หลังจากที่นั่งสูบข้อมูลต่างๆในพันทิป และตั้งแต่กระทู้บ่นๆๆๆ ไปอย่างเดียว เลยเกิดความอยากที่จะแบ่งปันประสบการณ์ และฝึกเขียนกระทู้ แบบเพื่อนๆในพันทิปมั่ง ช่วงนี้ปิดเทอม ปีใหม่ด้วยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน นอนเปื่อยๆอยู่หอ ก็เกิดความคิดว่า เอ้ะๆ ปีใหม่ ยังไม่ได้ย่างกรายเฉียดวัดเลย คิดไปคิดมา ก็เอาซะหน่อย นั่งค้นกระทู้ประมาณ แปดพันเก้าร้อยห้าสิบสอง กระทู้ (เว่อออออ) หารีวิวเที่ยวอยุธยา ก็เจอเพื่อนๆรีวิวไว้มากมายก่ายกอง ส่วนใหญ่จะนั่งรถไฟไปปั่นจักรยานกัน เราก็เอามั่งสิ รออะไรอยู่ จัดการศึกษษนั่งดูแผนที่ วิธีเดินทาง เช็ครอบรถไฟ เพราะเราเป็นคนที่เวลาจะไปไหนชอบไปคนเดียวและกลัวการนั่งรถเลยเป็นอยากมาก ฮ่าๆ แท็กผิดขออภัยนะคะ
อนึ่งคือไม่เคยนั่งรถไฟคนเดียวมาก่อนในชีวิต ตื่นเต้นมากกกค่ะ เลยไปเช็ครอบกับ เว็ปของการรถไฟ เอ้าาhttp://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp แปะ โดยเราเริ่มเดินทางจากเชียงราก ไปอยุธยา ก็เช็ครอบไป และรอบกลับ ให้เรียบร้อย จะได้รู้ตัวว่าควรกลับมาขึ้นถไฟตอนกี่โมง ดี้ดีที่ไม่ต้องนั่งรถไฟนาน เพราะถ้าไปตั้งแต่หัวลำโพงคงเปื่อยแน่นแน่ค่ะคุณพี่
พอเช็ครอบเสร็จเราก็มาจัดของ นั่งนึกชุดที่ต้องใส่ (สำคัญมาก) เพราะรู้ว่าแดดต้องร้อน จากผิวที่ดำอยู่แล้ว ถ้าไม่ป้องกันอาจเกรียมได้และอาจมีโรคแถมมา กิกิ ดังนั้น เราก็เลยนั่งลิสต์รายการของ ก็มีพวกครีมกันแดด โทรศัพท์ พาวเวอร์แบงค์ ลิปมัน(ปากแห้งบ่อย อิ้อิ้) หมวก สายชาร์จ น้ำเปล่า 1 ขวด หนังสือ ทิชชู่ กระเป๋าเงิน ประมาณนี้ แล้วจัดรวมๆกันไว้ ไม่งั้นถ้าตื่นสายคงได้ตกรถไฟแน่ๆ ส่วนชุดเราใส่เสื้อแขนยาวกับชุดเอี๊ยมขาสั้น คือ ห่วงแค่แขน 555+ จากนั้นก็นั่งคำนวณเวลา ว่าจะไปกี่โมงดี สุดท้าย ก็แพลนว่า จะขึ้นรถรอบ 06.09 น. อากาศกำลังดี มีเวลาเที่ยวเยอะด้วยยย ก็ตั้งนาฬิกาปลุกแล้วก็เข้านอนน
05.00 น. ตัดสินใจ นอนต่อ 5555+ มันช่วงหน้าหนาวง่ะ เราก็เห็นฟ้ามืดๆแน่เลย กลัวอันตราย เพราะแถวสถานีคนน้อยมากกกกก เลยตัดสินใจไปรอบ 07.57 น. นอนต่อตามระเบียบ ตื่นขึ้นมาสวยๆ อาบน้ำแต่งหน้า กินข้าว โอ้ยยเริ่ดค่ะคุณพี่ ออกไปรอพี่วิน ตอน 07.35 น. แล้วยังไงคะ ยังไงคะ วันที่ 4 ม.ค. วินกลับบ้านหมดค้าาา เหลือไม่กี่คัน นี่ก็ยืนรอ คนก็ชักเยอะละ เอาไงดี จะได้ขึ้นมั้ย คนรอรถเต็มเลย 07.50 น. ละ ตายแล้วๆ ตกรถไฟแน่นแน่ค่ะคุณพี่ แต่มันมีรถไฟอีกรอบตอน 08.09 น. เลยไม่กังวลเท่าไร แต่โชคช่วย พี่วินมาพอดี คนหนีไปขึ้นแท็กซี่กับรถตู้หมด หึหึ เสร็จฉัน จัดการบอกคุณพี่วินว่า "สถานีรถไฟค่ะ ^^" จัดไป 25 บาท ถึงกะได สถานี รีบ จ้ำไปซื้อตั๋ว ก็เด๋อๆด๋าๆ คนก็น้อย เลยเดินไป ชานชาลา บอก จนท ว่า จะไปอยุธยาค่ะ พี่เขาก็บอก "ซื้อตั๋วด้านหน้าเลยน้อง คนละ 20 บาท" นี่ก็ไปซื้อ พี่เขาก็ถาม "ไปเที่ยวคนเดียวหรอ" นี่ก็ตอบสวยๆ "ค่ะ" รู้สึก สตรวองมากค่ะ แต่ในใจก็หวั่นๆ ไม่เคยไปคนเดียวไกลขาดเน้ >.<
พูดไปจะหาว่าโม้ ขอโชว์รูปตั๋วหน่อยย
และนี่คือ สถานี เชียงรากกกกกกก คนน้อยมากจ้า รอบเราคนขึ้นแค่ สามคนเอง รวมตัวเองแล้วด้วย กิกิ
ลืมบอกนะคะ คือเราไม่มีกล้อง เราใช้ samsung galaxy note 3 LTE ถ่าย แล้วก็ลองฝึกปรับสีภาพครั้งแรกด้วยโปรแกรม lightroom คือฝึกจริงๆ แต่เคยเล่น VSCO ในมือถือ แล้วก็จำๆสีรูปของเพื่อนๆ ในพันทิป ในเฟสบุคเอา แต่ส่วนใหญ่ปรับตามที่ตัวเองพอใจ คือโทนจะออกฟ้าๆ เย็นๆ เพราะเราไม่อยากให้มันดูอากาศร้อน 5555555+ ลองฝึกดู ถ้ามีคำแนะนำก็บอกได้นะค้า ยินดีรับฟังงง
อ่ะต่อๆ หลังจากนั้นเราก็ได้ขึ้นรถไฟซะที ซึ่ง มาเลทจ้าาาา ไม่เป็นไรเราเข้าใจ รฟท
และแล้วรถไฟก็ออกตัวววว
จริงๆคือ อากาศดีมากกกก เย็นสบาย คนไม่เยอะ เราได้นั่งคนเดียวเลย ที่เบาะ ก็มีคุณป้าคุณลุงมาขายอาหาร เห็นแล้วนึกถึงย่าเลย พ่อบอกย่าเคยขายของบนรถไฟ ชีวิตดูแอ้ดว้านมากกก ชอบบบบบ
ในที่สุดเราก็ถึงงงง สถานีรถไฟ อยุธยา คือลืมดูเวลาว่าใช้เวลาเท่าไร 555 เพราะเราไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยรีบ
พอไปถึง ความกลัวเริ่มมาอีกละ แปลกที่แปลกถิ่น ออกไปหน้าสถานี จำรีวิวได้ว่าซอยตรงข้าม สถานีเลย จะมีเรือข้ามแม่น้ำ เพราะดูจากแผนที่แล้ว ขก.ปั่นจากฝั่งสถานี อ้อมไป อีกฝั่ง แปะแผนที่ให้ดูแล้วกันค่ะ ประมาณนี้ ลองหาในเกิ้ลเอานะคะ มีชัดกว่านี้ด้วยยย
และนี่คือซอย อันนี้ถ่ายตอนเย็น ตอนเช้าลืมถ่ายค่ะ แหะๆ
ข้างหน้าจะมีร้านให้เช่าเหมือนกัน แล้วแต่ที่เราสะดวกเลยโนะ เราเดินจนสุดซอย ทางซ้ายมือ จะเป็นเรือข้ามฟาก ราคา คนละ 5 บาท จักรยาน เพิ่มอีก 5 บาท ลืมถ่ายอีกแย้ววว แต่หาไม่ยากเลย พอข้ามฝั่งไปเราก็เจอร้าน เช่า จักรยาน อีก 2 ร้าน เจอแบบ ทันที เจอจริงๆ ไม่ต้องเดินไกล เราเช่าร้านร้านที่สอง ที่จะมีเกสต์เฮ้าส์ในเจ้าของเดียวกัน ลืมถ่ายหน้าร้านอีกละจ้าาา วิธีการคือ จ่ายตัง 50 บาท พร้อมบัตร ปชช ให้พี่คุณพี่เจ้าของร้าน เขาจะถามว่าเคยมามั้ย ถ้ายังไม่เคยพี่ก็ดี้ดี เอาแผนที่ แบบขาวดำนะ มาวางแหมะ ละก็อธิบาย นี้เข้าซอยไปยังงี้ๆนะ ไปวัดนี้ๆๆๆๆๆ ผ่านทางนี้ๆ พร้อมกับลากปากกา สีแดงไป ตามเส้นทาง และวงกลมวัดแล้ววัดเล่า ตรงนี้ๆ เป็นสายไหม ตรงนี้ มีก๋วยเตี๋ยว บลาๆ ถามว่า จำได้มั้ย ไม่เลยค่ะ แต่ก็ดีนะ เราก็เอ้อ ไม่ต้องไปหาเส้นทางเอง เอ้อลืมบอก ที่ร้านนี้มีบริการรถตู้กลับ กทม ด้วย 80 บาท แต่เรากลับรถไฟเลย บรัยยยยส์ หลังจากฟังการบรรยาย เส้นทางแล้ว
ก็มีพี่ ผญ เอาจักรยานมาจอดให้พร้อมกับปรับเบาะเรียบร้อย จักรยาน 1 คัน โซ่ 1 เส้น แม่กุญแจ ลูกกุญแจที่ห้อยกับพวงกุญแจลายปลาตะเพียน ตัลล้าคคค โดยทุกครั้งที่จอดจักรยาน อย่าลืมล็อกล้อให้ที่ร้านด้วยนะจ้ะะะ แล้วก็เริมภารกิจ ปั่นๆๆๆๆๆๆๆๆ
วัดแรกที่ไปถึงก็คือ วัด มหาธาตุ โดยจะต้องเสียค่าเข้า 10 บาทมั้งคะ แต่พอดีเป็นช่วงเทศกาล ฟรี!!!!!!! ถึง 5 ม.ค. 58 แหม โชคเข้าข้างเราแล้ว เข้าเลยค่ะรออะไร อ้ะๆ อย่าลืมล็อกจักรยานนะคะ เดี๋ยวหาย 5555 ซึ่งวัดมหาธาตุ เราชอบนะ ถ่ายรูปเยอะมาก อาจจะเพราะกำลังฟิต อ่ะๆ ดูซะหน่อยๆ
ปรับสีละหญ้าเหลือง ไม่ชอบเลยดูแดดร้อน 5555 แต่ก็ทำไม่เป็น -..- เลยตามเลยค่ะ จากนั้นปั่นออกมาจากวัดมหาธาตุ แพลนต่อไปคือ วัดราชบูรณะ ปั่นๆๆๆๆๆๆ ยังไงคะๆ บูรณะสมชื่อ ประตูปิดเห็นเขาตัดหญ้ากัน เป็นอันล้มเลิกไป เลยปั่นๆๆๆ ต่อไป ลืมดูแผนที่ เลยวัดธรรมิกราช มาแล้ว เลยแว้บเข้าวัดหน้าพระเมรุ ก่อน ช่วงนี้เริ่มร้อน และเริ่ม มึนกับแผนที่ละค่ะ 55555 คือรู้สึกไปเองรึเปล่าไม่รู้ว่าสัดส่วนไม่ค่อยตรงกับความจริงเท่าไร แต่ไม่เป็นไร ถึงวัดหน้าพระเมรุ ละ เสียค่าเข้า 20 บาท วัดนี้จะเป็นวัดแบบทั่วไป มีพระ มีการทำบุญ ได้ทำบุญละค่ะ ในใจอยากจะเสี่ยงเซียมซี หันไป เอ้าาา ไฮเทคอีก แบบหยอดตู้ไม่มันเท่าเขย่าเอง เลยอดไปค่ะ วัดนี้ได้มารูปเดียว
ทำบุญเสร็จ ซดน้ำมนต์ไปสองอึก ปั่นต่อค่ะ เลี้ยว กลับไปวัดธรรมิกราชเพราะพี่เขาบอกว่ามันจะมีทางเล็กๆ ลัดเข้าข้างในได้ เลยเข้าวัดธรรมมิกราชก่อนค่ะ ซึ่งตรงนี้แหละที่ งงกับแผนที่ละ เพราะมันไม่มีทางลัดง่ะ แต่จริงๆแล้ว อยู่อีกซอยหนึ่ง ไม่รู้ว่าเข้าพึ่งปิดทางรึเปล่า แต่วัดนี้ สวยสดงดงามค่ะ
ที่ข้างหน้า จะมีพระธรรมิกราช แต่ไม่ได้ถ่าย อิอิ เข้าไปไหว้พระข้างในโบสถ์แล้ว ก็ออกมาเจอ ศาลพระนเรศวรค่ะ ไก่เต็มเยย
เดินต่อมา เป็นซุ้มค่ะ ชอบนะ ร่มรื่นดีเจี้ยมมมมม
และในซุ้มแต่ละซุ้มจะมีป้ายแปะอยู่ เราชอบนะ ไม่รู้ทำไม รู้สึกมีความหมายอ่านละสบายใจดี
ต่อมาจะเจอวัดเก่า ดูแค่เสา ก็พอจะเดาได้ว่าสมัยก่อนจะอลังการดาวล้านดวงแค่ไหน
อันนี้มองออกมา วิวดี้ดี ข้างๆเป็นวิทยาลัย สักอย่าง ขอโทษค่ะจำชื่อม่ายด้ายยยย เสียง นร เจี้ยวจ้าวมาก ได้ยินละ คิดถึง สมัยมัธยม 55555 แบบนี้เลยยย
ข้างในมีอีกโบสถ์หนึ่ง เข้าไปทำบุญแล้วค่ะ แต่ถ่ายมาไม่สวยเลยไม่ได้ลง แหะๆ และอีกเช่นเคย เป็นตู้เซียมซีหยอดเหรียญ อดอีกแล้วจาาาาา
พอออกจากวัดเราก็ปั่นๆๆๆๆๆ และเห็น เจดีย์ มั้งไม่รู้เขาเรียกอะไรอ่ะ มันเป็นซอย ก่อนถึงวัดธรรมมิกราช ในใจ ก็หวัง ว่าจะเป็น ทางลัดเข้าข้างในเลยลองปั่นไปดู
แล้วก็เห็นทางเล็กๆ เล็กจริงๆ เลยลองเสี่ยงปั่นไปดู อู้หูววว มีทางออกโผล่ ใกล้ วัดราชบูรณะ เลยปั่นๆๆๆๆ ระหว่างนั้นแวะถ่ายรูปค่ะ แดดกำลังแวร๊งงงงงง หัวนี่เปียก ถอดหมวกแก๊ปมานี่ ผมลีบติดหัวเชียวคุณผู้โชมมมม
ปันต่อไป พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง แวะถ่ายรูปค่ะ
ไม่ไกลนี้ น่าจะเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ์ ถ้าผิดบอกได้นะคะ เพราะปั่นๆๆ แวะๆๆๆๆ ไม่ได้เหลือบมองชื่อวัดเลย 5555 วัดนี้รูปเยอะมากกกกก
มาต่อออ ใช้เต็มลิมิต 55555 เรายังอยู่กันที่วัดพระศรีสรรเพชญ์นะคะคุณชาคริต
อ่าวรูปหมด 55555 ป่ะๆไปต่อ ใกล้ๆกันเลยค่ะ
วิหารพระมงคลบพิตร ที่นี่แหละคุณผู้โชมมม ตามหาที่เสี่ยงเซียมซี มาหลายวัด เราเจอแล้วววว เซียมซีแบบออริจินัลลลล เขย่า เชคอิท เชคอิทฟอร์มีย์ ดีใจมากกกก คนนั่งเชค ก็มากเช่นกัน คือเราคิดไว้ว่าเซียมซีใบนี้ จะต้องแม่นแน่ และจะเสี่ยงแค่ครั้งเดียวถ้าไม่ดี ก็ไม่เอากลับ แต่กว่าจะหาแบบเขย่าได้ น่าจะเป็นดวงของเรา กิกิ วัดนี้คนเยอะมากค่ะ ด้านหลังเป็นที่ขายของฝากใหญ่มวากกกกก เดินเที่ยวได้นะคะ
และกลับมาปั่นต่อ เริ่มปวดกล้ามเนื้อตูดละค่ะ 55555 ต่อกันเลยที่ วัดพระรามมม ทีแรกลืมว่า นี่ฉันถ่ายวัดอะไรมาาาา ละมุมคล้ายๆกัน TT
เข้าฟรีอีกเช่นเคยค่ะะ เพราะวันปีใหม่
จากวัดพระราม ว่าจะไปไหว้ศาลหลักเมือง แต่ไม่ได้เข้าไป ได้แค่ยกมือไหว้ข้างนอกละปั่นต่อ ต่อจากนี้แหละค่ะ หึหึ แดดเริ่มร้อน นี่ก็ปั่นจักรยานจะไปพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ ปั่นมาราธอนมากค่ะกับจักรยานจ่ายตลาดที่เบาะเชิดดดด เข้าใจใช่มั้ยคะ เบาะเชิด และสูง และขาสั้น โอ้โหหหหหห หรู่เหรื่อง ไปถึงสี่แยกไฟแดง ยังไงคะๆ ปิดค่ะ อินี่นี่แทบจะจอดจักรยาน แล้วโบกรถกลับ 5555555555+ ปวดก้นจริงค่ะตอนนั้น ปิดละเราจะทำไรได้ เปิดแมพกูเกิลช่วยเห็น อนุสาวรีย์ปรีดีย์ เราก็เอ้อออ เด็ก มธ เอาซะหน่อยๆ จะไปไหว ยังไงคะๆ ไม่กล้าเข้า 555 รั้วรอบขอบชิดมาก เลยกะจะไปเจดีย์และวัดภูเขาทอง เห็นรีวิวพี่เขาเคยไปถ่ายมา สวยเชียว เอามั่ง ปั่นจากสี่แยก ข้ามสะพานเท่านั้นแหละ หยิบแมพ มาเช็ค โอ้โหหหห ไกลลื้มมมม แค่ปั่นข้ามสะพานก็เหนื่อยแล้วอ่ะ แล้วทางที่ไปนี่ คล้ายจะออกไป ชนบทแล้ว เลย ไม่กล้าเสี่ยง ปั่นกลับไปแยกไปแดงอีกจ้าาา ผ่านวัดตึก วัดวรโพธิ์ ก็ไม่ได้เข้าเพราะเริ่ม ขก. 555 อยากถ่ายรูปเฉยๆ ปั่นเลาะขอบแม่น้ำ จะไปเจดีย์ศรีสุริโยทัย ก็ไม่กล้าเข้าอีก ประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อก 555 ปั่นต่อ ใจหวังว่าจะลัดเข้า ทางสำนักงานศิลปากรที่ 3 ไปออก ตรงวัดพระราม ปั่นไปปั่นมา เอ้ะๆ เลี้ยวผิดคุณผู้โชมมม โผล่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เริ่มเลยเถิดละ ปั่นวนเป็น วงกลม 555555 คือระยะทางไกลมาก ปวดตูด หัวเปียก โดดเดี่ยวเดียวดาย หาทางกลับไม่ได้ด้วย กัดฟันปั่นต่อ ผ่านหน้า รพ.พระนครศรีอยุธยา ใจเริ่มชื้น พอจับทางได้ละ จะไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ยังไงคะๆ หาทางเข้าไม่เจอ เริ่มคิดละเอ้ะ สงสัยเราเองที่โง่ 555555 เลยตามเลย คิดละ ต้องคืนจักรยานแล้วแหละ คืนเถอะเหนื่อยแล้ว ลืมบอกว่าเช่าได้ถึง 1 ทุ่มนะคะ แต่ สิบเอ็ดโมงนี่อยากวาร์ปไปร้านเช่าละคืนละ นี่ก็เลยปั่นๆๆๆ เลาะนู่นนี่นั่น ผ่านถนนใหญ่ เลยทางที่มาอีก อ้อมไป ตลาดเจ้าพรหม ในทีุ่ดก็ถึงร้านเช่าจักรยาน คืนจักรยาน กุญแจ เอาบัตร ปชช คืนเรียบร้อย ที่ร้านเช่า เขาให้เข้าห้องน้ำได้นะคะ เข้าเลยๆ อย่าเก็บไว้ เพราะหาเข้ายากค่ะ จากนั้น ล่องเรือกลับไปฝั่ง สถานีรถไฟ
ข้ามฝั่งๆ
และนี่คือซอยที่เราเข้ามา
เดินไปปากซอยเรียกพี่วิน ไป ตลาดน้ำอโยธยา แหม มาขนาดนี้ละ ไม่ไปได้ไง รถไฟก็หมดละด้วยรอบเที่ยง มีอีกที่ สี่โมงแน่ะ เลยไปซะหน่อย ราคาประมาน 30 บาทถ้าจำไม่ผิดนะคะ หรือ 25 นี่แหละ ไม่ถึง 40 แน่นอนน
และแล้วก็ถึงงงง
ขนาดไปวันจันทร์ ของยังขายเยอะเลยค่ะ บางร้านก็ปิด แต่ไม่เป็นไร เดินได้ มีการแสดงด้วยนะคะ เสียงอึกทึกคึกโครม เราว่าของก็ไม่แพงมากนะ ยกเว้นอาหาร จะแพงกว่าของนอกนิดหน่อย
แอบถ่ายคุณลุง
ออกจากตลาดน้ำ เจอพี่วินพอดี บอกไป สถานีรถไฟ แหม พาลัดเลาะซะงง ซอยเยอะมากกกกก ทะลุออกหลัง สถานี พอถึงก็แกล้งถาม เท่าไรคะ เขา บอกน้อยกว่า ตอนมา 5 บาท อิ้อิ้ ดีนะหยั่งเชิงก่อน สบายไป จะกลับล้าววว ไปซื้อตั๋วก่อน 20 บาทเช่นเคย ลงสถานีเชียงราก
มาดูบรรยากาศสถานีกันดีกว่า เมื่อเช้าไม่ได้ถ่ายไว้
ข้ามดีๆ นะเด็กน้อยยย
เหมือนสถานีกำลังปรับปรุงค่ะ อุปกรณ์ก่อสร้างเต็มเลย คนก็เช่นกัน
ข้างในสถานี
ดูรีวิวละเขาถ่าย ถ่ายตาม แต่มันน่าตีจริงๆนะ 555555
ตั๋วกลับบบบบ
รถไฟมาแล้ววววววววว
บรั้ยบรัย อยุธยา อิ่มบุญ อิ่มใจ ร่างกายแข็งแรง ปวดตูดมากจาาาา ขากลับคนแน่นมาก ฝรั่งเต็มเลยยย อยากสปีคอิงลิชวิดเดม แต่ไม่กล้าพอ ไว้คราวหน้าจะชวนเม้าทะมอยเด้อยูววววว
ถึงเชียงราก ประมาณ 5 โมงมั้งคะ มีรถสองแถว รังสิต จารุศร กลับสบายๆ
จบแล้วววว ทริปของเรา เอาจริงๆนะถ้าจะไปกัน สองคนไรงี้ เช่ามอเตอร์ไซค์ ดีกว่า แพงหว่านิดหน่อยแต่เราว่าสะดวกสบายกว่าเยอะเพราะ วัดมันไม่ได้ใกล้กันอย่างที่เราเห็นในแผนที่เนาะ 55555 อินี่โชว์โง่ โช์โป๊ะ ปั่นจักรยานหลงไปอีกกก มอเตอร์ไซค์จะทำให้เราไปได้ไกลกว่านี้ค่ะ เชื่อเรา แต่ใครอยากปั่นก็ปั่นได้น้าาา ไม่ขัดข้องอะไร แต่นี่คือ ขับไม่แข็งเลยไม่โชว์เหนือ 555 รถไม่เยอะสบายๆ แล้วก็หมวกกับกันแดดช่วยได้เยอะจริงๆ กลับาก็ดำขึ้นแหละแต่ไม่มาก แล้วก็ระวังมิจฉาชีพด้วยนะคะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามแหละ เคยอ่านเจอว่ามีกระชงกระชากกระเป๋ากันน่ากลัว อินี่เลย สะพายติดหลังเป็นเต่าเลย ละสีแสดแรงสุดไรสุด 55 ดีเลยค่ะ ไม่ต้องติดไฟท้ายจักรยาน
รีวิวครั้งแรก ถ้าแท็กผิดก็ขอโทษด้วยนะค้า มีอะไรต้องแก้ไข บอกกันได้น้าาา เราแอบเป็นหลืบในนี้มานานละอยากลองแบ่งปันประสบการณ์กับทุกคนดูมั่ง สนุกดี ฮ่าๆ ไว้คราวหลังจะหาเรื่องตั้งทู้อีก กิกิ บรัยส์ข่าาา
***ลืมบอกนะคะ คือเราไม่มีกล้อง เราใช้ samsung galaxy note 3 LTE ถ่าย แล้วก็ลองฝึกปรับสีภาพครั้งแรกด้วยโปรแกรม lightroom คือฝึกจริงๆ แต่เคยเล่น VSCO ในมือถือ แล้วก็จำๆสีรูปของเพื่อนๆ ในพันทิป ในเฟสบุคเอา แต่ส่วนใหญ่ปรับตามที่ตัวเองพอใจ คือโทนจะออกฟ้าๆ เย็นๆ เพราะเราไม่อยากให้มันดูอากาศร้อน 5555555+ ลองฝึกดู ถ้ามีคำแนะนำก็บอกได้นะค้า ยินดีรับฟังงง***
ชอบกล้องซัมซุงที่ถ่ายกลางวัน คือชัดดี แต่กลางคืนนี้ นอนหล่องห้ายยย
ไปละค้าา สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1371517
อนึ่งคือไม่เคยนั่งรถไฟคนเดียวมาก่อนในชีวิต ตื่นเต้นมากกกค่ะ เลยไปเช็ครอบกับ เว็ปของการรถไฟ เอ้าาhttp://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp แปะ โดยเราเริ่มเดินทางจากเชียงราก ไปอยุธยา ก็เช็ครอบไป และรอบกลับ ให้เรียบร้อย จะได้รู้ตัวว่าควรกลับมาขึ้นถไฟตอนกี่โมง ดี้ดีที่ไม่ต้องนั่งรถไฟนาน เพราะถ้าไปตั้งแต่หัวลำโพงคงเปื่อยแน่นแน่ค่ะคุณพี่
พอเช็ครอบเสร็จเราก็มาจัดของ นั่งนึกชุดที่ต้องใส่ (สำคัญมาก) เพราะรู้ว่าแดดต้องร้อน จากผิวที่ดำอยู่แล้ว ถ้าไม่ป้องกันอาจเกรียมได้และอาจมีโรคแถมมา กิกิ ดังนั้น เราก็เลยนั่งลิสต์รายการของ ก็มีพวกครีมกันแดด โทรศัพท์ พาวเวอร์แบงค์ ลิปมัน(ปากแห้งบ่อย อิ้อิ้) หมวก สายชาร์จ น้ำเปล่า 1 ขวด หนังสือ ทิชชู่ กระเป๋าเงิน ประมาณนี้ แล้วจัดรวมๆกันไว้ ไม่งั้นถ้าตื่นสายคงได้ตกรถไฟแน่ๆ ส่วนชุดเราใส่เสื้อแขนยาวกับชุดเอี๊ยมขาสั้น คือ ห่วงแค่แขน 555+ จากนั้นก็นั่งคำนวณเวลา ว่าจะไปกี่โมงดี สุดท้าย ก็แพลนว่า จะขึ้นรถรอบ 06.09 น. อากาศกำลังดี มีเวลาเที่ยวเยอะด้วยยย ก็ตั้งนาฬิกาปลุกแล้วก็เข้านอนน
05.00 น. ตัดสินใจ นอนต่อ 5555+ มันช่วงหน้าหนาวง่ะ เราก็เห็นฟ้ามืดๆแน่เลย กลัวอันตราย เพราะแถวสถานีคนน้อยมากกกกก เลยตัดสินใจไปรอบ 07.57 น. นอนต่อตามระเบียบ ตื่นขึ้นมาสวยๆ อาบน้ำแต่งหน้า กินข้าว โอ้ยยเริ่ดค่ะคุณพี่ ออกไปรอพี่วิน ตอน 07.35 น. แล้วยังไงคะ ยังไงคะ วันที่ 4 ม.ค. วินกลับบ้านหมดค้าาา เหลือไม่กี่คัน นี่ก็ยืนรอ คนก็ชักเยอะละ เอาไงดี จะได้ขึ้นมั้ย คนรอรถเต็มเลย 07.50 น. ละ ตายแล้วๆ ตกรถไฟแน่นแน่ค่ะคุณพี่ แต่มันมีรถไฟอีกรอบตอน 08.09 น. เลยไม่กังวลเท่าไร แต่โชคช่วย พี่วินมาพอดี คนหนีไปขึ้นแท็กซี่กับรถตู้หมด หึหึ เสร็จฉัน จัดการบอกคุณพี่วินว่า "สถานีรถไฟค่ะ ^^" จัดไป 25 บาท ถึงกะได สถานี รีบ จ้ำไปซื้อตั๋ว ก็เด๋อๆด๋าๆ คนก็น้อย เลยเดินไป ชานชาลา บอก จนท ว่า จะไปอยุธยาค่ะ พี่เขาก็บอก "ซื้อตั๋วด้านหน้าเลยน้อง คนละ 20 บาท" นี่ก็ไปซื้อ พี่เขาก็ถาม "ไปเที่ยวคนเดียวหรอ" นี่ก็ตอบสวยๆ "ค่ะ" รู้สึก สตรวองมากค่ะ แต่ในใจก็หวั่นๆ ไม่เคยไปคนเดียวไกลขาดเน้ >.<
พูดไปจะหาว่าโม้ ขอโชว์รูปตั๋วหน่อยย
และนี่คือ สถานี เชียงรากกกกกกก คนน้อยมากจ้า รอบเราคนขึ้นแค่ สามคนเอง รวมตัวเองแล้วด้วย กิกิ
ลืมบอกนะคะ คือเราไม่มีกล้อง เราใช้ samsung galaxy note 3 LTE ถ่าย แล้วก็ลองฝึกปรับสีภาพครั้งแรกด้วยโปรแกรม lightroom คือฝึกจริงๆ แต่เคยเล่น VSCO ในมือถือ แล้วก็จำๆสีรูปของเพื่อนๆ ในพันทิป ในเฟสบุคเอา แต่ส่วนใหญ่ปรับตามที่ตัวเองพอใจ คือโทนจะออกฟ้าๆ เย็นๆ เพราะเราไม่อยากให้มันดูอากาศร้อน 5555555+ ลองฝึกดู ถ้ามีคำแนะนำก็บอกได้นะค้า ยินดีรับฟังงง
อ่ะต่อๆ หลังจากนั้นเราก็ได้ขึ้นรถไฟซะที ซึ่ง มาเลทจ้าาาา ไม่เป็นไรเราเข้าใจ รฟท
และแล้วรถไฟก็ออกตัวววว
จริงๆคือ อากาศดีมากกกก เย็นสบาย คนไม่เยอะ เราได้นั่งคนเดียวเลย ที่เบาะ ก็มีคุณป้าคุณลุงมาขายอาหาร เห็นแล้วนึกถึงย่าเลย พ่อบอกย่าเคยขายของบนรถไฟ ชีวิตดูแอ้ดว้านมากกก ชอบบบบบ
ในที่สุดเราก็ถึงงงง สถานีรถไฟ อยุธยา คือลืมดูเวลาว่าใช้เวลาเท่าไร 555 เพราะเราไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยรีบ
พอไปถึง ความกลัวเริ่มมาอีกละ แปลกที่แปลกถิ่น ออกไปหน้าสถานี จำรีวิวได้ว่าซอยตรงข้าม สถานีเลย จะมีเรือข้ามแม่น้ำ เพราะดูจากแผนที่แล้ว ขก.ปั่นจากฝั่งสถานี อ้อมไป อีกฝั่ง แปะแผนที่ให้ดูแล้วกันค่ะ ประมาณนี้ ลองหาในเกิ้ลเอานะคะ มีชัดกว่านี้ด้วยยย
และนี่คือซอย อันนี้ถ่ายตอนเย็น ตอนเช้าลืมถ่ายค่ะ แหะๆ
ข้างหน้าจะมีร้านให้เช่าเหมือนกัน แล้วแต่ที่เราสะดวกเลยโนะ เราเดินจนสุดซอย ทางซ้ายมือ จะเป็นเรือข้ามฟาก ราคา คนละ 5 บาท จักรยาน เพิ่มอีก 5 บาท ลืมถ่ายอีกแย้ววว แต่หาไม่ยากเลย พอข้ามฝั่งไปเราก็เจอร้าน เช่า จักรยาน อีก 2 ร้าน เจอแบบ ทันที เจอจริงๆ ไม่ต้องเดินไกล เราเช่าร้านร้านที่สอง ที่จะมีเกสต์เฮ้าส์ในเจ้าของเดียวกัน ลืมถ่ายหน้าร้านอีกละจ้าาา วิธีการคือ จ่ายตัง 50 บาท พร้อมบัตร ปชช ให้พี่คุณพี่เจ้าของร้าน เขาจะถามว่าเคยมามั้ย ถ้ายังไม่เคยพี่ก็ดี้ดี เอาแผนที่ แบบขาวดำนะ มาวางแหมะ ละก็อธิบาย นี้เข้าซอยไปยังงี้ๆนะ ไปวัดนี้ๆๆๆๆๆ ผ่านทางนี้ๆ พร้อมกับลากปากกา สีแดงไป ตามเส้นทาง และวงกลมวัดแล้ววัดเล่า ตรงนี้ๆ เป็นสายไหม ตรงนี้ มีก๋วยเตี๋ยว บลาๆ ถามว่า จำได้มั้ย ไม่เลยค่ะ แต่ก็ดีนะ เราก็เอ้อ ไม่ต้องไปหาเส้นทางเอง เอ้อลืมบอก ที่ร้านนี้มีบริการรถตู้กลับ กทม ด้วย 80 บาท แต่เรากลับรถไฟเลย บรัยยยยส์ หลังจากฟังการบรรยาย เส้นทางแล้ว
ก็มีพี่ ผญ เอาจักรยานมาจอดให้พร้อมกับปรับเบาะเรียบร้อย จักรยาน 1 คัน โซ่ 1 เส้น แม่กุญแจ ลูกกุญแจที่ห้อยกับพวงกุญแจลายปลาตะเพียน ตัลล้าคคค โดยทุกครั้งที่จอดจักรยาน อย่าลืมล็อกล้อให้ที่ร้านด้วยนะจ้ะะะ แล้วก็เริมภารกิจ ปั่นๆๆๆๆๆๆๆๆ
วัดแรกที่ไปถึงก็คือ วัด มหาธาตุ โดยจะต้องเสียค่าเข้า 10 บาทมั้งคะ แต่พอดีเป็นช่วงเทศกาล ฟรี!!!!!!! ถึง 5 ม.ค. 58 แหม โชคเข้าข้างเราแล้ว เข้าเลยค่ะรออะไร อ้ะๆ อย่าลืมล็อกจักรยานนะคะ เดี๋ยวหาย 5555 ซึ่งวัดมหาธาตุ เราชอบนะ ถ่ายรูปเยอะมาก อาจจะเพราะกำลังฟิต อ่ะๆ ดูซะหน่อยๆ
ปรับสีละหญ้าเหลือง ไม่ชอบเลยดูแดดร้อน 5555 แต่ก็ทำไม่เป็น -..- เลยตามเลยค่ะ จากนั้นปั่นออกมาจากวัดมหาธาตุ แพลนต่อไปคือ วัดราชบูรณะ ปั่นๆๆๆๆๆๆ ยังไงคะๆ บูรณะสมชื่อ ประตูปิดเห็นเขาตัดหญ้ากัน เป็นอันล้มเลิกไป เลยปั่นๆๆๆ ต่อไป ลืมดูแผนที่ เลยวัดธรรมิกราช มาแล้ว เลยแว้บเข้าวัดหน้าพระเมรุ ก่อน ช่วงนี้เริ่มร้อน และเริ่ม มึนกับแผนที่ละค่ะ 55555 คือรู้สึกไปเองรึเปล่าไม่รู้ว่าสัดส่วนไม่ค่อยตรงกับความจริงเท่าไร แต่ไม่เป็นไร ถึงวัดหน้าพระเมรุ ละ เสียค่าเข้า 20 บาท วัดนี้จะเป็นวัดแบบทั่วไป มีพระ มีการทำบุญ ได้ทำบุญละค่ะ ในใจอยากจะเสี่ยงเซียมซี หันไป เอ้าาา ไฮเทคอีก แบบหยอดตู้ไม่มันเท่าเขย่าเอง เลยอดไปค่ะ วัดนี้ได้มารูปเดียว
ทำบุญเสร็จ ซดน้ำมนต์ไปสองอึก ปั่นต่อค่ะ เลี้ยว กลับไปวัดธรรมิกราชเพราะพี่เขาบอกว่ามันจะมีทางเล็กๆ ลัดเข้าข้างในได้ เลยเข้าวัดธรรมมิกราชก่อนค่ะ ซึ่งตรงนี้แหละที่ งงกับแผนที่ละ เพราะมันไม่มีทางลัดง่ะ แต่จริงๆแล้ว อยู่อีกซอยหนึ่ง ไม่รู้ว่าเข้าพึ่งปิดทางรึเปล่า แต่วัดนี้ สวยสดงดงามค่ะ
ที่ข้างหน้า จะมีพระธรรมิกราช แต่ไม่ได้ถ่าย อิอิ เข้าไปไหว้พระข้างในโบสถ์แล้ว ก็ออกมาเจอ ศาลพระนเรศวรค่ะ ไก่เต็มเยย
เดินต่อมา เป็นซุ้มค่ะ ชอบนะ ร่มรื่นดีเจี้ยมมมมม
และในซุ้มแต่ละซุ้มจะมีป้ายแปะอยู่ เราชอบนะ ไม่รู้ทำไม รู้สึกมีความหมายอ่านละสบายใจดี
ต่อมาจะเจอวัดเก่า ดูแค่เสา ก็พอจะเดาได้ว่าสมัยก่อนจะอลังการดาวล้านดวงแค่ไหน
อันนี้มองออกมา วิวดี้ดี ข้างๆเป็นวิทยาลัย สักอย่าง ขอโทษค่ะจำชื่อม่ายด้ายยยย เสียง นร เจี้ยวจ้าวมาก ได้ยินละ คิดถึง สมัยมัธยม 55555 แบบนี้เลยยย
ข้างในมีอีกโบสถ์หนึ่ง เข้าไปทำบุญแล้วค่ะ แต่ถ่ายมาไม่สวยเลยไม่ได้ลง แหะๆ และอีกเช่นเคย เป็นตู้เซียมซีหยอดเหรียญ อดอีกแล้วจาาาาา
พอออกจากวัดเราก็ปั่นๆๆๆๆๆ และเห็น เจดีย์ มั้งไม่รู้เขาเรียกอะไรอ่ะ มันเป็นซอย ก่อนถึงวัดธรรมมิกราช ในใจ ก็หวัง ว่าจะเป็น ทางลัดเข้าข้างในเลยลองปั่นไปดู
แล้วก็เห็นทางเล็กๆ เล็กจริงๆ เลยลองเสี่ยงปั่นไปดู อู้หูววว มีทางออกโผล่ ใกล้ วัดราชบูรณะ เลยปั่นๆๆๆๆ ระหว่างนั้นแวะถ่ายรูปค่ะ แดดกำลังแวร๊งงงงงง หัวนี่เปียก ถอดหมวกแก๊ปมานี่ ผมลีบติดหัวเชียวคุณผู้โชมมมม
ปันต่อไป พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง แวะถ่ายรูปค่ะ
ไม่ไกลนี้ น่าจะเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ์ ถ้าผิดบอกได้นะคะ เพราะปั่นๆๆ แวะๆๆๆๆ ไม่ได้เหลือบมองชื่อวัดเลย 5555 วัดนี้รูปเยอะมากกกกก
มาต่อออ ใช้เต็มลิมิต 55555 เรายังอยู่กันที่วัดพระศรีสรรเพชญ์นะคะคุณชาคริต
อ่าวรูปหมด 55555 ป่ะๆไปต่อ ใกล้ๆกันเลยค่ะ
วิหารพระมงคลบพิตร ที่นี่แหละคุณผู้โชมมม ตามหาที่เสี่ยงเซียมซี มาหลายวัด เราเจอแล้วววว เซียมซีแบบออริจินัลลลล เขย่า เชคอิท เชคอิทฟอร์มีย์ ดีใจมากกกก คนนั่งเชค ก็มากเช่นกัน คือเราคิดไว้ว่าเซียมซีใบนี้ จะต้องแม่นแน่ และจะเสี่ยงแค่ครั้งเดียวถ้าไม่ดี ก็ไม่เอากลับ แต่กว่าจะหาแบบเขย่าได้ น่าจะเป็นดวงของเรา กิกิ วัดนี้คนเยอะมากค่ะ ด้านหลังเป็นที่ขายของฝากใหญ่มวากกกกก เดินเที่ยวได้นะคะ
และกลับมาปั่นต่อ เริ่มปวดกล้ามเนื้อตูดละค่ะ 55555 ต่อกันเลยที่ วัดพระรามมม ทีแรกลืมว่า นี่ฉันถ่ายวัดอะไรมาาาา ละมุมคล้ายๆกัน TT
เข้าฟรีอีกเช่นเคยค่ะะ เพราะวันปีใหม่
จากวัดพระราม ว่าจะไปไหว้ศาลหลักเมือง แต่ไม่ได้เข้าไป ได้แค่ยกมือไหว้ข้างนอกละปั่นต่อ ต่อจากนี้แหละค่ะ หึหึ แดดเริ่มร้อน นี่ก็ปั่นจักรยานจะไปพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ ปั่นมาราธอนมากค่ะกับจักรยานจ่ายตลาดที่เบาะเชิดดดด เข้าใจใช่มั้ยคะ เบาะเชิด และสูง และขาสั้น โอ้โหหหหหห หรู่เหรื่อง ไปถึงสี่แยกไฟแดง ยังไงคะๆ ปิดค่ะ อินี่นี่แทบจะจอดจักรยาน แล้วโบกรถกลับ 5555555555+ ปวดก้นจริงค่ะตอนนั้น ปิดละเราจะทำไรได้ เปิดแมพกูเกิลช่วยเห็น อนุสาวรีย์ปรีดีย์ เราก็เอ้อออ เด็ก มธ เอาซะหน่อยๆ จะไปไหว ยังไงคะๆ ไม่กล้าเข้า 555 รั้วรอบขอบชิดมาก เลยกะจะไปเจดีย์และวัดภูเขาทอง เห็นรีวิวพี่เขาเคยไปถ่ายมา สวยเชียว เอามั่ง ปั่นจากสี่แยก ข้ามสะพานเท่านั้นแหละ หยิบแมพ มาเช็ค โอ้โหหหห ไกลลื้มมมม แค่ปั่นข้ามสะพานก็เหนื่อยแล้วอ่ะ แล้วทางที่ไปนี่ คล้ายจะออกไป ชนบทแล้ว เลย ไม่กล้าเสี่ยง ปั่นกลับไปแยกไปแดงอีกจ้าาา ผ่านวัดตึก วัดวรโพธิ์ ก็ไม่ได้เข้าเพราะเริ่ม ขก. 555 อยากถ่ายรูปเฉยๆ ปั่นเลาะขอบแม่น้ำ จะไปเจดีย์ศรีสุริโยทัย ก็ไม่กล้าเข้าอีก ประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อก 555 ปั่นต่อ ใจหวังว่าจะลัดเข้า ทางสำนักงานศิลปากรที่ 3 ไปออก ตรงวัดพระราม ปั่นไปปั่นมา เอ้ะๆ เลี้ยวผิดคุณผู้โชมมม โผล่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เริ่มเลยเถิดละ ปั่นวนเป็น วงกลม 555555 คือระยะทางไกลมาก ปวดตูด หัวเปียก โดดเดี่ยวเดียวดาย หาทางกลับไม่ได้ด้วย กัดฟันปั่นต่อ ผ่านหน้า รพ.พระนครศรีอยุธยา ใจเริ่มชื้น พอจับทางได้ละ จะไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ยังไงคะๆ หาทางเข้าไม่เจอ เริ่มคิดละเอ้ะ สงสัยเราเองที่โง่ 555555 เลยตามเลย คิดละ ต้องคืนจักรยานแล้วแหละ คืนเถอะเหนื่อยแล้ว ลืมบอกว่าเช่าได้ถึง 1 ทุ่มนะคะ แต่ สิบเอ็ดโมงนี่อยากวาร์ปไปร้านเช่าละคืนละ นี่ก็เลยปั่นๆๆๆ เลาะนู่นนี่นั่น ผ่านถนนใหญ่ เลยทางที่มาอีก อ้อมไป ตลาดเจ้าพรหม ในทีุ่ดก็ถึงร้านเช่าจักรยาน คืนจักรยาน กุญแจ เอาบัตร ปชช คืนเรียบร้อย ที่ร้านเช่า เขาให้เข้าห้องน้ำได้นะคะ เข้าเลยๆ อย่าเก็บไว้ เพราะหาเข้ายากค่ะ จากนั้น ล่องเรือกลับไปฝั่ง สถานีรถไฟ
ข้ามฝั่งๆ
และนี่คือซอยที่เราเข้ามา
เดินไปปากซอยเรียกพี่วิน ไป ตลาดน้ำอโยธยา แหม มาขนาดนี้ละ ไม่ไปได้ไง รถไฟก็หมดละด้วยรอบเที่ยง มีอีกที่ สี่โมงแน่ะ เลยไปซะหน่อย ราคาประมาน 30 บาทถ้าจำไม่ผิดนะคะ หรือ 25 นี่แหละ ไม่ถึง 40 แน่นอนน
และแล้วก็ถึงงงง
ขนาดไปวันจันทร์ ของยังขายเยอะเลยค่ะ บางร้านก็ปิด แต่ไม่เป็นไร เดินได้ มีการแสดงด้วยนะคะ เสียงอึกทึกคึกโครม เราว่าของก็ไม่แพงมากนะ ยกเว้นอาหาร จะแพงกว่าของนอกนิดหน่อย
แอบถ่ายคุณลุง
ออกจากตลาดน้ำ เจอพี่วินพอดี บอกไป สถานีรถไฟ แหม พาลัดเลาะซะงง ซอยเยอะมากกกกก ทะลุออกหลัง สถานี พอถึงก็แกล้งถาม เท่าไรคะ เขา บอกน้อยกว่า ตอนมา 5 บาท อิ้อิ้ ดีนะหยั่งเชิงก่อน สบายไป จะกลับล้าววว ไปซื้อตั๋วก่อน 20 บาทเช่นเคย ลงสถานีเชียงราก
มาดูบรรยากาศสถานีกันดีกว่า เมื่อเช้าไม่ได้ถ่ายไว้
ข้ามดีๆ นะเด็กน้อยยย
เหมือนสถานีกำลังปรับปรุงค่ะ อุปกรณ์ก่อสร้างเต็มเลย คนก็เช่นกัน
ข้างในสถานี
ดูรีวิวละเขาถ่าย ถ่ายตาม แต่มันน่าตีจริงๆนะ 555555
ตั๋วกลับบบบบ
รถไฟมาแล้ววววววววว
บรั้ยบรัย อยุธยา อิ่มบุญ อิ่มใจ ร่างกายแข็งแรง ปวดตูดมากจาาาา ขากลับคนแน่นมาก ฝรั่งเต็มเลยยย อยากสปีคอิงลิชวิดเดม แต่ไม่กล้าพอ ไว้คราวหน้าจะชวนเม้าทะมอยเด้อยูววววว
ถึงเชียงราก ประมาณ 5 โมงมั้งคะ มีรถสองแถว รังสิต จารุศร กลับสบายๆ
จบแล้วววว ทริปของเรา เอาจริงๆนะถ้าจะไปกัน สองคนไรงี้ เช่ามอเตอร์ไซค์ ดีกว่า แพงหว่านิดหน่อยแต่เราว่าสะดวกสบายกว่าเยอะเพราะ วัดมันไม่ได้ใกล้กันอย่างที่เราเห็นในแผนที่เนาะ 55555 อินี่โชว์โง่ โช์โป๊ะ ปั่นจักรยานหลงไปอีกกก มอเตอร์ไซค์จะทำให้เราไปได้ไกลกว่านี้ค่ะ เชื่อเรา แต่ใครอยากปั่นก็ปั่นได้น้าาา ไม่ขัดข้องอะไร แต่นี่คือ ขับไม่แข็งเลยไม่โชว์เหนือ 555 รถไม่เยอะสบายๆ แล้วก็หมวกกับกันแดดช่วยได้เยอะจริงๆ กลับาก็ดำขึ้นแหละแต่ไม่มาก แล้วก็ระวังมิจฉาชีพด้วยนะคะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามแหละ เคยอ่านเจอว่ามีกระชงกระชากกระเป๋ากันน่ากลัว อินี่เลย สะพายติดหลังเป็นเต่าเลย ละสีแสดแรงสุดไรสุด 55 ดีเลยค่ะ ไม่ต้องติดไฟท้ายจักรยาน
รีวิวครั้งแรก ถ้าแท็กผิดก็ขอโทษด้วยนะค้า มีอะไรต้องแก้ไข บอกกันได้น้าาา เราแอบเป็นหลืบในนี้มานานละอยากลองแบ่งปันประสบการณ์กับทุกคนดูมั่ง สนุกดี ฮ่าๆ ไว้คราวหลังจะหาเรื่องตั้งทู้อีก กิกิ บรัยส์ข่าาา
***ลืมบอกนะคะ คือเราไม่มีกล้อง เราใช้ samsung galaxy note 3 LTE ถ่าย แล้วก็ลองฝึกปรับสีภาพครั้งแรกด้วยโปรแกรม lightroom คือฝึกจริงๆ แต่เคยเล่น VSCO ในมือถือ แล้วก็จำๆสีรูปของเพื่อนๆ ในพันทิป ในเฟสบุคเอา แต่ส่วนใหญ่ปรับตามที่ตัวเองพอใจ คือโทนจะออกฟ้าๆ เย็นๆ เพราะเราไม่อยากให้มันดูอากาศร้อน 5555555+ ลองฝึกดู ถ้ามีคำแนะนำก็บอกได้นะค้า ยินดีรับฟังงง***
ชอบกล้องซัมซุงที่ถ่ายกลางวัน คือชัดดี แต่กลางคืนนี้ นอนหล่องห้ายยย
ไปละค้าา สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 1371517