รีวิว ~ เ ที่ ย ว ร ะ น อ ง...ท่ อ ง เ ก า ะ พ ย า ม ~

เวลาสองวันกับการสัมผัสชีวิตบนเกาะเเห่งหนึ่งกลางทะเลอันดามัน เมื่อกลับมาถึงฝั่งเเล้วยังคงนั่งนึกถึงเรื่องราวเเละอยากที่จะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวหนังสือเเละภาพถ่ายเท่าที่เก็บมาได้,,,เกาะพยามที่ได้รู้จักจากหนังสือ จากนิตยสารท่องเที่ยว ในหลายๆๆ ปีก่อน กับความคาดหวังของตัวเองในฐานะนักท่องเที่ยวที่หวังจะได้ชมความสวยงามของเกาะกลางทะเลเเห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันเหนือ เกาะที่ได้รับการขนานนามว่า Maldives in Thailand เกาะที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นสวรรค์เเห่งอันดามันเหนือ...ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน list ของสถานที่ท่องเที่ยวเเละเชื่อว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลายๆท่านก็อยากที่จะเดินทางมาสัมผัสกับความสวยงามของเกาะเเห่งนี้ด้วยเช่นกัน “ เกาะพยาม ”



           รถทัวร์ ป.1 ที่นั่งมาค่อยเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เข้าเทียบชานชาลาของบริษัทขนส่ง ยามใกล้รุ่ง รู้สึกตัวมาตลอดตั้งเเต่เข้าตัวจังหวัดระนองผ่านด่านตรวจ เพราะความตื่นเต้นไม่สามารถทำให้หลับได้ในขณะนั้นเห็นเเต่เพียงเพื่อนร่วมทางที่นั่งหลับเเละเเสงไฟจากรถประจำทาง เเละเส้นทางอันคดเคี้ยวที่ว่ากันว่าอันตราย รวมทั้งสองข้างทางที่มืดสนิท มีเพียงบ้านคนเป็นระยะๆ คิดในใจว่าถึงเเล้วสินะจังหวัดระนอง ...

           จนฟ้าสางยามเช้าของเมืองระนอง น่าตื่นเต้น ความรู้สึกง่วงเเทบไม่มีเลยเเม้ว่าจะหลับๆตื่นๆ มาตลอด,,,เดินทางต่อไปยังท่าเรือด้วยรถสองเเถว ไปถึงก็สว่างมองหารอบเรือ speed boat ที่จะเดินทางต่อไปยังเกาะพยาม ณ เวลานั้นได้รอบ 7 โมง มีเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงให้ได้ สัมผัสกับบรรยากาศป่าชายเลนเเละเรือประมงที่จอดเทียบท่ารอเวลาที่จะเเล่นออกสู่ทะเลอีกครั้งในวันต่อไป
           >> เรือข้ามฝั่งไปเกาะพยามจะมีสองประเภท คือ เรือเมล์ธรรมดาราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เเละเรือspeed boatราคาคนละ350  บาทใช้เวลา ครึ่งชั่วโมง


นี่คือภาพเรือประมงที่จอดเทียบท่ารอเวลาออกสู่ทะเลอีกครั้ง



ที่จำหน่ายตั๋วเรือ ตอนนี้เวลาหกโมงเศษๆ ยังไม่เปิด

          เวลา 7 โมง เรือ speed boat ได้เทียบท่าเข้ามา พร้อมกับสายตานักท่องเที่ยวที่ดูตื่นเต้นกับการ transfer จากรถไปเรืออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเพียงอีกเเค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทางเเล้ว...เรือได้เเล่นออกจากฝั่งด้วยความเร็ว ฝ่าเกลียวคลื่นพร้อมกับผู้โดยสารเต็มลำ ทัศนียภาพเบื้องหน้าสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้เป็นอย่างดี เรือเเล่นผ่านเกาะต่างๆ ทราบชื่อบ้างไม่ทราบชื่อบ้าง ดูจาก google map บ้าง  มั่วบ้าง จนกระทั่งเวลา 8 โมงเศษๆ เรือได้มาถึงที่ท่าเรือเกาะพยาม  หลังจากลงเรือเเล้วภารกิจต่อไปคือหาเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เพื่อนำพาเราไปสู่ที่พักเดินไปเจอร้านเช่า ต่อรองราคา  เเล้วจึงเดินทางต่อไปยังที่พัก
         >> ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ คันละ 200 บาทต่อวันนะคะ เช่าเวลาไหนคืนเวลานั้น ส่วนน้ำมันมีขายเป็นขวดๆ ขวดละ 40 บาท 


เย้ๆๆ ถึงเเล้วค่ะ เกาะพยาม

           เดินทางมาถึงที่พัก ที่พักของเราคือ อันดามันบุรี รีสอร์ท ถ้า search หาเเผนที่บนเกาะพยามจะเจอค่ะ จอดมอเตอร์ไซต์พร้อมทั้งเดินขึ้นไปบนบ้านที่มีลักษณะเป็นบ้านไม้ภายในตกเเต่งสวยงามเดินหาพนักงาน reception สักพักมีป้าคนนึงเดินออกมาทักทายเเละรับกุญเเจห้องพัก ลักษณะที่พักทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากๆๆ อยู่บนวิวยอดเขาสูงมีจุดชมวิว 360 องศา ถ้าจะมองให้เห็นทะเลต้องตั้งใจมองดีๆ ไม่เช่นนั้นจะเจอป่า มีสระว่ายน้ำ...บ้านพักมีโครงสร้างเป็นบ้านไม้หลังคาใบจาก  ห้องน้ำหลังคา open air  ภายในห้องเตียงคู่ มีพัดลมให้ 1 ตัว พร้อมตู้เสื้อผ้าคลาสสิคสุดๆๆ ไฟทั้งห้องมี 4 ดวง เปิดติด 2 ดวง คือ ไฟในห้องเเละตรงระเบียง ตอนกลางคืนเพื่อความใกล้ชิดธรรมชาติจะมีจิ้งจก เเละตัวด้วงมาเเกะอยู่ตรงมุ้งลวดหน้าต่าง พร้อมกับทักทายด้วยเสียงจิ้งหรีดในป่า สุดๆๆอ่ะ... ไม่รักธรรมชาติอยู่ไม่ได้นะคะ พูดเลยยยย ^^


มองจากสระว่ายน้ำของทางรีสอร์ท สามารถมองเห็นทะเลได้


ด้านหน้าของรีสอร์ทค่ะ พอไปถึงจะเจอหลังนี้ก่อนเลยยย


ที่พักของเรามองจากด้านนอกจะเหมือนกระท่อมมากๆๆ
         

ระเบียงหน้าที่พัก สามารถนั่งส่องสัตว์โลกได้เลยค่ะ


เตียงนอนห้องนอนเตียงคู่ มีพัดลมตัวน้อยๆ เพื่อรักช่วยโลกประหยัดพลังงาน


ตู้เสื้อผ้า คลาสสิคสุดๆๆ ><
         
           หลังจากรีวีวที่พักเเล้ว กิจกรรมต่อไปของพวกเราคือ ทานอาหารกลางวัน นั่งเรือรอบเกาะเเละดำน้ำตื้นดูปะการัง ด้วยเรือหางยาว เวลาตั้งเเต่เที่ยงจนถึงบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งเรือจะจอดให้ดำน้ำทั้งหมด 3 จุด ถือว่าเหนื่อยเเละสนุกสุดๆๆ เเม้ว่าปะการังที่บริเวณรอบๆเกาะพยามยังไม่ถือว่าสวยงามมากนักเเต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งก็ถือว่าสวยงามเหมือนที่คาดหวังไว้ ถ้าต้องการจะดำน้ำดูปะการังสวยกว่านี้อาจต้องนั่งเรือออกไปไกลกว่านี้อีก นอกจากดำน้ำตื้นเเล้วที่นี่ยังมีการดำน้ำเเบบ scuba diving อีกด้วยค่ะ


เตรียมตัวขึ้นเรือไปเที่ยวรอบเกาะ


จุดดำน้ำจุดเเรก





ทัศนียภาพ ที่อ่าวใหญ่ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะพยาม



          ดินเนอร์ของพวกเรามื้อนี้เป็นร้านอาหารร้านเดียวกับร้านเช่ามอเตอร์ไซต์เลยย ชื่อร้าน Charlie's Seafood ค่าาา บังเอิญมากๆๆเเล้วยังบังเอิญเป็นร้านเดียวกันกับทัวร์ดำน้ำของเราอีก one stop service ฝุดดๆๆ ขาดอย่างเดียวไม่รวมที่พักด้วย คุณลุงเจ้าของร้านใจดีสุด เเม่ครัวก็ทำอาหารอร่อยมากๆๆ โดยเฉพาะน้ำจิ้ม seafood ^^


ร้านนี้เลยค่าาา


Overall Dinner ค่ำนี้






บรรยากาศดินเนอร์ ใต้เเสงจันทร์ ริมทะเล มีโมบายด้วยยยย ^^

 หมดวันเเล้ววค่าา สำหรับทริปเกาะพยาม first time first day ยังมีอีกหนึ่งวันนะคะ  

         
           สวัสดีเช้าวันใหม่เเสนสดใส สดใสมากๆๆค่ะ เมื่อคืนฝนตกฟ้าร้องไฟดับตอนตีสาม เเต่ก็ยังนอนหลับได้ 55 ที่เที่ยวต่อไปของพวกเราคือ The Blue Sky Resort ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าชายเลน ที่พักที่ได้ชื่อว่าเป็นมัลดีฟเมืองไทย ด้วยลักษณะบรรยากาศของที่พักที่มีลักษณะคล้ายที่พักกลางทะเลของมัลดีฟ เเละมีเรือคายักให้พายเล่นเมื่อน้ำขึ้นอีกด้วยค่ะ ...







          เวลาเกือบสิบโมงเเล้ว สังเกตุเห็นเมฆเริ่มก่อตัวจนทำให้อากาศครึ้มๆ จุดหมายต่อไปคือหมู่บ้านมอร์เเกน ...

. สำหรับหมู่บ้านมอร์เเกนที่นี่ ทางไปค่อนข้างทรหดในการขับรถมอเตอร์ไซต์เเว้นนๆๆๆ เราเข้าไปกันไม่ถึงเนื่องจากเป็นพื้นที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว จึงได้เจอเเค่เด็กน้อยมอร์เเกนที่เดินมาตามทาง เเละได้เเต่รูปภาพระหว่างทางไปหมู่บ้านมอร์เเกนมาเท่านั้น 






จากนั้นก็ได้เเว้นๆๆ กันต่อไปที่อ่าวใหญ่ อ่าวใหญ่คือจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะพยามเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากมีชายหาดน้ำใส ทรายขาวละเอียด บริเวณปลายชายหาดมีโขดหินน้อยใหญ่ เป็นจุดที่ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆๆ 





อ่าวใหญ่ตอนเช้าๆ 

ซอกหินบริเวณอ่าวเขาควาย 


อ่าวหินขาว เป็นอ่าวด้านตะวันออกของเกาะ ปูลมเยอะมาก เพราะมีสาหร่ายเยอะเเยะเลยยยย


ขอบคุณข้อมูลจาก : Pantip
Cr. : สมาชิกหมายเลข 2088644