รีวิว เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ สามร้อยยอด ครั้งแรก...เกินบรรยาย

สวัสดีครับทุกท่าน ปกติไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนหรือมา Review กับเค้าสักเท่าไร ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขอโทษด้วยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า...ย้อนหลังไปเมื่อเสาร์ที่แล้วพอดีได้ไปประจวบคีรีขันธ์กับพี่ที่ทำงานมา ไปกัน3คน อัดไปในรถ Mazda2 
ออกเดินทางก่อนไก่โห่ เวลา 3.00 น. (มันง่วงมากมายแต่ใจเกินร้อย สู้ตาย) แพลนเราคืนไม่มีแพลน รู้แต่ว่าต้องไป
เขา 3 ร้อยยอด...และอื่นๆ ไปนึกกันบนรถ ... นั่งไปเรื่อยๆ ตรงไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อน จะไปไหนดีล่ะ ...พี่ท่านเสนอ
ไปอ่าวตะบูน จังหวัดเพชรบุรี...ใช้เวลาเดินทาง  ประมาณ3ชั่วโมง และ ขับไปเรื่อย ถึงอ่าว ประมาณ...5.30 น. ตื่นเต้นๆ เตรียมพร้อม
จอดมันหน้า 7-11 เนี่ยและหาของกินแปป เสดแล้วไม่หลับมันแล้วเพราะพระอาทิตย์ใกล้โผล่ขอบฟ้า แระ เลยเตรียมกล้องคู่ใจ
ออกมา ต่างคน ต่างแยกย้ายหาจุดของแต่ละคน จากที่ได้เดินไปถามคนแถวนั้น ทราบว่าจุดบนสะพานจะสวยที่สุด ไม่รู้จริงรึเปล่า
หากท่านใดรู้มุมอื่น เมนท์มาบอกหน่อยนะ เวลา 5.45 มันส์เริ่มขึ้นมาแล้วเอาล่ะวะ ปักหลัก..รอ...แล้วก็รอ




หลังถ่ายรูปเสด ก็เดินกลับมานั้งหน้า 7-11 กินๆ และกิน ลืมบอกไปว่าทริปนี้เราตั้งงบเดินทางไว้ที่ 1,500 บาท
น้องที่ทำงานบอกทริปซัมเหมาเหรอพี่...555 (เด่วรู้...)  อิ่มท้อง ออกเดินทาง แล่นผ่านนาเกลือ 2 ข้างทางสวยมาก
ใครไปลองจอดแวะถ่ายรูปดูนะ สวยมาก แต่ก็ร้อนมากด้วย ขับไปๆๆ ถึงจุดหมายแรกร้านกาแฟจำชื่อไม่ได้รู้แต่อยู่ใกล้
สถานีรถไฟเพชรบุรี มันเปิดเวลา 10.00 น. เลยแวะเยี่ยมชานชลารถไฟก่อน







     หลังจากนั้นขับไปร้านกาแฟปรากฎว่าปิดครับ 555...จุดหมายแรกของวันล้มเหลว  ไม่เปนไรเบนเข็มไปเป็น Amezon แล้วกัน
ถ้าปิดอีกให้มันรู้ไป  หลังจากนั่งจิบกาแฟ Slow life กันเต็มที่...จุดหมายต่อไปคือ  บึงบัว...ตั้งใจว่าอาจจะมานอนที่นี่
ซื้อบัตรเข้าอุทยาน ใบละ 50 ครับ ไม่รู้รวมค่ารถรึเปล่ารวม 150 บาท ซึ่งใครซื้อบัตรแล้วสามารถเข้าชมหาดแหลมศาลาได้ฟรี
ครับซึ่งจุดหมายที่เราไปต่อหลังจากเข้าไป survey ที่บึงบัวแล้วคือเขาล้อมหมวกนั่นเอง ขับรถไป 60 กว่าโลได้
พอถึงจุดหมายเตรียมของเตรียมน้ำฉีด ซอฟเฟลเรียบร้อย ตั้งใจดูพระอาทิตย์ตกสุดงามที่นี่ พอไปถึง ทางขึ้นเท่านั้นแหละ
เซ็งอย่างแรงเนื่องจาก มีป้ายปิดห้ามเข้า เนื่องจากซ่อมแซม ทางครับ หลังจากผิดหวังกัน3คน นึกอยู่ว่าจะไปไหนดีล่ะ
ก็เลยขับกลับมายังบึงบัว...มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่แระกัน....ขับกลับ60โล รวมไปกลับ 120 โล(นั่งรถเล่นสนุกเลย...)
พอถึงบึงบัว เริ่มเยนแล้ว เตรียมกล้องแยกย้ายหาจุดสุดยอด... ของแต่ละคน  สวยๆๆ สวนกว่าตอนกลางวันเยอะเลย
ถ่ายไปเรื่อยยันพระอาทิตย์ตก พอเริ่มมืดเท่านั้นแหละ กองทัพยุงออกมาจากไหนไม่รู้ เยอะมากๆ รีบหาซอฟเฟลโดยด่วน
ฉีดๆๆ หลังจากนั้นก็เริ่มหาที่ตั้งเต้นท์ สรุปตกลงได้ที่ใต้ศาลาเนี่ยแหละ กางเต้นท์ กางเปล เรียบร้อย อาบน้ำนอน....zzz
เช้ามาตื่น เพราะนาฬิกาปลุก  สัมผัสได้ถึงไอเย็น รีบออกจากเปลตื่นมาดู สว่างแล้วแต่ยังเห็นหมอกปกคลุมภูเขาอยู่ สวยๆๆๆ














หลังจากเก็บแปลเรียบร้อยจุดหมายต่อไปคือ เขาแดง ใต่ๆๆ ทางชันมากมาย นี่มันน้องๆ
ภูสอยดาวนี่หว่า แต่ระยะทางสั้นกว่าเยอะ...ถึงยอดเขาเหงื่อท่วมกาย ขอพักหายเหนื่อยก่อน
เอามือที่เปียกชุ่มหยิบกล้องออกมาหามุม (เขาแดงนี้เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้นแต่
หากขึ้นมาช่วงเช้ามืดให้ระวังหน่อยนะครับทาง อันตรายอยู่บ้าง......




   ลงจากเขาแดง แวะกินข้าวมือกลางวันที่หาดสามพระยา  และไปต่อยังหาดและศาลา
ก่อนไปหาดต้องผ่านหมู่บ้านชาวประมง บ้านบางปู  และต้องนำรถไปจอดที่วัดบางปู
วิธีข้ามไปหาดแหลมศาลาไปได้2ทาง คือทางเรือ กับอีกวิธีคือเดินขึ้นเขาข้ามไป ระยะทาง 500 เมตรได้
เราจึงเลือกวิธีที่ 2 คือเดินไป จัดแจงแยกของที่ไม่จำเป็นออกเนื่องจากต้องแบกน้ำหนักขึ้นเขาโดยไม่จำเป็น
ออกเดินทาง ใช้เวลา ประมาณ เกือบ 1 ชั่วโมง เดินไปพักไป เจอชายหาดสวยแล้ว หาจุดที่พักเป็นอันเสร็จ
หลังจากนั้นไปหาที่กินก่อน ใครที่มาที่นี่ ขอบอกว่ามีร้านอาหารอยู่นะครับ ไม่ต้องเตรียมสะเบียงมามากก็ได้
อาหารไม่แพงมาก  แต่ที่สำคัญคือยากันยุงแนะนำใช้โลชั่นจะดีกว่าเนื่องจากกลิ่นแรงติดทน   ยุงที่นี่ไม่รู้หิว
มาจากไหนมันโหดได้ใจมาก เรียกว่ายืนถ่ายรูปต้องโชวเสตปแดนซ์เลยทีเดียวคืออยู่นิ่งไม่ได้ครับ ลืมบอกไป
ว่าทั้งหาดมีผมกับเพื่อนอนกัน 3 คนครับ ตกกลางคืน ยุงยังคงเยอะอยู่ เดินไปอาบน้ำกัน 3 คน เย็นสบายแต่ไม่วาย
ไอ้ยุงตัวแสบมันตามมาจองล้างจองผลาญ  ถึงในห้องน้ำ กลับมานอน ตื่นมากลางคืน ไมมันคันจังฟระ 
ลองสังเกตมันคันช่วงหัวเข่า อ้อ...หัวเข่าเรามันไปชนมุ่งที่เปลนี่เอง (นอนเปลครับ)...ขนาดอยู่นอกมุ้งมันยังกัดได้
...นับถือมันจริงๆ ...เช้ามานาฬิกาปลุก....รีบกระเด้งตัวออกจากเปล  โอ้ว...ฟ้าเริ่มมีลำแสง..รีบหยิบ กล้อง+ขาตั้ง+ปลุกเพื่อน
ไปรอ...ระหว่างรอโชว์เสตปแดนซ์เช่นเคย....



ถ่ายเสร็จ...กลับมานั่งกินก่อนออกเดินทางไปถ้ำพระยานครซึ่งอยู่บนหาดแหลมศาลานี่เองแต่ตั้งปีนเขาขึ้นไปอีก 500 เมตร
ได้ ที่นี่จัดเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้....ถามมาได้ใจความว่าถ้าขึ้นำไปช่วง เดือน พ.ย.-ม.ค. ลำแสงที่ส่องพระที่นั่ง
จะได้มุมและสวยที่สุดครับ....





ออกเดินทาง ปีนๆ ใต่ๆ ... ถึงจนได้ เหนื่อยมากมาย....สวยๆๆ อลังการงานสร้าง...(ธรรมชาติสร้าง)














ช่างเป็นถ้ำที่สวยมากจริงๆครับ อยากให้มากัน...มันใหญ่โตมาก......ใช้เวลาอยู่ในถ้ำ 2 ชั้วโมงกว่าๆได้
รู้สึกเวลาผ่านไปช้าๆ ไม่เบื่อเลย อากาศเย็นครับ สบายๆ หลังจากนั้น ก็ลงจากถ้ำครับ ถึงพื้นดินด้านล่าง
ล้าขามากๆ ร้อนสุดๆ กลับไปเต้นหยิบผ้าเช็ดตัวมาอาบน้ำให้ชื่นใจทันที.... เสร็จแล้วก็แพ็คของ
เตรียมกลับบ้านครับ ขากลับเรายังคง ไม่ทิ้งพันธกิจ ของเราคือ เดินกลับครับ 555...ขากลับ
เจอข้างแว่น เป็นฝูงเลย...(มันคล้ายลิงใส่แว่นอ่ะ)



ไอ้เพื่อนเรามันกำลังถ่ายเสยไปที่มันมันกลับฉี่ใส่สวนกลับมาหลบกันแทบไม่ทัน...โชคดีไม่เข้ากล้อง 555
มากันเป็นฝูงเลยครับ หลังจากนั้นก็เดินๆๆ รู้สึกว่าขากลับนี่จะเร็วกว่าขามาครับ ไม่รู้เพราะอะไร......
ถึงพื้นดิน....ร้อนๆๆ ...เดินทางกลับบ้าน ครับ  สรุปแล้วทริปนี้เสียค่าใช้จ่ายเกินงบมา100บาทครับ
รวมแล้ว 1,600 บาท แต่กินกันไม่ยั้ง หมดไปกับค่าเครื่องดื่ม กาแฟ โกโก้ ประมาณ 300 กว่าบาทครับ 
.....เป็นอันจบทริปที่ประทับใจครับ..พบกันคราวหน้า


ขอขอบคุณที่มาจาก Pantip
Cr. ขวัญ อ่อนนุช