รอบนี้สงสัยอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างเลยย้ายมาฝึกกันในเมือง เรียกได้ว่ากลางเมืองหัวหินเลยก็ว่าได้ โดยที่สมาชิกบอกว่าต้องที่นี่เลย Shakti Yoga Hua Hin https://www.facebook.com/shaktiyogahuahin
เมื่อมีตั้งโจทย์มา ผู้นำพาอย่างผมก็เลยต้องแก้โจทย์นี้ให้ได้ เริ่มจากเรื่องที่พักเลย รอบนี้ไปกัน 6 คน ที่พักจึงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรที่จะต้องหาโรงแรมที่จะมีห้องว่าง 3 ห้อง 2 คืน... ความจริงโรงแรมหาไม่ยากครับเพราะเยอะมาก ไม่ต้องจองแล้วไปเดินหาเอายังได้เลย และจากการหาห้องพักนี่เองจึงได้รู้ว่าถ้าจะหาห้องพักที่หัวหิน ถ้าใจไม่กล้าพอ โรงแรงฝั่งชายหาดอย่าได้ชายตามอง เพราะเพียงแค่เดินข้ามฝั่งถนนมาอีกฝั่งหนึ่ง จะได้ราคาห้องพักที่เรียกได้ว่าถูกกว่า 30%-50% แต่สภาพห้องพักถือว่าเทียบเคียงกันได้เลยทีเดียว (สำหรับพวกเรา) สุดท้ายเลยมาจบที่ เดอะลาภา หัวหิน ครับ ได้ดิลมาจาก agoda ลดแล้ว อะไรแล้วเหลือ 1900 ต่อห้อง (รวมอาหารเช้า)
ถึงวันเดินทางล่ะ เริ่มต้นด้วยการขับรถยาวจากบ้านที่ศรีราชา ตรงดิ่งไปที่หัวหินเลย ออกเดินทางตั้งแต่ 11 โมง แวะพักที่ Portochino (ตามเคย) พักใหญ่ๆ แล้วเดินทางต่อถึงที่โรงแรมก็ 16.00 พอดีการเดินทางมาไม่ยากครับ ขับมาตามเพชรเกษมเรื่อยๆ ผ่านเมืองชะอำ เข้าหัวหิน มาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลกรุงเทพ (ทางขวา) แล้วผ่านโรงแรม Intercontinental (ทางซ้าย) แล้วเตรียมกลับรถ หลังจากกลับรถแล้วชิดซ้ายมองหาป้ายซอยหัวหิน 100/1 ไว้เลยครับ ถึงแน่นอน
ถึงละเดอะลาภา หัวหิน หน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมสรุปรวมๆ เลยละกันว่า เป็นโรงแรมสมัยใหม่ ได้รับรางวัลจากเว็บท่องเที่ยวหลายเว็บด้วยกัน มีตึกอยู่ 2 ตึก ผมแยกเป็นตึกราคาแพงกับราคาถูกละกัน เพราะตึกราคาแพงจะเป็น pool access โดดลงสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนตึกถูกเดินต่อไปอีกนิดหน่อยแต่จะลงสระน้ำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมั้ง และคงไม่ต้องสงสัยว่าเราจะอยู่ตึกไหนกัน... แอบเสียดายนิดหน่อยเรื่องที่จอดรถ เพราะมีน้อยเกินไป แถมด้านข้างยังมีโครงการใหญ่ๆ มาก่อสร้าง ผมถามพนักงาน เขาบอกว่าเซ็นทรัลกำลังจะมาเปิด (แต่ตอนผมออกจากโรงแรมไป แอบเห็นป้ายเดอะมอลล์เบ้อเร่อ..เอิ่ม!!) จัดรูปให้เต็มๆ เลยล่ะกันครับ แบบไม่ต้องมีคำบรรยาย
ป่ะเข้ามาดูในห้องกันบ้าง
อันนี้แถมให้ ดูกันใกล้เลยมาเดอะมอลล์กำลังจะมาอยู่ข้างๆ จริงๆ
เก็บข้าวของล้างหน้า ล้างตาแล้ว แก้งค์พลังสาวจะไปเข้าคลาสโยคะล่ะ พลขับอย่างผมเลยต้องไปส่ง ซึ่งความจริงอยู่ไม่ไกล แต่ถ้าจะให้เดินไปก็คงหมดแรงไม่ต้องโยคะกันพอดี..
Shakti Yoga Hua Hin เป็นสตูดิโอสอนโยคะ ตั้งอยู่ในโรงแรม G หัวหินครับ หาง่ายมากครับอยู่ใกล้ๆ กับ Market Villeges เลยครับ ที่นี่มีคลาสโยคะเยอะมากครับ มีโยคะหลายแบบให้เลือกเรียนทั้งบุ๋น ทั้งบู้ หกคะเมน ตีลังกามีหมด และเช่นเคยในระหว่างที่เขาเรียนโยคะกันผมก็เลยเก็บภาพมาฝากพอเป็นพิธี
ระหว่างนั้นผมกลับมาที่โรงแรมว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วกลับมาที่สตูฯโยคะแล้วก็นั่งๆ นอนๆ กว่าคลาสจะเลิกก็ปาไป 2 ทุ่มกว่า เอาล่ะรู้ล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น...กินสิครับ ต้องรีบพาแก้งค์พลังสาวไปหาของกินโดยด่วน หลังจากพูดคุยตกลงกันอยู่นาน ก็เลยสรุปว่าเราไปกินที่ Cicada กันดีกว่าเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์คนอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเป็นส-อา นี้อย่าได้เข้าไปใกล้เลย คนเยอะจริงๆ และพอไปถึงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ โต๊ะนั่งก็มีว่างบ้างประปราย คราวนี้ก็เลือกหาของกิน ของใครของมันเลยครับ แล้วค่อยกลับห้องนอนเอาแรง (แต่ค่าจอดรถแพงไปนิดน่ะ ตั้ง 50 บาท กะว่าจะจอดทั้งคืนแล้วเดินกลับโรงแรมฯซะเลย จะได้คุ้มๆหน่อย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตื่นเช้ามาตะลุยกินอาหารเช้ากันต่อครับ โดยรวมแล้วก็ถึงว่าสมเหตุ สมผลครับ ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป มีอะไรกินบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. : Tony Kittipong
เมื่อมีตั้งโจทย์มา ผู้นำพาอย่างผมก็เลยต้องแก้โจทย์นี้ให้ได้ เริ่มจากเรื่องที่พักเลย รอบนี้ไปกัน 6 คน ที่พักจึงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรที่จะต้องหาโรงแรมที่จะมีห้องว่าง 3 ห้อง 2 คืน... ความจริงโรงแรมหาไม่ยากครับเพราะเยอะมาก ไม่ต้องจองแล้วไปเดินหาเอายังได้เลย และจากการหาห้องพักนี่เองจึงได้รู้ว่าถ้าจะหาห้องพักที่หัวหิน ถ้าใจไม่กล้าพอ โรงแรงฝั่งชายหาดอย่าได้ชายตามอง เพราะเพียงแค่เดินข้ามฝั่งถนนมาอีกฝั่งหนึ่ง จะได้ราคาห้องพักที่เรียกได้ว่าถูกกว่า 30%-50% แต่สภาพห้องพักถือว่าเทียบเคียงกันได้เลยทีเดียว (สำหรับพวกเรา) สุดท้ายเลยมาจบที่ เดอะลาภา หัวหิน ครับ ได้ดิลมาจาก agoda ลดแล้ว อะไรแล้วเหลือ 1900 ต่อห้อง (รวมอาหารเช้า)
ถึงวันเดินทางล่ะ เริ่มต้นด้วยการขับรถยาวจากบ้านที่ศรีราชา ตรงดิ่งไปที่หัวหินเลย ออกเดินทางตั้งแต่ 11 โมง แวะพักที่ Portochino (ตามเคย) พักใหญ่ๆ แล้วเดินทางต่อถึงที่โรงแรมก็ 16.00 พอดีการเดินทางมาไม่ยากครับ ขับมาตามเพชรเกษมเรื่อยๆ ผ่านเมืองชะอำ เข้าหัวหิน มาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลกรุงเทพ (ทางขวา) แล้วผ่านโรงแรม Intercontinental (ทางซ้าย) แล้วเตรียมกลับรถ หลังจากกลับรถแล้วชิดซ้ายมองหาป้ายซอยหัวหิน 100/1 ไว้เลยครับ ถึงแน่นอน
ถึงละเดอะลาภา หัวหิน หน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมสรุปรวมๆ เลยละกันว่า เป็นโรงแรมสมัยใหม่ ได้รับรางวัลจากเว็บท่องเที่ยวหลายเว็บด้วยกัน มีตึกอยู่ 2 ตึก ผมแยกเป็นตึกราคาแพงกับราคาถูกละกัน เพราะตึกราคาแพงจะเป็น pool access โดดลงสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนตึกถูกเดินต่อไปอีกนิดหน่อยแต่จะลงสระน้ำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมั้ง และคงไม่ต้องสงสัยว่าเราจะอยู่ตึกไหนกัน... แอบเสียดายนิดหน่อยเรื่องที่จอดรถ เพราะมีน้อยเกินไป แถมด้านข้างยังมีโครงการใหญ่ๆ มาก่อสร้าง ผมถามพนักงาน เขาบอกว่าเซ็นทรัลกำลังจะมาเปิด (แต่ตอนผมออกจากโรงแรมไป แอบเห็นป้ายเดอะมอลล์เบ้อเร่อ..เอิ่ม!!) จัดรูปให้เต็มๆ เลยล่ะกันครับ แบบไม่ต้องมีคำบรรยาย
ป่ะเข้ามาดูในห้องกันบ้าง
อันนี้แถมให้ ดูกันใกล้เลยมาเดอะมอลล์กำลังจะมาอยู่ข้างๆ จริงๆ
เก็บข้าวของล้างหน้า ล้างตาแล้ว แก้งค์พลังสาวจะไปเข้าคลาสโยคะล่ะ พลขับอย่างผมเลยต้องไปส่ง ซึ่งความจริงอยู่ไม่ไกล แต่ถ้าจะให้เดินไปก็คงหมดแรงไม่ต้องโยคะกันพอดี..
Shakti Yoga Hua Hin เป็นสตูดิโอสอนโยคะ ตั้งอยู่ในโรงแรม G หัวหินครับ หาง่ายมากครับอยู่ใกล้ๆ กับ Market Villeges เลยครับ ที่นี่มีคลาสโยคะเยอะมากครับ มีโยคะหลายแบบให้เลือกเรียนทั้งบุ๋น ทั้งบู้ หกคะเมน ตีลังกามีหมด และเช่นเคยในระหว่างที่เขาเรียนโยคะกันผมก็เลยเก็บภาพมาฝากพอเป็นพิธี
ระหว่างนั้นผมกลับมาที่โรงแรมว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วกลับมาที่สตูฯโยคะแล้วก็นั่งๆ นอนๆ กว่าคลาสจะเลิกก็ปาไป 2 ทุ่มกว่า เอาล่ะรู้ล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น...กินสิครับ ต้องรีบพาแก้งค์พลังสาวไปหาของกินโดยด่วน หลังจากพูดคุยตกลงกันอยู่นาน ก็เลยสรุปว่าเราไปกินที่ Cicada กันดีกว่าเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์คนอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเป็นส-อา นี้อย่าได้เข้าไปใกล้เลย คนเยอะจริงๆ และพอไปถึงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ โต๊ะนั่งก็มีว่างบ้างประปราย คราวนี้ก็เลือกหาของกิน ของใครของมันเลยครับ แล้วค่อยกลับห้องนอนเอาแรง (แต่ค่าจอดรถแพงไปนิดน่ะ ตั้ง 50 บาท กะว่าจะจอดทั้งคืนแล้วเดินกลับโรงแรมฯซะเลย จะได้คุ้มๆหน่อย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตื่นเช้ามาตะลุยกินอาหารเช้ากันต่อครับ โดยรวมแล้วก็ถึงว่าสมเหตุ สมผลครับ ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป มีอะไรกินบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr. : Tony Kittipong