รีวิว สังขละบุรี สุดท้ายฉันก็ไปถึง

คำนำ กระทู้นี้เป็นการเดินทางเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ความจำของเราหล่นหายไปบ้างตามเวลา เลยตั้งใจว่าเก็บบรรยากาศสังขละบุรีช่วงวันวิสาขบูชามาฝากกันค่ะ

        ย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว “สังขละบุรี” เป็นชื่อที่แปลกมากสำหรับเรา เราไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนบนแผนที่ประเทศไทย เมื่อรุ่นพี่เอาภาพต่างๆของสังขละฯมาให้ดู เราก็เกิดความอยากไปทันทีทันใด แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง เด็กจบใหม่ยังไม่ได้ทำงาน เงินเก็บยังไม่มี ก็ได้แต่ฝันเอาไว้ก่อน และคิดว่าสักวันนะเราจะต้องไป


     การเดินทางของเราเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความรู้สึกมันต่างจากเมื่อ 7 ปีที่แล้วอย่างลิบลับ เพราะตอนนี้เราพร้อมมากขึ้น โตมากขึ้น เรียนรู้การเดินทางมากขึ้น สังขละบุรีเลยไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป
    เราเริ่มเดินทางจากจ.สระบุรี ใช้ Google map นำทางไปจนถึง ขับรถไปกันเรื่อยๆ ผ่านอ.ภาชี , อ่างทอง, สุพรรณบุรี, และเข้ากาญจนบุรี เดินทางทั้งวันตั้งแต่เช้า คืนแรกเราจองที่พักไม่ทัน เพราะเปลี่ยนแผนเพิ่มวันกะทันหัน เลยทำให้ที่พักเต็ม ได้พักในคืนที่สอง เราเลยวางแผนบี แผนซีไว้ พกเต้นท์ไปด้วย หากไม่มีที่พักเรายังมีที่นอน 
พวกเราขับรถมาเรื่อยๆถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม สายตาเหลือบไปเห็นป้อมปี่ เลยบอกแฟนเราว่า “ที่นี่กางเต้นท์นอนได้นะเธอ” ไม่รอช้า พวกเรารีบขับรถเข้าไปพร้อมจ่ายค่าเข้าอุทยาน เลือกที่นอนได้ตามใจชอบ ด้านในครัวสามารถสั่งอาหารได้ค่ะ และนี่คือบรรยากาศภายในป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม



บรรยากาศในป้อมปี่สวยมาก ประทับใจมาก ห้องน้ำสะอาด ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ






     เราตื่นนอนจากป้อมปี่กันแต่เช้า เก็บข้าวของขับรถมุ่งหน้าไปสังขละบุรีด้วยระยะทางไม่ไกลนัก พวกเราไปถึงสังขละกันเช้ามาก แต่ยังเช็คอินเข้าที่พักไม่ได้ เลยไปกินข้าวเช้ากันที่วัดวังวิเวการาม แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ คนเยอะมาก ถ่ายออกมาแล้วไม่สวยเลยตัดทิ้งไป ส่วนภายในวัดเราก็ไม่ได้เข้าไปชมค่ะ เพราะเราใส่แขนกุดขาสั้นมาเต็มที่ เลยเข้าวัดไม่ได้ 55555 
     เมื่อกินข้าวเช้าพร้อมซื้อของฝากกลับบ้านเสร็จเรียบร้อย เลยดูแพ็คเกจนั่งเรืองชมวัดใต้น้ำ เมืองบาดาล ดูแล้วไปกันแค่สองคน เหมาเรือไม่คุ้ม ช้อยส์นี้ตัดไป เพราะอย่างที่ว่า เราแค่อยากมาเห็นสะพานมอญ ซึมซับบรรยากาศสังขละฯสักครั้งในชีวิต เราเลยขับรถกลับไปจอดที่โรงแรม แล้วไปเดินเล่นที่สะพานมอญ แค่นี้ก็ใช้เวลาเยอะมากแล้วค่ะ เราอยู่ได้ถึงบ่ายๆ แล้วค่อยเดินกลับโรงแรมมาเช็คอินค่ะ โรงแรมที่เราพักชื่อสวนแมกไม้รีสอร์ท ราคากำลังพอดี อยู่ไม่ไกลจากสะพานเลยค่ะ


รูปนี้เป็นวิวที่เราถ่ายจากฝั่งเทศบาลวังกะค่ะ ในเทศบาลสามารถกางเต้นท์นอนได้นะคะอย่างที่หลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว



รูปนี้มุมมหาชนเลยค่ะ


เดินเล่นไปเรื่อยๆ เจออะไรก็ถ่ายไป เห็นเด็กน้อยกระโดดน้ำนี่ชอบมากขอเก็บรูปหน่อย





เดินเล่นจนเหนื่อยพักกินข้าวกลางวัน ก่อนจะกลับไปนอนเล่นที่ล็อบบี้โรงแรมเพื่อรอเช็คอิน


เมื่อได้เช็คอินเรียบร้อย ขอนอนพักเอาแรงกันสักตื่นนึง ก่อนจะออกมาเดินเล่น และหาอาหารค่ำในตลาดทานกันค่ะ


แสงตะวันเริ่มคล้อยลงมาทุกที สิ่งที่เรารอคอยคือแสงทไวไลท์ แต่วันนั้นแทบจะไม่มีให้เห็น น้ำในแม่น้ำก็แห้งมากในช่วงนั้น เลยเก็บภาพมาเท่าที่ได้ค่ะ





เมื่อสนุกสนานกับการถ่ายรูป ก็เริ่มหิวค่ะ ขับรถไปตลาดกัน แต่เราคงจะไปค่ำเกินไปของกินเลยไม่ค่อยมี เดินผ่านร้านนี้เห็นคนมุง มันคืออะไร? ไม้ละ 1 บาท ฮึ่ยยยย!!มันต้องลองป่ะ! จัดสิ่ อย่าช้า... รสชาติเหมือนขาหมูนะคะ ของกินที่ห้ามพลาดเมื่อมาสังขละฯ ต้องลองเลยค่ะ 

จบสำหรับวันที่หนึ่งของสังขละบุรีค่ะ

ต่อวันที่สองกันค่ะ เราตื่นแต่เช้าเพื่อจะรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ปรากฎว่าหมอกเยอะมาก ผิดหวังกันไป เลยใส่บาตรกันตอนเช้า บรรยากาศในตอนเช้าคึกคักมาก ต่างจากตอนบ่ายๆ เราชอบนะ มันให้ความรู้สึกว่านี่แหละชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอญ 


เด็กๆที่นี่น่ารักค่ะ มี Local guide ตัวน้อยด้วยนะคะ น้องๆจะเดินมาถามว่า พี่รู้จักประวัติของสะพานมอญหรือยังคะ เราก็นั่งฟังน้องๆเล่า เลยให้ค่าเล่าประวัติไปคนละ 20 บาท 








ขอเก็บบรรยากาศตอนช่วงเช้าอีกสักรอบก่อนจะกลับสระบุรีกันค่ะ





จบแล้วนะคะสังขละบุรี เป็นทริปสั้นๆแค่ 3 วันสองคืน อาจจะเป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลได้ไม่มาก แต่ก็อยากมาแบ่งปันกันค่ะ เผื่ออยากทำให้หลายๆคนอยากไปเที่ยว เหมือนที่เราอยากไปบ้าง 

ขอบคุณนะคะ


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.Palmyrabird