่ตั้งที่ทำการ อุทยานฯ ในฤดูหนาว จะมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้ และเมื่อหมอกจางลงจะมองเห็นลำน้ำน่าน ที่ผาชู้จะมีเสาธงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่อุทยานฯบอกต้องร้องเพลงชาติ 12 จบกว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดได้ บนยอดผาชู้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรใช้เวลาในการเดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าใครอยากจะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานฯนะค่ะ


ที่นี้มีตำนวนกล่าวว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดหน้าผา เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไปแล้วจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตาม คนรักตกไปอยู่ใกล้กัน ส่วนเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วย แต่กระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผาในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้ง จึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ ใต้ต้นจันทน์ผา และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่า ต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) ผู้คนที่ได้รับรู้เรื่องราวจึงเรียกขานหน้าผาแห่งนี้ว่า “ผาชู้” หรือผาแห่งความรักในภาษาเหนือ นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทริป 24 ชั่วโมง 
1.ค่าน้ำมัน      ฟรี (พขร.ใจดีไม่คิด)
2.ค่าเต้นท์       600  บาท
3.ค่าอาหาร   มื้อเย็น 680 บาท เตาไฟ 100 บาท (ตอนเช้าได้คืนมัดจำ 200 บาท) รวม 580 บาท
                  มื้อเช้า แวะกินก๋วยเตี๋ยวและข้าว จ่ายใครจ่ายมัน 
                  มื้อกลางวัน ปาท่องโก้ +ยำรวม   ฟรี (พขร.เลี้ยง)
                  แวะเซเว่นก่อนกลับ  จ่ายใครจ่ายมัน
                  ค่าขนมและเครื่องดืม ตามแบบใจต้องการ
                  ค่าของฝาก ของใครของมัน (จุดนี้หมดเยอะเวอร์ 555)
รวมค่าใช้จ่าย     1,180 บาท  ตกคนละ  295 บาท 
       ปล.ทริป 24 ชั่วโมงของเรา เป็นทริปเล็กๆกับสมาชิกน้อยๆไปกันแบบชิวๆตลอดทาง กิน เที่ยว ถ่ายรูปงานหลัก ถ่ายที่ได้มาเป็นการถ่ายจาก Iphone. Note และ Oppo สวยงามตามท้องเรื่อง ทริปคร่าวหน้าจะเป็นการไปตามล่าหาเส้นทางซากุระบาน และอาจจะได้ไปแอ๋วเมืองน่านอย่างเป็นทางการ ขอบคุณสมาชิกผู้ร่วมทริปทุกท่าน


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1358318