โอ๊สสสสส ... ถ้าสับสนในความรู้สึก บางที " หนีเที่ยวดีกว่า "
...ถึงจะพูดว่าไปเที่ยวแต่ที่จริงแล้วนี่คือการเดินทางเพื่อ " สำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวบนเกาะช้าง "
ผมจึงมีโอกาสได้เก็บรูปภาพในจุดต่าง ๆ มาฝากให้ได้รับชมกัน จร้า า
..เริ่มเรื่องราวกันเลยดีกว่า ทีแรกที่โดนมอบหมายให้ไปทำภาระกิจ ครั้งนี้ในใจผม sad. มาก ต้องห่างกับใครบางคนไปแสนไกล...
ฮ่า ๆ พอแล้วไม่เสี่ยวดีกว่า การเดินทางที่ตื่นเต้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วว
5 ... 4 ... 3 ...2 ....1 go!
...หน้าตาคุณ รถ BUS VIP คันใหญ่ สีขาวที่พาผมไปจนถึง ท่าข้ามเรือ อ่าวธรรมชาติ
ก่อนที่ผมจะลงเรือเฟอร์รี่ เพื่อข้ามฟากในลำดับต่อไป ...
...ล ง เ รื อ ดี ฟ่ า
นี่มันท้ามองโลก ดาหน้าสู่อันตราย (Feeling นี่มาเต็มมาก) ฮ่า ๆ
เหลียวหลังไป ก็เห็นแผ่นดินฝั่ง จ.ตราด ที่เราจากมา
แอบเห็น!! คนนั่งด้วยกันเป็นคู่....เอื้อกก ยิ่งพาให้ ..หัวใจที่ซวนเซ...รวนเร ไปใหญ่ ไม่ไหวแล้วหนีไปหลังเรือดีกว่า T_T
โถ่ ๆๆๆ ใครจะหนีความเหงา อย่ามาท้ายเรือนะ ยิ่งมองเห็นแผ่นดินเล็กลงเรื่อย ๆ ยิ่งคูณ ความเหงาเข้าไป สองเท่า T_T
หนีความเหงาท้ายลำเรือ กลับไปนั่งหน้าเรือดีกว่า า =..=
จึ๊ก.......โธ่..พระเจ้าเหลือที่ไว้ให้คน lonely. อย่างผมมีที่หน่อย เซ่.........
30 นาที ต่อมา..............
เย้.....เห็นเกาะช้างแล้วว เห็นนานแล้วล่ะ -..- แต่นี้ ..แบบ ถึงแล้วอะไรทำนองนั้น
"เกาะช้าง" ตามธรรมชาติ
"เกาะช้าง" ในวันที่ผม มีแต่ ความเหงา และ ความคิดถึง...
ฮึบ ๆ ๆ ... ก้าวขาแรกลงจากเรือ ก็จะมีรถสองแถวคอยรับส่งผู้คนที่ลงเรืออยุ่ ด้านหน้าเลย
..ขึ้นเกาะมาได้ก็ต้องหาที่มั่นตั้งหลักสำหรับค่ำคืนนี้กันก่อน
ผมได้มีโอกาส..มาพักกายที่ "คชา รีสอร์ท แอนด์ สปา"
สำหรับ "คชา รีสอร์ท แอนด์ สปา" ตั้งอยู่ฝั่ง หาดทรายขาว อยู่ในแหล่งที่ถือว่าเดินทางสะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ที่สำคัญทั้งบริการและห้องพักถูกใจมาก ๆ เลย
ห้องใหญ่ไปอีกแล้วสำหรับคนที่เดียวดายบนเกาะนี้ ... แต่ว่าสบายมากเลอ รับประกัน!!
วันแรกที่ไปถึงหลังจากปฏิบัติภาระกิจต่าง ๆ เสร็จสิ้น ช่วงค่ำมีโอกาสได้เก็บภาพ "คนควงไฟ" สวยงาม มาก ๆ
เฮ้ออ...คนมันยังมีไฟควงแล้วทำไม ทำไม ทำไม ...เราไม่ได้ควงใครมาเนี่ยย -..-
หลังจากที่เมื่อวานใช้เวลากับการเดินทางซะเป็นส่วนใหญ่...
วันที่ 2 โปรแกรม แน่นเอียดจร้าา...
แต่ถึงแม้ว่าในวันนี้ต้องทำออะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ยังไม่วายคะนึงหาใครบางคนตลอดเวลา (เพ้อ ๆ อีกล่ะ ฮ่า ๆ)
เช้าตรู่....... ฟิต ๆ ต้องลุกไปเก็บพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ หัวใจลุกโชติช่วง ไปด้วยพลังงานในความกระตือรือร้น...
พระอาทิตย์!!!!
ไม่มี....ไม่มี พระอาทิย์....หาดหันหน้า ไปทางตะวันตก... กรรม!
แถมท้องฟ้าไม่เป็นใจให้เห็นสีครามอันสดใส.........
ราวกับว่า...ความหว้าวุ่นในหัวอกมันเข้าปกคลุม ดินแดนของเกาะช้างไปซ่ะแล้ววว.....
ชายหาดช่วงเช้าผู้คนยังคงบางตา
คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งแบบอ่อนโยน สายลมอันแผ่วเบา เม็ดทรายที่แทนคำว่า คิดถึง...และ ๆๆๆๆ เอ๊ะ! ทำไมต้องเศร้า เนี่ย -..-
หลังจากที่ทานอาหารเช้าที่โรงแรม แบบจัดเต็มไม่เกรงใจใคร (มั่วแต่กินไม่ได้ถ่ายรูปเลอ)
ก็เดินทางไปยังจุดหมายแรกของ วันนี้...
ปางช้าง ไก่แบ้ มีชัย 1 ใน 6 ปางช้าง บนเกาะแห่งนี้...
เอ๋....ต้องขี่ช้างด้วยหรอ เอา ๆ ตาม ๆ เขาไป ขี่ช้าง บนเกาะช้าง...คือ แบบ ขี่ช้างครั้งแรก แล้วแบบ ขี่บนเกาะช้าง งงไหม ล๊า
ฟ้าฝนทะมึนมาเชียว
"เกาะช้าง" เกาะไว้ให้แน่น ๆ ไม่งั้นร่วงลงมาเจ็บแน่ ๆ
พี่แกเล่นไม่เดินตามทางปีนป่ายภูเขาซ่ะ...ยังก่ะว่าตัวพี่แกเป็น ลิง...
จุดที่สูงที่สุดและมองลงมา สดชื่นจริง...( เอ๊ะ ๆ เด่ว ๆ ไม้เศร้าคะนึงหาใครแล้วรึไงเนี่ยตัวเรา ฮ่า ๆ )
...ถึงยังไง ก็ขอขอบ คุณพี่ช้าง ที่ให้ผมขี่หลังและพาเที่ยว เป็น เวลา กว่า 30 นาที ซื้อกล้วยให้ แพล๊บ !
หลังจากที่ นั่งระทึกบนหลังช้าง ... ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนได้ที่ ก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่อไป กันเล๊ย ย..
...ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ วาป มาอยู่กลางทะเลซ่ะงั้น
" ขึงเชือกกลางใบเรือเสียงแว่ว ๆ เข้ามาในหูนะ "
รู้สึกดีมากเลย การที่แล่นเรือใบออกสู่ทะเล พอใบเรือโดนลมทะเล ก็แล่นฉิวว หนีห่างออกจากเกาะมาเรื่อย ๆ
ครู่ต่อมา...ลมหมดซ่ะงั้น ลอยละล่องอยู่กลางทะเล แบบ ชิวมาก ผ่อนคลายสุด ๆ ไม่วายลมฟาดเข้าหน้า เหมือนเตือนให้รู้ว่า
คงต้องกลับเข้าสู่ฝั่งแล้วว.....
หลังจากที่แล่นเรือใบกลับเข้าสู่ชายฝั่ง...
ผมก็ รอเวลา เพื่อออกเรือชาวประมงในช่วงค่ำด้วยว่าจะร่วมไปจับปลาหมึกหรือการ "ไดหมึก" นั่นเอง
ด้วยว่าการไดหมึก...เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนในการทำกิจกรรมในครั้งนี้...
ไม่ว่าจะเป็น อดทนต่อการเมาเรือ...อดทนกับช่วงเวลาที่เนิ่นนาน...แถมยังต้องอดทนกับความเหงา ฮ่า ๆ
มันเหงาจริง ๆ นะ ถึงบนเรือจะไม่ได้มีแค่เรา แต่เราไม่รู้จักใคร เหงาโฮกก...
ทะเลรอบด้านก็มืดสนิท...คงไว้แค่ ดวงดาวบนท้องฟ้าที่ ระยิบ ระยับ พลันน หน้าเทอก็ผุดขึ้นมา ( เอ๊ย! ไม่ใช่ 555+)
เพลียสุดโต่งกับค่ำคืนนี้ออกเรือเวลา 19.30 น. เรือกลับเข้าถึงฝั่ง 23.40 น. ถึง โรงแรม สลบกันเลย ที เดียว.....
........ฮ๊าาา เช้าวันสุดท้าย ถึงกับตื่นสายเลยทีเดียว เพลียร่างสุด ไดหมึก เนี่ย -..-
จะกลับแล้ววว เก็บบรรยากาศ ดี ดี ใน คชา รีสอร์ท ไว้เป็นความประทับใจ สักรูป ดีก่าา
.....หลังจากช่วงเช้าผมก็ต้องทำภาระกิจสำรวจเส้นทางต่อ รูปภาพไม่สามารถนำมาใช้ส่วนตัวได้ T..T
ขอ วาป ไปตอนขึ้นเรือเฟอรี่ กลับเลยแล้วกัน... เอาน่าแค่นี้ก็เกินคุ้มแล้ว
พรึบบ !!
โผล่ บน เรือ เฉย -..-
ขากลับคนบนเรือเฟอรี่ยังดู เงียบ ๆ เหมือนกับว่า ทุกคนบนเรือยังไม่อยากกลับ !! 5555 +
ช่างเถอะ..เราเดินถ่ายอะไรเล่นดีกว่า...
ฮึบ ๆ ก้มถ่ายน้ำดีกว่า..
ก้มถ่ายเปลวคลื่นอยู่ ดี ๆ แหงนหน้ากลับไปมองเกาะช้างที่เล็กลงเรื่อย ๆ ...
...ไม่พูดคงไม่ได้.."ผมคงต้องคิดถึงเกาะช้าง" กับประสบการณ์ แปลกใหม่ในครั้งนี้
บ๊าย..เกาะช้าง
ท้ายที่สุดขอขอบคุณ...
ATTA Thailand
www.zeekway.com
ททท.จังหวัดตราด
ที่ให้โอกาสสำหรับการสำรวจเส้นทางในครั้งนี้ .
ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip
Cr.: สมาชิกหมายเลข 2356577
...ถึงจะพูดว่าไปเที่ยวแต่ที่จริงแล้วนี่คือการเดินทางเพื่อ " สำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวบนเกาะช้าง "
ผมจึงมีโอกาสได้เก็บรูปภาพในจุดต่าง ๆ มาฝากให้ได้รับชมกัน จร้า า
..เริ่มเรื่องราวกันเลยดีกว่า ทีแรกที่โดนมอบหมายให้ไปทำภาระกิจ ครั้งนี้ในใจผม sad. มาก ต้องห่างกับใครบางคนไปแสนไกล...
ฮ่า ๆ พอแล้วไม่เสี่ยวดีกว่า การเดินทางที่ตื่นเต้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วว
5 ... 4 ... 3 ...2 ....1 go!
...หน้าตาคุณ รถ BUS VIP คันใหญ่ สีขาวที่พาผมไปจนถึง ท่าข้ามเรือ อ่าวธรรมชาติ
ก่อนที่ผมจะลงเรือเฟอร์รี่ เพื่อข้ามฟากในลำดับต่อไป ...
...ล ง เ รื อ ดี ฟ่ า
นี่มันท้ามองโลก ดาหน้าสู่อันตราย (Feeling นี่มาเต็มมาก) ฮ่า ๆ
เหลียวหลังไป ก็เห็นแผ่นดินฝั่ง จ.ตราด ที่เราจากมา
แอบเห็น!! คนนั่งด้วยกันเป็นคู่....เอื้อกก ยิ่งพาให้ ..หัวใจที่ซวนเซ...รวนเร ไปใหญ่ ไม่ไหวแล้วหนีไปหลังเรือดีกว่า T_T
โถ่ ๆๆๆ ใครจะหนีความเหงา อย่ามาท้ายเรือนะ ยิ่งมองเห็นแผ่นดินเล็กลงเรื่อย ๆ ยิ่งคูณ ความเหงาเข้าไป สองเท่า T_T
หนีความเหงาท้ายลำเรือ กลับไปนั่งหน้าเรือดีกว่า า =..=
จึ๊ก.......โธ่..พระเจ้าเหลือที่ไว้ให้คน lonely. อย่างผมมีที่หน่อย เซ่.........
30 นาที ต่อมา..............
เย้.....เห็นเกาะช้างแล้วว เห็นนานแล้วล่ะ -..- แต่นี้ ..แบบ ถึงแล้วอะไรทำนองนั้น
"เกาะช้าง" ตามธรรมชาติ
"เกาะช้าง" ในวันที่ผม มีแต่ ความเหงา และ ความคิดถึง...
ฮึบ ๆ ๆ ... ก้าวขาแรกลงจากเรือ ก็จะมีรถสองแถวคอยรับส่งผู้คนที่ลงเรืออยุ่ ด้านหน้าเลย
..ขึ้นเกาะมาได้ก็ต้องหาที่มั่นตั้งหลักสำหรับค่ำคืนนี้กันก่อน
ผมได้มีโอกาส..มาพักกายที่ "คชา รีสอร์ท แอนด์ สปา"
สำหรับ "คชา รีสอร์ท แอนด์ สปา" ตั้งอยู่ฝั่ง หาดทรายขาว อยู่ในแหล่งที่ถือว่าเดินทางสะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ที่สำคัญทั้งบริการและห้องพักถูกใจมาก ๆ เลย
ห้องใหญ่ไปอีกแล้วสำหรับคนที่เดียวดายบนเกาะนี้ ... แต่ว่าสบายมากเลอ รับประกัน!!
วันแรกที่ไปถึงหลังจากปฏิบัติภาระกิจต่าง ๆ เสร็จสิ้น ช่วงค่ำมีโอกาสได้เก็บภาพ "คนควงไฟ" สวยงาม มาก ๆ
เฮ้ออ...คนมันยังมีไฟควงแล้วทำไม ทำไม ทำไม ...เราไม่ได้ควงใครมาเนี่ยย -..-
หลังจากที่เมื่อวานใช้เวลากับการเดินทางซะเป็นส่วนใหญ่...
วันที่ 2 โปรแกรม แน่นเอียดจร้าา...
แต่ถึงแม้ว่าในวันนี้ต้องทำออะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ยังไม่วายคะนึงหาใครบางคนตลอดเวลา (เพ้อ ๆ อีกล่ะ ฮ่า ๆ)
เช้าตรู่....... ฟิต ๆ ต้องลุกไปเก็บพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ หัวใจลุกโชติช่วง ไปด้วยพลังงานในความกระตือรือร้น...
พระอาทิตย์!!!!
ไม่มี....ไม่มี พระอาทิย์....หาดหันหน้า ไปทางตะวันตก... กรรม!
แถมท้องฟ้าไม่เป็นใจให้เห็นสีครามอันสดใส.........
ราวกับว่า...ความหว้าวุ่นในหัวอกมันเข้าปกคลุม ดินแดนของเกาะช้างไปซ่ะแล้ววว.....
ชายหาดช่วงเช้าผู้คนยังคงบางตา
คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งแบบอ่อนโยน สายลมอันแผ่วเบา เม็ดทรายที่แทนคำว่า คิดถึง...และ ๆๆๆๆ เอ๊ะ! ทำไมต้องเศร้า เนี่ย -..-
หลังจากที่ทานอาหารเช้าที่โรงแรม แบบจัดเต็มไม่เกรงใจใคร (มั่วแต่กินไม่ได้ถ่ายรูปเลอ)
ก็เดินทางไปยังจุดหมายแรกของ วันนี้...
ปางช้าง ไก่แบ้ มีชัย 1 ใน 6 ปางช้าง บนเกาะแห่งนี้...
เอ๋....ต้องขี่ช้างด้วยหรอ เอา ๆ ตาม ๆ เขาไป ขี่ช้าง บนเกาะช้าง...คือ แบบ ขี่ช้างครั้งแรก แล้วแบบ ขี่บนเกาะช้าง งงไหม ล๊า
ฟ้าฝนทะมึนมาเชียว
"เกาะช้าง" เกาะไว้ให้แน่น ๆ ไม่งั้นร่วงลงมาเจ็บแน่ ๆ
พี่แกเล่นไม่เดินตามทางปีนป่ายภูเขาซ่ะ...ยังก่ะว่าตัวพี่แกเป็น ลิง...
จุดที่สูงที่สุดและมองลงมา สดชื่นจริง...( เอ๊ะ ๆ เด่ว ๆ ไม้เศร้าคะนึงหาใครแล้วรึไงเนี่ยตัวเรา ฮ่า ๆ )
...ถึงยังไง ก็ขอขอบ คุณพี่ช้าง ที่ให้ผมขี่หลังและพาเที่ยว เป็น เวลา กว่า 30 นาที ซื้อกล้วยให้ แพล๊บ !
หลังจากที่ นั่งระทึกบนหลังช้าง ... ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนได้ที่ ก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่อไป กันเล๊ย ย..
...ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ วาป มาอยู่กลางทะเลซ่ะงั้น
" ขึงเชือกกลางใบเรือเสียงแว่ว ๆ เข้ามาในหูนะ "
รู้สึกดีมากเลย การที่แล่นเรือใบออกสู่ทะเล พอใบเรือโดนลมทะเล ก็แล่นฉิวว หนีห่างออกจากเกาะมาเรื่อย ๆ
ครู่ต่อมา...ลมหมดซ่ะงั้น ลอยละล่องอยู่กลางทะเล แบบ ชิวมาก ผ่อนคลายสุด ๆ ไม่วายลมฟาดเข้าหน้า เหมือนเตือนให้รู้ว่า
คงต้องกลับเข้าสู่ฝั่งแล้วว.....
หลังจากที่แล่นเรือใบกลับเข้าสู่ชายฝั่ง...
ผมก็ รอเวลา เพื่อออกเรือชาวประมงในช่วงค่ำด้วยว่าจะร่วมไปจับปลาหมึกหรือการ "ไดหมึก" นั่นเอง
ด้วยว่าการไดหมึก...เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนในการทำกิจกรรมในครั้งนี้...
ไม่ว่าจะเป็น อดทนต่อการเมาเรือ...อดทนกับช่วงเวลาที่เนิ่นนาน...แถมยังต้องอดทนกับความเหงา ฮ่า ๆ
มันเหงาจริง ๆ นะ ถึงบนเรือจะไม่ได้มีแค่เรา แต่เราไม่รู้จักใคร เหงาโฮกก...
ทะเลรอบด้านก็มืดสนิท...คงไว้แค่ ดวงดาวบนท้องฟ้าที่ ระยิบ ระยับ พลันน หน้าเทอก็ผุดขึ้นมา ( เอ๊ย! ไม่ใช่ 555+)
เพลียสุดโต่งกับค่ำคืนนี้ออกเรือเวลา 19.30 น. เรือกลับเข้าถึงฝั่ง 23.40 น. ถึง โรงแรม สลบกันเลย ที เดียว.....
........ฮ๊าาา เช้าวันสุดท้าย ถึงกับตื่นสายเลยทีเดียว เพลียร่างสุด ไดหมึก เนี่ย -..-
จะกลับแล้ววว เก็บบรรยากาศ ดี ดี ใน คชา รีสอร์ท ไว้เป็นความประทับใจ สักรูป ดีก่าา
.....หลังจากช่วงเช้าผมก็ต้องทำภาระกิจสำรวจเส้นทางต่อ รูปภาพไม่สามารถนำมาใช้ส่วนตัวได้ T..T
ขอ วาป ไปตอนขึ้นเรือเฟอรี่ กลับเลยแล้วกัน... เอาน่าแค่นี้ก็เกินคุ้มแล้ว
พรึบบ !!
โผล่ บน เรือ เฉย -..-
ขากลับคนบนเรือเฟอรี่ยังดู เงียบ ๆ เหมือนกับว่า ทุกคนบนเรือยังไม่อยากกลับ !! 5555 +
ช่างเถอะ..เราเดินถ่ายอะไรเล่นดีกว่า...
ฮึบ ๆ ก้มถ่ายน้ำดีกว่า..
ก้มถ่ายเปลวคลื่นอยู่ ดี ๆ แหงนหน้ากลับไปมองเกาะช้างที่เล็กลงเรื่อย ๆ ...
...ไม่พูดคงไม่ได้.."ผมคงต้องคิดถึงเกาะช้าง" กับประสบการณ์ แปลกใหม่ในครั้งนี้
บ๊าย..เกาะช้าง
ท้ายที่สุดขอขอบคุณ...
ATTA Thailand
www.zeekway.com
ททท.จังหวัดตราด
ที่ให้โอกาสสำหรับการสำรวจเส้นทางในครั้งนี้ .
ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip
Cr.: สมาชิกหมายเลข 2356577