จขกท. เพิ่งไปพักที่ Golden Lake View Boutique Resort มาค่ะ
ก่อนไปก็หารีวิวอ่านจากที่ห้องบลูฯ นี่แหละ ซึ่งเจอน้อยมาก
ก็ยังลังเลอยู่นะว่าเลือกดีไม่เลือกดี สุดท้ายก็เลือกค่ะ
เพราะเห็นคะแนนที่นักท่องเที่ยวให้ในเว็บต่างๆ ค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี
โดยวิธีการจองที่ใช้ในครั้งนี้ เราจองผ่านแอพพลิเคชั่น "HotelQuickly"
ที่ใช้แอพนี้เพราะน้องแนะนำมาและเราก็บังเอิญไปเจอโค๊ดส่วนลดที่เค้าแจกกันในเนต
เห็นว่าบางคนก็จองได้ บางคนก็จองแล้วมีปัญหา เราเองก็เป็นพวกชอบลองของ เลยเอาซะหน่อย
งั้นขอเริ่มที่ขั้นตอนการจองโรงแรมผ่าน HotelQuickly ก่อนเลยนะคะ
สำหรับคนที่สนใจจะใช้แอพฯนี้ และต้องการโค๊ดส่วนลด สามารถใช้โค๊ด APRIN8 ได้เลย
คำแนะนำในการจอง : หลังจากจองแล้วควรติดต่อกับที่พักโดยตรงเพื่อตรวจสอบว่าการจองของเราเรียบร้อยดี จะได้ไม่มีปัญหาเวลาเข้าเช็คอินค่ะ
ในส่วนต่อไปจะมารีวิวสถานที่พักกันบ้างจ้า
ถ้าชอบก็กดถูกใจ ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็กดโหวตได้นะคะ
มาดูในส่วนของที่พักกันบ้าง ขอเริ่มจากชื่อโรงแรมก่อนเลยค่ะ
ชื่อในแอพพลิเคชั่นใช้ชื่อ “Golden Lake View Boutique Resort”
แต่ในหน้าเว็บของตัวโรงแรมเองภาษาไทยจะใช้ว่า “โกลเด้น เลควิว รีสอร์ท”
อย่าสับสนไปค่ะ สองชื่อนี้คือที่เดียวกัน (เพราะเราสับสนมาแล้ว )
เริ่มที่การเดินทางไปยังรีสอร์ท ขออนุญาตใช้ข้อมูลจากที่ทางรีสอร์ทส่งเมล์มาให้เลยละกัน
เพราะหลังจากที่เราจองที่พักผ่านแอพฯเสร็จประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็ได้โทรหาทางโรงแรมเพื่อยืนยันว่าโรงแรมได้รับการจองของเราแล้ว
และเราก็ขอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่พัก ต้องบอกว่าสถานที่แนะนำทั้งหลายอยู่ห่างกับที่พักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลเมตรทั้งนั้นเลยค่ะ
การเดินทางในครั้งนี้ กว่าจะออกเดินทางก็สายโด่งเลยค่ะ
เลยแวะไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือกันก่อน และก็ได้รู้ว่าวัดถ้ำเสือกับวัดถ้ำเขาน้อยอยู่ติดกัน
ถ้ามีเวลาแนะนำให้เดินขึ้นไปชมทั้งสองวัด
เดินขึ้นไปชมวิหาร 7 ชั้นของวัดถ้ำเขาน้อย
และขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุในวิหารสูงๆของวัดถ้ำเสือ
บนนั้นถ้ามองออกมาด้านนอก วิวสวยมากค่ะ
ทางขึ้นวิหาร 7 ชั้น วัดถ้ำเขาน้อย
ภาพจากยอดวิหารที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดถ้ำเสือ
ทางเข้าวิหาร วัดถ้ำเสือ
แมววัด
กลับมาต่อกันที่วิวระหว่างทางจากวัดถ้ำเสือเข้าไปที่รีสอร์ทกัน
หลังจากใช้เวลาอยู่ในวัดทั้งสองไปกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที
ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะเข้าที่พักกันแล้วค่ะ (เวลา ณ ขณะนั้นคือ 16.30 น.)
ระยะทางจากวัดถ้ำเสือไปยัง Golden Lake View Boutique Resort ดูตามแผนที่ได้เลย
จากแผนที่ ถ้าขับด้วยความเร็วปกติประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ แต่เราขับกันแบบชิวมาก
ค่อยๆไป ไม่รีบร้อน เจอวิวตรงไหนสวยก็จอดถ่าย เพราะถนนทั้งเส้นแทบจะเป็นของเราแล้ว
นานๆจะมีรถขับสวนเราไปซักคันนึง ที่ตามหลังเรามาก็แทบไม่มีเลย
เพราะงั้นเลยจอดแอบข้างทางได้ง่ายหน่อย
วิวส่วนใหญ่จะเป็นท้องทุ่ง ปลูกต้นอะไรไม่รู้ แต่แค่ได้เห็นสีเขียวๆสุดลูกหูลูกตาเราก็สบายใจละ
แดดก็ไม่แรงเท่าไหร่ พระอาทิตย์ท่านคงจะเริ่มขี้เกียจบ้างละ ก้อนเมฆก็เป็นใจมาช่วยบังแสงอีกต่างหาก
บางทีเราถ้าเราเงยหน้ามองท้องฟ้าบ้าง เราก็อาจจะได้เห็นเมฆรูปร่างแปลกตาเหมือนกัน
ถึงแล้วจ้า Golden Lake View Boutique Resort
พอจอดรถได้เราก็เข้าเช็คอินทันที ขอพักร่างแป๊บนึง
สำหรับห้องพักที่เราได้ในครั้งนี้ ชื่อ "บ้านดอกปีบ"
มองภายนอกเหมือนบ้านไม้แต่เมื่อเข้าไปข้างในผนังก็เป็นปูนเหมือนทั่วๆไป
แอบถามจากเจ้าหน้าที่ว่าราคาปกติอยู่ที่เท่าไหร่
ได้ข้อมูลมาว่าห้องนี้ปกติอยู่ที่ 1500 บาท ช่วงนี้ตามเว็บจองโรงแรมจะอยู่ที่ 1200 บาท
แต่เราจองผ่านแอพฯ HotelQuickly และใช้โค๊ดส่วนลดเหลืออยู่ที่ 615.33 บาท รวมอาหารเช้าแล้วด้วย คุ้มสุดๆค่ะ
ภายนอกของบ้านดอกปีบ ในบรรยากาศของเช้าวันถัดมา
หน้าห้องที่เราพักค่ะ
ภายในห้องก็กว้างขวางดี อยู่แล้วไม่อึดอัด
ห้องน้ำเป็นแบบฝักบัวค่ะ ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งชัดเจนดี
ในห้องพักก็มีของทุกอย่างเกือบครบนะคะ ขาดไปอย่าง
ไม่แน่ใจว่าไม่มีหรือเราหาไม่เจอ นั่นคือตู้เย็นค่ะ
แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะบรรยากาศที่นี่ทดแทนกันไปแล้ว
พักร่างแป๊บนึงเราก็ออกไปว่ายน้ำ สระว่ายน้ำไม่เล็กไม่ใหญ่ ตั้งอยู่หน้าบ้านเลย
เก็บภาพจากมุมมองหน้าห้องพักมาแทนนะคะ กลัวว่าถ้าเอารูปตัวเองลงแล้วท่านผู้อ่านจะอ้วกเอา 555
หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวไปทานมื้อเย็นกัน
เราแจ้งเวลาว่าจะทานมื้อเย็นตอน 1 ทุ่ม พอไปถึงที่โต๊ะอาหารก็แจ้งชื่อของเรา
เลือกทำเลที่นั่งให้เรียบร้อย นั่งรอไปสักพักอาหารก็มาค่ะ
ตรงที่ทานอาหาร ทางรีสอร์ทเรียกว่าสโมสรค่ะ ปิดตอน 4 ทุ่ม บรรยากาศยามค่ำคืนก็ประมาณนี้
มีโซนที่ติดริมน้ำด้วย แต่เราไม่ได้ไปนั่งตรงนั้นเพราะวันนั้นมีแขกจองไว้แล้วค่ะ แอบเสียดายเล็กๆ แต่ไม่เป็นไร ไว้รอบหน้าละกัน
ระหว่างรออาหารก็ถ่ายบรรยากาศไปเรื่อย ตาก็สอดส่ายไปเจอบ้านหลังใหญ่ที่เข้าพักได้ 8 คน สวยดีเหมือนกันค่ะ
ในที่สุดอาหารก็มาแล้วจ้า เราไปกัน 2 คน เลยสั่งอาหารมา 3 อย่าง มีปลากระพงทอดน้ำปลา หมูมะนาว และไข่เจียวโกลเด้น เราชอบรสชาติอาหารที่นี่นะ อร่อยดี ดูจากหลักฐานก็ได้ค่ะ คุณผู้ชายจัดซะปลาแทบจะเหลือแต่หัว
อิ่มแล้วค่ะ คืนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว เดี๋ยวมาต่ออาหารเช้ากัน
มาต่อกันที่มื้อเช้าค่ะ จริงๆก็ตั้งใจจะตื่นมารอถ่ายวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นนะ
ตั้งนาฬิกาไว้ 6 โมงเช้าก็ตื่นนะ แง้มม่านดูนิดนึง อืม..ฟ้ายังมืดอยู่เลย
งั้นหลับต่ออีกแป๊บละกัน ตื่นมาอีกที 7 โมง พระอาทิตย์กลมดิ๊กเลยจ้า
โดดเด่นซะจนถ่ายไปก็ย้อนแสง มืดตื๋อเลย
มาดูที่อาหารเช้ากันค่ะ
เราถามจากเจ้าหน้าที่ที่รีสอร์ทมา เค้าบอกว่าถ้าวันไหนคนเยอะก็จะจัดแบบบุฟเฟ่ต์
แต่ถ้าคนน้อยก็จะจัดเป็นเซตให้ ถ้าไม่อิ่มก็สามารถเติมได้ค่ะ
วันที่เราไปมีแขกเข้าพักตั้ง 30คน เลยได้กินแบบบุฟเฟ่ต์
อาหารอร่อยอีกแล้ว เราชอบน้ำกระเจี๊ยบของที่นี่ค่ะ อร่อยดี ไม่หวานแสบคอ
มีเนยถั่วกับนูเทลล่าให้ทาขนมปังด้วย
กินไปเยอะเหมือนกันนะ แทบจะทุกอย่างในไลน์อาหารเลย แต่ถ่ายมาแค่นี้พอ
ทานมื้อเช้าเสร็จแล้วเราก็เตรียมตัวเช็คเอาท์กันค่ะ
ก่อนออกจากที่พักก็ขอเก็บบรรยากาศรอบๆอีกสักนิด
มีจักรยานให้ปั่นฟรีด้วยนะคะ
หลังจากที่เรามาพักที่นี่เราก็คิดเลยว่าจะกลับมาทำรีวิว
สาเหตุส่วนนึงมาจากการที่เราหาข้อมูลก่อนมาที่นี่แล้วมันมีรีวิวให้ดูน้อย
และอีกส่วนที่คิดว่าทำรีวิวเถอะ คือ พนักงานที่นี่อัธยาศัยดีมากค่ะ
สอบถามอะไรไป ขออะไรไป เขาตอบรับกลับมาด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่เป็นมิตร
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทางรีสอร์ทควรรักษาเอาไว้ให้เป็นมาตรฐานเลย
และสิ่งที่ชอบมากสำหรับที่นี่คือบรรยากาศโดยรวม
ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย
สังคมเมืองที่แออัด รถติด ได้กลิ่นแต่ควันรถ ได้ยินแต่เสียงรถวิ่งในตอนกลางคืน
เพราะถ้าคุณมาพักที่นี่ ตอนกลางคืนคุณจะได้ยินแต่เสียงแมลง
ตอนเช้าๆก็ได้ยินแต่เสียงนกเขา ช่างสงบดีจริงๆค่ะ
และที่สำคัญสำหรับคนรักน้องหมา ที่นี่สามารถนำสุนัขมาพักกับเราได้ด้วยค่ะ
ตอนที่เราไปพักก็มีคนนำน้องหมามาพักด้วย เป็นชิวาว่าตัวน้อยน่ารักเชียว
แนะนำเลยค่ะสำหรับคนมีรถและอยากพักผ่อนแบบสงบๆ
จบแล้วค่ะ ในส่วนของที่พักและการจองโรงแรมผ่านแอพฯ HotelQuickly
ที่เหลือเป็นภาพเก็บตกจากสะพานข้ามแม่น้ำแควและบริเวณรอบๆค่ะ
เหมือนว่าเค้าจะเพิ่งเปิดโซน Japan ด้วย
งั้นก็ปิดกระทู้ด้วยภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครไปกาญจนบุรีก็คงต้องแวะไปถ่ายรูปเช็คอินกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. Mhoo-Paoom
ก่อนไปก็หารีวิวอ่านจากที่ห้องบลูฯ นี่แหละ ซึ่งเจอน้อยมาก
ก็ยังลังเลอยู่นะว่าเลือกดีไม่เลือกดี สุดท้ายก็เลือกค่ะ
เพราะเห็นคะแนนที่นักท่องเที่ยวให้ในเว็บต่างๆ ค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี
โดยวิธีการจองที่ใช้ในครั้งนี้ เราจองผ่านแอพพลิเคชั่น "HotelQuickly"
ที่ใช้แอพนี้เพราะน้องแนะนำมาและเราก็บังเอิญไปเจอโค๊ดส่วนลดที่เค้าแจกกันในเนต
เห็นว่าบางคนก็จองได้ บางคนก็จองแล้วมีปัญหา เราเองก็เป็นพวกชอบลองของ เลยเอาซะหน่อย
งั้นขอเริ่มที่ขั้นตอนการจองโรงแรมผ่าน HotelQuickly ก่อนเลยนะคะ
สำหรับคนที่สนใจจะใช้แอพฯนี้ และต้องการโค๊ดส่วนลด สามารถใช้โค๊ด APRIN8 ได้เลย
คำแนะนำในการจอง : หลังจากจองแล้วควรติดต่อกับที่พักโดยตรงเพื่อตรวจสอบว่าการจองของเราเรียบร้อยดี จะได้ไม่มีปัญหาเวลาเข้าเช็คอินค่ะ
ในส่วนต่อไปจะมารีวิวสถานที่พักกันบ้างจ้า
ถ้าชอบก็กดถูกใจ ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็กดโหวตได้นะคะ
มาดูในส่วนของที่พักกันบ้าง ขอเริ่มจากชื่อโรงแรมก่อนเลยค่ะ
ชื่อในแอพพลิเคชั่นใช้ชื่อ “Golden Lake View Boutique Resort”
แต่ในหน้าเว็บของตัวโรงแรมเองภาษาไทยจะใช้ว่า “โกลเด้น เลควิว รีสอร์ท”
อย่าสับสนไปค่ะ สองชื่อนี้คือที่เดียวกัน (เพราะเราสับสนมาแล้ว )
เริ่มที่การเดินทางไปยังรีสอร์ท ขออนุญาตใช้ข้อมูลจากที่ทางรีสอร์ทส่งเมล์มาให้เลยละกัน
เพราะหลังจากที่เราจองที่พักผ่านแอพฯเสร็จประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็ได้โทรหาทางโรงแรมเพื่อยืนยันว่าโรงแรมได้รับการจองของเราแล้ว
และเราก็ขอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่พัก ต้องบอกว่าสถานที่แนะนำทั้งหลายอยู่ห่างกับที่พักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลเมตรทั้งนั้นเลยค่ะ
การเดินทางในครั้งนี้ กว่าจะออกเดินทางก็สายโด่งเลยค่ะ
เลยแวะไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือกันก่อน และก็ได้รู้ว่าวัดถ้ำเสือกับวัดถ้ำเขาน้อยอยู่ติดกัน
ถ้ามีเวลาแนะนำให้เดินขึ้นไปชมทั้งสองวัด
เดินขึ้นไปชมวิหาร 7 ชั้นของวัดถ้ำเขาน้อย
และขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุในวิหารสูงๆของวัดถ้ำเสือ
บนนั้นถ้ามองออกมาด้านนอก วิวสวยมากค่ะ
ทางขึ้นวิหาร 7 ชั้น วัดถ้ำเขาน้อย
ภาพจากยอดวิหารที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดถ้ำเสือ
ทางเข้าวิหาร วัดถ้ำเสือ
แมววัด
กลับมาต่อกันที่วิวระหว่างทางจากวัดถ้ำเสือเข้าไปที่รีสอร์ทกัน
หลังจากใช้เวลาอยู่ในวัดทั้งสองไปกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที
ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะเข้าที่พักกันแล้วค่ะ (เวลา ณ ขณะนั้นคือ 16.30 น.)
ระยะทางจากวัดถ้ำเสือไปยัง Golden Lake View Boutique Resort ดูตามแผนที่ได้เลย
จากแผนที่ ถ้าขับด้วยความเร็วปกติประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ แต่เราขับกันแบบชิวมาก
ค่อยๆไป ไม่รีบร้อน เจอวิวตรงไหนสวยก็จอดถ่าย เพราะถนนทั้งเส้นแทบจะเป็นของเราแล้ว
นานๆจะมีรถขับสวนเราไปซักคันนึง ที่ตามหลังเรามาก็แทบไม่มีเลย
เพราะงั้นเลยจอดแอบข้างทางได้ง่ายหน่อย
วิวส่วนใหญ่จะเป็นท้องทุ่ง ปลูกต้นอะไรไม่รู้ แต่แค่ได้เห็นสีเขียวๆสุดลูกหูลูกตาเราก็สบายใจละ
แดดก็ไม่แรงเท่าไหร่ พระอาทิตย์ท่านคงจะเริ่มขี้เกียจบ้างละ ก้อนเมฆก็เป็นใจมาช่วยบังแสงอีกต่างหาก
บางทีเราถ้าเราเงยหน้ามองท้องฟ้าบ้าง เราก็อาจจะได้เห็นเมฆรูปร่างแปลกตาเหมือนกัน
ถึงแล้วจ้า Golden Lake View Boutique Resort
พอจอดรถได้เราก็เข้าเช็คอินทันที ขอพักร่างแป๊บนึง
สำหรับห้องพักที่เราได้ในครั้งนี้ ชื่อ "บ้านดอกปีบ"
มองภายนอกเหมือนบ้านไม้แต่เมื่อเข้าไปข้างในผนังก็เป็นปูนเหมือนทั่วๆไป
แอบถามจากเจ้าหน้าที่ว่าราคาปกติอยู่ที่เท่าไหร่
ได้ข้อมูลมาว่าห้องนี้ปกติอยู่ที่ 1500 บาท ช่วงนี้ตามเว็บจองโรงแรมจะอยู่ที่ 1200 บาท
แต่เราจองผ่านแอพฯ HotelQuickly และใช้โค๊ดส่วนลดเหลืออยู่ที่ 615.33 บาท รวมอาหารเช้าแล้วด้วย คุ้มสุดๆค่ะ
ภายนอกของบ้านดอกปีบ ในบรรยากาศของเช้าวันถัดมา
หน้าห้องที่เราพักค่ะ
ภายในห้องก็กว้างขวางดี อยู่แล้วไม่อึดอัด
ห้องน้ำเป็นแบบฝักบัวค่ะ ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งชัดเจนดี
ในห้องพักก็มีของทุกอย่างเกือบครบนะคะ ขาดไปอย่าง
ไม่แน่ใจว่าไม่มีหรือเราหาไม่เจอ นั่นคือตู้เย็นค่ะ
แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะบรรยากาศที่นี่ทดแทนกันไปแล้ว
พักร่างแป๊บนึงเราก็ออกไปว่ายน้ำ สระว่ายน้ำไม่เล็กไม่ใหญ่ ตั้งอยู่หน้าบ้านเลย
เก็บภาพจากมุมมองหน้าห้องพักมาแทนนะคะ กลัวว่าถ้าเอารูปตัวเองลงแล้วท่านผู้อ่านจะอ้วกเอา 555
หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวไปทานมื้อเย็นกัน
เราแจ้งเวลาว่าจะทานมื้อเย็นตอน 1 ทุ่ม พอไปถึงที่โต๊ะอาหารก็แจ้งชื่อของเรา
เลือกทำเลที่นั่งให้เรียบร้อย นั่งรอไปสักพักอาหารก็มาค่ะ
ตรงที่ทานอาหาร ทางรีสอร์ทเรียกว่าสโมสรค่ะ ปิดตอน 4 ทุ่ม บรรยากาศยามค่ำคืนก็ประมาณนี้
มีโซนที่ติดริมน้ำด้วย แต่เราไม่ได้ไปนั่งตรงนั้นเพราะวันนั้นมีแขกจองไว้แล้วค่ะ แอบเสียดายเล็กๆ แต่ไม่เป็นไร ไว้รอบหน้าละกัน
ระหว่างรออาหารก็ถ่ายบรรยากาศไปเรื่อย ตาก็สอดส่ายไปเจอบ้านหลังใหญ่ที่เข้าพักได้ 8 คน สวยดีเหมือนกันค่ะ
ในที่สุดอาหารก็มาแล้วจ้า เราไปกัน 2 คน เลยสั่งอาหารมา 3 อย่าง มีปลากระพงทอดน้ำปลา หมูมะนาว และไข่เจียวโกลเด้น เราชอบรสชาติอาหารที่นี่นะ อร่อยดี ดูจากหลักฐานก็ได้ค่ะ คุณผู้ชายจัดซะปลาแทบจะเหลือแต่หัว
อิ่มแล้วค่ะ คืนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว เดี๋ยวมาต่ออาหารเช้ากัน
มาต่อกันที่มื้อเช้าค่ะ จริงๆก็ตั้งใจจะตื่นมารอถ่ายวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นนะ
ตั้งนาฬิกาไว้ 6 โมงเช้าก็ตื่นนะ แง้มม่านดูนิดนึง อืม..ฟ้ายังมืดอยู่เลย
งั้นหลับต่ออีกแป๊บละกัน ตื่นมาอีกที 7 โมง พระอาทิตย์กลมดิ๊กเลยจ้า
โดดเด่นซะจนถ่ายไปก็ย้อนแสง มืดตื๋อเลย
มาดูที่อาหารเช้ากันค่ะ
เราถามจากเจ้าหน้าที่ที่รีสอร์ทมา เค้าบอกว่าถ้าวันไหนคนเยอะก็จะจัดแบบบุฟเฟ่ต์
แต่ถ้าคนน้อยก็จะจัดเป็นเซตให้ ถ้าไม่อิ่มก็สามารถเติมได้ค่ะ
วันที่เราไปมีแขกเข้าพักตั้ง 30คน เลยได้กินแบบบุฟเฟ่ต์
อาหารอร่อยอีกแล้ว เราชอบน้ำกระเจี๊ยบของที่นี่ค่ะ อร่อยดี ไม่หวานแสบคอ
มีเนยถั่วกับนูเทลล่าให้ทาขนมปังด้วย
กินไปเยอะเหมือนกันนะ แทบจะทุกอย่างในไลน์อาหารเลย แต่ถ่ายมาแค่นี้พอ
ทานมื้อเช้าเสร็จแล้วเราก็เตรียมตัวเช็คเอาท์กันค่ะ
ก่อนออกจากที่พักก็ขอเก็บบรรยากาศรอบๆอีกสักนิด
มีจักรยานให้ปั่นฟรีด้วยนะคะ
หลังจากที่เรามาพักที่นี่เราก็คิดเลยว่าจะกลับมาทำรีวิว
สาเหตุส่วนนึงมาจากการที่เราหาข้อมูลก่อนมาที่นี่แล้วมันมีรีวิวให้ดูน้อย
และอีกส่วนที่คิดว่าทำรีวิวเถอะ คือ พนักงานที่นี่อัธยาศัยดีมากค่ะ
สอบถามอะไรไป ขออะไรไป เขาตอบรับกลับมาด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่เป็นมิตร
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทางรีสอร์ทควรรักษาเอาไว้ให้เป็นมาตรฐานเลย
และสิ่งที่ชอบมากสำหรับที่นี่คือบรรยากาศโดยรวม
ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย
สังคมเมืองที่แออัด รถติด ได้กลิ่นแต่ควันรถ ได้ยินแต่เสียงรถวิ่งในตอนกลางคืน
เพราะถ้าคุณมาพักที่นี่ ตอนกลางคืนคุณจะได้ยินแต่เสียงแมลง
ตอนเช้าๆก็ได้ยินแต่เสียงนกเขา ช่างสงบดีจริงๆค่ะ
และที่สำคัญสำหรับคนรักน้องหมา ที่นี่สามารถนำสุนัขมาพักกับเราได้ด้วยค่ะ
ตอนที่เราไปพักก็มีคนนำน้องหมามาพักด้วย เป็นชิวาว่าตัวน้อยน่ารักเชียว
แนะนำเลยค่ะสำหรับคนมีรถและอยากพักผ่อนแบบสงบๆ
จบแล้วค่ะ ในส่วนของที่พักและการจองโรงแรมผ่านแอพฯ HotelQuickly
ที่เหลือเป็นภาพเก็บตกจากสะพานข้ามแม่น้ำแควและบริเวณรอบๆค่ะ
เหมือนว่าเค้าจะเพิ่งเปิดโซน Japan ด้วย
งั้นก็ปิดกระทู้ด้วยภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครไปกาญจนบุรีก็คงต้องแวะไปถ่ายรูปเช็คอินกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. Mhoo-Paoom