หวัดดีค่ะ ใกล้ถึงวันหยุดยาวอีกแล้ว ใครยังนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี อยากไปทะเล แต่ลองวีคเอนอย่างนี้กลัวคนเยอะ ลองดูเมืองประจวบฯมั้ยค่ะ เลยหัวหินมาสักพักเอ๊งงงงงง
เมื่อวันหยุดยาวต้นเดือน เราตื่นมาพร้อมคำถามว่าจะไปไหนเที่ยวดี คิดไปคิดมาไปอ่าวมะนาวก็แล้วกัน ยังไม่เคยไปด้วย เราเก็บเสื้อผ้าพร้อมออกเดินทางทันที (ไม่มีการแพลนล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น ฮ่าๆ)
วันนั้นเป็นวันที่รถติดมากค่ะ เราวางแผนท่องเที่ยวบนรถเลย เราออกจากกรุงเทพ 10โมง กว่าจะถึงเมืองประจวบก็ 16.30น. แล้วค่ะ นานมากจริงๆ
ถึงแล้วค่ะ เมืองประจวบฯ
ขับตรงเข้าไปในเมืองถึงถนนเลียบชายทะเลก็เจอวิวแบบนี้เลยค่ะ เมืองติดทะเลจริงๆค่ะ มีชายหาดอยู่ในเมืองแบบนี้เหมือนพัทยาเลยแต่ไม่มีคนเล่นน้ำเลยนะ แปลกใจก็เลยไปถามแม่ค้าแถวนั้นเค้าบอกว่า ส่วนใหญ่คนจะไปเล่นน้ำที่อ่าวมะนาวกัน น้ำตรงนี้ไม่ค่อยสะอาดเพราะมีเรือประมงเยอะ (แต่เราว่าน้ำใส แล้วหาดก็สะอาดมากๆอ่ะ)
เราขับรถสำรวจรอบๆเมืองไม่นานก็ทั่วแล้วค่ะ เมืองประจวบเป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีตึกสูงมากนัก ถนนบางเส้นมีแต่บ้านไม้สองชั้น ดูคลาสสิคดีค่ะ
ดูเหมือนคนไม่ค่อยเยอะ แต่ที่พักเต็มหมดเลยค่ะ โชคดีระหว่างทางจองได้ที่นี่ค่ะ ห้องสุดท้ายไม่น่าเชื่อเลย (ไม่รู้จริงเป่า) เราพักที่นี่ค่ะ เรือนชบารีสอร์ทค่ะ เป็นโรงแรมขนาดเล็ก สองชั้น สะอาดดีค่ะ คืนล่ะ 600กว่าบาท มีอาหารเช้าด้วยค่ะ
ตอนค่ำๆออกมาเดินเล่น หาของของกินที่ถนนคนเดินริมทะเลค่ะ ของกินของขายที่นี่เยอะมากค่ะ เดินชิลๆ ลมเย็นๆ ถนนคนเดินที่นี่มีเฉพาะวันศุกร์-เสาร์นะค่ะ เปิดตั้งแต่บ่าย2
วันที่2 ตื่นเช้ามา 7โมง ทานอาหารเช้า เช็คเอ้าท์แล้วออกเดินทางเลยค่ะ ภารกิจวันนี้ไปขึ้นเขาล้อมหมวกกันค่ะ ออกจากที่พักใช้เวลาประมาณ 10นาที
เขาล้อมหมวกเป็นเขาหินขนาดเล็ก อยู่ในเขตการดูแลของกองบิน 5 เปิดให้คนขึ้นได้ตั้งแต่ 6โมงเช้าถึง 4โมงเย็นค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะค่ะ
มาถึงแล้วอย่าลืมไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก่อนนะค่ะ เพื่อการขึ้นเขาครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
ศาลเจ้าพ่อตั้งอยู่ด้างล่างทางขึ้นค่ะ ใกล้ๆกันจะมีเหล่าค่างแว่นถิ่นใต้ออกมาหาของกิน และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ค่างแว่นไม่ดุร้าย น่าตาน่ารักด้วยค่ะ จะมีอาหารค่างแว่นขายด้วยนะ เป็นถั่วต้มถุงล่ะ 10บาทค่ะ
พร้อมแล้วขึ้นเขากันเล้ย
ช่วงแรกของการเดินจะมีบันไดและราวจับให้ค่ะ พอเดินไปสักพักก็จะมีแต่บันไดไม่มีราว ขึ้นมานิดนึงก็เหนื่อยแล้วค่ะ ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวเป็นระยะๆ พกน้ำขวดเล็กๆไปด้วยนะค่ะ ได้ดื่มแน่นอน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงจะไม่มีบันไดให้เดินแล้วนะค่ะ ตลอดทางจะมีเชือกให้เราไต่ปีนไปเรื่อยๆค่ะ บางจุดชันมากต้องระวังให้ดี (บอกเลยว่าไต่เชือกนี่ไม่เหนื่อยเท่าเดินขึ้นบันไดนะ แต่จะเจ็บมือแทนแนะนำให้เตรียมถุงมือไปด้วยค่ะ)
ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวขึ้นลงสวนกันตลอดทางค่ะ มีถ้ำด้วยนะค่ะ แต่ไม่กล้าเข้าไป กลัว อิอิ
จุดที่ยากสุดสำหรับเราคือการปีนขึ้นหลังจากตรงนี้เพราะทางชันมากและมีแต่หิน ไม่มีต้นไม้ให้เกาะ แต่มองดูใกล้จะถึงแล้วค่ะ อีกนิสเดียว ฮึบๆ
ถึงแล้วค่ะ ตัวนี่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเลย มองดูนาฬิกา10โมงเป๊ะ เราใช้เวลาขึ้นทั้งหมด 1ชั้วโมง 15นาทีค่ะ
บนยอดเขามีรอยพระพุทธบาทให้สักการะกันด้วยค่ะ ไหว้พระแพร๊บ
ประจวบฯได้ชื่อว่าเป็นเมือง3อ่าวนะค่ะ คืออ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาวค่ะ
ด้านซ้ายคืออ่าวมะนาว ขวาคืออ่าวประจวบนะค่ะ
เห็นวิวสวยๆแบบนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ (ของจริงสวยกว่าในรูปมากค่ะ)
บนนี้ไม่มีที่พื้นราบให้เดินนะค่ะ มีแต่หินแหลมๆค่ะ เวลาเดินต้องระวังให้ดี
เราอยู่ถ่ายรูปจนถึง 11โมง ก็กลับลงมาแล้วค่ะ ขาลงใช้เวลาชั่วโมงนึงพอดี เร็วกว่าขาขึ้นนิดนึง รู้สึกคุ้มค่าที่ขึ้นไปมากๆเลย
ลงมาแล้วเราเข้าไปเช็คอินที่ sun beach guesthouse ก่อนค่ะ เมื่อวานตอนขับรถสำรวจเห็นมีห้องว่างวันนี้เลยจองไว้เลย เป็นโรงแรมขนาดเล็ก 10ห้อง มี2ชั้นค่ะ ดูใหม่ สะอาด มีสระว่ายน้ำ วิวด้านหน้าจะเป็นทะเลอ่าวประจวบค่ะ ถ้าพักชั้นล่างจะไม่เห็นวิวนะค่ะ ราคาคืนล่ะ 1,100บาท (ช่วงวันหยุด) ไม่มีอาหารเช้าค่ะ
จากนั้นไปด่านสิงขรต่อค่ะ ขับรถออกสู่ถนนเพชรเกษมระหว่างทางเจอร้านก๋วยเตี๋ยวหน่อไม้ฝรั่งน้ำผึ้งค่ะ เห็นคนเยอะและแปลกดีเลยลองแวะดู อร่อยมากค่ะ หมูตุ๋น ไก่ตุ๋นนุ่มมาก เค้าตุ๋นกับน้ำผึ้งนะ หน่อไม้ฝรั่งก็กรอบๆ อร่อยจริงค่ะ
ถึงด่านสิงขรแล้ว เค้ากำลังขยายถนนกัน ไม่ค่อยมีอะไรขายนะ ส่วนใหญ่จะเป็นพลอย หยกพม่า หินนำโชค กล้วยไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ค่ะ ร้านค้าเปิดไม่กี่ร้านเองค่ะ หรืออยู่ในช่วงปรับปรุงรึเปล่าไม่รู้นะ
จากนั้นเรากลับไปอ่าวมะนาวค่ะ อ่าวมะนาวอยู่ในเขตกองบินเหมือนเดิมค่ะ ที่นี่คนค่อนข้างเยอะ อาจเพราะเป็นวันหยุดด้วย นั้งชิลๆริมทะเล ดูคนเล่นน้ำไป เพลินๆค่ะ
ตอนเย็นไปทานอาหารใกล้ๆที่พักค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่คนเยอะมาก มีทัวร์มาลงด้วย รอนานพอสมควร ปู กุ้ง หอยแมลงภู่เผาของโปรดก็หมดค่ะ แต่อาหารเค้าอร่อยดีนะค่ะ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ อย่างข้าวผัดปูจานใหญ่ 120฿ แต่จานใหญ่มากจริงๆค่ะ กินสองคนไม่หมด
อิ่มแล้วขับรถเล่นสักพักก็ไปนวดผ่อนคลายต่อค่ะ
ตื่นเช้ามาวันนี้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นนะค่ะ จากวิวห้องพักเลย
เช็คเอ้าท์เสร็จไปไหว้พระที่วัดคลองวาฬต่อค่ะ ไปไหว้พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ เพื่อโชคลาภและความร่ำรวยค่ะ อิอิ
จากนั้นไปไหว้ศาลหลักเมืองประจวบฯค่ะ ตอนแรกกะว่าจะขึ้นไปวัดเขาช่องกระจกต่อนะค่ะ แต่มองเห็นบันไดบวกกับแดดร้อนๆกับขาที่ล้าจากเมื่อวานแล้ว เลยผ่านค่ะ โอกาสหน้าจะมาให้ได้ค่ะ
ขากลับเข้ากรุงเทพ รถไม่ติดแล้วค่ะ อาจเพราะเป็นวันหยุดยาว 5วันด้วยบางคนยังไม่กลับ หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่ไม่วุ่นวายนัก ขับเลย ชะอำ หัวหิน ลงมาสักหน่อยยยยยยย เมืองประจวบฯเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่แพ้ใครเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip
Cr.: สมาชิกหมายเลข 1672807
เมื่อวันหยุดยาวต้นเดือน เราตื่นมาพร้อมคำถามว่าจะไปไหนเที่ยวดี คิดไปคิดมาไปอ่าวมะนาวก็แล้วกัน ยังไม่เคยไปด้วย เราเก็บเสื้อผ้าพร้อมออกเดินทางทันที (ไม่มีการแพลนล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น ฮ่าๆ)
วันนั้นเป็นวันที่รถติดมากค่ะ เราวางแผนท่องเที่ยวบนรถเลย เราออกจากกรุงเทพ 10โมง กว่าจะถึงเมืองประจวบก็ 16.30น. แล้วค่ะ นานมากจริงๆ
ถึงแล้วค่ะ เมืองประจวบฯ
ขับตรงเข้าไปในเมืองถึงถนนเลียบชายทะเลก็เจอวิวแบบนี้เลยค่ะ เมืองติดทะเลจริงๆค่ะ มีชายหาดอยู่ในเมืองแบบนี้เหมือนพัทยาเลยแต่ไม่มีคนเล่นน้ำเลยนะ แปลกใจก็เลยไปถามแม่ค้าแถวนั้นเค้าบอกว่า ส่วนใหญ่คนจะไปเล่นน้ำที่อ่าวมะนาวกัน น้ำตรงนี้ไม่ค่อยสะอาดเพราะมีเรือประมงเยอะ (แต่เราว่าน้ำใส แล้วหาดก็สะอาดมากๆอ่ะ)
เราขับรถสำรวจรอบๆเมืองไม่นานก็ทั่วแล้วค่ะ เมืองประจวบเป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีตึกสูงมากนัก ถนนบางเส้นมีแต่บ้านไม้สองชั้น ดูคลาสสิคดีค่ะ
ดูเหมือนคนไม่ค่อยเยอะ แต่ที่พักเต็มหมดเลยค่ะ โชคดีระหว่างทางจองได้ที่นี่ค่ะ ห้องสุดท้ายไม่น่าเชื่อเลย (ไม่รู้จริงเป่า) เราพักที่นี่ค่ะ เรือนชบารีสอร์ทค่ะ เป็นโรงแรมขนาดเล็ก สองชั้น สะอาดดีค่ะ คืนล่ะ 600กว่าบาท มีอาหารเช้าด้วยค่ะ
ตอนค่ำๆออกมาเดินเล่น หาของของกินที่ถนนคนเดินริมทะเลค่ะ ของกินของขายที่นี่เยอะมากค่ะ เดินชิลๆ ลมเย็นๆ ถนนคนเดินที่นี่มีเฉพาะวันศุกร์-เสาร์นะค่ะ เปิดตั้งแต่บ่าย2
วันที่2 ตื่นเช้ามา 7โมง ทานอาหารเช้า เช็คเอ้าท์แล้วออกเดินทางเลยค่ะ ภารกิจวันนี้ไปขึ้นเขาล้อมหมวกกันค่ะ ออกจากที่พักใช้เวลาประมาณ 10นาที
เขาล้อมหมวกเป็นเขาหินขนาดเล็ก อยู่ในเขตการดูแลของกองบิน 5 เปิดให้คนขึ้นได้ตั้งแต่ 6โมงเช้าถึง 4โมงเย็นค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายนะค่ะ
มาถึงแล้วอย่าลืมไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก่อนนะค่ะ เพื่อการขึ้นเขาครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
ศาลเจ้าพ่อตั้งอยู่ด้างล่างทางขึ้นค่ะ ใกล้ๆกันจะมีเหล่าค่างแว่นถิ่นใต้ออกมาหาของกิน และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ค่างแว่นไม่ดุร้าย น่าตาน่ารักด้วยค่ะ จะมีอาหารค่างแว่นขายด้วยนะ เป็นถั่วต้มถุงล่ะ 10บาทค่ะ
พร้อมแล้วขึ้นเขากันเล้ย
ช่วงแรกของการเดินจะมีบันไดและราวจับให้ค่ะ พอเดินไปสักพักก็จะมีแต่บันไดไม่มีราว ขึ้นมานิดนึงก็เหนื่อยแล้วค่ะ ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวเป็นระยะๆ พกน้ำขวดเล็กๆไปด้วยนะค่ะ ได้ดื่มแน่นอน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงจะไม่มีบันไดให้เดินแล้วนะค่ะ ตลอดทางจะมีเชือกให้เราไต่ปีนไปเรื่อยๆค่ะ บางจุดชันมากต้องระวังให้ดี (บอกเลยว่าไต่เชือกนี่ไม่เหนื่อยเท่าเดินขึ้นบันไดนะ แต่จะเจ็บมือแทนแนะนำให้เตรียมถุงมือไปด้วยค่ะ)
ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวขึ้นลงสวนกันตลอดทางค่ะ มีถ้ำด้วยนะค่ะ แต่ไม่กล้าเข้าไป กลัว อิอิ
จุดที่ยากสุดสำหรับเราคือการปีนขึ้นหลังจากตรงนี้เพราะทางชันมากและมีแต่หิน ไม่มีต้นไม้ให้เกาะ แต่มองดูใกล้จะถึงแล้วค่ะ อีกนิสเดียว ฮึบๆ
ถึงแล้วค่ะ ตัวนี่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเลย มองดูนาฬิกา10โมงเป๊ะ เราใช้เวลาขึ้นทั้งหมด 1ชั้วโมง 15นาทีค่ะ
บนยอดเขามีรอยพระพุทธบาทให้สักการะกันด้วยค่ะ ไหว้พระแพร๊บ
ประจวบฯได้ชื่อว่าเป็นเมือง3อ่าวนะค่ะ คืออ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาวค่ะ
ด้านซ้ายคืออ่าวมะนาว ขวาคืออ่าวประจวบนะค่ะ
เห็นวิวสวยๆแบบนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ (ของจริงสวยกว่าในรูปมากค่ะ)
บนนี้ไม่มีที่พื้นราบให้เดินนะค่ะ มีแต่หินแหลมๆค่ะ เวลาเดินต้องระวังให้ดี
เราอยู่ถ่ายรูปจนถึง 11โมง ก็กลับลงมาแล้วค่ะ ขาลงใช้เวลาชั่วโมงนึงพอดี เร็วกว่าขาขึ้นนิดนึง รู้สึกคุ้มค่าที่ขึ้นไปมากๆเลย
ลงมาแล้วเราเข้าไปเช็คอินที่ sun beach guesthouse ก่อนค่ะ เมื่อวานตอนขับรถสำรวจเห็นมีห้องว่างวันนี้เลยจองไว้เลย เป็นโรงแรมขนาดเล็ก 10ห้อง มี2ชั้นค่ะ ดูใหม่ สะอาด มีสระว่ายน้ำ วิวด้านหน้าจะเป็นทะเลอ่าวประจวบค่ะ ถ้าพักชั้นล่างจะไม่เห็นวิวนะค่ะ ราคาคืนล่ะ 1,100บาท (ช่วงวันหยุด) ไม่มีอาหารเช้าค่ะ
จากนั้นไปด่านสิงขรต่อค่ะ ขับรถออกสู่ถนนเพชรเกษมระหว่างทางเจอร้านก๋วยเตี๋ยวหน่อไม้ฝรั่งน้ำผึ้งค่ะ เห็นคนเยอะและแปลกดีเลยลองแวะดู อร่อยมากค่ะ หมูตุ๋น ไก่ตุ๋นนุ่มมาก เค้าตุ๋นกับน้ำผึ้งนะ หน่อไม้ฝรั่งก็กรอบๆ อร่อยจริงค่ะ
ถึงด่านสิงขรแล้ว เค้ากำลังขยายถนนกัน ไม่ค่อยมีอะไรขายนะ ส่วนใหญ่จะเป็นพลอย หยกพม่า หินนำโชค กล้วยไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ค่ะ ร้านค้าเปิดไม่กี่ร้านเองค่ะ หรืออยู่ในช่วงปรับปรุงรึเปล่าไม่รู้นะ
จากนั้นเรากลับไปอ่าวมะนาวค่ะ อ่าวมะนาวอยู่ในเขตกองบินเหมือนเดิมค่ะ ที่นี่คนค่อนข้างเยอะ อาจเพราะเป็นวันหยุดด้วย นั้งชิลๆริมทะเล ดูคนเล่นน้ำไป เพลินๆค่ะ
ตอนเย็นไปทานอาหารใกล้ๆที่พักค่ะ จำชื่อร้านไม่ได้ แต่คนเยอะมาก มีทัวร์มาลงด้วย รอนานพอสมควร ปู กุ้ง หอยแมลงภู่เผาของโปรดก็หมดค่ะ แต่อาหารเค้าอร่อยดีนะค่ะ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ อย่างข้าวผัดปูจานใหญ่ 120฿ แต่จานใหญ่มากจริงๆค่ะ กินสองคนไม่หมด
อิ่มแล้วขับรถเล่นสักพักก็ไปนวดผ่อนคลายต่อค่ะ
ตื่นเช้ามาวันนี้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นนะค่ะ จากวิวห้องพักเลย
เช็คเอ้าท์เสร็จไปไหว้พระที่วัดคลองวาฬต่อค่ะ ไปไหว้พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ เพื่อโชคลาภและความร่ำรวยค่ะ อิอิ
จากนั้นไปไหว้ศาลหลักเมืองประจวบฯค่ะ ตอนแรกกะว่าจะขึ้นไปวัดเขาช่องกระจกต่อนะค่ะ แต่มองเห็นบันไดบวกกับแดดร้อนๆกับขาที่ล้าจากเมื่อวานแล้ว เลยผ่านค่ะ โอกาสหน้าจะมาให้ได้ค่ะ
ขากลับเข้ากรุงเทพ รถไม่ติดแล้วค่ะ อาจเพราะเป็นวันหยุดยาว 5วันด้วยบางคนยังไม่กลับ หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่ไม่วุ่นวายนัก ขับเลย ชะอำ หัวหิน ลงมาสักหน่อยยยยยยย เมืองประจวบฯเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่แพ้ใครเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip
Cr.: สมาชิกหมายเลข 1672807