สวัสดีชาวแบกเป้ทุกคนครับ
สืบเนื่องจากทริปที่แล้วที่เขาหลวง ได้คุยกันไว้ทริปหน้าจะไปที่ไหนดี อุทยานฯน้ำหนาวไหม ? หรือ อุทยานฯทุ่งแสลงหลวง หรือ ที่ไหนใกล้ ๆ ก็ได้คุยกันน่าจะไปก่อนปิดเทอมคือช่วงปีใหม่ งัย 2 อาทิตย์ผ่านมาจะไปกันแล้ว ฮ่าาาาาาาาาาา เอาไปก็ไปวันว่างๆ ของพวกเรามีไม่เยอะ คุยกันไว้ก่อนวันสองวันก่อนออกเดินทาง ว่าจะไปเย็นวันพฤหัส ที่ 5 พฤจิกายน พอถึงวันกลับต้องเรียนเช้า-บ่าย แต่ตอนบ่ายได้ยกเลิกการเรียนการสอน รออะไรละครับเก็บของได้แล้ว ของผมนะ เพราะของเพื่อนเตรียมกันพร้อมแล้ว ตอนแรกก็จะไปกันแค่คืนเดียว งัย......... เป็น 2 วัน 3 คืน
คำใดไม่สุภาพ ขอโทษด้วยครับ เพื่ออรรถรสในการอ่าน อิอิ
ข้อมูลใดผิดพลาดขออภัยมา ณ ด้วย
ขอตัวเตรียมของแปป ไฟฉาย โคมไฟชาร์จแบต เสื้อผ้า สิ่งของจำเป็น และก็กล้อง.....ไว้เก็บภาพประทับใจ
เตรียมของพร้อมก็ออกเดินทางกันเลยดีกว่า ขบวนรถออก 14.00 น. จากจังหวัดพิษณุโลก
นัดกันที่ปั้มเซลล์ รอ.....แล้วออกพร้อมกัน ลุยเลยสหาย
.
.
.
.
ปล. ก่อนออกเดินทางทุกครั้งควรตรวจเช็คสภาพรถให้ดีก่อนการเดินทางนะครับ เพราะเจ้าของกระทู้เจอมากับตัว ขี่มาได้สักพักขึ้นเขาได้หน่อยเดียว สายพานรถขาดเลยค่าบบบบบบ ขาดกระจุย แต่โชคดีมีเพื่อนขี่ปิดท้ายให้ไม่งั้นผมนี่ตายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ขอบคุณเพื่อนเฟริส ด้วยครัช ที่ถีบรถย้อนกลับไปร้านซ่อม ดีนะห่างแค่ 2 km ไม่งั้นก็คงต้องฝากไว้ตรงร้านไก่ย่าง ^^ ช่วงนั้นผมนี่กะวนกะวายใจสุดๆ ทำเพื่อนเสียเวลา ต้องตามหลังอีก แต่ช่างก็ซ่อมได้ไวเป็นร้านใหญ่อุปกรณ์ซ่อมครบประมาณ 1 ชั่วโมงเสร็จ ต้องรีบบิดตามขบวนหน้าให้ทน เสียเวลามามากละ เดินทางกันต่อเลย.....ลุยยยยยยยยยยยยยยยยย
.
.
.
.
ไม่ได้เก็บภาพตอนขาไปเพราะจดจ่อแต่จะไปให้ทันเวลาพระอาทิตย์ตก พวกผมใช้เส้นทาง พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เลี้ยวขวาแยกแคมป์สน ทางไปเขาค้อ ก่อนถึงเขาค้อก็เลี้ยวขวาอีกที ตรงไปยัง อุทยานฯทุ่งแสลงหลวง จะ งง เส้นทางก็ไม่แปลก ผมอธิบายเองผมยัง งง เอาเป็นว่าขี่รถตามป้าย แต่ผมมีเจ้าถิ่นนำทาง เพื่อนเฟริส บ้านอยู่เขาค้อ ที่จะไปนอนเพื่อนบอกว่าเป็นฝั่งเพชรบูรณ์เพราะจะมีจุดชมวิวทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น อีกฝั่งอยู่พิษณุโลกมั้ง ข้อมูลผิดขอโทษด้วยครับ ผมขับตามขบวนหน้ามาฟ้าเริ่มมืด วันนี้เมฆเยอะมากคงไม่เห็นพระอาทิตย์ตก เห็นแต่แสง ขี่มาได้สักพักใกล้ถึงละ มืดเลยทางเข้าอุทยานฯ บอกระวังช้าง เยดเข้ จะโดนกระทืบไหมเนี่ย ปล.มาก่อนมืดก็ดีนะครับมันเงียบสงบ และมืดมาก ในที่สุดขบวนสุดท้ายก็ถึง รีบไปกลางเต้นท์ เพื่อนส่วนนึงกำลังกางเต้นอยู่.........
อัตราค่าเข้าอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สถานที่พัก บริเวณหน่วยหนองแม่นา ทาง ไปพระตำหนักเขาค้อ อำเภอเขาค้อ มีบ้านพัก จำนวน 5 หลัง ราคา 2,000-2,400 บาท เต็นท์เช่า พักได้ 3-5 คน ราคา 250-400 บาท ในกรณีที่นำเต็นท์มาเอง เสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ ราคา 30บาท/คน/คืน ข้อมูลจากเว็บไซต์อุทยานฯ
สถานที่พัก บริเวณหน่วยหนองแม่นา ทาง ไปพระตำหนักเขาค้อ อำเภอเขาค้อ มีบ้านพัก จำนวน 5 หลัง ราคา 2,000-2,400 บาท เต็นท์เช่า พักได้ 3-5 คน ราคา 250-400 บาท ในกรณีที่นำเต็นท์มาเอง เสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ ราคา 30บาท/คน/คืน ข้อมูลจากเว็บไซต์อุทยานฯ
.
.
.
.
ติดต่อเจ้าหน้าที่สอบถามเกี่ยวกับค่าชมสัตว์ตอนกลางคืน 10 คน 600 บาท แต่คุยกันแล้วพวกเรา ม่ายยยยไป ก็เลยกางเต้นท์เสร็จก็ถึงเวลาการจุดไฟแห่ง "มิตรภาพ" แล้วก็กินข้าวกัน
มาครับทุกคนมากินข้าว วันนี้ มีไก่ดาว ลูกชิ้นปิ้ง ปลากระป่อง สนับสนุนโดย ประธาน ฉายาที่เพื่อนตั้งให้ พ่อๆของเพื่อน
กินอิ่ม มาผ่อนคลายกันหน่อย จิบเป๊ปซี่ พร้อมมันปิ้ง ฮ่าาาาาาาาาา แยกย้ายแบ่งกันไปอาบน้ำ ... มาก็มืดยังไม่ได้สำรวจอะไรเลย !!!!!!
คนนี่แหละเจ้าถิ่น คนถีบรถให้ผม
v
v
ปล. หากใครเที่ยวป่าที่ไกลจากโรงพยาบาล หากรู้ว่าตัวเองมีโรคประจำตัว หรือป่วยง่ายควรเตรียมยาของตัวเองไปด้วย เพราะเพื่อนผมก็เป็น แพ้แมลง เพราะมันก็ไม่รู้ว่ามันแพ้แมลง ครั้งนี้มันโดนมันก็คงรู้เลยว่าตัวเองแพ้แมลง เลยต้องพาไปโรงพยาบาล เขาค้อ ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 20 กว่ากิโล ด้วยความเป็นห่วง อิอิ ควรเตรียมความพร้อมนะครับ
.
.
.
.
หลังจากกลับจากโรงบาลเพื่อนอาการดีขึ้นมาก เราก็แยกย้ายอาบน้ำมานั่งต่อแปป พาลอ๋อง จากทริปเขาหลวงครั้งก่อน เขามาทำข้าวเหนียวจี่ให้กินชั่งใจบุญยิ่งหนัก แต่.......โถ่ถถถถถ แข็งชิบ....... เคาะขวดแก้วยังดังอะ
นั่งเล่นนั่งคุยสักพักก็แยกย้ายกันนอน เก็บแรงพรุ่งนี้ลุยต่อ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นทามกลางทุ่งหญ้าสะวันน่าเมืองไทย ^^
อรุณสวัสเช้าวันแรกของการเดินทาง...ตื่นมาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน หาอะไรกินแก้หนาวหน่อย พี่ร้านค้าเปิดร้านพอดีจัดกาแฟมา 1 แก้ว 10 บาท อร่อยยยย
ร้านค้ามีของขาย เช่น น้ำ ขนม รวมถึงข้าวและกับข้าว
รอเพื่อนพร้อมเราก็ออกเดินทางไปดุพระอาทิตย์ขึ้นกันที่จุดชมวิว ตอนแรกเพื่อนบอกเช่าจักรยานไป ดีนะไม่เอาไปขี่รถมอไชต์ไปดีกว่าคิดถูกแล้ว
3 km กับการปั่นจักยาน !!!! ถ้าปันในบริเวณอุทยานฯ โอเคเลย
ในที่สุดก็ถึงแล้วจุดชมวิว
ผมจะบอกว่า.....ข้างหน้าที่กำลังเห็นมันสวยมาก รูปภาพอาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่ถ้าได้สัมผัสจริงมันจะเยี่ยมมาก
เขาที่เห็นข้างหน้า คือ เขายา เป็นที่ตั้งของพระตำหนักเขาค้อ ซึ่งเราจะไปเยือนตอนบ่าย ได้ออกแรงอีกแล้ว ^^
มาแล้วก็ตั้งจัดรูปหมู่คณะครั้งที่ 1
ชื่นชมบรรยากาศเต็มอิ่มก็ลงไปเก็บของกัน เราต้องไปจับจองที่กลางเต้นท์บนเขาค้อ อีก จึงมีเวลาจำกัด แต่...ผมอยากรู้ว่าข้างบนที่เป็น ทุ่งหญ้านางพญา มันเป็นอย่างไง เฉียดเวลาไปสักแปปก็ได้นะ คงไม่ไกล พอเจอป้ายกลับใจเลย ไว้วันหลังตอนมีเวลาแล้วกันโน๊ะ 8 km
ขี่มอไชต์ลงจากจุดชมวิว ต่อไปเป็นภาพบรรยากาศตอนลงจากจุดชมวิว
เราจะเห็นทุ่งหญ้าแบบนี้ทั่ง 2 ฝั่ง ข้างทาง
แวะถ่ายรูปแปป รถคู่ใจ ไปไหนไปกัน
ถึงบริเวณอุทยานละ เดียวเก็บภาพร้านค้า ห้องน้ำ บริเวณอุทยานให้ดูกันนะครับ
ไปเที่ยวที่ไหนก็อย่าลืมทำตามกฎของ อุทยานฯกันด้วยนะครับ ^^
ร้านค้าจะมีให้บริการ 2 ร้านนะครับ แล้วแต่สะดวก มีให้เช่าจักรยานชั่วโมง 50 มั้ง ได้ยินแว่วๆจากเพื่อน
โปรดช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะครับ ^^
ส่วนห้องน้ำที่นี่แยกชาย หญิง สะอาดดีครับ น้ำเย็นสบาย
ได้เวลาเก็บของ ทำความสะอาดพื้นที่ จ่ายค่าเช่าเต้นท์ เช่าของ เป้าหมายต่อไป กินข้าวที่ "น้ำตกศรีดิษฐ์"
พื้นที่กว้างบริเวณหน้าอุทยานฯ
ภายในอุทยานฯ
หน้าจะเป็นโครงกระดูกช้างที่พบภายในอุทยานฯ
วันนี้อุณหภูมิประมาณ 18 องศา
แวะเก็บแลนมาร์คป้ายหน้าอุทยานฯ
สองล้อพาเพลิน รูปหมู่คณะครั้งที่ 2
รูปหมู่คณะครั้งที่ 3
สตาท รถแล้วมุ่งหน้า "น้ำตกศรีดิษฐ์" หาข้าวเช้ากินกัน
บาย บาย อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) มีโอกาสจะมาเยือนใหม่
ขี่รถออกมาสักพักประมาณ 10 กว่า km ก็ถึง น้ำตกศรีดิษฐ์ หาร้านข้าวกินกัน จะมีร้านข้าวก่อนถึงน้ำตกซึ่งเราต้องเดินเข้าไป มีให้เลือกพอสมควร เราก็เดินมาเรื่อยๆ เลือกร้านนี้และ อาหารรสชาติใช้ได้ราคาไม่แพง 35-40 บาท อาหารตามสั่ง อย่างอื่นก็มี ไก่ย่าง ส้มตำ กับข้าว ลาบ ข้าวเหนียว อาหารแนวๆอยู่ตามน้ำตก ^^ ข้าวคนละจานพอพวกเรา ข้าวผัดไข่ ผัดกระเพาหมูสับ หมูกระเทียม ฮ่าาาาาาาาา
กินอิ่มก็เดินย่อยกันหน่อย เดินไปดูน้ำตก ก่อนถึงน้ำตกก็ถึง ที่ประทับของในหลวง สมัยมาทรงงานที่นี้
เดินเรื่อยก็เจอน้ำตกชั้นบน เดินลงไปอีกก็เจอชั้นล่าง สวยเอาการ ว๊าว ว๊าว ว๊าว
มาเจอ บ้าน ผ.ก.ค น่าจะย่อมาจาก บ้านผู้การคอมมิวนิสต์ ข้อมูลผิดขอโทษมา ณ ที่นี้ ไม่ค่อยรู้ครับ
หลังจากนั่งผ่อนคลายเสร็จเตรียมเก็บของสตาทรถพร้อมไป จองที่กางเต้นท์ไปรษณีย์เขาค้อ คือ ที่ที่เราตกลงกันเมื่อเช้าว่าจะนอนอีกคืน เพื่อนบางคนจะกลับ เจอไม้นี้เข้าไปก็ต้องยอม "เพื่อนอะ มาด้วยกันก็ต้องกลับพร้อมกัน" ฮ่าาาาาา และแล้วก็ลากกันไปยกแก๊งค์ ออกจากน้ำตกก็บิดยาว เขาค้อ เขาค้อ เขาค้อ ผมก็เคยมานะแต่รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งทุกสถานที่ ที่กลับไปเยือน เพราะวันเวลาที่เราไปเยือนไม่สามารถรู้ได้ว่ามันจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน เราจะเจออะไร และที่สำคัญความหวังผมคือ ทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งผมยังไม่เคยได้สัมผัสที่ เขาค้อ ตามล่าทะเลหมอกกัน .... ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ขี่รถมาสักพักก็ถึง ไปรษณีย์เขาค้อ ติดต่อ เรื่องพื้นที่กางเต้น ได้ริมสุดเห็นวิวพอดี แหม่โชคดีจัง เช่าเต้นท์ 1 หลัง หลังละเท่าไรหว่าผมจำไม่ได้ แต่ที่มีเต้นท์ไปเองเขาไม่คิดเป็นเต้นท์แต่คิดรายหัว หัวละ 50 บาท ส่วนที่นี้มีแค่ผ้าห่ม กับเตาปิ้งย่างให้เช่า และที่สำคัญมีที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ ชั่วโมงละ 10 บาท ห้องน้ำก็โอเค ส่วนมากหลายคนคงเคยมาเที่ยว มาดูทะเลหมอกที่เขาค้อกันมากมาย เพราะเป็นสถานที่เข้ามาโดยรถยนต์ รถมอต์ไชต์ ได้ง่าย ไปกางเต้นท์ดีกว่า พริ้ววววววววววววว
กางเต้นเสร็จ หาข้าวกลางวันกิน แล้วเป้าหมายของวันนี้ คือ พระตำหนักเขาค้อ > ขึ้นเขาย่า>ฐานอิทธิ (พิพิธภัณฑ์อาวุธ)>และสุดท้ายดูพระอาทิตย์ตกที่ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ โปรแกรมวันนี้
เจ้าถิ่นพามาอร่อย ได้เยอะ ไม่แพง จำทางไม่ได้ประเด็นเลยกลัวบอกรีวิวไปผิด ขอโทษด้วยค่าบบบบบ
กินอิ่มก็ขี่รถต่อเลยมุ่งหน้าไปพระตำหนักเขาค้อ พอถึงก็ไปเตรียมตัวซื้อน้ำเอาไว้กินตอนขึ้น ระยะทางขึ้นประมาณ 700 เมตร เช็คความพร้อม หน้าตาก่อนขึ้น ถ่ายรูปคณะครั้งที่ 4 แชะ แชะ
1 2 3 แชะ ยังไหว ฮ่าาาาาา ไม่ไหวได้ไงพึ่งได้ 10 เมตร รอดูตอนต่อไป จับตาเฮียหมูคนที่ตัวเล็กที่สุด เขาบอกจิบๆ เพราะเขาจบ รด.5 ปี มา ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ดูสภาพเอาเหอะ โทษแต่เพื่อนสั่งอาหารให้ผิดบอกเอาเผ็ดๆไม่ใช่พิเศษ จัดมาเต็มเลยแน่นท้องเดินไม่ไหวบ่นตลอดทางเลยครับ ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เฮียหมูกับเฮียบัสท่าเดียวกันเลย ผมละขำ
เดินขึ้นมาสักพักก็ถึงแล้วยอดเขาย่ามีศาลาไว้ให้นั่งชมวิวเขาค้อ สวยจริงๆ บางคนอาจไม่รู้ว่ามีแบบนี้ด้วย^^
นั่งพักพอสมควร เวลาเดินไวมากแปปๆ 3-4 โมงเย็น เราเลยตกลงกันว่าไม่เข้าฐานอิทธิ แต่จะไปดูพระอาทิตย์ตกที่อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ ก่อนลงก็จัดหนึ่งภาพ รูปหมู่คณะรูปที่ 5 บนยอดเขาย่า
เช็คหน้าตา ขณะลงมาถึงข้างล่าง รูปหมู่คณะ รูปที่ 6 หลังจากลงเขาย่า สภาพสดชื่นทุกคน
เดินลงมาข้างล่าง ไม่ได้เข้าไปในพระตำหนัก แต่ก็ถ่ายคู่กับแลนมาร์ค รูปหมู่คณะ รูปที่ 7 พระตำหนักเขาค้อ
เตรียมพร้อมแล้วก็ ไป ไป ไป อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ ถึงก็แชะถาพเลยแสงจะหมดแล้ว รูปหมุ่คณะ รูปที่ 8 ที่อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ
บรรยากาศโดยรอบ
รูปหมู่คณะ รูปที่ 9
เดินไปเดินมาก็ใกล้มืดเพื่อนบางส่วนก็กลับที่พัก ชื้ออาหารการกินของค่ำคืนนี้ แต่......ผมยังกับเพื่ออีก 3 คน ยังรอดูพระอาทิตย์ตกก่อนเดียวตามไปฮ้าบบบบบบบบบบ ส่วนของกินมีขายตลอดรวมทั้งของสดมีร้านค้าขายใกล้บริเวณที่พัก มีให้เลือกหลายร้านแล้วแต่เราสะดวก
รอ รอ รอ สรุปวันนี้เมฆเยอะตามเคย เห็นแต่แสงงั้นถ่ายววิวก็ได้
หลังจากไม่เห็นพระอาทิตย์ตกก้กลับมาที่พัก ช่วยกันซื้อของ หาของกิน จ่ายค่าเต้นท์ ค่าผ้าห่ม หลังจากกินข้าวเสร็จ อาบน้ำ ผมก็กินยาแยกย้ายนอนเลยรู้สึกจะแย่เดียวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเที่ยว ส่วนเพื่อนก็นั่งดื่ม นั่งเล่นปกติ ที่นี้งดใช้เสียงดังๆหลัง 22.00 น. เจอกันเช้าที่สองขอให้เจอทะเลหมอกเต็มๆตาบนเขาค้อสักทีเถอะ
สวัสดีเช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง หวังว่าจะเจอทะเลหมอก เอาหัวออกมาจากเต้นท์ ตื่นเพราะคณะทัวร์นักศึกษาตื่นกันตั้งแต่ตี 5 แต่วันนี้ตื่นมารู้สึกสดชื่น ผมก็ลุกมาตั้งกล้องคิดว่าหมอกมันจะไหล เพราะเห็นมันเริ่มไหลๆ ไปรอตรงรัวเหล็กก็แล้ว ที่ไหนได้ไม่มา เห็นเพียงแค่นี้ รู้สึกเสียดาย แต่ไม่เป็นไรครั้งหน้าเราเจอกัน
ตัดสินใจขี่รถขึ้นไปบนอนุสรณ์สถานผู้เสียสละดีกว่า เห็นไอหมอกไหลผ่านเยอะเพราะอยู่ที่สูง เย็น กับ เช้า บรรยากาศชั่งแตกต่างตามช่วงเวลา สวยคนละแบบ
จุดชมวิว
สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด....กลับที่พักกัน
กลับมาถึงที่พักฝนทำถ้าจะตก สักพักตกเลยแต่ไม่หนักเก็บเต้นท์เพื่อความปลอดภัย เก็บเต้นท์ฝนหยุดเลย ฝากของตรงไปรษณีย์แล้วก็ไปอาบน้ำกัน คืนของ ทำภารกิจเสร็จก็รูปหมู่คณะ รูปที่ 10 ไปรษณีย์เขาค้อ
แวะกินข้าวร้านเดิม ก่อนจะกลับ เป้าหมายต่อไปคือ เจดีย์กาญจนาภิเษก วัดผาซ่อนแก้ว พิโนลาเต้ รูท12
แวะไหว้พระขอพร
เป้าหมายต่อมา วัดผาซ่อนแก้ว ผมเคยมาแล้ว รีวิวไปกระทู้ก่อน เลยรอเพื่อนดีกว่า แต่ด้านพระเจ้า 5 พระองค์ เปิดเลยไปขอถ่ายรูปสักหน่อย แล้วก็เดินขึ้นมารอเพื่อน กินติมตัดขาไป 1 แท่ง ขอกลับอีก 1 แท่ง เหนียวปากเลย ฮ่าาาาาาาาาา
ไหว้พระขอพรเก็บภาพเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่ พีโนลาเต้ ไปเก็บวิวสวยๆ แต่ไม่ได้อุดหนุนร้านคนเยอะมาก
มิตรภาพสองล้อ
ออกจากพิโนลาเต้ ก็เติมน้ำมันให้เต็มถัง แล้วมุ่งหน้ารูท12 ไม่ได้ถ่ายรูปรีวิว เพราะรีวิวอันเก่า ก็เลยได้เขียนโปสการ์ด แล้วกินไอ้ลูกกลมเป็นไม้ เขาเรียกว่า โป่งเหน่ง ใช่ป่าวไม่รู้ ทำธุระเสร็จเราก็มุ่งหน้ากลับพิษณุโลก ไปทำหน้าที่ของตัวเองหลังจากพักผ่อนมา 3 วันแล้ว ^^
.
.
.
.
.
เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้ นอกจากรอยเท้า
เราจะไม่เก็บอะไรไป นอกจากภาพถ่าย
((((((เที่ยวเมืองไทยมีสถานที่สวยงามอีกมากมาย)))))))
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip