ประเดิมกระทู้แรก ด้วยการรีวิวทริป “ เ ชี ย ง ใ ห ม่ ”
ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 8 วัน 7 คืน (วันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2558)
มีผู้ร่วมเดินทาง 2 ท่าน คือ จขกท. และ ‘คุณชาย’ (ขออนุญาติเรียกแทนชื่อว่า ‘คุณชาย’ นะคะ)
แผนคร่าวๆ คือ บ้านระเบียงดาว ดอยอ่างขาง บ้านแม่กำปอง ดอยอินทนนท์ บ้านแม่กลางหลวง(อันนี้แอบผิดแผน อดไป TT)
ทริปนี้เริ่มต้นจากโปรลดราคาของสายการบินหางแดง ที่จองก่อนวันเดินทางเกือบปี (จองเฉพาะขากลับ 12 ธ.ค. 58)
ทำให้มีเวลาในการหาข้อมูลเยอะมากกก (จนไม่สามารถไปให้ครบใน 8 วันได้ 555 5)
หลังจากหาข้อมูล เราก็เลือกที่จะ ไปบ้านระเบียงดาวก่อน ต่อที่ดอยอ่างขาง
แล้วย้อนกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อที่จะไม่ต้องไปต่อรถ หรือย้อนไปย้อนมา
Photo by Fuji X-M1+16-50 (หลังกล้อง) & iPhone 5s
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
DAY 0
at Mo - Chit
04.12.15 เราขึ้นรถทัวร์สาย กรุงเทพ – ฝาง ของบ.นิววิริยะทัวร์ รอบ 19:45 น.
(รอบที่เราไปรถออกตรงเวลามากกกก) ไปลงที่ อ.เชียงดาว (เพื่อไปถึงเชียงดาวในตอนเช้า)
ค่าโดยสาร คนละ 701 บาท บอกคนขับรถว่าขอลงที่ “โลตัสเชียงดาว”
บ.นิววิริยะทัวร์ Tel. (02) 936-2205-6
แต่พนง.ขายตั๋ว แจ้งว่าต้องไปซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องขายตั๋ว ณ หมอชิต2 เท่านั้นไม่สามารถจองทางโทรศัพท์ได้
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
DAY 1
at บ้านระเบียงดาว
และในที่สุดดดดดดด... เวลา 08:20 น. เราก็มาถึง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
คนขับจอดให้ตรงจุดเป๊ะ!! นี่ไงงง โลตัสเชียงดาว
หลังจากลงรถทัวร์รู้แต่ว่าต้องขึ้นรถสองแถว เชียงดาว - เมืองคอง
ซึ่งไม่รู้อยู่ตรงไหน 555 5 (ไหนแกบอกว่า มีเวลาหาข้อมูลเยอะไงงงง)
และบังเอิญคุณชายอยากเข้าห้องน้ำ เลยไปขอเข้าห้องน้ำที่ร้านกาแฟ หน้ากศน. เชียงดาว
เลยแอบถามจุดจอดรถไปบ้านระเบียงดาว...
พี่เค้า (ไม่ได้ถามชื่อมา ><”) บอกว่าต้องเดินไปขึ้นตรงซอยที่มีร้านข้าวขาหมูอยู่หัวมุม และก็ให้เบอร์มา
(พี่เค้าบอกว่า “ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ แต่มีคนมาถามเยอะมาก เลยต้องไปหาข้อมูลมาไว้ตอบ
เพราะสงสารเค้าเวลาไม่รู้ว่าจะไปขึ้นรถที่ไหน” นี่ซิน๊ะ มิตรภาพระหว่างทาง ขอบคุณมากๆ จริงๆ คะ)
ใครผ่านไปแถวๆ นั้นอย่าลืมไปอุดหนุนพี่เค้านะคะ ^^*
ชื่อลุงอ้าย (083) 318-3062 ขับรถรับส่ง เชียงดาว-เมืองคอง จึงไม่รอช้า โทร.หาลุงอ้ายโดยด่วนนน
ได้ความว่า ลุงอ้ายกำลังลงมาอีกประมานครึ่งชม.ถึง (แอบบอกว่ารถสีเหลือหน้ากศน.เชียงดาว จะต้องเหมาขึ้นนะคะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างรอลุงอ้าย เลยคิดขึ้นมาได้ว่า.. มาเชียงดาวทั้งที ต้องจัดนี่เลยยย ข้าวขาหมู !!
ที่นี่มีร้านข้าวขาหมูใกล้ๆ กันอยู่ 2 ร้าน ไม่แน่ใจว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน
แต่เข้าร้านใกล้ (แกใช้ตรรกะในการเลือกร้านได้ดี!!) พรเพ็ญ ขาหมูเสวย
คากิสำหรับตัวเอง (เป็นผู้หญิงสายคลีน) ><"
และเนื้อล้วนสำหรับคุณชาย
อิ่มแล้วก็ไปรอลุงอ้ายหน้าโลตัสตามที่นัดกันไว้ และประมาณ 9 โมงครึ่งลุงอ้ายก็มารับ
ระหว่างทางลุงอ้ายก็แวะซื้อของขึ้นไปส่งบนดอยด้วย ก็ Slow Life กันไป 555 5
และเราก็มาถึงจุดตรวจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เสียค่าผ่านคนละ 20 บาท
และเราก็ไปต่อทางขึ้นค่อนข้างชันและคดเคี้ยว แต่ลุงอ้ายก็มิหวั่นซิ่งสุดใจ
ในที่สุดลุงอ้ายก็พาเรามาถึงทางเข้า “บ้านระเบียงดาว”
พอลงเราก็จ่ายค่ารถลุงอ้ายคนละ 50 บาท และบอกลุงอ้ายไว้ว่าพรุ่งนี้จะขอลงด้วยยย
พอถึงปุ๊บ เจ้าถิ่นก็วิ่งมาต้อนรับอย่างรวดเร็ว น่ารักมากกกกกก (อ้อนซะด้วย) ^^*
เราก็จะช้าอยู่ไย ไปกันเล๊ยยยยย ย
เฮโหลลลลลลลล บ้านระเบียงดาววว... บรรยากาศดีม๊ากกกกก
บ้านระเบียงดาว ค่าเสียหาย คนละ 500 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้าของวันถัดไป
#ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านของจริง สนใจติดต่อพี่นิคม Tel. (089)998-0712, (089)903-0083
ที่นี่มีที่ชาร์ตรวมแค่ที่เดียวนะคะ ในห้องพักไม่มีปลั๊ก จะมีแค่ไฟใช้ได้หลังเวลา 18:00 น.
และนี่คือบ้านพักของเราในค่ำคืนนี้ จะมีที่นอน หมอน มุ้ง และห้องน้ำ (ลืมถ่ายในบ้านมา ><”)
และเวลาที่รอคอยก็มีถึงงงง อาหารเย็นของเราในวันนี้
**น้ำพริกเด็ดและเผ็ดสมคำร่ำลือ**
(คุณชายอยากซื้อกลับกันเลยทีเดียว)
อยากบอกว่าตอนกลางคืน ที่นี่ท้องฟ้าสวยมากกก ดาวเยอะมากกกก
ไม่เคยเห็นดาวที่ไหนสวยเท่าที่นี่ สมชื่อ "บ้านระเบียงดาว"
แต่เค้าถ่ายมาฝากไม่ได้งะ ><” ต้องมาเห็นด้วยตัวเอง
ขอกลับไปหัดถ่ายทางช้างเผือกก่อนนน (ใครก็ได้ช่วยสอนที) แล้วจะกลับมาอีกแน่นอน
ปล. กระทู้รีวิวในครั้งนี้ ทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูล (อันเยอะแยะมากมาย ซึ่งรวมรวบได้ไม่หมด)
ที่แอบเก็บมาจากใน Pantip และที่ไปประสบพบเจอมา ให้เป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปเชียงใหม่
และตัวจขกท.เอง เผื่อครั้งหน้าไปอีกจะได้กลับมาดูกระทู้ตัวเองง
ปล2. ภาษาอาจไม่สละสลวย เพื่ออรรถรสในการอ่านรีวิวนะคะ ^^*
DAY 2
in บ้านระเบียงดาว >> ดอยอ่างขาง
ตื่นออกมาจากบ้านพักก็เจอวิวนี้ คือมันดีมากกกกก ฟินมากกกกกกกกกก
เช้านี้ 13 องศา อากาศหนาวกำลังดี
ทางที่พักแจ้งเราว่า ลุงอ้ายจะมารับตอนประมาณ 9 โมง
เราจึงไปรอตรงทางเข้าที่ลุงอ้ายจอดส่งเมื่อวาน
แต่ 9 โมงกว่าแล้วลุงอ้ายก็ยังไม่มา เราเลยออกไปรอที่หน้าปากทางก่อนเลี้ยวเข้า
9 โมงครึ่งผ่านไปปป.. T T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็รออีกกกก...
จนลุงอ้ายขับมา ดีใจ!!!!
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนนนนน
ลุงอ้ายลงไปรอบนึงแล้ว น่าจะเข้าใจกันผิดนิดหน่อย
ลุงอ้ายจะลงอีกทีตอนบ่ายๆ ซึ่งเราจะต้องไปอ่างขางต่อ ถ้ารอจะไม่ทัน
ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี ,, มีรถกะบะสีแดงผ่านมาพอดี มองหน้ากันและพยักหน้าหนึ่งที
โบกกกกกกก ที่โชคดีกว่านั้นคืออ คุณลุงจะลงไปที่อำเภอ !!!
แล้วคุณลุงใจดีก็ให้ติดรถลงมา พอถึงปุ๊บก็ช่วยค่าน้ำมันคุณลุงไปเล็กน้อย
หิวแล้วววว หาไรกินดีกว่า,, จบด้วยก๋วยเตี๋ยว
แล้วเราก็เลือกที่จะนั่งรถเหลือง ไปลงท่ารถเชียงดาว
ถามราคาก่อนขึ้นนะคะ คันนี้คิดคนละ 10 บาทค่ะ
และเราก็มาถึงท่ารถเชียงดาว
ถามเจ้าหน้าที่ว่ารถจะมากี่โมง ได้คำตอบว่า อีกไม่เกิน 10 นาทีรถจะเข้า
และก็เป็นตามนั้นนนน รถมาแล้วววว แต่.. ยังขึ้นไม่ได้นะคะ
ที่นี่เป็นจุดพักรถให้ผู้โดยสารแวะเข้าห้องน้ำ
ต้องให้คนที่ลงไปเข้าห้องน้ำกลับมานั่งก่อน ถึงจะขึ้นได้ค่ะ
ค่าโดยสาร เชียงดาว – อ่างขาง คนละ 45 บาท
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงแยกทางขึ้น ดอยอ่างขาง
จากตรงนี้เดินเข้าไปนิดเดียว หน้าวัดหาดสำราญ จะมีรถบริการขึ้นดอยอ่างขาง
เหมาคัน คิดค่าบริการดังนี้
- ขึ้น+ลง = 1,200 บาท
- ขึ้น+พาเที่ยว+ ลง = 1,900 บาท
จากตอนแรกคิดจะไปเช่ามอเตอร์ไซต์ที่ที่พัก (บ้านสุวรรณภูมิ) คิดแล้วไม่คุ้มเลยเหมาแบบพาเที่ยวด้วยเป็น 1,900 บาท
ทางขึ้นค่อนข้างชัน และหักซอกเยอะอยู่นะคะ ขับรถมาเองโปรดระมัดระวัง
เราพักที่ บ้านสุวรรณภูมิ Tel. (053)450045
ราคาช่วงที่เราไป วันธรรมดา 2,000 บาท วันหยุด 3,000 บาท ก็ถือว่าแพงอยู่น๊ะ
แต่ขอบอกว่าชอบผ้าห่มนวมของที่นี่มาก อุ่นมากกกกกก อยากเอากลับบ้านนน 555 5
*รูปภาพหน้าที่พักและภายในห้องพัก Credit : เพจ อ่างขางเมาท์เท่นวิวรีสอร์ท (บ้านพักสุวรรณภูมิ)
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 0 คือ 1,402 บาท
มูลค่า ณ DAY 1 คือ 1,195 บาท
มูลค่า ณ DAY 2 คือ
ช่วยค่าน้ำมันคุณลุงใจดี = 100
ค่าก๋วยเตี๋ยว = 70
ค่ารถ 2 แถวไปท่ารถเชียงดาว = 20
ค่ารถบัสไปอ่างขาง = 90
ค่าเหมารถขึ้นดอยอ่างขาง = 1,900
ค่าเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง = 100
ค่าที่พักบ้านสุวรรณภูมิ = 3,000
รวม 5,180
2 วัน 1 คืน 5,180 บาท แทบช็อค!!!!!!
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 2 = 7,777 บาท เลขสวยงามม
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 2 ยกมา คือ 7,777 บาท
มูลค่า ณ DAY 3 คือ
ค่ารถบัส 75x2 = 150
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ = 925
ค่าน้ำมัน = 100
ค่าส้มตำ (ประมาณนะคะ) = 270
ค่าที่พัก = 599
ค่าข้าวต้ม = 85
ค่าโรตี = 120
ค่านม Milk on the rock = 55
รวม 2,304
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 3 = 10,081 บาท
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 3 ยกมา คือ 10,081 บาท
มูลค่า ณ DAY 4 คือ (ขอไม่รวมค่าชาและขนม เนื่องจากจำราคาไม่ได้ค่ะ)
ค่าที่พัก 520x2 = 1,040
ค่าน้ำมัน = 50
ค่าอาหาร = 100
รวม 1,190
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 4 = 11,271 บาท
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 4 ยกมา คือ 11,271
มูลค่า ณ DAY 5 คือ (ขอไม่รวมค่าชาและขนม เนื่องจากจำราคาไม่ได้ค่ะ)
ค่าอาหาร = 80
ค่าชาเย็น = 45 (ประมาณ)
ค่าหมูกะทะ = 400
ค่าที่พัก = 1,000
รวม 1,525
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 5 = 12,796
ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 8 วัน 7 คืน (วันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2558)
มีผู้ร่วมเดินทาง 2 ท่าน คือ จขกท. และ ‘คุณชาย’ (ขออนุญาติเรียกแทนชื่อว่า ‘คุณชาย’ นะคะ)
แผนคร่าวๆ คือ บ้านระเบียงดาว ดอยอ่างขาง บ้านแม่กำปอง ดอยอินทนนท์ บ้านแม่กลางหลวง(อันนี้แอบผิดแผน อดไป TT)
ทริปนี้เริ่มต้นจากโปรลดราคาของสายการบินหางแดง ที่จองก่อนวันเดินทางเกือบปี (จองเฉพาะขากลับ 12 ธ.ค. 58)
ทำให้มีเวลาในการหาข้อมูลเยอะมากกก (จนไม่สามารถไปให้ครบใน 8 วันได้ 555 5)
หลังจากหาข้อมูล เราก็เลือกที่จะ ไปบ้านระเบียงดาวก่อน ต่อที่ดอยอ่างขาง
แล้วย้อนกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อที่จะไม่ต้องไปต่อรถ หรือย้อนไปย้อนมา
Photo by Fuji X-M1+16-50 (หลังกล้อง) & iPhone 5s
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
DAY 0
at Mo - Chit
04.12.15 เราขึ้นรถทัวร์สาย กรุงเทพ – ฝาง ของบ.นิววิริยะทัวร์ รอบ 19:45 น.
(รอบที่เราไปรถออกตรงเวลามากกกก) ไปลงที่ อ.เชียงดาว (เพื่อไปถึงเชียงดาวในตอนเช้า)
ค่าโดยสาร คนละ 701 บาท บอกคนขับรถว่าขอลงที่ “โลตัสเชียงดาว”
บ.นิววิริยะทัวร์ Tel. (02) 936-2205-6
แต่พนง.ขายตั๋ว แจ้งว่าต้องไปซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องขายตั๋ว ณ หมอชิต2 เท่านั้นไม่สามารถจองทางโทรศัพท์ได้
รวมค่าใช้จ่าย (ขอไม่รวมค่า KFC ที่หมอชิต ><”)
มูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 0 คือ
ค่ารถทัวร์ 701 x 2 = 1,402
มูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 0 คือ
ค่ารถทัวร์ 701 x 2 = 1,402
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
DAY 1
at บ้านระเบียงดาว
และในที่สุดดดดดดด... เวลา 08:20 น. เราก็มาถึง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
คนขับจอดให้ตรงจุดเป๊ะ!! นี่ไงงง โลตัสเชียงดาว
หลังจากลงรถทัวร์รู้แต่ว่าต้องขึ้นรถสองแถว เชียงดาว - เมืองคอง
ซึ่งไม่รู้อยู่ตรงไหน 555 5 (ไหนแกบอกว่า มีเวลาหาข้อมูลเยอะไงงงง)
และบังเอิญคุณชายอยากเข้าห้องน้ำ เลยไปขอเข้าห้องน้ำที่ร้านกาแฟ หน้ากศน. เชียงดาว
เลยแอบถามจุดจอดรถไปบ้านระเบียงดาว...
พี่เค้า (ไม่ได้ถามชื่อมา ><”) บอกว่าต้องเดินไปขึ้นตรงซอยที่มีร้านข้าวขาหมูอยู่หัวมุม และก็ให้เบอร์มา
(พี่เค้าบอกว่า “ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ แต่มีคนมาถามเยอะมาก เลยต้องไปหาข้อมูลมาไว้ตอบ
เพราะสงสารเค้าเวลาไม่รู้ว่าจะไปขึ้นรถที่ไหน” นี่ซิน๊ะ มิตรภาพระหว่างทาง ขอบคุณมากๆ จริงๆ คะ)
ใครผ่านไปแถวๆ นั้นอย่าลืมไปอุดหนุนพี่เค้านะคะ ^^*
ชื่อลุงอ้าย (083) 318-3062 ขับรถรับส่ง เชียงดาว-เมืองคอง จึงไม่รอช้า โทร.หาลุงอ้ายโดยด่วนนน
ได้ความว่า ลุงอ้ายกำลังลงมาอีกประมานครึ่งชม.ถึง (แอบบอกว่ารถสีเหลือหน้ากศน.เชียงดาว จะต้องเหมาขึ้นนะคะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างรอลุงอ้าย เลยคิดขึ้นมาได้ว่า.. มาเชียงดาวทั้งที ต้องจัดนี่เลยยย ข้าวขาหมู !!
ที่นี่มีร้านข้าวขาหมูใกล้ๆ กันอยู่ 2 ร้าน ไม่แน่ใจว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน
แต่เข้าร้านใกล้ (แกใช้ตรรกะในการเลือกร้านได้ดี!!) พรเพ็ญ ขาหมูเสวย
คากิสำหรับตัวเอง (เป็นผู้หญิงสายคลีน) ><"
และเนื้อล้วนสำหรับคุณชาย
อิ่มแล้วก็ไปรอลุงอ้ายหน้าโลตัสตามที่นัดกันไว้ และประมาณ 9 โมงครึ่งลุงอ้ายก็มารับ
ระหว่างทางลุงอ้ายก็แวะซื้อของขึ้นไปส่งบนดอยด้วย ก็ Slow Life กันไป 555 5
และเราก็มาถึงจุดตรวจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เสียค่าผ่านคนละ 20 บาท
และเราก็ไปต่อทางขึ้นค่อนข้างชันและคดเคี้ยว แต่ลุงอ้ายก็มิหวั่นซิ่งสุดใจ
ในที่สุดลุงอ้ายก็พาเรามาถึงทางเข้า “บ้านระเบียงดาว”
พอลงเราก็จ่ายค่ารถลุงอ้ายคนละ 50 บาท และบอกลุงอ้ายไว้ว่าพรุ่งนี้จะขอลงด้วยยย
พอถึงปุ๊บ เจ้าถิ่นก็วิ่งมาต้อนรับอย่างรวดเร็ว น่ารักมากกกกกก (อ้อนซะด้วย) ^^*
เราก็จะช้าอยู่ไย ไปกันเล๊ยยยยย ย
เฮโหลลลลลลลล บ้านระเบียงดาววว... บรรยากาศดีม๊ากกกกก
บ้านระเบียงดาว ค่าเสียหาย คนละ 500 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้าของวันถัดไป
#ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านของจริง สนใจติดต่อพี่นิคม Tel. (089)998-0712, (089)903-0083
ที่นี่มีที่ชาร์ตรวมแค่ที่เดียวนะคะ ในห้องพักไม่มีปลั๊ก จะมีแค่ไฟใช้ได้หลังเวลา 18:00 น.
และนี่คือบ้านพักของเราในค่ำคืนนี้ จะมีที่นอน หมอน มุ้ง และห้องน้ำ (ลืมถ่ายในบ้านมา ><”)
และเวลาที่รอคอยก็มีถึงงงง อาหารเย็นของเราในวันนี้
**น้ำพริกเด็ดและเผ็ดสมคำร่ำลือ**
(คุณชายอยากซื้อกลับกันเลยทีเดียว)
อยากบอกว่าตอนกลางคืน ที่นี่ท้องฟ้าสวยมากกก ดาวเยอะมากกกก
ไม่เคยเห็นดาวที่ไหนสวยเท่าที่นี่ สมชื่อ "บ้านระเบียงดาว"
แต่เค้าถ่ายมาฝากไม่ได้งะ ><” ต้องมาเห็นด้วยตัวเอง
ขอกลับไปหัดถ่ายทางช้างเผือกก่อนนน (ใครก็ได้ช่วยสอนที) แล้วจะกลับมาอีกแน่นอน
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 0 คือ 1,402
มูลค่า ณ DAY 1 คือ
ค่าข้าวขาหมู = 95
ค่ารถลุงอ้าย 50 x 2 = 100
ค่าที่พักบ้านระเบียงดาว 500 x 2 = 1,000
รวม 1,195
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 1 = 2,597
มูลค่า ณ DAY 0 คือ 1,402
มูลค่า ณ DAY 1 คือ
ค่าข้าวขาหมู = 95
ค่ารถลุงอ้าย 50 x 2 = 100
ค่าที่พักบ้านระเบียงดาว 500 x 2 = 1,000
รวม 1,195
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 1 = 2,597
ปล. กระทู้รีวิวในครั้งนี้ ทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูล (อันเยอะแยะมากมาย ซึ่งรวมรวบได้ไม่หมด)
ที่แอบเก็บมาจากใน Pantip และที่ไปประสบพบเจอมา ให้เป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปเชียงใหม่
และตัวจขกท.เอง เผื่อครั้งหน้าไปอีกจะได้กลับมาดูกระทู้ตัวเองง
ปล2. ภาษาอาจไม่สละสลวย เพื่ออรรถรสในการอ่านรีวิวนะคะ ^^*
DAY 2
in บ้านระเบียงดาว >> ดอยอ่างขาง
ตื่นออกมาจากบ้านพักก็เจอวิวนี้ คือมันดีมากกกกก ฟินมากกกกกกกกกก
เช้านี้ 13 องศา อากาศหนาวกำลังดี
ทางที่พักแจ้งเราว่า ลุงอ้ายจะมารับตอนประมาณ 9 โมง
เราจึงไปรอตรงทางเข้าที่ลุงอ้ายจอดส่งเมื่อวาน
แต่ 9 โมงกว่าแล้วลุงอ้ายก็ยังไม่มา เราเลยออกไปรอที่หน้าปากทางก่อนเลี้ยวเข้า
9 โมงครึ่งผ่านไปปป.. T T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็รออีกกกก...
จนลุงอ้ายขับมา ดีใจ!!!!
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนนนนน
ลุงอ้ายลงไปรอบนึงแล้ว น่าจะเข้าใจกันผิดนิดหน่อย
ลุงอ้ายจะลงอีกทีตอนบ่ายๆ ซึ่งเราจะต้องไปอ่างขางต่อ ถ้ารอจะไม่ทัน
ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี ,, มีรถกะบะสีแดงผ่านมาพอดี มองหน้ากันและพยักหน้าหนึ่งที
โบกกกกกกก ที่โชคดีกว่านั้นคืออ คุณลุงจะลงไปที่อำเภอ !!!
แล้วคุณลุงใจดีก็ให้ติดรถลงมา พอถึงปุ๊บก็ช่วยค่าน้ำมันคุณลุงไปเล็กน้อย
หิวแล้วววว หาไรกินดีกว่า,, จบด้วยก๋วยเตี๋ยว
แล้วเราก็เลือกที่จะนั่งรถเหลือง ไปลงท่ารถเชียงดาว
ถามราคาก่อนขึ้นนะคะ คันนี้คิดคนละ 10 บาทค่ะ
และเราก็มาถึงท่ารถเชียงดาว
ถามเจ้าหน้าที่ว่ารถจะมากี่โมง ได้คำตอบว่า อีกไม่เกิน 10 นาทีรถจะเข้า
และก็เป็นตามนั้นนนน รถมาแล้วววว แต่.. ยังขึ้นไม่ได้นะคะ
ที่นี่เป็นจุดพักรถให้ผู้โดยสารแวะเข้าห้องน้ำ
ต้องให้คนที่ลงไปเข้าห้องน้ำกลับมานั่งก่อน ถึงจะขึ้นได้ค่ะ
ค่าโดยสาร เชียงดาว – อ่างขาง คนละ 45 บาท
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงแยกทางขึ้น ดอยอ่างขาง
จากตรงนี้เดินเข้าไปนิดเดียว หน้าวัดหาดสำราญ จะมีรถบริการขึ้นดอยอ่างขาง
เหมาคัน คิดค่าบริการดังนี้
- ขึ้น+ลง = 1,200 บาท
- ขึ้น+พาเที่ยว+ ลง = 1,900 บาท
จากตอนแรกคิดจะไปเช่ามอเตอร์ไซต์ที่ที่พัก (บ้านสุวรรณภูมิ) คิดแล้วไม่คุ้มเลยเหมาแบบพาเที่ยวด้วยเป็น 1,900 บาท
ทางขึ้นค่อนข้างชัน และหักซอกเยอะอยู่นะคะ ขับรถมาเองโปรดระมัดระวัง
เราพักที่ บ้านสุวรรณภูมิ Tel. (053)450045
ราคาช่วงที่เราไป วันธรรมดา 2,000 บาท วันหยุด 3,000 บาท ก็ถือว่าแพงอยู่น๊ะ
แต่ขอบอกว่าชอบผ้าห่มนวมของที่นี่มาก อุ่นมากกกกกก อยากเอากลับบ้านนน 555 5
*รูปภาพหน้าที่พักและภายในห้องพัก Credit : เพจ อ่างขางเมาท์เท่นวิวรีสอร์ท (บ้านพักสุวรรณภูมิ)
พอขึ้นไปเก็บของ ก็ออกเที่ยวรอบสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ค่าเข้าคนละ 50 บาท
สวนบ๊วย..
และก็ได้เวลาอาหารเย็น ตอนแรกอยากกินที่ โครงการหลวง แต่เต็ม (อดอีกแล้วว T T)
ก็เลยต้องเป็นร้านหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (จำชื่อร้านไม่ได้ ><”)
รสชาติดีทีเดียว...
เก็บท้องมาต่อที่ร้านขายของกิน คล้ายถนนคนเดิน
และกลับไปหาน้องหมอน ชาร์ตแบตเพื่อตี 5
*Budget สูงเพราะที่นี่อ่างขางเลยค่ะ แพงทุกอย่างค่ารถขึ้น ค่าที่พัก อาจจะเหมาะกับการมาหลายคน
ค่าเข้าคนละ 50 บาท
สวนบ๊วย..
และก็ได้เวลาอาหารเย็น ตอนแรกอยากกินที่ โครงการหลวง แต่เต็ม (อดอีกแล้วว T T)
ก็เลยต้องเป็นร้านหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (จำชื่อร้านไม่ได้ ><”)
รสชาติดีทีเดียว...
เก็บท้องมาต่อที่ร้านขายของกิน คล้ายถนนคนเดิน
และกลับไปหาน้องหมอน ชาร์ตแบตเพื่อตี 5
*Budget สูงเพราะที่นี่อ่างขางเลยค่ะ แพงทุกอย่างค่ารถขึ้น ค่าที่พัก อาจจะเหมาะกับการมาหลายคน
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 0 คือ 1,402 บาท
มูลค่า ณ DAY 1 คือ 1,195 บาท
มูลค่า ณ DAY 2 คือ
ช่วยค่าน้ำมันคุณลุงใจดี = 100
ค่าก๋วยเตี๋ยว = 70
ค่ารถ 2 แถวไปท่ารถเชียงดาว = 20
ค่ารถบัสไปอ่างขาง = 90
ค่าเหมารถขึ้นดอยอ่างขาง = 1,900
ค่าเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง = 100
ค่าที่พักบ้านสุวรรณภูมิ = 3,000
รวม 5,180
2 วัน 1 คืน 5,180 บาท แทบช็อค!!!!!!
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 2 = 7,777 บาท เลขสวยงามม
DAY 3
in ดอยอ่างขาง >> เชียงใหม่
นัดคุณลุงขับรถไว้ 6 โมง ที่แรกที่มาแวะคือจุดชมวิว พระอาทิตย์ขึ้น
ช่างโชคร้ายวันนี้ท้องฟ้าปิดดดดด T T
เลยไปต่อที่ ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล ตั้งใจมาดูหมอกเช้าที่นี่..
แต่!!! ฟ้าช่างไม่เป็นใจ พระอาทิตย์ไม่มา น้องหมอกก็ไม่มี (อยากจะร้องงงง ดังๆ T T)
เลยได้รูปมาแค่นี้ ><”
เราจึงไม่เสียเวลา ไปต่อที่ “ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล” และ ไร่ชา 2000
วันนี้ท้องฟ้าปิด อึมคลึมมากจริงๆ เสียใจจจจจจ T T
อย่ามัวแต่เสียใจ ไปต่อที่ม่อนสนกันดีกว่า..
แต่ก็ยังพบว่าน้องหมอกที่อยากเจอไปไหนโหม๊ดดดดด ฮืออออ T T
ดวงเราไม่ดีเองซิน๊ะ ><”
ในเมื่อเราทำอะไรกับ ’โชคร้าย’ ที่เจอไม่ได้ ก็ไปตามหา ’โชคดี’ กันดีกว่า..
เราบอกให้ลุงขับรถไปส่งที่ บ้านกำนันลือ เพราะโทรไปจองรถตู้กลับเข้าเชียงใหม่
Tel. 053-451255, 053-451655
แต่จนท. บอกว่า "รถตู้เต็มต้องลอง walk in ที่บ้านกำนันลือ ถ้ามีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่มี"
และกำนันลือก็บอกข่าวร้ายกับเราคือ.. รถไม่มี!! (แง่วววว เรายังตามหาโชคดีไม่เจออ ><”)
ต้องนั่งรถบัสหวานเย็นกลับซิน๊ะ ก็เลยต้องรอรถบัส สายเดียวกับที่นั่งมาจากเชียงดาว
ค่ารถจากอ่างขาง – เชียงใหม่ คนละ 75 บาท
1 ชม. ผ่านไป...
2 ชม. ผ่านไปปปป... เพิ่งถึงท่ารถเชียงดาว
3 ชม. และในที่สุดรถหวานเย็นก็พาเรามาถึงงงง รถจอดที่สถานีขนส่งช้างเผือก
จากนั้นเราก็ขึ้นรถแดง เพื่อไปเช่ามอเตอร์ไซต์ ที่ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้ว
หลังจากถามราคารถแดงหลายคันแล้ว สุดท้ายก็ต้องจ่ายที่คนละ 40 บาท (แอบเซงนิดหน่อย ยังรู้สึกว่ามันถูกได้กว่านี้ ><”)
แล้วเราก็มาถึง ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้ว หาง่าย อยู่ริมถนนห้วยแก้วเลยค่ะ
*รูปหน้าร้าน Credit : เพจ Bikkychiangmai (ไม่มีแรงแม้กระทั่งยกโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งเราได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ของทางร้าน (http://www.bikkychiangmai.com/store/) ไว้แล้ว
จึงได้รับส่วนรถค่าเช่า วันละ 25 บาท/คัน/วัน และหลังจากที่ศึกษาเส้นทางมาบ้าง
ก็พบว่าทางที่ไปส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขา ทำให้เลือกที่จะเช่ารถมีเกียร์ธรรมดา ไม่ใช่รถออโต้
ค่าเช่ารถ วันละ 200 บาท ได้ส่วนลด 25 บาท เหลือวันละ 175 บาท x 5 วัน
(เช่าวันที่ 7 – 12 = 5 วัน) = 875 บาท + ค่าบริการรับคืนรถที่สนามบิน 50 บาท = 925 บาท
จ่ายตังค์เสร็จ ก็ได้น้องแว๊นซ์คันนี้มา ,, Susuki Shooter
*แอบขโมยรูปมอเตอร์ไซต์ตอนอยู่ที่แม่กำปอง มาก่อน (ณ ตอนออกจากร้านถ่ายไม่ไหวจริงๆ)
และหลังจากนั้นเราก็แวะเติมพลังงานรถก่อน และก็ต่อด้วยเติมพลังงานคน
ที่นี่เลยค่ะ... ร้านส้มตำอุดร!!!! รถบัสหวานเย็นทำเพลียหนัก จัดส้มตำซะหน่อย
ตำซั่ว สุดแซ่บบ
ส้มตำไข่เค็ม
น้ำตกหมู
ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
โดยรวมรสชาติถือว่าอร่อยเลยทีเดียว แต่ชอบตำซั่วสุดดด.. แซ่บมากกกก
หลังจากเติมพลังเรียบร้อยเราก็กลับไปเก็บของที่ห้องพัก
เราจองไว้ที่ Warisa Apartment ราคาคืนละ 599 บาท
Tel. (052)003-912, (084)743-1149
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่เส้นคูคลอง ใกล้มช. ไม่ไกลถ.นิมมานเหมินท์
สะอาด ราคาถูก
หลังจากพักให้หายเหนื่อย ก็เย็นพอดี ด้วยความที่มีเวลาอยู่ในตัวเมืองไม่มาก
เลยต้องซิ่งขึ้นดอยสุเทพตอนเย็น
(โดยส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าไม่ไปดอยสุเทพเหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่ 555 5)
ตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะคะ วัดพระธาตุดอยสุเทพเปิดให้สักการะถึง 3 ทุ่ม
แวะจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ อยู่ระหว่างทางลงจากดอยสุเทพ
ถ่ายมาได้สวยไม่เท่าตาเห็น
หลังจากลงมาจากดอยสุเทพก็ถึงเวลาอันสมควรแก่การกินข้าวเย็น..
เลยแวะกินข้าวต้มข้างทาง และด้วยความหิวว ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกล่ะ ><”
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย ก็ต่อด้วยของหวาน
ต้องที่นี่เลยยย ร้าน GUU FUSION Roti & Tea อยู่นิมมาน ซ.3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมนูที่สั่งคือ โรตีทิชชู่วิปครีมฝอยทอง ไซต์ใหญ่
อร่อยเด็ดจริงงงงง ชอบบบบบบ จะ ไปอีกๆๆๆๆๆ 555 5
(ค่าเสียหายของจานนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 120 บาทนะคะ)
หลังจากของหวาน ก็ต่อปิดท้ายด้วยนมก่อนนอน ที่ Milk On the Rock
ร้านนมที่มีสไตล์ บรรยากาศสไตล์ร้านนั่งชิล บางวันมีดนตรีสดด้วยยยย ตั้งอยู่บริเวณ กาดหน้ามช.
*รูปบรรยากาศร้าน Credit : เพจ Milk on the rock [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เห็นในเมนู ทุกรายการ No L หมดนะคะ
ลักษณะการเสริฟ ‘นม’ หรือ ‘น้ำผมไม้’ เป็นถัง เป็นแก้วเบียร์ สไตล์ร้านนั่งชิลเลยค่ะ
เมนูที่สั่งคือ Ice On the Rock รส Cocoa มูลค่า 55 บาท
ที่นี่บรรยากาศดี เครื่องดื่มราคาไม่แพง
เหมาะกับสาย No L ที่ชอบบรรยากาศชิลๆ
ดื่มนมเสร็จ ก็ไปนอน พักผ่อนสำหรับการเดินทางไปกับคุณชายแว๊นในวันพรุ่งนี้ค่ะ
in ดอยอ่างขาง >> เชียงใหม่
นัดคุณลุงขับรถไว้ 6 โมง ที่แรกที่มาแวะคือจุดชมวิว พระอาทิตย์ขึ้น
ช่างโชคร้ายวันนี้ท้องฟ้าปิดดดดด T T
เลยไปต่อที่ ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล ตั้งใจมาดูหมอกเช้าที่นี่..
แต่!!! ฟ้าช่างไม่เป็นใจ พระอาทิตย์ไม่มา น้องหมอกก็ไม่มี (อยากจะร้องงงง ดังๆ T T)
เลยได้รูปมาแค่นี้ ><”
เราจึงไม่เสียเวลา ไปต่อที่ “ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล” และ ไร่ชา 2000
วันนี้ท้องฟ้าปิด อึมคลึมมากจริงๆ เสียใจจจจจจ T T
อย่ามัวแต่เสียใจ ไปต่อที่ม่อนสนกันดีกว่า..
แต่ก็ยังพบว่าน้องหมอกที่อยากเจอไปไหนโหม๊ดดดดด ฮืออออ T T
ดวงเราไม่ดีเองซิน๊ะ ><”
ในเมื่อเราทำอะไรกับ ’โชคร้าย’ ที่เจอไม่ได้ ก็ไปตามหา ’โชคดี’ กันดีกว่า..
เราบอกให้ลุงขับรถไปส่งที่ บ้านกำนันลือ เพราะโทรไปจองรถตู้กลับเข้าเชียงใหม่
Tel. 053-451255, 053-451655
แต่จนท. บอกว่า "รถตู้เต็มต้องลอง walk in ที่บ้านกำนันลือ ถ้ามีก็มี ถ้าไม่มีก็ไม่มี"
และกำนันลือก็บอกข่าวร้ายกับเราคือ.. รถไม่มี!! (แง่วววว เรายังตามหาโชคดีไม่เจออ ><”)
ต้องนั่งรถบัสหวานเย็นกลับซิน๊ะ ก็เลยต้องรอรถบัส สายเดียวกับที่นั่งมาจากเชียงดาว
ค่ารถจากอ่างขาง – เชียงใหม่ คนละ 75 บาท
1 ชม. ผ่านไป...
2 ชม. ผ่านไปปปป... เพิ่งถึงท่ารถเชียงดาว
3 ชม. และในที่สุดรถหวานเย็นก็พาเรามาถึงงงง รถจอดที่สถานีขนส่งช้างเผือก
จากนั้นเราก็ขึ้นรถแดง เพื่อไปเช่ามอเตอร์ไซต์ ที่ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้ว
หลังจากถามราคารถแดงหลายคันแล้ว สุดท้ายก็ต้องจ่ายที่คนละ 40 บาท (แอบเซงนิดหน่อย ยังรู้สึกว่ามันถูกได้กว่านี้ ><”)
แล้วเราก็มาถึง ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้ว หาง่าย อยู่ริมถนนห้วยแก้วเลยค่ะ
*รูปหน้าร้าน Credit : เพจ Bikkychiangmai (ไม่มีแรงแม้กระทั่งยกโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งเราได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ของทางร้าน (http://www.bikkychiangmai.com/store/) ไว้แล้ว
จึงได้รับส่วนรถค่าเช่า วันละ 25 บาท/คัน/วัน และหลังจากที่ศึกษาเส้นทางมาบ้าง
ก็พบว่าทางที่ไปส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขา ทำให้เลือกที่จะเช่ารถมีเกียร์ธรรมดา ไม่ใช่รถออโต้
ค่าเช่ารถ วันละ 200 บาท ได้ส่วนลด 25 บาท เหลือวันละ 175 บาท x 5 วัน
(เช่าวันที่ 7 – 12 = 5 วัน) = 875 บาท + ค่าบริการรับคืนรถที่สนามบิน 50 บาท = 925 บาท
จ่ายตังค์เสร็จ ก็ได้น้องแว๊นซ์คันนี้มา ,, Susuki Shooter
*แอบขโมยรูปมอเตอร์ไซต์ตอนอยู่ที่แม่กำปอง มาก่อน (ณ ตอนออกจากร้านถ่ายไม่ไหวจริงๆ)
และหลังจากนั้นเราก็แวะเติมพลังงานรถก่อน และก็ต่อด้วยเติมพลังงานคน
ที่นี่เลยค่ะ... ร้านส้มตำอุดร!!!! รถบัสหวานเย็นทำเพลียหนัก จัดส้มตำซะหน่อย
ตำซั่ว สุดแซ่บบ
ส้มตำไข่เค็ม
น้ำตกหมู
ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
โดยรวมรสชาติถือว่าอร่อยเลยทีเดียว แต่ชอบตำซั่วสุดดด.. แซ่บมากกกก
หลังจากเติมพลังเรียบร้อยเราก็กลับไปเก็บของที่ห้องพัก
เราจองไว้ที่ Warisa Apartment ราคาคืนละ 599 บาท
Tel. (052)003-912, (084)743-1149
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่เส้นคูคลอง ใกล้มช. ไม่ไกลถ.นิมมานเหมินท์
สะอาด ราคาถูก
หลังจากพักให้หายเหนื่อย ก็เย็นพอดี ด้วยความที่มีเวลาอยู่ในตัวเมืองไม่มาก
เลยต้องซิ่งขึ้นดอยสุเทพตอนเย็น
(โดยส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าไม่ไปดอยสุเทพเหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่ 555 5)
ตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะคะ วัดพระธาตุดอยสุเทพเปิดให้สักการะถึง 3 ทุ่ม
แวะจุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ อยู่ระหว่างทางลงจากดอยสุเทพ
ถ่ายมาได้สวยไม่เท่าตาเห็น
หลังจากลงมาจากดอยสุเทพก็ถึงเวลาอันสมควรแก่การกินข้าวเย็น..
เลยแวะกินข้าวต้มข้างทาง และด้วยความหิวว ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกล่ะ ><”
หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อย ก็ต่อด้วยของหวาน
ต้องที่นี่เลยยย ร้าน GUU FUSION Roti & Tea อยู่นิมมาน ซ.3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมนูที่สั่งคือ โรตีทิชชู่วิปครีมฝอยทอง ไซต์ใหญ่
อร่อยเด็ดจริงงงงง ชอบบบบบบ จะ ไปอีกๆๆๆๆๆ 555 5
(ค่าเสียหายของจานนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 120 บาทนะคะ)
หลังจากของหวาน ก็ต่อปิดท้ายด้วยนมก่อนนอน ที่ Milk On the Rock
ร้านนมที่มีสไตล์ บรรยากาศสไตล์ร้านนั่งชิล บางวันมีดนตรีสดด้วยยยย ตั้งอยู่บริเวณ กาดหน้ามช.
*รูปบรรยากาศร้าน Credit : เพจ Milk on the rock [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่เห็นในเมนู ทุกรายการ No L หมดนะคะ
ลักษณะการเสริฟ ‘นม’ หรือ ‘น้ำผมไม้’ เป็นถัง เป็นแก้วเบียร์ สไตล์ร้านนั่งชิลเลยค่ะ
เมนูที่สั่งคือ Ice On the Rock รส Cocoa มูลค่า 55 บาท
ที่นี่บรรยากาศดี เครื่องดื่มราคาไม่แพง
เหมาะกับสาย No L ที่ชอบบรรยากาศชิลๆ
ดื่มนมเสร็จ ก็ไปนอน พักผ่อนสำหรับการเดินทางไปกับคุณชายแว๊นในวันพรุ่งนี้ค่ะ
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 2 ยกมา คือ 7,777 บาท
มูลค่า ณ DAY 3 คือ
ค่ารถบัส 75x2 = 150
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ = 925
ค่าน้ำมัน = 100
ค่าส้มตำ (ประมาณนะคะ) = 270
ค่าที่พัก = 599
ค่าข้าวต้ม = 85
ค่าโรตี = 120
ค่านม Milk on the rock = 55
รวม 2,304
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 3 = 10,081 บาท
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
ปล. ทริปนี้เป็นทริปประหยัดเท่าที่พอจะประหยัดได้นะคะ ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดค่ะ
ปล. ทริปนี้เป็นทริปประหยัดเท่าที่พอจะประหยัดได้นะคะ ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดค่ะ
DAY 4
in แม่กำปอง
ออกจากที่พักประมาณ 10 โมงกว่าๆ (ขอตื่นสายซักวัน)
เราฝากกระเป๋า 1 ใบไว้ที่ Warisa Apartment เนื่องจากคืนก่อนกลับ เราก็จะมาพักที่นี่อีก
และได้สอบถามทางที่พักก่อนแล้วว่าสามารถฝากกระเป๋าได้ (จะได้ไม่ต้องแบกไปแว๊นทั้ง 2 ใบ)
และเราก็เหลือเป้ 1 ใบ กับมอเตอร์ไซต์ 2 ล้อ
บ้านแม่กำปอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 55 กม.
สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ ทางดอยสะเก็ด และทางสันกำแพง-แม่ออน
วิ่งไปตามเส้นทาง เราไปเส้นดอยสะเก็ดผ่านโครงการหลวงตีนตก
*รูปแผนที่ Credit : มูลนิธิโครงการหลวง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และในที่สุดคุณชายแว๊น ก็พาเรามาถึงแม่กำปองประมาณเที่ยงครึ่ง
บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์
สามารถติดต่อผ่านศูนย์บริการท่องเที่ยวแม่กำปอง Tel.(085)675-4598, (089)559-4797
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ค่าที่พักคนละ 580 บาท รวมอาหาร 3 มื้อ
แต่เราอยากไปหาอะไรกินข้างนอก เลยเป็นแค่ 2 มือ ค่าเสียหายคนละ 520 บาท
เราก็ไปเก็บของที่บ้านพักก่อน และก็คือที่นี่... เฮือนกาแฟ
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ไปหามื้อเช้ากิน ตอนเวลา บ่ายโมงกันนนน ><” (แกอยู่มาได้ยังไง!?*)
ด้วยความหิว ก็ไม่เลือกร้าน เจอปุ๊บเข้าเลย (จำชื่อร้านไม่ได้อีกเช่นเคย หิวหน้ามืดตลอดด)
ไข่กะทะเครื่องเยอะ
ผัดซี้อิ้วหมู (จากนี้เด็ด ไม่อมน้ำมัน หอม แห้งกำลังดี)
และก๋วยเตี๋ยววว (อีกแล้ววว)
พอเติมพลังเต็มที่ เราก็ไปลุยต่อที่ ร้านกาแฟต้นไม้ขึ้นชื่อ The Giant
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางค่อนข้างชันและโหด แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ คุณชายแว๊นทำได้!!!
พาเรามาจนถึง The Giant ที่นี่ เปิดให้บริการ 11:00 – 15:00 น. เท่านั้นนะคะ
เพื่อไม่เป็นการรบกวนแขกที่เข้าพัก
วิวสวยงามสมกับทางเข้าอันหฤโหด (ก็เว่อร์ไปปป 555 5)
นั่งเล่นซักพัก เราก็กลับไปที่บ้านแม่กำปอง
แวะ Landmark ของแม่กำปองซะหน่อย นั่นก็คือ...
ร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง
จิบชาเคล้าบรรยากาศ
Chocolate cake และ ขนมจีบ หิวหน้ามืดลืมถ่ายอีกเช่นเคย
พอออกจากร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง เราก็มาแวะซื้อมันปิ้ง หอมๆ
และกลับไปนอนพักชาร์ตแบตซักแปป
เย็นๆ ค่อยไปต่อที่.. น้ำตกแม่กำปอง
ถัดขึ้นไปจากน้ำตกแม่กำปอง
จะมีจุดชมวิว 4 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน) เรียกว่า “กิ่วฝิ่น”
*รูปกิ่วฝิ่น Credit ตามใต้ภาพนะคะ (อยากไปมากๆ แต่อด ><")
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆ ตามแพลนเราต้องขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่กิ่วฝิ่นนะ
แต่ขึ้นไปซักแปป ทางชันมากกกกกก มากจริงๆ ค่ะ
เลยคิดว่าถ้ามืดกลับลงมา น่าจะอันตราย
ก็คิดว่ากลับไปนอนเล่นที่ห้องพักดีกว่า ผิดแผนอีกล่ะ ><”
และแล้วมื้อเย็นเราก็มาถึง...
in แม่กำปอง
ออกจากที่พักประมาณ 10 โมงกว่าๆ (ขอตื่นสายซักวัน)
เราฝากกระเป๋า 1 ใบไว้ที่ Warisa Apartment เนื่องจากคืนก่อนกลับ เราก็จะมาพักที่นี่อีก
และได้สอบถามทางที่พักก่อนแล้วว่าสามารถฝากกระเป๋าได้ (จะได้ไม่ต้องแบกไปแว๊นทั้ง 2 ใบ)
และเราก็เหลือเป้ 1 ใบ กับมอเตอร์ไซต์ 2 ล้อ
บ้านแม่กำปอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 55 กม.
สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ ทางดอยสะเก็ด และทางสันกำแพง-แม่ออน
วิ่งไปตามเส้นทาง เราไปเส้นดอยสะเก็ดผ่านโครงการหลวงตีนตก
*รูปแผนที่ Credit : มูลนิธิโครงการหลวง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และในที่สุดคุณชายแว๊น ก็พาเรามาถึงแม่กำปองประมาณเที่ยงครึ่ง
บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์เชิงอนุรักษ์
สามารถติดต่อผ่านศูนย์บริการท่องเที่ยวแม่กำปอง Tel.(085)675-4598, (089)559-4797
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ค่าที่พักคนละ 580 บาท รวมอาหาร 3 มื้อ
แต่เราอยากไปหาอะไรกินข้างนอก เลยเป็นแค่ 2 มือ ค่าเสียหายคนละ 520 บาท
เราก็ไปเก็บของที่บ้านพักก่อน และก็คือที่นี่... เฮือนกาแฟ
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ไปหามื้อเช้ากิน ตอนเวลา บ่ายโมงกันนนน ><” (แกอยู่มาได้ยังไง!?*)
ด้วยความหิว ก็ไม่เลือกร้าน เจอปุ๊บเข้าเลย (จำชื่อร้านไม่ได้อีกเช่นเคย หิวหน้ามืดตลอดด)
ไข่กะทะเครื่องเยอะ
ผัดซี้อิ้วหมู (จากนี้เด็ด ไม่อมน้ำมัน หอม แห้งกำลังดี)
และก๋วยเตี๋ยววว (อีกแล้ววว)
พอเติมพลังเต็มที่ เราก็ไปลุยต่อที่ ร้านกาแฟต้นไม้ขึ้นชื่อ The Giant
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางค่อนข้างชันและโหด แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ คุณชายแว๊นทำได้!!!
พาเรามาจนถึง The Giant ที่นี่ เปิดให้บริการ 11:00 – 15:00 น. เท่านั้นนะคะ
เพื่อไม่เป็นการรบกวนแขกที่เข้าพัก
วิวสวยงามสมกับทางเข้าอันหฤโหด (ก็เว่อร์ไปปป 555 5)
นั่งเล่นซักพัก เราก็กลับไปที่บ้านแม่กำปอง
แวะ Landmark ของแม่กำปองซะหน่อย นั่นก็คือ...
ร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง
จิบชาเคล้าบรรยากาศ
Chocolate cake และ ขนมจีบ หิวหน้ามืดลืมถ่ายอีกเช่นเคย
พอออกจากร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง เราก็มาแวะซื้อมันปิ้ง หอมๆ
และกลับไปนอนพักชาร์ตแบตซักแปป
เย็นๆ ค่อยไปต่อที่.. น้ำตกแม่กำปอง
ถัดขึ้นไปจากน้ำตกแม่กำปอง
จะมีจุดชมวิว 4 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน) เรียกว่า “กิ่วฝิ่น”
*รูปกิ่วฝิ่น Credit ตามใต้ภาพนะคะ (อยากไปมากๆ แต่อด ><")
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆ ตามแพลนเราต้องขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่กิ่วฝิ่นนะ
แต่ขึ้นไปซักแปป ทางชันมากกกกกก มากจริงๆ ค่ะ
เลยคิดว่าถ้ามืดกลับลงมา น่าจะอันตราย
ก็คิดว่ากลับไปนอนเล่นที่ห้องพักดีกว่า ผิดแผนอีกล่ะ ><”
และแล้วมื้อเย็นเราก็มาถึง...
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 3 ยกมา คือ 10,081 บาท
มูลค่า ณ DAY 4 คือ (ขอไม่รวมค่าชาและขนม เนื่องจากจำราคาไม่ได้ค่ะ)
ค่าที่พัก 520x2 = 1,040
ค่าน้ำมัน = 50
ค่าอาหาร = 100
รวม 1,190
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 4 = 11,271 บาท
><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><
จะเห็นได้ว่า วันที่ค่าใช้จ่ายถูก จะค่อนข้างถูกมาก
จริงๆ ถ้าบริหารจัดการตอนไปดอยอ่างขางดีๆ อาจจะเป็นทริปประหยัดได้ ^^*
จะเห็นได้ว่า วันที่ค่าใช้จ่ายถูก จะค่อนข้างถูกมาก
จริงๆ ถ้าบริหารจัดการตอนไปดอยอ่างขางดีๆ อาจจะเป็นทริปประหยัดได้ ^^*
DAY 5
in แม่กำปอง >> ดอยอินทนนท์
ตื่นมาก็กินก่อนเลยยยย 555 5
ที่นี่อาหารเช้าจะให้เลือกหลายอย่าง ; ข้าวต้ม ไข่ลวก กาแฟ โอวัลติน
หลังจากเราจัดอาหารเช้าไปแล้ว เราก็ยังจะไปดื่มชาต่อ
ณ Landmark อีกที่ของ แม่กำปอง นั่นก็คือ... ร้านชมนกชมไม้
ภายในร้านคนเยอะพอดู มาถึงและก็ต้องถ่ายรูป มุมมหาชน ^^*
และเราก็กลับไปเก็บของ เพื่อไปต่อที่
สถานีต่อไป.. ดอยอินทนนท์
ต้องออกตัวก่อนว่าเราก็ไม่ชำนาญเรื่องเส้นทางเท่าไหร่ ไปตาม map อาศัยพ้อยไว้
ระยะทางจากแม่กำปอง ไปดอยอินทนนท์ประมาณ 135 km.
ขากลับเราวิ่งเส้นสันกำแพง ออกทางหลวงหมายเลข 108
ระหว่างแวะกินข้าว มีไรก็จอดเลยจ้า.. ณ จุดนี้หิวววว 555 5
และแล้วเราก็เจอ ร้านหนามแดง ข้าวขาหมู เย็นตาโฟ
ข้าวขาหมู
และก๋วยเตี๋ยว (อีกแล้ววววว)
พออิ่มท้องก็เดินทางต่อ.. ถึงแยกจอมทองก็เลี้ยวขวาไปปปป
*รูปแผนที่ Credit : มูลนิธิโครงการหลวง http://royalprojectthailand.com/inthanon
ที่แรกที่เราแวะ คือ น้ำตกวชิรธาร
ความเพลียจากการนั่งรถแว๊นมากตูดชา จึงไม่ได้แวะที่อื่น
อยากไปเก็บเป๋า พักร่างงงงง ,, เริ่มงอแงง 555 5
เราจองที่พักไว้ที่ ดอยชั่วญ่าวิวสวย Tel. (081)951-7446, (084)371-1220
http://www.doisureyacamping.com/
https://www.facebook.com/doisureya
จองไว้เป็นบ้านพัก B3 ราคาคืนละ 1,000 บาท
*รูปห้องพัก Credit : http://www.doisureyacamping.com/
หลังจากเก็บของ พักผ่อนตามอัธยาศัย
ก็ถึงเวลาอันสมควรแก่การทานอาหารเย็น
ซึ่งหน้าที่พัก มีร้านหมูกะทะ จำชื่อร้านไม่ได้อีกแล้ววว ><”
หมูกะทะชุดเล็ก ราคา 400 บาท (ส่วนเหยือกข้างๆ คุณชายเป็นคนคุยกะทางร้านเอง)
อากาศเย็นๆ แบบนี้ ช่างเหมาะกับการกินปิ้งๆ ย่างๆ ยิ่งนัก
*ไม่ได้โฆษณาเครื่องดื่มแต่อย่างใดนะคะ แต่ที่นั่นไม่มีให้เลือกค่ะ
นั่งกินหมูกะทะตรงนี้ บรรยากาศมันได้จริงๆ ค่ะ
อิ่มละ นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์
in แม่กำปอง >> ดอยอินทนนท์
ตื่นมาก็กินก่อนเลยยยย 555 5
ที่นี่อาหารเช้าจะให้เลือกหลายอย่าง ; ข้าวต้ม ไข่ลวก กาแฟ โอวัลติน
หลังจากเราจัดอาหารเช้าไปแล้ว เราก็ยังจะไปดื่มชาต่อ
ณ Landmark อีกที่ของ แม่กำปอง นั่นก็คือ... ร้านชมนกชมไม้
ภายในร้านคนเยอะพอดู มาถึงและก็ต้องถ่ายรูป มุมมหาชน ^^*
และเราก็กลับไปเก็บของ เพื่อไปต่อที่
สถานีต่อไป.. ดอยอินทนนท์
ต้องออกตัวก่อนว่าเราก็ไม่ชำนาญเรื่องเส้นทางเท่าไหร่ ไปตาม map อาศัยพ้อยไว้
ระยะทางจากแม่กำปอง ไปดอยอินทนนท์ประมาณ 135 km.
ขากลับเราวิ่งเส้นสันกำแพง ออกทางหลวงหมายเลข 108
ระหว่างแวะกินข้าว มีไรก็จอดเลยจ้า.. ณ จุดนี้หิวววว 555 5
และแล้วเราก็เจอ ร้านหนามแดง ข้าวขาหมู เย็นตาโฟ
ข้าวขาหมู
และก๋วยเตี๋ยว (อีกแล้ววววว)
พออิ่มท้องก็เดินทางต่อ.. ถึงแยกจอมทองก็เลี้ยวขวาไปปปป
*รูปแผนที่ Credit : มูลนิธิโครงการหลวง http://royalprojectthailand.com/inthanon
ที่แรกที่เราแวะ คือ น้ำตกวชิรธาร
ความเพลียจากการนั่งรถแว๊นมากตูดชา จึงไม่ได้แวะที่อื่น
อยากไปเก็บเป๋า พักร่างงงงง ,, เริ่มงอแงง 555 5
เราจองที่พักไว้ที่ ดอยชั่วญ่าวิวสวย Tel. (081)951-7446, (084)371-1220
http://www.doisureyacamping.com/
https://www.facebook.com/doisureya
จองไว้เป็นบ้านพัก B3 ราคาคืนละ 1,000 บาท
*รูปห้องพัก Credit : http://www.doisureyacamping.com/
หลังจากเก็บของ พักผ่อนตามอัธยาศัย
ก็ถึงเวลาอันสมควรแก่การทานอาหารเย็น
ซึ่งหน้าที่พัก มีร้านหมูกะทะ จำชื่อร้านไม่ได้อีกแล้ววว ><”
หมูกะทะชุดเล็ก ราคา 400 บาท (ส่วนเหยือกข้างๆ คุณชายเป็นคนคุยกะทางร้านเอง)
อากาศเย็นๆ แบบนี้ ช่างเหมาะกับการกินปิ้งๆ ย่างๆ ยิ่งนัก
*ไม่ได้โฆษณาเครื่องดื่มแต่อย่างใดนะคะ แต่ที่นั่นไม่มีให้เลือกค่ะ
นั่งกินหมูกะทะตรงนี้ บรรยากาศมันได้จริงๆ ค่ะ
อิ่มละ นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์
รวมค่าใช้จ่าย
มูลค่า ณ DAY 4 ยกมา คือ 11,271
มูลค่า ณ DAY 5 คือ (ขอไม่รวมค่าชาและขนม เนื่องจากจำราคาไม่ได้ค่ะ)
ค่าอาหาร = 80
ค่าชาเย็น = 45 (ประมาณ)
ค่าหมูกะทะ = 400
ค่าที่พัก = 1,000
รวม 1,525
รวมมูลค่าปัจจุบัน ณ DAY 5 = 12,796
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip