ทริปนี้เกิดขึ้นนานแล้วครับ อัพทิ้งไว้ในเฟส เห็นเพื่อน ๆ รีวิวกันบ่อยมาก เราก็อยากจะอวดบ้าง เทคนิคบ้าน ๆ ไม่หวือหวา ไม่เน้นอะไรเลย เหตุเกิดเพราะอกหักเลยเดินไปเรื่อยเปื่อย
เรื่องมันเริ่มจากไปแอบปิ๊งสาวคนนึงครับ แต่เขาไม่เล่นด้วย ก็ไม่ได้ฟูมฟายอะไรมากครับแค่เฟลนิดหน่อย พอวันหยุดก็เลยเคว้ง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรเลยได้ไอเดียว่าเห้ยเราทำงานผ่านวัดอรุณทุกวัน พาลูกค้าไปถ่ายรูปที่นั่นทุกวัน ทำไมเราไม่ลองไปดูมั่งวะ
ว่าแล้วไม่รอช้าครับ เตรียมสัมภาระกันมาเลย
อย่าพึ่งเข้ามาแซะกันนะครับ ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าไอ้รูปเตรียมของก่อนเดินทางที่ผมถ่ายเนี่ย เกิดขึ้นตอนปี 2012 ซึ่งมันก่อนจะมาเป็นเทรนแรง ๆ พวกนี้อีกบอกกันตรง ๆ เลยไม่ได้คิดว่ามันเท่ครับ อยากอวดแว่นเฉย ๆ 555
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีครับ ออกจากบ้านมาพร้อมคุณพ่อขอติดรถมาลงด้วย ฝนพึ่งตกไปหมาด ๆ วันนี้คงได้โทนครึ้ม ๆ มาทั้งเซตแน่ ๆ
เสร็จแล้วขึ้นรถเมล์ไม่ถูกครับ แท๊กซี่เลยครับ เสียค่ารถไปประมาน 120 บาท
อารมณ์เริ่มมาแล้วครับ ไม่ได้ออกทริปสะพายกล้องตลุยกรุงมาค่อนข้างนาน เริ่มถ่ายสะเปะสะปะแล้ว
มาถึงแล้วครับ มองเห็นวัดแล้วจากนี้ผมขอยืนยันนะครับ ว่าทุกรูปและทุกสถานที่ ที่ท่านเห็น เกิดจากการเดินเท้าล้วน ๆ ครับ
รูปนี้ต้องการให้เห็นชุมชนรอบ ๆ วัดครับ เป็นชุมชนเก่าแก่ เป็นวิถีชาวกรุงแบบสโลว์ไลฟ์555
อันนี้เป็นงานสตรีท อาร์ต ของคนในพื้นที่ครับ มีการจัดเรียงสีที่ดูแปลกตาดี ดูตัดกันกับสีไม้กระดานเก่า ๆ ดีครับ
แถมด้วยแบบเรียนภาษาอังกฤษในแบบฉบับเข้าใจง่าย ๆ คำว่าแรดที่ต่อท้ายมานั้นผมไม่รู้ที่มาที่ไปจริง ๆ แต่เจ้าของผลงานน่าจะคนเดียวกัน
ผมเลยเดาว่าน่าจะเป็นลายเซ็นของศิลปิน
ทางเดินเข้าไปวัดครับ เราจะเดินผ่านชุมชนท้องถิ่น ไม่ต้องห่วงครับคนแถวนี้เขาไม่ตื่นคนแน่นอนครับ วัน ๆ หนึ่งนักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก
อยู่ตรงหน้าผมแล้วองค์พระเจดีย์ที่ผมนั่งเรือผ่านทุกวัน
อันนี้เป้นทางเข้ากุฏิชั้นในของพระผู้ใหญ่ที่นี่ครับ วัดอรุณเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยุ่นะครับ เวลามาก็แต่งตัวเกรงใจพระท่านนิดนึงนะครับ เสื้อขอมีแขนหน่อยนึงคอไม่ต้องลึกมาก กางเกงก็สักครึ่งน่องก็ยังดีครับ
อันนี้ผมจำไม่ได้ว่ามีงานอะไรพึ่งผ่านไป แต่ทางวัดก็มีการจัดตกแต่งอะไรที่พิเสษไปกว่าเดิม กำไรเราสิครับ คริ ๆ
อันนี้น่าจะเป็นพระอุโบสถครับ ผมยังไม่ได้เข้าไปตอนนี้ เพราะสนใจองค์พระเจดีย์มากกว่า
และแล้วก็มาถึงครับองค์พระเจดีย์ ช่วงนี้ผมจะปล่อยรูปยาว ๆ แล้วจะรีวิวทีเดียวนะครับ
บางรูปมันจะเอียง ๆ ไปบ้างนะครับ 555 สายตาไม่ค่อยดีบวกกะความมักง่ายด้วย ตอนแรกจะเอาแค่โพสลงเฟสตัวเองเลยไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดมาก โทนสีของภาพผมจะอันเดอร์หน่อย ๆ นะครับ อยากได้รายละเอียดของพื้นผิวของตัวรูปปั้นต่าง ๆ และองค์พระเจดีย์ ตัวพระเจดย์เก่ามากครับ เก่าจริง ๆ เครื่องจานชามบางอย่างก็เป็นของอายุเป็นร้อยปีแล้ว บางอย่างก็พึ่งมาซ่อมใหม่ ดูสีของจุดต่าง ๆ ก้จะรู้ได้เองเลยครับ ทำตัวเป็นักท่องเที่ยวและเจ้าบ้านที่ดีนะครับ ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ถ่ายรูปเก้บไว้ดูเท่านั้นพอครับ อย่าไปสัมผัสเลย ถ้าผมเป็นผู้สร้างสิ่ง ๆ นี้ ผมก็คงจะโคตรหวงเหมือนกัน ฉะนั้นช่วย ๆ กันนะครับ
มาดูชุดต่อไปครับจะเป็นบริเวณรอบ ๆ เจดีย์และส่วนของพระอุโบสถครับ
นี่แถมเล่น ๆ อิอิ
อันนี้เห็นน้อง ๆ กำลังทำโครงงานอะไรกันซักอย่าง เห็นแล้วนึกถึงตอนเป็นนักเรียนครับ สะพายกล้องฟิมล์ กว่าจะได้แต่ละรูปเปลืองตังอิ๊บอ๋าย พอมีกล้อง
ดิจิตอลก็ถือว่าทำให้งานเราง่ายไปเยอะ หรือมักง่ายก็ไม่รู้ หุหุ
จะเห็นได้นะครับว่ามีรูปปั้นที่เป็นศิลปะของจีนอยู่เยอะมาก นั่นแปลว่าอิทธิพลของประเทศจีนนั้นเดินทางมาถึงประเทสไทยตั้งแต่ก่อนยุครัตนโกสินทร์เสียอีกเพราะวัดอรุณนั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยานั่นหมายความว่าพื้นที่รัตนโกสินทร์นั้นมีผู้คนอาศัยและทำมาค้าขายกันอย่างแพร่หลายเพราะการสร้างเจดีย์ใหญ่ขนาดนี้ได้จะต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะฉะนั้นฟันธงได้เลยว่าดินแดนแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก่อนจะมีกรุงรัตนโกสินทร์เสียอีกครับ(แอบวิชาการ)
นี่เป้นพระประธานของวัดอรุณครับ มีพระนามว่า พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก
เจ้าตัวนี้เป็นแมววัดครับ ผมดันเผลอไปเล่นกะเจ้านี่เข้า คราวนี้เดินตามผมไปทุกที่เลยครับ ฝรั่ง ๆ อาหมวยอาม่า หัวเราะกันใหญ่
แสงใกล้หมดแล้วครับ
ลาแล้วครับวัดอรุณ มุมนี้ถ่ายจากฝั่งพระนครครับ กำลังไปท่าเตียน จุดหมายไม่มีแล้วครับกะเดินเรื่อยเปื่อย
อยู่ตรงนี้บอกตามตรงว่าได้ความรู้สึกแปลก ๆ มากครับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก แต่สถาปัตยกรรมทุกอย่างคือของไทย ป้ายร้านค้า อาหารเครื่องดื่ม ทุกอย่างเป้นภาษาอังกฤษหมดเลย
เริ่มเดินแล้วครับ
ลองใช้เทคนิคเก่า ๆ ดูครับ
วิถีคนท่าพระจันทร์
ชีวิตจริงไม่ได้เรียน ได้แต่เดินผ่าน
เดินผ่านทางเข้าวัดพระแก้ว
มาถึงสนามหลวงครับ เหนื่อยละขอนั่งพักตรงนี้สักพัก แต่ยังคงถ่ายไปเรื่อยเปื่อยครับ
อันนี้เริ่มเซลฟี่ตัวเองครับ
อันนี้ก็ทำให้นึกถึงวัยเรียนอีกแล้ว
นั่งพักดื่มน้ำให้หายเหนื่อย แล้วก็มาถึงศาลหลักเมืองแล้วครับ
ปืนใหญ่หน้ากระทรวงครับ
อีกฝั่งครับ
เดินมาถึงหน้าศูนย์ฝึก รด.ระหว่างนี้ไม่ค่อยได้รูปอะไรแล้วครับ เพราะเริ่มไม่มีไรให้ถ่าย ประกอบกับเริ่มล้าแล้วด้วย แต่ก็มาจนถึงปากคลองจนได้ครับ
แล้วก็มาถึงสะพานพุทธครับ
กลางคืนก็เปลี่ยนเป็นสีทองครับ
จบการเดินทางของทริบนี้ด้วยตุ๊ก ๆ ครับ นั่งไปหาเพื่อนที่คลองสานต่อเดินไม่ไหวแล้ว 555
ขอบคุณที่ทนดูรูปง่อย ๆ กันจนจบนะครับ
ทั้งหมดทริปนี้ ค่ารถ ค่าเรือ ค่าน้ำดื่ม 160 บาทไม่เกินครับ แต่หลังจบแล้วนัดเจอเพื่อนต่อนี่หลักพัน
ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางการเดินนะครับสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบการเดิน ถ้ากระแสตอบรับดี ผมจะคิดทริบเดินอีกสักทริบมาให้เพื่อน ๆ ดูอีกทีนะครับ
กราบสวัสดีทุกท่านครับผม
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1297865
เรื่องมันเริ่มจากไปแอบปิ๊งสาวคนนึงครับ แต่เขาไม่เล่นด้วย ก็ไม่ได้ฟูมฟายอะไรมากครับแค่เฟลนิดหน่อย พอวันหยุดก็เลยเคว้ง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรเลยได้ไอเดียว่าเห้ยเราทำงานผ่านวัดอรุณทุกวัน พาลูกค้าไปถ่ายรูปที่นั่นทุกวัน ทำไมเราไม่ลองไปดูมั่งวะ
ว่าแล้วไม่รอช้าครับ เตรียมสัมภาระกันมาเลย
อย่าพึ่งเข้ามาแซะกันนะครับ ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าไอ้รูปเตรียมของก่อนเดินทางที่ผมถ่ายเนี่ย เกิดขึ้นตอนปี 2012 ซึ่งมันก่อนจะมาเป็นเทรนแรง ๆ พวกนี้อีกบอกกันตรง ๆ เลยไม่ได้คิดว่ามันเท่ครับ อยากอวดแว่นเฉย ๆ 555
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีครับ ออกจากบ้านมาพร้อมคุณพ่อขอติดรถมาลงด้วย ฝนพึ่งตกไปหมาด ๆ วันนี้คงได้โทนครึ้ม ๆ มาทั้งเซตแน่ ๆ
เสร็จแล้วขึ้นรถเมล์ไม่ถูกครับ แท๊กซี่เลยครับ เสียค่ารถไปประมาน 120 บาท
อารมณ์เริ่มมาแล้วครับ ไม่ได้ออกทริปสะพายกล้องตลุยกรุงมาค่อนข้างนาน เริ่มถ่ายสะเปะสะปะแล้ว
มาถึงแล้วครับ มองเห็นวัดแล้วจากนี้ผมขอยืนยันนะครับ ว่าทุกรูปและทุกสถานที่ ที่ท่านเห็น เกิดจากการเดินเท้าล้วน ๆ ครับ
รูปนี้ต้องการให้เห็นชุมชนรอบ ๆ วัดครับ เป็นชุมชนเก่าแก่ เป็นวิถีชาวกรุงแบบสโลว์ไลฟ์555
อันนี้เป็นงานสตรีท อาร์ต ของคนในพื้นที่ครับ มีการจัดเรียงสีที่ดูแปลกตาดี ดูตัดกันกับสีไม้กระดานเก่า ๆ ดีครับ
แถมด้วยแบบเรียนภาษาอังกฤษในแบบฉบับเข้าใจง่าย ๆ คำว่าแรดที่ต่อท้ายมานั้นผมไม่รู้ที่มาที่ไปจริง ๆ แต่เจ้าของผลงานน่าจะคนเดียวกัน
ผมเลยเดาว่าน่าจะเป็นลายเซ็นของศิลปิน
ทางเดินเข้าไปวัดครับ เราจะเดินผ่านชุมชนท้องถิ่น ไม่ต้องห่วงครับคนแถวนี้เขาไม่ตื่นคนแน่นอนครับ วัน ๆ หนึ่งนักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก
อยู่ตรงหน้าผมแล้วองค์พระเจดีย์ที่ผมนั่งเรือผ่านทุกวัน
อันนี้เป้นทางเข้ากุฏิชั้นในของพระผู้ใหญ่ที่นี่ครับ วัดอรุณเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยุ่นะครับ เวลามาก็แต่งตัวเกรงใจพระท่านนิดนึงนะครับ เสื้อขอมีแขนหน่อยนึงคอไม่ต้องลึกมาก กางเกงก็สักครึ่งน่องก็ยังดีครับ
อันนี้ผมจำไม่ได้ว่ามีงานอะไรพึ่งผ่านไป แต่ทางวัดก็มีการจัดตกแต่งอะไรที่พิเสษไปกว่าเดิม กำไรเราสิครับ คริ ๆ
อันนี้น่าจะเป็นพระอุโบสถครับ ผมยังไม่ได้เข้าไปตอนนี้ เพราะสนใจองค์พระเจดีย์มากกว่า
และแล้วก็มาถึงครับองค์พระเจดีย์ ช่วงนี้ผมจะปล่อยรูปยาว ๆ แล้วจะรีวิวทีเดียวนะครับ
บางรูปมันจะเอียง ๆ ไปบ้างนะครับ 555 สายตาไม่ค่อยดีบวกกะความมักง่ายด้วย ตอนแรกจะเอาแค่โพสลงเฟสตัวเองเลยไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดมาก โทนสีของภาพผมจะอันเดอร์หน่อย ๆ นะครับ อยากได้รายละเอียดของพื้นผิวของตัวรูปปั้นต่าง ๆ และองค์พระเจดีย์ ตัวพระเจดย์เก่ามากครับ เก่าจริง ๆ เครื่องจานชามบางอย่างก็เป็นของอายุเป็นร้อยปีแล้ว บางอย่างก็พึ่งมาซ่อมใหม่ ดูสีของจุดต่าง ๆ ก้จะรู้ได้เองเลยครับ ทำตัวเป็นักท่องเที่ยวและเจ้าบ้านที่ดีนะครับ ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ถ่ายรูปเก้บไว้ดูเท่านั้นพอครับ อย่าไปสัมผัสเลย ถ้าผมเป็นผู้สร้างสิ่ง ๆ นี้ ผมก็คงจะโคตรหวงเหมือนกัน ฉะนั้นช่วย ๆ กันนะครับ
มาดูชุดต่อไปครับจะเป็นบริเวณรอบ ๆ เจดีย์และส่วนของพระอุโบสถครับ
นี่แถมเล่น ๆ อิอิ
อันนี้เห็นน้อง ๆ กำลังทำโครงงานอะไรกันซักอย่าง เห็นแล้วนึกถึงตอนเป็นนักเรียนครับ สะพายกล้องฟิมล์ กว่าจะได้แต่ละรูปเปลืองตังอิ๊บอ๋าย พอมีกล้อง
ดิจิตอลก็ถือว่าทำให้งานเราง่ายไปเยอะ หรือมักง่ายก็ไม่รู้ หุหุ
จะเห็นได้นะครับว่ามีรูปปั้นที่เป็นศิลปะของจีนอยู่เยอะมาก นั่นแปลว่าอิทธิพลของประเทศจีนนั้นเดินทางมาถึงประเทสไทยตั้งแต่ก่อนยุครัตนโกสินทร์เสียอีกเพราะวัดอรุณนั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยานั่นหมายความว่าพื้นที่รัตนโกสินทร์นั้นมีผู้คนอาศัยและทำมาค้าขายกันอย่างแพร่หลายเพราะการสร้างเจดีย์ใหญ่ขนาดนี้ได้จะต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะฉะนั้นฟันธงได้เลยว่าดินแดนแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก่อนจะมีกรุงรัตนโกสินทร์เสียอีกครับ(แอบวิชาการ)
นี่เป้นพระประธานของวัดอรุณครับ มีพระนามว่า พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก
เจ้าตัวนี้เป็นแมววัดครับ ผมดันเผลอไปเล่นกะเจ้านี่เข้า คราวนี้เดินตามผมไปทุกที่เลยครับ ฝรั่ง ๆ อาหมวยอาม่า หัวเราะกันใหญ่
แสงใกล้หมดแล้วครับ
ลาแล้วครับวัดอรุณ มุมนี้ถ่ายจากฝั่งพระนครครับ กำลังไปท่าเตียน จุดหมายไม่มีแล้วครับกะเดินเรื่อยเปื่อย
อยู่ตรงนี้บอกตามตรงว่าได้ความรู้สึกแปลก ๆ มากครับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก แต่สถาปัตยกรรมทุกอย่างคือของไทย ป้ายร้านค้า อาหารเครื่องดื่ม ทุกอย่างเป้นภาษาอังกฤษหมดเลย
เริ่มเดินแล้วครับ
ลองใช้เทคนิคเก่า ๆ ดูครับ
วิถีคนท่าพระจันทร์
ชีวิตจริงไม่ได้เรียน ได้แต่เดินผ่าน
เดินผ่านทางเข้าวัดพระแก้ว
มาถึงสนามหลวงครับ เหนื่อยละขอนั่งพักตรงนี้สักพัก แต่ยังคงถ่ายไปเรื่อยเปื่อยครับ
อันนี้เริ่มเซลฟี่ตัวเองครับ
อันนี้ก็ทำให้นึกถึงวัยเรียนอีกแล้ว
นั่งพักดื่มน้ำให้หายเหนื่อย แล้วก็มาถึงศาลหลักเมืองแล้วครับ
ปืนใหญ่หน้ากระทรวงครับ
อีกฝั่งครับ
เดินมาถึงหน้าศูนย์ฝึก รด.ระหว่างนี้ไม่ค่อยได้รูปอะไรแล้วครับ เพราะเริ่มไม่มีไรให้ถ่าย ประกอบกับเริ่มล้าแล้วด้วย แต่ก็มาจนถึงปากคลองจนได้ครับ
แล้วก็มาถึงสะพานพุทธครับ
กลางคืนก็เปลี่ยนเป็นสีทองครับ
จบการเดินทางของทริบนี้ด้วยตุ๊ก ๆ ครับ นั่งไปหาเพื่อนที่คลองสานต่อเดินไม่ไหวแล้ว 555
ขอบคุณที่ทนดูรูปง่อย ๆ กันจนจบนะครับ
ทั้งหมดทริปนี้ ค่ารถ ค่าเรือ ค่าน้ำดื่ม 160 บาทไม่เกินครับ แต่หลังจบแล้วนัดเจอเพื่อนต่อนี่หลักพัน
ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางการเดินนะครับสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบการเดิน ถ้ากระแสตอบรับดี ผมจะคิดทริบเดินอีกสักทริบมาให้เพื่อน ๆ ดูอีกทีนะครับ
กราบสวัสดีทุกท่านครับผม
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1297865