สวัสดีค้าาา รีวิวแรกของเรานะ ต้องฝากทุกคนติดตามด้วย ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนชมนกชมไม้ แถวเขาใหญ่ อิอิ ด้วยความที่เพื่อนมาชวนไปเที่ยวเขาใหญ่ด้วยพอดี และไอเราก็อยากไป Jim Thompson Farm มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จัดไปเลยจ้า
ไปเที่ยวเขาใหญ่กันเถอะ ขับรถออกจากกรุงเทพฯ สายหน่อย ไปถึงฟาร์มก็บ่ายๆ เลย
และภาพสวยๆ ครั้งนี้ต้องขอบคุณ Canon EOS M10 ที่เพิ่งถอยมาจากงาน Photo Fair ยังใช้ไม่ค่อยเป็นเท่าไร ส่วนใหญ่ใช้แต่โหมด Auto ถ่ายสนุกดีค่ะ ลองมาดูกันว่ารูปจะสวยแค่ไหนกับมือใหม่อย่างเรา ^_^
ตามกันมาเลยคร้าา…
เวลาบ่าย 2 ท้องฟ้าสดใส แดดแรงได้ใจมากๆ เลยค้า งานนี้สู้ตายเนอะ ถ้าพลาดครั้งนี้ รอถึงปีหน้ากันเลยทีเดียว
บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้า จะเจอซุ้มต้อนรับใหญ่อลังการอยู่ข้างหน้าเลย
จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรเชิงวัฒนธรรมอีสาน ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ ชื่นชมมรดกทางประเพณีและวัฒนธรรมอีสานดั้งเดิม ภายใต้ชื่องาน "มังมูน บุญข้าว”
ก่อนจะเข้าก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อนน้า คนละ 180 บาทจ้า
เดินมาดูแผนที่รอบๆ ฟาร์มกันก่อนดีกว่า
มีที่นั่งบริเวณโซนทางเข้าด้วย ถ้าแดดไม่แรง อากาศเย็นกว่านี้อีกนิด คงจะชิวมากแน่ๆ แต่ตอนที่ไปร้อนตับแล่บเลยค้าาา
ดอกไม้บริเวณทางเข้า สีสดใสมากๆ ใครอยากชมดอกไม้สวยๆ ต้องไม่พลาดเลยนะคะ แนะนำเบยยย
มีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ เพียบเริ่มจากที่นี่ก่อน
การเดินทางไปจุดต่างๅ เดินทางด้วยรถของทางฟาร์มนะคะ
ตลอดทางก็จะมีคนคอยบรรยายเกี่ยวกับฟาร์มไปเรื่อยๆ เลยค่ะ
ท้องฟ้าสดใสมากจริงๆ รับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่เข้ามาในรถ
ขับผ่านทุ่งทานตะวันทั้งสองด้าน สวยมากคร้าาา
เราลงมาถ่ายรูปกันที่จุดที่สอง ลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี คนค่อนข้างเยอะมากๆ ไม่กลัวแดดกันหรอไงเนี่ย
บรรยากาศดีมาก ล้อมรอบด้วยภูเขาพญาปราบ และทุ่งดอกไม้หลากสีบานสวยงามตระการตาจริงๆ
ซุ้มฟักทองยักษ์ที่ทำจากข้าวโพด เดินเข้าไปดูกัน...
ทำจากข้าวโพดล้วนๆ เลยน้า
เข้ามาถ่ายรูปข้างในกันดีกว่า
บรรยากาศรอบๆ สวยมาก ดอกไม้คือจัดเต็มจริงๆ อดถ่ายรูปด้วยไม่ได้ค่ะ ถึงแดดแรงขนาดนี้ ก็ไม่พลาดแน่นอน แต่ถ้าแดดเบากว่านี้คงจะดีกว่ามาก และเดินชิวมากกว่านี้อีก
ดอกไม้สีตัดกัน สวยจริงๆ
จุดถ่ายรูปหรือจุดหลบแดดอีกที่หนึ่งค่ะ
ร้อนแค่ไหนเราไม่กลัวอยู่แล้ว อิอิ
รูปแบบย้อนแสง
กับปะทะแดดเต็มๆ จะยังไงละ ร้อนสิค่ะ ^_^’
ไปกันต่อที่จุดต่อไป
จุดที่สาม หมู่บ้านอีสาน ชมหลากหลายสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นอีสานที่ได้รับการรวบรวมและสร้างขึ้นไว้มากที่สุด
มีร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยนะ
น่ากินมากๆ
นั่งรถไปต่อกันที่ ตลาดจิม ให้เรามาแวะซื้อของฝากกันไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ต้นไม้ ผลผลิตทางการเกษตรทั้งสดและแปรรูปจากจิม ทอมป์สันฟาร์มกัน มีครบเลยจ้า
ก่อนจะเข้าไปช้อปปิ้ง ขอไปถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ก่อน
คิดว่าอยู่เกาหลีสะอีก 5555
ดอกไม้สีสันสดใสมากๆ
ตามมาต่อกับสินค้าของฟาร์มกันค่ะ
ก่อนกลับ เราแวะมาที่ U-Pick Garden ให้เก็บมะเขือสดจาดต้นเลย โดยตะกร้าละ 300 บาท
ลูกใหญ่อยู่นะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปที่พักของเราคืนนี้กัน ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก
ที่พักคืนนี้ของเราค่ะ อยู่ในโครงการของ Toscana ใหญ่โตมาก
มาถึงก็จะมืดแล้ว พระอาทิตย์กำลังตกดินพอดีเลย
เอาภาพข้างในบ้านพักมาฝากก่อนนะ เราพักในส่วนของ Log home บ้านก็จะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ1 ห้องนั่งเล่น และห้องครัว
พอมืดความเย็นก็มาทันทีเลยค่ะ ยิ่งดึกยิ่งหนาว
เก็บภาพบรรยากาศตอนกลางคืนมาค่ะ โดยเราปรับเป็นโหมดถ่ายตอนกลางคืน ภาพก็จะได้ประมาณนี้เลยค่ะ
ปรับมาเป็นโหมด Hybrid Auto เหมือนเดิม
มื้อเย็นนี้เรามากินพิซซ่าคร้า อากาศเย็นสบายมากกก ชิวสุดๆ
มาต่อกันวันที่ 2 เลยค่ะ บรรยากาศบริเวณที่พักตอนเช้า อากาศสดชื่น เย็นกำลังสบายเลย
นี่ค่ะบ้านพักของเรา
บริเวณบ้านใกล้เคียง เหมือนอยู่เมืองนอกเลยเนอะ
วันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้ามาว่ายน้ำที่ club house กันค่ะ เพราะกลางคืนค่อนข้างหนาว กลางวันก็แดดร้อน ตอนนเช้าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดค่ะ
บริเวณหน้า club house ค่ะ
ถ้าไม่ได้เจ้านี้ รูปสวยๆ ในทริปนี้คงไม่มีแน่ๆ อิอิ
สักภาพก่อนลงน้ำ
แบบว่าสวยจนเกินคำบรรยายเลยเนอะ
หลังจากว่ายน้ำก็กลับมาถ่ายรูปแถวที่พักก่อนกลับอีกที มุมไหนก็สวยไปหมด หมายถึงวิวนะ 555555
พักที่นี่ได้รูปลงถึงปีหน้าเลยนะ มุมสวยๆ เพียบจริงๆ
หลังออกจากพักเราก็แวะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน ไปกินกันที่ร้านใน ฤทธา อะไรคือจานใหญ่และเยอะไปมั้ยหง่ะ
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ขับรถไปเที่ยวที่ Montana Farm ค่ะ อยากเล่นกับอัลปาก้ามานานแล้ว
วันนี้เราจะได้เจอมันตัวจริงๆ เลยค่ะ ^_^
มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเพียบเลย
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอ Alpaca Land
ซื้อตั๋วเข้า 70 บาทก่อนนะคะ ก่อนเข้าก็จะมีถุงคลุมรองเท้าให้ด้วย
อัลปาก้าน่ารัก และเชื่องมากๆ เลย ฟาร์มที่นี่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ต้องกลัวว่าอัลปาก้าจะทำร้ายเราเลยค่ะ
เราซื้อแครอทมาให้อาหารมันด้วย หงั่มๆ เข้าปากเลย ยิ่งถ้ามันเห็นอาหารในมือก็จะเดินเข้ามาหาเรา มาเล่นกล้องด้วยค่ะ น่ารักมากจริงๆ
หงั่มเข้าปากพอดีเด๊ะ 5555
มองกล้องด้วยน้า
และในนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่น่ารักอีกตัว คือลา นี่เองค่ะ น่ารักมากๆๆ เหมือนในหนังเรื่อง sherk เลยอ่าาาา
ขอฝากรีวิวแรกของเราไว้ด้วยนะคะ สำหรับใครที่กำลังอยากจะไป Jim Thompson Farm อยู่พอดี ก็ไปเลยค่ะ คุ้มมากๆ และใครกำลังหาที่พักบรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกต้อง Log home ใน Toscana ที่นี่เลย ฟิวมันใช่เลย แถมรับรองได้รูปสวยๆ เพียบแน่
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนจบ บายค้า ^_^
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2819544
ไปเที่ยวเขาใหญ่กันเถอะ ขับรถออกจากกรุงเทพฯ สายหน่อย ไปถึงฟาร์มก็บ่ายๆ เลย
และภาพสวยๆ ครั้งนี้ต้องขอบคุณ Canon EOS M10 ที่เพิ่งถอยมาจากงาน Photo Fair ยังใช้ไม่ค่อยเป็นเท่าไร ส่วนใหญ่ใช้แต่โหมด Auto ถ่ายสนุกดีค่ะ ลองมาดูกันว่ารูปจะสวยแค่ไหนกับมือใหม่อย่างเรา ^_^
ตามกันมาเลยคร้าา…
เวลาบ่าย 2 ท้องฟ้าสดใส แดดแรงได้ใจมากๆ เลยค้า งานนี้สู้ตายเนอะ ถ้าพลาดครั้งนี้ รอถึงปีหน้ากันเลยทีเดียว
บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้า จะเจอซุ้มต้อนรับใหญ่อลังการอยู่ข้างหน้าเลย
จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรเชิงวัฒนธรรมอีสาน ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ ชื่นชมมรดกทางประเพณีและวัฒนธรรมอีสานดั้งเดิม ภายใต้ชื่องาน "มังมูน บุญข้าว”
ก่อนจะเข้าก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อนน้า คนละ 180 บาทจ้า
เดินมาดูแผนที่รอบๆ ฟาร์มกันก่อนดีกว่า
มีที่นั่งบริเวณโซนทางเข้าด้วย ถ้าแดดไม่แรง อากาศเย็นกว่านี้อีกนิด คงจะชิวมากแน่ๆ แต่ตอนที่ไปร้อนตับแล่บเลยค้าาา
ดอกไม้บริเวณทางเข้า สีสดใสมากๆ ใครอยากชมดอกไม้สวยๆ ต้องไม่พลาดเลยนะคะ แนะนำเบยยย
มีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ เพียบเริ่มจากที่นี่ก่อน
การเดินทางไปจุดต่างๅ เดินทางด้วยรถของทางฟาร์มนะคะ
ตลอดทางก็จะมีคนคอยบรรยายเกี่ยวกับฟาร์มไปเรื่อยๆ เลยค่ะ
ท้องฟ้าสดใสมากจริงๆ รับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่เข้ามาในรถ
ขับผ่านทุ่งทานตะวันทั้งสองด้าน สวยมากคร้าาา
เราลงมาถ่ายรูปกันที่จุดที่สอง ลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี คนค่อนข้างเยอะมากๆ ไม่กลัวแดดกันหรอไงเนี่ย
บรรยากาศดีมาก ล้อมรอบด้วยภูเขาพญาปราบ และทุ่งดอกไม้หลากสีบานสวยงามตระการตาจริงๆ
ซุ้มฟักทองยักษ์ที่ทำจากข้าวโพด เดินเข้าไปดูกัน...
ทำจากข้าวโพดล้วนๆ เลยน้า
เข้ามาถ่ายรูปข้างในกันดีกว่า
บรรยากาศรอบๆ สวยมาก ดอกไม้คือจัดเต็มจริงๆ อดถ่ายรูปด้วยไม่ได้ค่ะ ถึงแดดแรงขนาดนี้ ก็ไม่พลาดแน่นอน แต่ถ้าแดดเบากว่านี้คงจะดีกว่ามาก และเดินชิวมากกว่านี้อีก
ดอกไม้สีตัดกัน สวยจริงๆ
จุดถ่ายรูปหรือจุดหลบแดดอีกที่หนึ่งค่ะ
ร้อนแค่ไหนเราไม่กลัวอยู่แล้ว อิอิ
รูปแบบย้อนแสง
กับปะทะแดดเต็มๆ จะยังไงละ ร้อนสิค่ะ ^_^’
ไปกันต่อที่จุดต่อไป
จุดที่สาม หมู่บ้านอีสาน ชมหลากหลายสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นอีสานที่ได้รับการรวบรวมและสร้างขึ้นไว้มากที่สุด
มีร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยนะ
น่ากินมากๆ
นั่งรถไปต่อกันที่ ตลาดจิม ให้เรามาแวะซื้อของฝากกันไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ต้นไม้ ผลผลิตทางการเกษตรทั้งสดและแปรรูปจากจิม ทอมป์สันฟาร์มกัน มีครบเลยจ้า
ก่อนจะเข้าไปช้อปปิ้ง ขอไปถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ก่อน
คิดว่าอยู่เกาหลีสะอีก 5555
ดอกไม้สีสันสดใสมากๆ
ตามมาต่อกับสินค้าของฟาร์มกันค่ะ
ก่อนกลับ เราแวะมาที่ U-Pick Garden ให้เก็บมะเขือสดจาดต้นเลย โดยตะกร้าละ 300 บาท
ลูกใหญ่อยู่นะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปที่พักของเราคืนนี้กัน ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก
ที่พักคืนนี้ของเราค่ะ อยู่ในโครงการของ Toscana ใหญ่โตมาก
มาถึงก็จะมืดแล้ว พระอาทิตย์กำลังตกดินพอดีเลย
เอาภาพข้างในบ้านพักมาฝากก่อนนะ เราพักในส่วนของ Log home บ้านก็จะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ1 ห้องนั่งเล่น และห้องครัว
พอมืดความเย็นก็มาทันทีเลยค่ะ ยิ่งดึกยิ่งหนาว
เก็บภาพบรรยากาศตอนกลางคืนมาค่ะ โดยเราปรับเป็นโหมดถ่ายตอนกลางคืน ภาพก็จะได้ประมาณนี้เลยค่ะ
ปรับมาเป็นโหมด Hybrid Auto เหมือนเดิม
มื้อเย็นนี้เรามากินพิซซ่าคร้า อากาศเย็นสบายมากกก ชิวสุดๆ
มาต่อกันวันที่ 2 เลยค่ะ บรรยากาศบริเวณที่พักตอนเช้า อากาศสดชื่น เย็นกำลังสบายเลย
นี่ค่ะบ้านพักของเรา
บริเวณบ้านใกล้เคียง เหมือนอยู่เมืองนอกเลยเนอะ
วันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้ามาว่ายน้ำที่ club house กันค่ะ เพราะกลางคืนค่อนข้างหนาว กลางวันก็แดดร้อน ตอนนเช้าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดค่ะ
บริเวณหน้า club house ค่ะ
ถ้าไม่ได้เจ้านี้ รูปสวยๆ ในทริปนี้คงไม่มีแน่ๆ อิอิ
สักภาพก่อนลงน้ำ
แบบว่าสวยจนเกินคำบรรยายเลยเนอะ
หลังจากว่ายน้ำก็กลับมาถ่ายรูปแถวที่พักก่อนกลับอีกที มุมไหนก็สวยไปหมด หมายถึงวิวนะ 555555
พักที่นี่ได้รูปลงถึงปีหน้าเลยนะ มุมสวยๆ เพียบจริงๆ
หลังออกจากพักเราก็แวะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน ไปกินกันที่ร้านใน ฤทธา อะไรคือจานใหญ่และเยอะไปมั้ยหง่ะ
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ขับรถไปเที่ยวที่ Montana Farm ค่ะ อยากเล่นกับอัลปาก้ามานานแล้ว
วันนี้เราจะได้เจอมันตัวจริงๆ เลยค่ะ ^_^
มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเพียบเลย
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอ Alpaca Land
ซื้อตั๋วเข้า 70 บาทก่อนนะคะ ก่อนเข้าก็จะมีถุงคลุมรองเท้าให้ด้วย
อัลปาก้าน่ารัก และเชื่องมากๆ เลย ฟาร์มที่นี่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ต้องกลัวว่าอัลปาก้าจะทำร้ายเราเลยค่ะ
เราซื้อแครอทมาให้อาหารมันด้วย หงั่มๆ เข้าปากเลย ยิ่งถ้ามันเห็นอาหารในมือก็จะเดินเข้ามาหาเรา มาเล่นกล้องด้วยค่ะ น่ารักมากจริงๆ
หงั่มเข้าปากพอดีเด๊ะ 5555
มองกล้องด้วยน้า
และในนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่น่ารักอีกตัว คือลา นี่เองค่ะ น่ารักมากๆๆ เหมือนในหนังเรื่อง sherk เลยอ่าาาา
ขอฝากรีวิวแรกของเราไว้ด้วยนะคะ สำหรับใครที่กำลังอยากจะไป Jim Thompson Farm อยู่พอดี ก็ไปเลยค่ะ คุ้มมากๆ และใครกำลังหาที่พักบรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกต้อง Log home ใน Toscana ที่นี่เลย ฟิวมันใช่เลย แถมรับรองได้รูปสวยๆ เพียบแน่
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนจบ บายค้า ^_^
ที่มา Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2819544