..ครั้งแรก ของการมาเยือน เมืองปาย-เชียงราย-เชียงใหม่ค่ะ
จริงๆ วางแผนจะมาที่นี่ตั้งแต่สามปีที่แล้ว แต่แผนพังซะทุกปี
ปีนี้ความฝันเป็นจริง ได้พาร่างกายมาสัมผัสอากาศหนาวแบบอุ่นๆ ^^
ความจริงอยากสัมผัสอากาศหนาวแบบหนาวจัดๆ ปากสั่นๆ แต่ไม่เจอ..
ไปช่วงวันที่ 10 – 13 ธันวาคมค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสมารีวิว มัวแต่กล้าๆ กลัวๆ อ้ำๆ อึ้งๆ กลัวรีวิวแล้วไม่ดี ไม่สวย ฯลฯ
แต่พอนั่งดูภาพที่มีอยู่ในมือ คิดเสียดาย อยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นเหมือนกัน
เลยได้มาเจอกันอยู่ตรงนี้ไงคะ อิอิ...เผื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับคนที่มีแพลนเหมือนๆ กัน
ถึงแม้จะได้รับความพอใจจากคนอ่าน นิดเดียว ก็ดีงามแล้วจ๊ะ
ผู้ร่วมทริปมี 3 นางค่ะ นางหนึ่งบินตรงมาจากทะเลอันดามัน หนีทะเลมาหาภูเขา
นางสองบินตรงจากดอนเมือง หนีความวุ่นวายมาหาภูเขา
นางสามคือนางอึดสุดๆ ขับรถมาคนเดียวจากนครสวรรค์ นางหนี...หนี....หนี แม่มาเที่ยวภูเขา^^
จุดเริ่มต้น.. เจอกัน สนามบินเชียงใหม่ค่ะ ตามแผนนัดเจอกัน บ่ายโมง
แต่การวางแผนไม่เคยจะมีผล... เจอกันจริง ประมาณ 5 โมงเย็น
ระหว่างรอ รอ....รอแล้วรออีก ก็แนะนำร้านนี้ละกันค่ะ อยู่สนามบินเชียงใหม่
มาเชียงใหม่ก็ต้องกินข้าวซอย งั้นซอยที่นี่นะคะ^^
เมื่อสมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว หลังจากนั้นมุ่งตรงสู่ปาย...ปายในฝัน
ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงโดยสวัสดิภาพค่ะ กี่โค้งไม่รู้ รู้แต่ว่าโค้งเยอะมากๆๆๆๆๆ ที่สุด
ถนนบางช่วงก็กำลังก่อสร้าง ใครไปช่วงนี้ก็ขับรถระมัดระวังกันนะคะ^^
คืนนี้พักนี่นะ “ปายกลางนา” ใครที่กำลังมองหาที่พักในปาย แนะนำค่ะ นอกจากบรรยากาศดีแล้ว พนักงานเค้าอัธยาศัยดีค่ะ บริการเต็มที่ ค่าห้อง สำหรับสามคน 2300 บาท รวมอาหารเช้า 1 มื้อ ราคาหลักพัน แต่บริการเกินราคา จิงๆ นะ ไม่ได้โม้เกินจริง คือไปถึงปายแล้วไปต่อไม่ถูกแล้วค่ะ โทรหาพนักงานที่นี่ แล้วนางขับรถออกมารับเลยค่ะ นัดเจอกันตรงปั้ม...แถวๆ นั้น แล้วแนะนำอื่นๆ อีกมากมาย สรุปแล้วประทับใจ รีสอร์ทเข้าไปประมาณ 1 กิโลได้ค่ะ จากตัวปาย
สัมผัสอากาศหนาวแรก ตอนเปิดประตูลงจากรถ ฮู้วววววว 11 องศาค่ะ ชอบๆ
ใครที่สนใจสามารถหาข้อมูลได้ที่พี่กู้ พี่เกิ้ล หรือ คลิกตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ http://www.paiklangna.com เผื่อเร็วได้อีกนิดหน่อย^^
พอมีแรงเหลืออีกนิดหน่อย ก็ไปเดิน ถนนคนเดิน อีกแป้บเดียวค่ะ แต่ไม่มีรูปมาฝากนะ ...มีของกิน ของใช้ หมวก และ ฯลฯ อีกจิปาถะค่ะ ใครไปเที่ยวปาย อย่าให้พลาดถนนคนเดินเชียวละ เพื่อให้รู้ว่าได้มาถึงปายแหละ อิอิ พูดเล่นนะคะ อันนี้แล้วแต่ความชอบ
อาหารเช้า ประมาณนี้ค่ะ นอกจากบนโต๊ะนี้ ก็มีอีกนะคะ แต่จำไม่ได้แหละว่ามีอะไรบ้าง^^
ก่อน Check out ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
เสียดายค่ะ นาข้าว ได้ถูกตัด เก็บ ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าในนามีข้าวเขียวๆ หรือเหลืองๆ เต็มนาทุกแปลง คงสวยน่าดู
มาตอนนี้เจออากาศหนาว ไม่ได้เจอนาเขียวๆ เหลืองๆ แต่ถ้ามาก่อนหน้านี้ ก็คงเจอนาเขียวๆ เหลืองๆ แต่ไม่เจออากาศหนาว
ไม่ว่ายังไง คนเราก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงสินะ
สำหรับคืนที่ 2 มุ่งหน้าไป ดอยแม่สลอง-เชียงรายค่ะ ระหว่างทางก็แวะแชะภาพกันไปเรื่อยค่ะ
สะพานท่าปาย
บ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน
มังกรหันหัวลงดินหางชี้ฟ้า
ห้วยน้ำดัง-จุดชมวิวดอยกิ่วลม
สิ้นสุดปาย...ด้วยภาพนี้
เหมือนได้ยืนอยู่ในต่างประเทศ (คิดในใจ)
...บ้าย บาย ปาย...
...ได้ เวลา ..มุ่งตรงสู่จุดหมายที่ 2 ค่ะ ดอยแม่สลอง
และแล้ว.. ก็ถึงดอยแม่สลอง คืนนี้พักที่นี่ค่ะ บ้านซือซือ
ที่นี่เค้ามีห้องสำหรับนอน 2 คนค่ะ จะขอนอนเบียดห้องเดียวสามคน เจ๊เค้าไม่ยอม เลยต้องจ่ายค่าห้อง 2 ห้องค่ะ
.. คุณๆ คิดว่าจะมีคนกล้านอนคนเดียวมั้ยคะ ถึงแม้หน้าตาจะดูโหดๆ ถึกๆ ก็เหอะ...ยังไงๆ ก็ต้องหอบหมอน
ผ้าห่มมานอนเบียดกันสามคนอยู่ดี แบบว่าอบอุ่นดีค่ะ และมั่นใจว่าถ้าอยู่กันสามคน ผีกลัวพวกเราแน่ 55+
ค่าห้องสองห้อง ราคา 2800 บาทค่ะ ไม่มีอาหารเช้า
บรรยากาศห้องพักที่นี่ เริดค่ะ มีระเบียงหลังห้อง สำหรับ นั่งกินลม ชิววิว จิบเบียร์ ไปพร้อมๆ กับดูดาวบนท้องฟ้า อย่างเพลินค่ะ
ตอนเช้า สามารถนอนดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเตียงนอนได้เลยค่ะ^^
หลังจากพระอาทิตย์ ลอยละลิ่ว สู่ท้องฟ้า คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็ต้องออกหาของกินค่ะ
ดอยแม่สลองมีตลาดเช้า ขายพวกของกิน ผัก ผลไม้สด .. เป็นตลาดเล็กๆ สามารถเดินได้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม
อิ่มแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังเชียงใหม่ค่ะ แต่..แต่.....ช้าก่อน มาเชียงรายแล้วไม่แวะ ไร่ชาก็กลัวไม่ถึงเชียงราย
และกลัวกลับมาโม้ชาวบ้านไม่มันอีก ....ตอนแรกจะไปไร่ชา ฉุยฟง ตามรีวิว ของเพื่อนๆ ในพันทิป
..แต่เหมือนจะไปกันไม่ถูก เลยเลือกที่นี่แทนค่ะ
ไร่ชา 101
นอกจากไร่ชา แล้วสถานที่ ที่ไม่ควรจะพลาดในทริปเชียงราย คือ วัดร่องขุ่น..
...มุ่งหน้าสู่วัดร่องขุ่น ...
..
สวยงามตามท้องเรื่อง
แต่ไม่ได้เข้าไปข้างในเนื่องจากกำลังซ่อมแซม สวยค่ะ ขนาดกำลังซ่อมแซม ยังสวยเลย
เสียดาย อดเห็นห้องน้ำที่สวยที่สุดเลย...ยืนมองไปจากตรงนี้แหละกัน ..
ขนาดเงาของห้องน้ำยังไม่มีวี่แวว ว่าจะเห็นเลย^^
บ้าย บาย เชียงราย....ล้อเริ่มหมุนอีกครั้ง สู่ประตู เมืองเชียงใหม่
ถึงเชียงใหม่ บ่ายแก่ๆ เลยซิ่งต่อไปม่อนแจ่มเลย..แต่แน่นอนค่ะ ถ้าไปตอนบ่าย สิ่งที่จะไม่ได้สัมผัสเลย
คือทะเลหมอก ..แต่ ก็ยังจะไป ม่อนแจ่มอยู่ตรงไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ไกลมาก มีคนบอกมาอย่างนี้ค่ะ และเราก็เชื่อ
...
ตลอดทริปนี้ ใช้ Google Maps นำทางค่ะ
...
สำหรับคนที่มาค้างคืนที่ม่อนแจ่ม มีบริการเต็นท์ค่ะ และต้องกางเต็นท์ เฉพาะจุดบริการเท่านั้น
ถ้าคืนนี้ได้นอนที่นี่แล้วตื่นมาเห็นหมอก น่าจะซุปเปอร์แจ่มเลย
คืนที่ 3 คืนสุดท้าย ณ.เมืองเหนือ นอนนี่ค่ะ
อยู่ถนนนิมมานค่ะ
สำหรับ 3 คน ราคา 2000 บาท ถูกงะดิ.....ก็ถูกนะ แต่ห้องที่นอนไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ต้องใช้ร่วมกันกับอีกห้อง ส่วนห้องอื่นๆ มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่รู้ราคาเท่าไร บรรยากาศดีนะ ถ้าเปิดม่านก็เห็นคนเดินไปเดินมา และคนก็จะเห็นเราด้วยงะดิ งั้นปิดม่านกันดีกว่า
เราจะได้เห็นเค้าแค่ฝ่ายเดียวไง ฮ่าๆ
พักที่นี่ทางสะดวกค่ะ ออกมายืนรอรถสองแถว หน้าปากซอย ไปเดินถนนคนเดิน วัวลาย ได้เลย
แต่ด้วยความเหนื่อย เลยเดินถนนคนเดินแค่แป้บเดียวค่ะ คนเยอะมากๆๆ ตาลาย เลยกลับมานอนดีกว่า..
ตอนเช้าของวันที่ 4 ยังมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยก่อนกลับ เลยไป ไหว้พระธาตุดอยสุเทพฯ
ไหนๆ ก็มาถึงดอยสุเทพแหละ งั้นไปต่อ ดอยปุยกันด้วยแหละกัน....เหมารถสองแถวกันไปค่ะ
ลุงเค้าคิด 400 บาท ไป-กลับ ขึ้นจากดอยสุเทพ ขับตรงไปดอยปุย
คิดถูกค่ะ ที่นั่งรถสองแถวมา เพราะลุงเค้าชำนาญทาง ในการขับ รู้สึกปลอดภัย
ถ้าขับกันมาเอง... น่ากลัวไปนะ ทางแคบ และสูงมาก มองลงไป เหวดีๆ นี่เอง..
เดินกินลมชมวิว สักพักใหญ่ๆ ก็กลับค่ะ ก่อนถึงดอยสุเทพฯ ลุงแวะให้ถ่ายรูป พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์.
ก็เป็นการจบทริปนี้ค่ะ... ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกค่ะ ชอบเมืองเหนือมากๆ^^
บ้าย บาย^^
ขอบคุณข้อมูลจาก pantip
Cr. pikuntongkam
จริงๆ วางแผนจะมาที่นี่ตั้งแต่สามปีที่แล้ว แต่แผนพังซะทุกปี
ปีนี้ความฝันเป็นจริง ได้พาร่างกายมาสัมผัสอากาศหนาวแบบอุ่นๆ ^^
ความจริงอยากสัมผัสอากาศหนาวแบบหนาวจัดๆ ปากสั่นๆ แต่ไม่เจอ..
ไปช่วงวันที่ 10 – 13 ธันวาคมค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสมารีวิว มัวแต่กล้าๆ กลัวๆ อ้ำๆ อึ้งๆ กลัวรีวิวแล้วไม่ดี ไม่สวย ฯลฯ
แต่พอนั่งดูภาพที่มีอยู่ในมือ คิดเสียดาย อยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นเหมือนกัน
เลยได้มาเจอกันอยู่ตรงนี้ไงคะ อิอิ...เผื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับคนที่มีแพลนเหมือนๆ กัน
ถึงแม้จะได้รับความพอใจจากคนอ่าน นิดเดียว ก็ดีงามแล้วจ๊ะ
ผู้ร่วมทริปมี 3 นางค่ะ นางหนึ่งบินตรงมาจากทะเลอันดามัน หนีทะเลมาหาภูเขา
นางสองบินตรงจากดอนเมือง หนีความวุ่นวายมาหาภูเขา
นางสามคือนางอึดสุดๆ ขับรถมาคนเดียวจากนครสวรรค์ นางหนี...หนี....หนี แม่มาเที่ยวภูเขา^^
จุดเริ่มต้น.. เจอกัน สนามบินเชียงใหม่ค่ะ ตามแผนนัดเจอกัน บ่ายโมง
แต่การวางแผนไม่เคยจะมีผล... เจอกันจริง ประมาณ 5 โมงเย็น
ระหว่างรอ รอ....รอแล้วรออีก ก็แนะนำร้านนี้ละกันค่ะ อยู่สนามบินเชียงใหม่
มาเชียงใหม่ก็ต้องกินข้าวซอย งั้นซอยที่นี่นะคะ^^
เมื่อสมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว หลังจากนั้นมุ่งตรงสู่ปาย...ปายในฝัน
ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงโดยสวัสดิภาพค่ะ กี่โค้งไม่รู้ รู้แต่ว่าโค้งเยอะมากๆๆๆๆๆ ที่สุด
ถนนบางช่วงก็กำลังก่อสร้าง ใครไปช่วงนี้ก็ขับรถระมัดระวังกันนะคะ^^
คืนนี้พักนี่นะ “ปายกลางนา” ใครที่กำลังมองหาที่พักในปาย แนะนำค่ะ นอกจากบรรยากาศดีแล้ว พนักงานเค้าอัธยาศัยดีค่ะ บริการเต็มที่ ค่าห้อง สำหรับสามคน 2300 บาท รวมอาหารเช้า 1 มื้อ ราคาหลักพัน แต่บริการเกินราคา จิงๆ นะ ไม่ได้โม้เกินจริง คือไปถึงปายแล้วไปต่อไม่ถูกแล้วค่ะ โทรหาพนักงานที่นี่ แล้วนางขับรถออกมารับเลยค่ะ นัดเจอกันตรงปั้ม...แถวๆ นั้น แล้วแนะนำอื่นๆ อีกมากมาย สรุปแล้วประทับใจ รีสอร์ทเข้าไปประมาณ 1 กิโลได้ค่ะ จากตัวปาย
สัมผัสอากาศหนาวแรก ตอนเปิดประตูลงจากรถ ฮู้วววววว 11 องศาค่ะ ชอบๆ
ใครที่สนใจสามารถหาข้อมูลได้ที่พี่กู้ พี่เกิ้ล หรือ คลิกตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ http://www.paiklangna.com เผื่อเร็วได้อีกนิดหน่อย^^
พอมีแรงเหลืออีกนิดหน่อย ก็ไปเดิน ถนนคนเดิน อีกแป้บเดียวค่ะ แต่ไม่มีรูปมาฝากนะ ...มีของกิน ของใช้ หมวก และ ฯลฯ อีกจิปาถะค่ะ ใครไปเที่ยวปาย อย่าให้พลาดถนนคนเดินเชียวละ เพื่อให้รู้ว่าได้มาถึงปายแหละ อิอิ พูดเล่นนะคะ อันนี้แล้วแต่ความชอบ
อาหารเช้า ประมาณนี้ค่ะ นอกจากบนโต๊ะนี้ ก็มีอีกนะคะ แต่จำไม่ได้แหละว่ามีอะไรบ้าง^^
ก่อน Check out ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
เสียดายค่ะ นาข้าว ได้ถูกตัด เก็บ ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าในนามีข้าวเขียวๆ หรือเหลืองๆ เต็มนาทุกแปลง คงสวยน่าดู
มาตอนนี้เจออากาศหนาว ไม่ได้เจอนาเขียวๆ เหลืองๆ แต่ถ้ามาก่อนหน้านี้ ก็คงเจอนาเขียวๆ เหลืองๆ แต่ไม่เจออากาศหนาว
ไม่ว่ายังไง คนเราก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงสินะ
สำหรับคืนที่ 2 มุ่งหน้าไป ดอยแม่สลอง-เชียงรายค่ะ ระหว่างทางก็แวะแชะภาพกันไปเรื่อยค่ะ
สะพานท่าปาย
บ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน
มังกรหันหัวลงดินหางชี้ฟ้า
ห้วยน้ำดัง-จุดชมวิวดอยกิ่วลม
สิ้นสุดปาย...ด้วยภาพนี้
เหมือนได้ยืนอยู่ในต่างประเทศ (คิดในใจ)
...บ้าย บาย ปาย...
...ได้ เวลา ..มุ่งตรงสู่จุดหมายที่ 2 ค่ะ ดอยแม่สลอง
และแล้ว.. ก็ถึงดอยแม่สลอง คืนนี้พักที่นี่ค่ะ บ้านซือซือ
ที่นี่เค้ามีห้องสำหรับนอน 2 คนค่ะ จะขอนอนเบียดห้องเดียวสามคน เจ๊เค้าไม่ยอม เลยต้องจ่ายค่าห้อง 2 ห้องค่ะ
.. คุณๆ คิดว่าจะมีคนกล้านอนคนเดียวมั้ยคะ ถึงแม้หน้าตาจะดูโหดๆ ถึกๆ ก็เหอะ...ยังไงๆ ก็ต้องหอบหมอน
ผ้าห่มมานอนเบียดกันสามคนอยู่ดี แบบว่าอบอุ่นดีค่ะ และมั่นใจว่าถ้าอยู่กันสามคน ผีกลัวพวกเราแน่ 55+
ค่าห้องสองห้อง ราคา 2800 บาทค่ะ ไม่มีอาหารเช้า
บรรยากาศห้องพักที่นี่ เริดค่ะ มีระเบียงหลังห้อง สำหรับ นั่งกินลม ชิววิว จิบเบียร์ ไปพร้อมๆ กับดูดาวบนท้องฟ้า อย่างเพลินค่ะ
ตอนเช้า สามารถนอนดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเตียงนอนได้เลยค่ะ^^
หลังจากพระอาทิตย์ ลอยละลิ่ว สู่ท้องฟ้า คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็ต้องออกหาของกินค่ะ
ดอยแม่สลองมีตลาดเช้า ขายพวกของกิน ผัก ผลไม้สด .. เป็นตลาดเล็กๆ สามารถเดินได้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม
อิ่มแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังเชียงใหม่ค่ะ แต่..แต่.....ช้าก่อน มาเชียงรายแล้วไม่แวะ ไร่ชาก็กลัวไม่ถึงเชียงราย
และกลัวกลับมาโม้ชาวบ้านไม่มันอีก ....ตอนแรกจะไปไร่ชา ฉุยฟง ตามรีวิว ของเพื่อนๆ ในพันทิป
..แต่เหมือนจะไปกันไม่ถูก เลยเลือกที่นี่แทนค่ะ
ไร่ชา 101
นอกจากไร่ชา แล้วสถานที่ ที่ไม่ควรจะพลาดในทริปเชียงราย คือ วัดร่องขุ่น..
...มุ่งหน้าสู่วัดร่องขุ่น ...
..
สวยงามตามท้องเรื่อง
แต่ไม่ได้เข้าไปข้างในเนื่องจากกำลังซ่อมแซม สวยค่ะ ขนาดกำลังซ่อมแซม ยังสวยเลย
เสียดาย อดเห็นห้องน้ำที่สวยที่สุดเลย...ยืนมองไปจากตรงนี้แหละกัน ..
ขนาดเงาของห้องน้ำยังไม่มีวี่แวว ว่าจะเห็นเลย^^
บ้าย บาย เชียงราย....ล้อเริ่มหมุนอีกครั้ง สู่ประตู เมืองเชียงใหม่
ถึงเชียงใหม่ บ่ายแก่ๆ เลยซิ่งต่อไปม่อนแจ่มเลย..แต่แน่นอนค่ะ ถ้าไปตอนบ่าย สิ่งที่จะไม่ได้สัมผัสเลย
คือทะเลหมอก ..แต่ ก็ยังจะไป ม่อนแจ่มอยู่ตรงไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ไกลมาก มีคนบอกมาอย่างนี้ค่ะ และเราก็เชื่อ
...
ตลอดทริปนี้ ใช้ Google Maps นำทางค่ะ
...
สำหรับคนที่มาค้างคืนที่ม่อนแจ่ม มีบริการเต็นท์ค่ะ และต้องกางเต็นท์ เฉพาะจุดบริการเท่านั้น
ถ้าคืนนี้ได้นอนที่นี่แล้วตื่นมาเห็นหมอก น่าจะซุปเปอร์แจ่มเลย
คืนที่ 3 คืนสุดท้าย ณ.เมืองเหนือ นอนนี่ค่ะ
อยู่ถนนนิมมานค่ะ
สำหรับ 3 คน ราคา 2000 บาท ถูกงะดิ.....ก็ถูกนะ แต่ห้องที่นอนไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ต้องใช้ร่วมกันกับอีกห้อง ส่วนห้องอื่นๆ มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่รู้ราคาเท่าไร บรรยากาศดีนะ ถ้าเปิดม่านก็เห็นคนเดินไปเดินมา และคนก็จะเห็นเราด้วยงะดิ งั้นปิดม่านกันดีกว่า
เราจะได้เห็นเค้าแค่ฝ่ายเดียวไง ฮ่าๆ
พักที่นี่ทางสะดวกค่ะ ออกมายืนรอรถสองแถว หน้าปากซอย ไปเดินถนนคนเดิน วัวลาย ได้เลย
แต่ด้วยความเหนื่อย เลยเดินถนนคนเดินแค่แป้บเดียวค่ะ คนเยอะมากๆๆ ตาลาย เลยกลับมานอนดีกว่า..
ตอนเช้าของวันที่ 4 ยังมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยก่อนกลับ เลยไป ไหว้พระธาตุดอยสุเทพฯ
ไหนๆ ก็มาถึงดอยสุเทพแหละ งั้นไปต่อ ดอยปุยกันด้วยแหละกัน....เหมารถสองแถวกันไปค่ะ
ลุงเค้าคิด 400 บาท ไป-กลับ ขึ้นจากดอยสุเทพ ขับตรงไปดอยปุย
คิดถูกค่ะ ที่นั่งรถสองแถวมา เพราะลุงเค้าชำนาญทาง ในการขับ รู้สึกปลอดภัย
ถ้าขับกันมาเอง... น่ากลัวไปนะ ทางแคบ และสูงมาก มองลงไป เหวดีๆ นี่เอง..
เดินกินลมชมวิว สักพักใหญ่ๆ ก็กลับค่ะ ก่อนถึงดอยสุเทพฯ ลุงแวะให้ถ่ายรูป พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์.
ก็เป็นการจบทริปนี้ค่ะ... ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกค่ะ ชอบเมืองเหนือมากๆ^^
บ้าย บาย^^
ขอบคุณข้อมูลจาก pantip
Cr. pikuntongkam