รีวิว ทริปกระชับความสัมพันธ์สุดฟิน ณ บ้านริมน้ำ@เกาะล้าน(ไม่)ห่างรัก



สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิป ^^

วันนี้เราจะมารีวิวที่พักเกาะล้าน(ไม่)ห่างรักกันนะจ๊ะ 
ครั้งนี้เป็นการทำรีวิวครั้งที่3 แล้ว เฉกเช่นเคย เรายืมล็อกอินพี่สาวมาใช้
และในรีวิวนี้อาจจะมีภาษาวิบัติอยู่บ้างเพื่ออรรถรสในการอ่าน
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า


เมื่อพูดถึงเกาะล้าน บางคนอาจจะคิดว่า อู๊ยยยย ทะเลสวย น้ำใส ไปกับแฟนยิ่งโรแมนกะติก
ดื่มด่ำกับซีฟู้ดใต้แสงจันทร์ ริมหาดทรายขาว มีเพลงเรกเก้ฟังคลอเบาๆ อะไรจะฟินขนาดนั้นนน
แต่เดี๋ยวก่อน!! เราขอวางถุงกาวลงก่อนนะคะ555 
เพราะคู่เราจะหวานหรือฟินสมคำร่ำลือหรือไม่ ต้องมาติดตามกันในรีวิวฉบับนี้จ้า :3


จุดเริ่มต้นของทริป

ช่วงก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเรากับคุณแฟนเริ่มจะขุ่นข้องหมองใจกันมากเกินไป
ไม่ได้การล่ะ ต้องจัดทริปกระชับความสัมพันธ์กันซะหน่อยล้าววว
เอ...หน้าร้อนผสมฝนตก (จนทุกวันนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่านี่ฤดูอะไร)แบบนี้จะไปเที่ยวไหนดีนะ
สุดท้ายเราก็มาตกลงปลงใจกันที่ "บ้านริมน้ำ" @ เกาะล้านแห่งนี้นี่แล




นานาชอบนานาชอบนานาชอบ

ที่นี่เค้าขึ้นชื่อทั้งเรื่องความสวยของที่พัก รีวิวก็ติดอันดับต้นๆ 
แถมยังโด่งดังในเรื่องการจอง(ที่ยากมากกกกกกกกก กไก่ล้านตัว) อีกตังหากก
แต่กระนั้นก็ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับฉันนนน 
เราได้ทำการโทรจองรีสอร์ทตั้งแต่เดือนมกราคม และภารกิจก็สำเร็จค่ะ



เราได้ห้อง R19 พัก2คืน ช่วง 18-20 มีนาคม 2559 
ในราคาคืนละ 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้าค่ะ


เราออกเดินทางกันเช้าวันศุกร์ นั่งรถตู้จากเดอะมอลล์บางแคมาลงที่อนุสาวรีย์
วินรถตู้ไปเกาะล้านจะอยู่ข้างเซนจูรี่ค่ะ เดินเข้ามาจะมีวินไปหลายที่เลย 
(ขออนุญาตถ่ายติดคุณพี่ในรูปมาด้วยนะคะ =/|\=)
เดินไปตรงป้ายที่เขียนว่าไป "พัทยา-เกาะล้าน"  ราคาค่าตั๋วคนละ 120 บาทจ้า



เพี้ยนลุยเพี้ยนลุยเพี้ยนลุย

ก็จะได้มาเป็นตั๋วสีฟ้าแบบนี้ พอขึ้นรถแล้วคนขับรถตู้ก็จะเก็บตั๋วเราไป
แต่เอ๊ะนี่เราไม่ได้นั่งผิดคันกันใช่ป่าวหมียักษ์ ถามลุงคนขับเพื่อความชัวร์อีกครั้ง 
"คันนี้ไปจอดที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายเลยหรือเปล่าคะ" ลุงแกก็ตอบกลับมาว่า "ใช่ครับ"
โอเครอดแล้ว สบายใจ 555 สักพักคนก็เต็มรถ ออกเดินทางสู่ พัทยากันโลดดดดด



เรานั่งรถตู้กันมายาวนานน่าจะราวๆ 3 ชม. 
ไม่รู้ว่าคนขับพาอ้อมหรือว่าปกติมันเป็นแบบนี้ เมื่อยตุดมาก -0- 
วันที่เราไปรถติดด้วย เหมือนพัทยาเค้าจะมีงาน Music festival 



ประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจ

ขณะนี้เวลา 12.30 น. ในที่สุด เราก็ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายกันแล้วจ้าาาา 
ไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้ามาเด้อ นักท่องเที่ยวรอรถตู้กลับกันเยอะมากเลย
มาชมบรรยากาศในท่าเรือกันดีกว่า โอ้วววววว ฮอทสุดๆไปเลยจ้า




มาถึงเราก็ต้องมาซื้อตั๋วเรือกันก่อนที่ช่องขายตั๋ว วันที่เราไปนักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ
แถวยาวไปจนเกือบสุดทางเดินเลย อาจจะเป็นเพราะติดบ่ายด้วย 
แต่รอบที่เราได้ไปก็มีเรือเลยไม่ต้องรอบ่ายครึ่งตามตารางเวลาค่ะ 
มีลุงที่ขายตั๋วสปีดโบ้ทแกจะคอยบอกตลอดว่า "ไม่ต้องต่อแถวร้อกกก
ไปซื้อเอาที่เรือก็ได้ เค้ามีขายเหมือนกัน" แต่ไม่มีใครเชื่อแกเลยค่ะ (เราก็เป็น1ในนั้น 55)
กลัวเค้าจะหลอกดาว เราก็ทนยืนต่อแถวต่อไป5555 ราคาตั๋วคนละ 30 บาท 

เต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือม

ปรากฏว่าเราเดินมาที่เรือก็เจอคนขายตั๋วเรือจริงๆด้วยค่ะ น่าจะเชื่อลุงตั้งแต่แรก TvT 
ก็ยื่นตั๋วให้คนนับจำนวนคนขึ้นเรือ เลือกจับจองที่นั่งกันได้ พอคนเต็มเรือก็จะมุ่งหน้าสู่เกาะล้านจ้า





ถึงแล้วววววว(สักที) กว่าจะมาถึงเกาะล้านก็บ่าย 2 แล้วค่ะ
ร้อนสุดๆ ร้อนแบบปะล้ำปะเหลือ สาวๆคนไหนอยากผิวสีน้ำผึ้งแนะนำเลยค่ะ
เกาะล้านตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน 555555555




อมยิ้ม05อมยิ้ม05อมยิ้ม05อมยิ้ม05อมยิ้ม05

"อ้วน หิวข้าวอะ บ่าย2แล้ว ยังไม่ได้หม่ำเที่ยงเลย" เดินไปบ่นไป
แต่คุณแฟนบอกว่าให้เอาของไปเก็บที่พักก่อนดีกว่า สัมภารกเยอะ
แล้วที่พักเราก็อยู่ใกล้ท่าหน้าบ้านด้วย เดินแปปเดียวก็ถึงแล้ว 
(ความหมายรวมๆคืออดทนอีกหน่อยได้มะยัยหมูอ้วน -00-)



เราเดินมาจากท่าหน้าบ้าน แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงมาทางเซเว่น





เดินมาเรื่อยๆ จะเจอร้าน"สามพี่น้อง" เป็นร้านขายของที่ระลึก
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆมา ก็จะเจอที่พักของเรา "บ้านริมน้ำ"นั่นเองจ้า







เดินเข้ามาถึงก็จะมีป้าพนักงานที่จะมีเอกสารการจองของเรา
เค้าก็จะถามชื่อกับห้องที่เราจอง และก็จะให้กุญแจห้องมาค่ะ
ตัวอย่างเช่น. "สวัสดีค่า สมดุกที่จองห้อง R19ไว้อะค่ะ" "อ๋อค่า เชิญที่ห้องเลยค่ะ..."



ห้องแต่ละห้องก็จะมีป้ายบอกทางไปค่ะ



มาถึงแล้ว "ห้อง R19"  ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกสักหน่อยก่อนเข้าไป





ห้องเค้าเอง ห้องเค้าเอง ถึงแล้วจ้าาาาา



เปิดประตูครั้งแรก โหยยยยย หอมมากเลยยยย กลิ่นหอมสดชื่นแบบสะอาดๆเลยค่ะ
ห้องเป็นสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากจะงอนง้อขอคืนดีกันมากกกก(เกี่ยวไหม5555)



ซ้ายมือก็จะเป็นบิวตี้โซน เสริมสวย ไดร์ผม อะไรก็ว่าไป 



นานามาลัยนานามาลัยนานามาลัย



ตู้เย็นมีน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด น้ำเย็นเจี๊ยบชื่นใจ ^^





เอาคีย์การ์ดเสียบไว้กับประตูแล้วระบบไฟก็จะทำงานค่ะ 



มีแผ่นดูดความชื้นรูปสนูปี้ด้วยค่ะ น่ารักกกก <3



โซนนี้จะเป็นราวตากผ้า มีไม้แขวนบริการให้ 3 อันค่ะ




เดินตรงเข้ามาก็จะเจอเตียง สีม่วงพาสเทล เห็นแบบนี้
ดูดวิญญาณตัวดีเลยค่ะ นุ่มมากกกก ได้นอนแล้วไม่อยากลุกเลย 
(คุณแฟนบอกเราขี้เกียจตัวเป็นหมูเองหรือเปล่า - - 
เอ๊ะยังไงนี่แฟนนะ แฟนเองจำไม่ได้เหรอ)



ที่นี่จะมีผ้าเช็ดตัวให้วันละ 2 ผืนนะคะ เราพัก2วัน
วันที่2 ก็มีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้องและนำผ้ามาเปลี่ยนผืนใหม่ให้ค่ะ



ข้างๆหัวเตียงมีปลั๊กให้ด้วยนะคะ ใครอยากจะชาร์ตโทรศัพท์ชาร์ตกล้อง
ก็ตามสะดวกเลยจ้า แต่ข้อเสียคือ ถ้าเปิดแอร์เย็นมากๆแล้วน้ำหยดค่ะ
คุณแฟนชาร์ตโทรศัพท์ทิ้งไว้ต้องรีบดึงออกเลย กลัวไฟช๊อต





โซฟานั่งริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นวิวทะเล และวิวริมระเบียงค่ะ
ผ้าม่านตรงนี้ จะมีม่านบางกับม่านทึบ เวลาเราดึงม่าน2ข้างมาชนกัน 
รู้สึกว่าปิดไม่สนิทเท่าไร ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว หรือเราปิดไม่เป็นก็ไม่ทราบค่ะ - -*



โอ้ทะเลแสนงามมม ฟ้าสีครามสดใสสสส มองเห็นเรือใหญ่ ข้ามฟากไปพัทยา  -0-

เม่ากิจกรรมเม่ากิจกรรมเม่ากิจกรรม



มีทีวีอยู่ตรงข้ามเตียงนอน แต่ทีวีเราว่าช่องน้อยไปอะ
ไม่รู้จะดูอะไรเลยเปิดไปมา TT เจอแต่ช่องเดิมๆ




เรามาดูห้องน้ำกันบ้างดีกว่าค่ะ
ห้องน้ำที่นี่ก็ถือว่ากว้างนะคะ  โอเคเลย



ฝักบัวก็จะมีม่านกั้น มีน้ำอุ่นให้ใช้ด้วยค่ะ



แชมพู/ครีมอาบน้ำ บ้านริมน้ำเค้าก็มีให้นะเออ 
ไม่ต้องไปซื้อให้เปลืองสะตุ้งสตางค์กันเลยทีเดียว


มาดูด้านนอกระเบียงกันบ้างดีกว่าาา
โต๊ะนั่งทานข้าวหน้าระเบียง ตรงนี้สามารถซื้ออาหารมาทานกันได้นะคะ
รีสอร์ทมีจาน-ชามบริการให้ และทิ้งขยะได้เลยด้านนอกระเบียงจ้า







วิวด้านหน้าห้อง R21 , และห้องข้างๆ จากระเบียง 



บรรยากาศดี๊ดี อยากจะชวนคุณแฟนมายืนกางแขนราวกับเป็นแจ๊ค(แฟนฉัน)กับโรส(ศิรินทิพย์)



บันไดที่จะพาเราขึ้นไปดูวิวที่ชั้นดาดฟ้า 



โหยยยยย สวยจังเลย ร้อนจังเลยเช่นกัน -0-



วิวข้างบน คือดี แต่ลมแรงมาก เราถ่ายรูปกับคุณแฟนแล้วแบบ
หน้าม้าแตก เปิดเหม่งกันเลยทีเดียว - -*



แอบถ่ายคุณแฟน + วิวดาดฟ้าห้องอื่นจ้าา



ภาพแห่งความประทับใจ คุณแฟนถ่ายให้ งานดี วิวสวย นางแบบผิวน้ำผึ้งเดือน5ไปอี้กกก





เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาพอสมควร
คุณแฟนเริ่มบ่นหิวข้าวแล้ว โอเคค เค้าก็หิว หม่ำไรดี อืมมมม....
ตอนเดินเข้ามาที่พัก เดินผ่านร้านข้าวร้านนึงชื่อว่า "ร้านอาหารคุณพจน์"
เราเคยอ่านรีวิวมาว่าร้านนี้เด็ด อะ ไปลองกันหน่อยดีกว่า
มื้อแรก ทานอะไรกันแบบชิลล์ๆ อาหารจานเดียวกันไปก่อนเนอะ



มาถึงร้านคุณพจน์ ที่ดูเหมือนว่าร้านเค้าจะเน้นขายพวกเหล้าปั่นอะไรมากกว่าอะ นี่เรามาผิดร้านหรือเปล่านี่?
ปรากฏว่ามีเป็นเหมือนกระถางต้นไม้ขวางหน้าประตูอยู่
เราจึงโผล่หน้าเข้าไป เจอน้องผู้หญิงกำลังดูรายการชิงร้อยชิงล้าน
"เอ่อ ตอนนี้ร้านเปิดหรือยังคะ" น้องนางคนเดิมตอบกลับมาว่า "ค่ะ แต่มีแต่อาหารนะคะ"
"อ่อค่ะ" ว่าแล้วก็ลากคุณแฟนเข้าร้านเลย ไปจัดกระถางต้นไม้ให้เค้าใหม่ด้วย 55 เห็นขวางทางเข้าอยู่อะ





"อืมมมมมมมม กินอะไรกันดีอ้วน" - -? "เค้าเอากะเพราทะเล" สายนั้นเค้าชอบทานเผ็ดมาแต่ไหนแต่ไร
"อืมมมมม เค้าอยากกินผัดพริกเผาทะเลอะมันจะเผ็ดปะ" "เผ็ดดิ แต่ลองดูก็ได้เดี๋ยวเค้าช่วยกิน"
แหมมมมมม หมียักษ์ อยากกินก็บอกอยากกิน หยั่มมา 5555555



ที่ร้านจะมีน้ำแข็งฟรี แต่ต้องเดินไปตักเองค่ะ สั่งเป๊บซี่มาขวดนึงเพิ่มรสชาติอาหาร



เพี้ยนกินเพี้ยนกินเพี้ยนกิน



ข้าวมาแล้วววววววว จานนี้ของคุณแฟน "กะเพราทะเล" 
"หือออ เผ็ดอะ" -0- อ้าวก็กะเพรานี่นา - -* ยอมใจเลยสายเผ็ด 
ดูจากปริมาณและขนาดจานแล้ว คุณแฟนดูท่าทางจะไม่อิ่มด้วย



ของเราก็มาค่ะ "ผัดพริกเผาทะเล" จานนี้บอกเลยว่า
รสชาติดี ถูกปากเรามาก รสชาติออกหวานชอบมากค่ะ
คล้ายๆผัดหอยลาย แต่เราทานไม่หมด  ส่งต่อให้คุณแฟน
แต่คุณแฟนเค้าเป็นสายเผ็ดค่ะ ไม่ชอบอะไรหวานๆ ก็เลยเหลือนิดหน่อยแหะๆ



สำหรับมื้อนี้โดนไป 140 บาทถ้วน 
- กะเพราทะเล 60.-
- ผัดพริกเผาทะเล 60.-
- เป๊บซี่ขวดแก้ว 20.- 
อาหารและเครื่องดื่มบนเกาะ ราคาจะบวกเพิ่มอีกนิดหน่อย ในเซเว่นก็เช่นเดียวกัน
ใครอยากประหยัดหน่อยก็แวะซื้อจากที่อื่นมากันนะคะ 


หม่ำๆเสร็จแล้ว ไม่มีที่ไป วันแรกเราไม่ได้เช่ารถกัน ก็เลยตัดสินใจว่ากลับเข้าที่พักกันดีกว่า
เข้ามานั่งเล่น นอนเล่น กลิ้งเล่น แปปเดียวก็จะเย็นแล้วค่ะ
ดูรีวิวซิ ที่ไหนน่าสนใจที่พอจะเดินชิลๆรับลมกันไปได้
"เค้าอยากไปถ่ายไฟยามเย็นที่มาหารักง่ะ"
"แต่อีกใจก็อยากหม่ำซีฟู้ดนะมื้อเย็น" 
"แล้วรู้เหรอว่ามาหารักอยู่ไหน" "ไม่รู้ง่ะ"
"อยากไปเฉลียงลมด้วยอะ วิวเค้าก็ดีเหมือนกันนะอ้วนโรแมนกะติก"
ถกเถียงกับคุณแฟนอยู่พักนึงงง จนในที่สุดได้ข้อสรุป
เราตกลงปลงใจกันที่ "ครัวเฉลียงลม" เพราะคิดว่ามันคงไม่ไกลจากที่พักเรามาก
เราออกเดินทางกันด้วย 2 เท้า เดินย่ำต๊อกไปตามทางเดิน ตอนแรกหลงทางด้วยค่ะ
ขำมาก เดินวนไปวนมาแล้วกลับมาท่าหน้าบ้านเหมือนเดิม เริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้ว
เลยเปิดจีพีเอส เดินไปตามGPS นี่แหละ ดูระยะทางแล้ว ไม่ใกล้เลยแฮะ
คุณหลอกดาวนี่นา ตอนแรกเหมือนใกล้ แต่ไหนๆก็เดินมาแล้ว 
ความพยายามอยู่ที่ไหน ครัวเฉลียงลมอยู่ที่นั่น และในที่สุด เราก็ถึงจุดหมายกันค่ะ 



ข้างหน้าร้าน เป็นเหมือนร้านนั่งชิลชื่อว่า "Mong doo sea" รถเยอะเหมือนกันแฮะ



เข้าไปข้างในกันเลยดีกว่า "โอววว ที่นั่งวิวสวีทตี้เกือบเต็มหมดแล้วอะ"
"งั้นเราไปนั่งริมทะเลไหม" "งืมแต่โต๊ะมันเอียงๆนะเค้าว่า" 
"ไม่หรอก นั่งได้ บรรยากาศดี เรามานั่งเป็นโต๊ะแรกเลยเห็นมะ555"
โอเค นั่งริมหาดก็ด้ายยยยยยย ได้มาเป็นโซนนี้ค่ะ 



สั่งอาหารไป 3 อย่าง ระหว่างที่รอก็ถ่ายรูปเล่นกันไปค่ะ
บรรยากาศรอบๆร้าน จริงๆมีโซนสวยๆเยอะเลย แต่ว่ามีคนนั่งอยู่เราเลยไม่ได้ถ่ายมา
เก็บภาพมาได้เพียงเท่านี้ค่ะ







วิวหลักล้านจากโต๊ะเราจ้า ^^





ภาพนี้ถึงกับลงทุนนอนไปกับพื้น 555555


อาหารมาแล้วค่าาาาา อย่างแรกเลย "ต้มยำทะเล"
หม้อนี้รสชาติกลางๆ ไม่เผ็ดมาก แต่จะออกเปรี้ยว โอเคดีค่ะ
ให้ปลาหมึกกับกุ้งมาเยอะดีค่ะ แต่กุ้งตัวจิ๋วไปนิดนึง



ตามมาติดๆกับ "เนื้อปูผัดผงกะหรี่" จานนี้คุณแฟนรีเควสมา
ส่วนตัวเราไม่โดนเท่าไหร่ รสชาติก็กลางๆค่ะ ออกเค็มนิดๆ



จานสุดท้าย "ปลาหมึกชุบแป้งทอด" จานนี้เราอยากทานเอง
คิดว่าจานนี้โอเคสุดแล้วนะคะ ทอดมากรอบนอกนุ่มใน อร่อยค่ะ



พอใกล้ๆค่ำ พนักงานเค้าก็จะเอาเทียนมาให้ค่ะ
โต๊ะอื่นได้ครบแล้วเหลือแค่โต๊ะเรา แง้ TT 5555 
พยายามยืดคอ(สั้นๆ)มองหาพี่พนักงาน
ในที่สุดเราก็ได้มาค่ะ อิอิ โหยยย บรรยากาศฟินสุดๆ
ดินเนอร์ใต้แสงเทียน มากับแฟนยิ่งสวีทตี้แน่นอนเราคอนเฟิร์มเลยค่ะ



รูปจากกล้องคุณแฟนอีกสักรูป



ค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ 590.- ค่าาาา



เมื่อคิดเงินเสร็จแล้วก็เดินกลับที่พักกันค่ะ ตอนเรากลับทางมืดแล้ว
แต่เนื่องจากเราไปกับคุณแฟนซึ่งเป็นหมียักษ์อยู่แล้วก็เลยอุ่นใจ ไม่น่ากลัวเท่าไร
2ข้างทางก็เงียบ เปลี่ยวอยู่เหมือนกันนะคะ ใครคิดจะเดินแบบเรา
แนะนำว่าให้หาเพื่อนไปด้วยค่ะ จะได้อุ่นใจเนอะ 
ลากันไปด้วยภาพนี้ค่ะ



กลับมาถึงที่พักก็อาบน้ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย
คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวัน
และนอนหลับสบายบนเตียงดูดวิญญาณค่ะ zZZ



เช้าวันที่ 2  ตื่นมาตอน 7 โมงกว่าๆ คุณแฟนปลุกให้ไปทานอาหารเช้า(แต่ตัวเองยังนอนกลิ้งอยู่)
อาหารเช้าของที่นี่ จานหลักจะเป็น American Breakfast นะคะ มีให้เลือกระหว่างไข่ดาว กับไข่คน(ในกระทะ)



ไลน์ Buffet ตัก/เติมได้ไม่อั้นก็จะมี น้ำส้ม ปาท่องโก๋ กล้วย แตงโม ชา,กาแฟ,โอวัลติน ประมาณนี้ค่ะ





เราเลือกเป็นไข่ดาวค่ะ เซ็ทนึงก็จะมี ไข่ดาว2ฟอง ขนมปัง ไส้กรอก และแฮม



ทานเสร็จเราก็เตรียมตัวจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปหาดกันค่ะ แต่ปรากฏว่าตอนนี้ยังไม่มีรถว่างเลย
ต้องรอแขกที่เข้าพักเมื่อวานเช็คเอ้าท์และคืนกุญแจ เราก็เลยกลับไปนอนดูทีวีรอกันที่ห้องค่ะ
สักพัก 10โมง ก็มีพนักงานมาแจ้งว่าตอนนี้มีรถว่างแล้ว เย้ ออกเดินทางกันเถอะ
รถมอเตอร์ไซค์ของที่นี่สภาพดี ใหม่ทุกคัน แถมน้ำมันเต็มถัง ราคาค่าเช่าวันละ 300 บาท



เราได้เป็น Honda Click ตัวใหม่ด้วย เย้ๆดีจัง โบกครีมกันแดดอะไรไปให้เรียบร้อยนะคะ
แดดร้อนมากจริงๆ แบบเผาสุดๆ สำหรับสาวๆที่ใส่แขนสั้นขาสั้นมีเกรียมแน่นอน  



เลขไมล์อยู่ที่ 7777 พอดีเลย 





ไม่รู้จะไปหาดไหนก่อนดี ก็เลยไปตามป้ายบอกทางค่ะ เริ่มจากหาดแสม
เราหลงทางด้วยค่ะ เหมือนบางจุดที่เป็นทางแยกก็ไม่มีป้ายบอก สุดท้ายก็ต้องพึ่ง GPS ค่ะ
การใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ สำหรับคู่เรา GPS เป็นที่พึ่งที่ดีสุดแล้ว แต่กระนั้นก็ยังหลงทางอยู่ดีค่ะ5555

เพี้ยนเงือกเพี้ยนเงือกเพี้ยนเงือก



ถึงแล้วค่ะหาดแสม ขนาดใส่เสื้อแขนยาวแล้ว ยังแสบแขนสุดๆ TvT



พาโนฯ หาดแสมกันหน่อยดีกว่า ชะอุ่ยย ! ฝรั่งเพียบเลยค่ะ อยากจะติดพริกเกลือมาด้วยจังเลย



เหม่อมองฟ้าาาา อ๊าอ่าอ๊าอาาาาา 


หลังจากที่ถ่ายรูปคู่และรูปคี่ กันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปหาดที่ 2 กันค่ะ



ไม่รู้จะไปหาดไหนต่อดี อีหรอบเดิม ดูป้ายค่ะ ดูเสร็จก็เปิด GPS ต่อไปจ้า
จุดหมายต่อไปของเราคือ "หาดเทียน" 



สำหรับหาดเทียน บริเวณนี้หินค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังมีคนลงเล่นน้ำได้ค่ะ



FacepalmFacepalmFacepalmFacepalmFacepalm

เนื่องด้วยช่วงที่เราไปถึง ก็เที่ยงพอดีค่ะตอนนี้พระอาทิตย์อยู่กลางหัวกบาลเราเลย
สู้แดดไม่ไหวจริงๆ ยังไม่ได้ทานกลางวันกันด้วย และเรารู้สึกจะเป็นลมค่ะ
"อ้วนเค้าไม่ไหวแล้วอะแบบจะวูบ ไปหาข้าวกินกันเถอะ" 
"อ้าว งั้นหลบในร่มก่อนเดี๋ยวไปกินข้าวที่มาหารักก็แล้วกันนะ"

ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

พอเรามาถึงร้านมาหารัก ก็ประมาณ 12.30 น. แล้วค่ะเดินเข้ามาในร้าน
โอ้โหยยยยย คนเพียบเลย เต็มแบบแน่นเอี๊ยด นี่ขนาดร้านเพิ่งเปิดไปครึ่งชม.เองอะ =0=
ปลอบใจตัวเอง ไหนไปดูนอกร้านดิ๊ ที่นั่งริมทะเล แต่แล้วฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา (อินโทรเพลงขัดใจดังขึ้น) 
โอ้โหยยยยยยยยยยยยยย(รอบ2) เต็มอีกจ้าาา ชีวิตเศร้ามากตอนนั้น คอตกเดินออกจากร้าน 
สุดท้ายก็ซื้อข้าวกล่องเซเว่นกลับมากินที่ห้องค่ะ TvT




ช่วงเย็นๆ เราก็ตกลงกันว่าจะไปหาดอีกครั้ง เก็บภาพยามเย็น
แต่คุณแฟนอยากทานของหวานค่ะ โอเคไปหม่ำร้านขนมตรงข้ามซอยเรากันเถอะ
ชื่อร้านว่า " Love On Sea" ร้านกว้าง ตกแต่งน่ารักดีค่ะ











รายการของหวานมีหลากหลายราคา ตั้งแต่เบาๆ พอกรุบกริบ ไปจนราคาสูงค่ะ
"เจ้าอ้วนนนนน เมล่อนออนซีน่ากินอะ 239.-"
"เออน่ากินจริงด้วย งั้นสั่งปังหิมะถั่วแดงมากินดีกว่า"
เอิ่ม... - -* เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงกัน  5555



เมื่อเลือกเมนูได้แล้วก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ และนั่งรอความอร่อยได้เลยค่ะ







ขนมมาแล้ววจ้า "ปังหิมะถั่วแดง 69.-"
ถ้วยนี้อร่อย หอมชาเขียว ทานคู่กับถั่วแดงเข้ากั๊นนนน เข้ากัน!



"นมสดเย็น 55.-" หอมนม เป็นรสชาติของนมสดจริงๆ หวานอร่อยดีค่ะ



"ปังปิ้งกล้วยช็อก 30.-" ช็อกโกแลตเป็นนูเทลล่า จานนี้ก็อร่อยค่ะ
นูเทลล่ากับกล้วย อร่อยลงตัว ฟินจ้าา
มื้อนี้โดนไป 154 บาทถ้วน อิ่มแล้วออกเดินทางไปหาดกันเถอะ!


หาดที่เราจะไปคือหาดตาแหวน คุณแฟนพาแว๊น 55555 หลงทางอีกแล้ว 
คุณแฟนบอก "ปิดไปเลยโปรแกรม GPS อะ เค้าพาไปเอง!"
เราก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์ไป GPS ก็ดังขึ้นอีก "Turn right !@#$!$%@$&ร้องไห้
คุณแฟนเริ่มมีอารมณ์ "เอ้าบอกให้ปิดไปยังไม่ปิดอีก" 
เรายืนยันว่าเราปิดแล้ว สักพักก็ยอมรับ ทำหน้าตาน่าสงสาร *-*
"เค้าปิดไม่เป็นนี่นา คิดว่าปิดหน้าจอแล้วมันจะออกโปรแกรมไปเอง ToT" กำ -*-

เป็นห่วงนะเป็นห่วงนะเป็นห่วงนะ



และแล้วเราก็มาถึง "หาดตายาย" เอ้า! นี่ไม่ใช่หาดตาแหวนเรอะ?!
คุณแฟนบอกเอาตายายไปก่อนละกันนะ กำ55555 โอเคๆ ก็ลงไปถ่ายรูปคู่รูปคี่กันเหมือนเดิม



ยามเย็น แสงจะหมดแล้ว ถ่ายโขดหินสักหน่อย



รูปคู่ <3

ฟินฟินฟิน

หาดนี้เป็นหาดสุดท้ายแล้ว มาเกาะล้านทั้งที ก็ต้อง ไปให้สุด อย่าให้เสียความตั้งใจ
"คราวนี้อ้วนจะพาเค้าไปถึงจริงๆใช่มะ?" เมื่อคุณแฟนให้คำมั่นแล้ว ก็ขึ้นรถไปแว๊นกันอีกครั้งค่ะ
คราวนี้คุณแฟนเป็นคนดู GPS เอง (เพื่อความชัวร์) หนทางก็ค่อนข้างชัน ทุลักทุเลพอสมควร 
จนในที่สุด เรา 2 คนก็มาถึง จุดชมวิว "หาดตาแหวน" ^O^



**บริเวณตรงนี้จะมีราวสแตนเลสกั้น ห้ามพิงเด็ดขาดเลยนะคะ
เพราะไม่แข็งแรงมากๆอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ**


อมยิ้ม22อมยิ้ม22อมยิ้ม22อมยิ้ม22อมยิ้ม22

ลงมาหาดกันดีกว่า ทางลงหาดตาแหวนเป็นทางชันมากและมีรถสวนเลนด้วยค่ะ 
มือใหม่ ขับรถไม่แข็ง ระมัดระวังกันด้วยนะคะ ยิ้ม
เราลงมาถึงหาดแล้ว แทบไม่มีที่จอดรถเลย ทั้งรถทั้งคน แน่นสุดๆ 
ชมภาพปลากรอบกันได้เลยค่ะ 



ทรายเค้านุ่มจริงๆ ละเอียดและเป็นสีขาว
เรากับคุณแฟนเลยไม่ได้ถ่ายรูปกันมาเยอะค่ะเพราะคนเยอะ
ทิ้งท้ายไปกับรูปคู่อีกเช่นเคย :3





ขากลับเราว่าจะไปซื้ออาหารทะเลกันที่ตลาด ใกล้กับที่พักเราค่ะ
ไปดูแล้วเห็นคนรอต่อคิวกันเยอะแยะเลย เราไม่รู้ว่าจะทานร้านไหนดี
ตัดสินใจไปซื้อร้านริมถนนดีกว่าค่ะ ได้มาเป็น"ร้านบ้านคุณแม่"
มีหนุ่มน้อยเสื้อแดงเป็นพรีเซนเตอร์หน้าร้านด้วย เค้าล้อเล่น



ราคาอาหารทะเลก็จะมีประมาณนี้กันเกือบทุกร้านค่ะ



เนื่องจากตอนนี้ที่ร้านมีคิวรออยู่ ทางร้านเลยขอเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่เราไป
เพื่อที่จะไปส่งอาหารให้ฟรีค่ะ แม่ค้าบอกว่ารอประมาณครึ่งชม.
เรากับคุณแฟนก็กลับมานอนตีพุงอยู่ห้องรอ เวลาผ่านไปชม.นึงร้านก็ยังไม่มาส่ง
คุณแฟนก็เลยขับรถออกไปตามให้ค่ะ ก็ได้อาหารมา ที่ร้านกำลังจะมาส่งพอดีค่ะ
เห็นว่าเค้ารอทำให้เสร็จครบทุกออเดอร์แล้วจะออกไปส่งทีเดียว 



เริ่มด้วย "หอยแมงภู่นึ่ง 60.- " หอยแมงภู่ตัวใหญ่ หวานอร่อย สั่งมาครึ่งโลค่ะ 



"หอยหวานเผา 125.- " เมนูโปรดของเราเองที่ต้องทานให้ได้ถ้าไปทะเล 55555
เราสั่งมาครึ่งโล บอกเลยว่าอร่อยมาก คุ้มค่ามาก เราชอบมาก หอยหวาน สด กรอบสุดอะ



"กุ้งเป็นเผา 1 โล 350.-" กุ้งเป็นๆ สดๆ ตักขึ้นจากบ่อเลยค่ะ ฮือออ สงสารก็สงสารแต่ก็อร่อยอะ
ยอมใจเลยเมนูนี้ หัวเป็นมันแก้ว เนื้อหวาน ฟิน กรุบๆ ทานกับน้ำจิ้มของที่ร้านยิ่งแซ่บลืมค่ะ



ทานกัน2คน แทบไม่หมด เราอิ่มมากๆ
ขนาดคุณแฟนเราเป็นหมียักษ์ยังบอกว่าอิ่มเลยค่ะ
ค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ 530 บาทถ้วน พี่ที่ร้านลดให้ 5 บาทจ้า


หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ตื่นเช้ามาอีกที 8.00 น.
วันนี้เราตื่นก่อนฮ่าาา ก็ปลุกคุณแฟนให้ไปทานอาหารเช้าค่ะ
วันนี้เราสั่งเป็นไข่คน คนมาจริงๆด้วยย 5555 รสชาติจืดๆ
ต้องใส่แม็กกี้กับพริกไทยเพิ่มเอาเองตามชอบค่ะ



ทานอาหารเสร็จ เราก็กลับมาเก็บของที่ห้อง และออกมาถ่ายรูปบริเวณรอบๆรีสอร์ทค่ะ













น้องหนูหน้าห้องเราเอง กลับแล้วน้าาาา



บ๊ายบายบ้านริมน้ำ ขอลาไปด้วยภาพนี้ค่ะ



เราออกจากที่พักประมาณ 10 โมงกว่าๆค่ะ คืนกุญแจห้องกับกุญแจรถเรียบร้อยแล้ว 
ตารางเรือบอกว่ามีเรืออีกที 12.00 น. แต่ป้าแกบอกว่าถ้าเป็นวันหยุดช่วง High Season 
เรือก็จะมีตลอดค่ะ ลองเดินไปดูที่ท่าเรือ ถ้ามีเรือจอดอยู่ก็สามารถกลับได้เลย



มีเรือจอดอยู่จริงๆด้วยเย้! ซื้อตั๋วตรงที่ขึ้นเรือได้เลยค่ะ 
รอบนี้เรานั่งชั้นบน โคลงเคลงมากแบบคลื่นไส้เลยง่ะ    
ขามานั่งชั้นล่างเราว่ายังเมาเรือน้อยกว่า = ="



เรือเริ่มออกแล้วค่ะ หันกลับไปมองเห็นที่พักของเรายื่นออกมาด้วย
วันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน



เรือใช้เวลา 45 นาที ก็กลับเข้าสู่ฝั่งพัทยาค่ะ





เดินมาซื้อตั๋วรถตู้กลับอนุสาวรีย์ค่ะ ค่ารถคนละ 100.-



ตอนเดินมาซื้อตั๋ว เจอลุงคนเดิม แกพูดเหมือนเดิม 
"ไม่ต้องต่อแถวร้อกกก ไปซื้อตั๋วตรงที่ขึ้นเรือก็มี" 
และก็ไม่มีใครฟังแกเหมือนเดิมค่ะ น่าสงสารอะ ต่อไปหนูจะเชื่อลุงนะเอาจริง  TvT 555555



อมยิ้ม17 รอรถตู้ไม่นานรถตู้ก็มารับ เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพค่า อมยิ้ม17 



สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมเป็นเงิน  6,564 /2
ตกคนละ 3,282 บาทถ้วนค่ะ

-    ค่ารถตู้จากเดอะมอลล์บางแคมาอนุสาวรีย์ 40*2/80.-
-    ค่ารถตู้จากอนุสาวรีย์มาพัทยา 120*2/240.-
-    ค่าเรือข้ามฟากไป-กลับ 60*2/120.-
-    ค่าที่พัก 2 คืนรวมอาหารเช้า 2,000*2/4,000.-
-    ค่าอาหารครัวคุณพจน์ 140.-
-    ค่าอาหารครัวเฉลียงลม 590.-
-    ช้าวกล่องเซเว่น 150.-
-    เช่ามอเตอร์ไซค์ 1 วัน 300.-
-    ร้านขนม Love on sea 154.-
-    ซีฟู้ดร้านบ้านคุณแม่ 530.-
-    ค่ารถตู้จากพัทยามาอนุสาวรีย์ 100*2 /200
-    ค่ารถตู้จากอนุสาวรีย์มาโลตัสพระราม2 30*2/60.-




สรุปโดยรวมแล้ว การมาเกาะล้านครั้งนี้ของเราถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี 
แม้จะมีข้อดีข้อเสียปะปนกันไป แต่เอามาหักลบกันแล้ว รู้สึกประทับใจมากๆเลยค่ะ 
ตลอดทริปที่ได้ผจญภัยกับคุณแฟน  ได้มีเวลาปรับความเข้าใจกัน  
ได้ผ่านความลำบากด้วยกัน มันทำให้เรารู้ว่าต่างคนก็ต่างสำคัญ 
และรักกันมากขึ้นจริงๆค่ะ และในที่สุด ทริปนี้ก็ผ่านพ้นไปพร้อมกับความฟินจริงๆด้วย 
ฮี่ฮี่ บอกแล้วว่าเกาะล้านไม่ห่างรักนะเออ ^^ ใครอยากกระชับความสัมพันธ์แบบคู่ของเรา 
แนะนำให้มาเที่ยวที่เกาะล้าน พัทยาแห่งนี้เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02

บ๊ายบาย...เกาะล้าน(ไม่)ห่างรัก <3


ที่มา Pantip
Cr. อาริเอตี้