รีวิว เที่ยวไปไม่ง้อทัวร์ ทริปแม่ฮ่องสอน

หลังจากเคยขับรถขึ้นเหนือเที่ยวเองโดยไม่ง้อทัวร์มาครั้งหนึ่งเมื่อปี 2555 พอจะมีประสบการณ์ในการขับรถขึ้นเขาขึ้นดอย  รู้สภาพแวดล้อมทางภาคเหนือไปบางส่วน  กลับมาอีกครั้งกับทริปเที่ยวไปไม่ง้อทัวร์  ปีนี้ปลายทางอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เราเตรียมการล่วงหน้าก่อนเดินทาง  1  เดือน จองที่พักเสร็จสรรพ ทริปนี้เริ่มต้นเดินทางวันที่  25  ตุลาคม 2558 เดินทางจากบ้าน  05.15  น. ผ่านเส้นทางสวย ๆ งาม ๆ หลายแห่ง  มาเริ่มกันเลยที่สี่แยกไฟแดงอำเภอคอนสาร  จังหวัดชัยภูมิ  

มองไปข้างหน้าคือจุดที่ต้องข้ามภูเขาจุดแรกยาวไปถึง  และนี่ก็ด่านแรกของการขึ้นเขา  

ระยะแรกไม่ชัน  แต่เป็นทางขึ้นเนินยาวอยู่หลายช่วง ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เรื่อยมาจนถึงช่วงท้าย ๆ จะผ่านสะพานห้วยตอง (สะพานพ่อขุนผาเมือง) จุดที่เป็นข่าวเป็นคราวในเรื่องของอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง สังเกตฝั่งซ้ายจะมีการก่อกำแพงสูงขึ้น 


ผ่านจุดนี้ไปจะเป็นทางราบเข้าสู่เขตอำเภอหล่มสัก  ต่อเนื่องไปยังอำเภอเขาค้อ  ตามทางหลวงหมายเลข 12  

ขับรถกันเพลินไปเลย  เพราะสภาพถนนหนทางปรับปรุงใหม่  และวิวทิวทัศน์ริมทางสวยงาม จนอดที่จะบันทึกภาพไม่ไหว  เชิญชมครับ Route12 ,Road12 ก็ว่ากันไปตามรากศัพท์  ยังกะขับรถขึ้นไปบนฟ้าเลย

ทีมบิ๊กไบค์ขับผ่านมาพอดี 

วิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  เห็นลิบ ๆ อยู่ขวามือ (ในใจคิดไว้แวะนมัสการขากลับดีกว่า) เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาว  

รถติดมากไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟยอดฮิตหลาย ๆ แห่งในเขาค้อ  แม้กระทั่งภูทับเบิก  ก็ติดหนึบนานนับชั่วโมง  ผ่านไปชะแว๊บ  แอบมองไปที่ร้านกาแฟ Route12 ที่เราเคยแวะอยู่บ่อยครั้งเวลาเดินทางเส้นนี้  รถติด ลูกค้าแน่น  ไม่มีที่จอด  หรืออาจจะมี  แต่เรามุ่งหน้าไปไกลกว่านั้น

ถนนช่วงอำเภอเขาค้อมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก  ในความคิดผมเองเชื่อเป็นถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง  และประทับใจทุกครั้งที่ขับผ่าน




เราขับรถไปเรื่อย ๆ พยายามทำเวลา พักบ้างไรบ้าง  ขับรถมือเดียว  ไม่มีผู้ช่วยขับ มีแต่ผู้ให้กำลังใจในการขับ555 ต้องถึงเชียงใหม่ไม่เกินหนึงทุ่ม ผ่านเส้นทางที่สวยบวกกับความตื่นเต้น  เริ่มมืด  ทัศนวิสัยเริ่มแย่ลง ช่วงนี้อยู่เขตดอยขุนตาล  จังหวัดลำปาง

และแล้วก็ถึงเชียงใหม่เลทนิดหน่อย  เนื่องจากรถติดบางช่วง   อาจเป็นเพราะเป็นอาทิตย์ด้วยสำหรับคนทำงานจากต่างจังหวัด  ประกอบกับมีการซ่อมแซมปรับปรุงถนนหลวงเป็นช่วง ๆ ที่พักเราเล็งไว้ที่แถว ๆ หลังจวนผู้ว่า ฯ จังหวัดเชียงใหม่  อยู่ติดสะพานนวรัฐ (ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่สะดวกที่สุดเมื่อเราจะเดินทางต่อไป)

ขับรถข้ามสะพาน  ในใจคิดจะไปหนล่ะทีนี้  ห้ามเลี้ยวซ้าย  เป็นถนนวันเวย์  ขับรถสุ่มมั่วอย่างมีหลักการเลยครับ  คือยังงัยต้องมาแถวหลังจวนผู้ว่าฯ ให้ได้555 พอถึงเป้าหมายเราจอดมองหาร้านที่เคยมาพักราคาหลักร้อย  มองไม่เห็น  พอดีสายตาชำเลืองไปเห็นที่พักแห่งหนึ่ง  โทรสอบถามราคาที่  700  บาท  ตกลงเลย  เลี้ยวรถแว่บเข้าไปเช็คอินทันที  ไม่ต้องคิดรัยมากพรุ่งนี้ก็เช้า อยู่ในราคาที่เราเองก็พอใจอยู่แล้ว ที่นี่เลยครับ
  





เป็นที่พักที่ค่อนข้างสะดวก  แอร์  wifi น้ำอุ่น ทีวี ครบครันตามพื้นฐานพึงมี  อยู่ใกล้กับตลาดไนท์บาซาร์ และห่างจากถนนคนเดินประตูท่าแพประมาณ  1 กิโลเมตร  เดินเท้าประมาณ  20 นาที นั่งรถโดยสารคนละ 20 บาท รถตุ๊กตุ๊ก 50 บาท  ไหน ๆ ก็ถึงแล้วไปหาอะไรกินก่อน  มุ่งหน้าที่ถนนคนเดินประตูท่าแพครับ (พนักงานโรงแรมแนะนำ เพราะวันอาทิตย์ตลาดไนท์บาซาร์ไม่ค่อยคึกคัก) ขากลับเราเดินเอา  เพราะค่ารถต่าง ๆ โขกราคาอีกเท่าตัว บางเจ้า 150  บางเจ้า  100  ก้เลยเดินมาเรื่อย ๆ มีทั้งคนไทย  คนเทศ  เป็นเพื่อนร่วมทาง ไม่เหงา

้น้อง ๆ ผู้พิการ  เล่นดนตรีได้เพราะมากครับ  ก็สนับสนุนเท่าที่พึงช่วยได้

เก็บบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝาก  เชิญชมครับ



อื้อฮือศิลปะบนความทุกข์

ทางแยกจากถนนท่าแพ - ตลาดไนท์บาซาร์


เช้าวันต่อมา 26  ตุลาคม 2558 รับอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม  เสร็จแล้วออกเดินทางไปที่อาเขต 2,3 ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการเดินรถ  เราฝากรถไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับอาเขต  บริเวณนั้นมีหลายเจ้าด้วยกัน  ราคามาตรฐานเดียวกัน วันละ 40 บาทสำหรับรถยนต์ (ลืมถ่ายภาพเก็บไว้)  ติดต่อภารกิจเสร็จสิ้นเราเดินลัดเลาะตามซอยเพื่อรีบไปซื้อตั๋วรถตู้โดยสารเพื่อไปอำเภอปาย  ตอนแรกนึกว่าจะซื้อตั๋วได้ง่าย   กะว่าออกเที่ยว 08.30 น.  โอ้โห  ที่ไหนได้มีการจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า  ซึ่งจริง ๆ ก็รู้ล่วงว่าสามารถจองและเลือกที่นั่งได้ แต่เราชะล่าใจ  ไม่จอง  ก็เลยได้เที่ยวที่ 10.30 น. ที่นั่งหลังสุด  ผู้โดยสารร่วมทาง  จีน  6  คน  คนไทยเรา 6 คน  แต่ไม่มีโอกาสคุยหรอกเมารถตั้งแต่ออกแล้ว555
ท่ารถเปรมประชา แต่จุดซื้อตั๋วอยู่อีกฝั่งหนึ่งใกล้ ๆ กัน


จองตั๋วออนไลน์ที่นี่
http://premprachatransports.com/ticket-th/
ค่ารถโดยสารจากเชียงใหม่ - ปาย  คนละ  150  บาท ครับ
ถึงกลางทางไม่รู้ว่าจุดไหน  รถจอดพักประมาณ  15  นาที  เพื่อซื้อยาลม ยาดม ยาหม่อง  ใครใคร่กิน กิน ใคร่หลับ หลับ เข้าห้องน้ำก้แล้วแต่555 บันทึกภาพได้แค่นี้

ถึงเวลาก็ต่อเลยครับ  ตอนนี้ทั้งพี่จีน  พี่ไทยเมากัน นัวเนียเลยครับ 555รถคันที่เรานั่งผมสังเกตดูไม่มีใครแซงพี่แกได้เลย  และแล้วเราก็ถึงอำเภอปาย  12.30  น.  สิริรวม  3  ชั่วโมง  กับ 762 โค้ง ครับเมามันกันเลยทีเดียว  ลงรถปุ๊บโทรหารีสอร์ท  เขาบริการดีมากครับ  จัดรถไปรับเราถึงคิวรถเลย รีสอร์ทที่เราจองล่วงหน้า คือที่นี่ครับ ฮาร์ท ออฟ ปาย  คืนละ  700  บาท (สัญลักษณ์คือ บ้านกลับหัว)



ภายในห้องพัก



ที่พักสะดวก  สะอาด สบาย   ห่างถนนคนเดินประมาณ  200 เมตร  และลแ้วก็นอนพักผ่อน  ข้าวก็ไม่ได้กิน (กินไม่ลง เมา555) เผลอหลับไปประมาณกี่ชั่วโมงไม่รู้  รู้สึกตัวอีกที  นี่มันสี่โมงเย็นล่ะ ตายห่าาาาาาา....จะไปหลายที่เลยนะเนี่ย  รีบเร่งล้างหน้าล้างตา   รีบไปหาเช่ารถมอไซด์  ได้เจ้านี่ ที่ราคา  250 บาท ถ้าซีซีต่ำกว่านี้ก็  200  บาท


ได้รถแล้ว  รีบไปทันทีทันใดครับ  จุดแรกเลย "หมู่บ้านสันติชล" หมู่บ้านสไตล์จีนยูนาน  ที่มีวัฒนธรรม ประเพณี คล้าย ๆ จีนยูนาน








มีชุดให้เช่าถ่ายแบบจีนเลยล่ะ

มีม้าให้บริการขี่เล่นภายในหมู่บ้าน  ด้วยเวลาที่จำกัด  เราเลยไม่ได้สนใจจุดนี้

บ้านเหล่านี้  เมื่อครั้งเดือนธันวาคม 2553 เราเคยมาครั้งหนึ่งเป็นที่พัก รีสอร์ท  แต่ปัจจุบันจะทำเป็นขายของที่ระลึก  (ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าทำเป็นรีสอร์ทน่าจะดูดีกว่า) 

สะพานเปรียบเทียบปี 2553 กับ 2558
ปี 2553  จุดเดิม  นางแบบคนเดิม อายุไม่เหมือนเดิม5555





ปี 2558 เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก

มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นคือ "กำแพงเมืองจีน" ในปี 2553 ที่มาครั้งแรก ส่วนนี้กำลังก่อสร้าง





ใช้เวลาพอสมควร เราก็บึ่งเจ้า ZOOMER-X ขึ้นไปสำรวจเส้นทางยังจุดชมวิวหยุนไหล  ซึ่งห่างจากหมู่บ้านสันติชลประมาณ  1  กิโลเมตร
เจอกันกระทู้ถัดไปครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. Sura_Arun